พฤศจิกายน 2567
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
16 พฤศจิกายน 2567

: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - แก่นพุทธศาสน์ [ 2 ] :


: แก่นพุทธศาสน์ [ 2 ] :
บรรยายธรรม : พุทธทาสภิกขุ






หัวข้อธรรมะ : ความว่าง


ในทางธรรมเราอาจเปรียบ ‘โรคภัยไข้เจ็บ’ ของมนุษย์
เป็นโรคร้ายซึ่งก่อโรคได้ทั้ง

- โรคทางร่างกาย คือ โรคภัยไขัเจ็บที่เกี่ยวเนื่องกับร่างกาย เป็นกับคนบางคนและบางเวลา
- โรคทางจิต คือ โรคทางจิตที่เกี่ยวเนื่องกับความคิด เป็นกับคนบางคนและบางเวลา
- โรคทางวิญญาณ คือ โรคซึ่งเกิดจากอำนาจของกิเลสและอวิชชา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
คือ ความไม่รู้ และความเห็นผิด ซึ่งเป็นกันทุกคน ไม่มีการยกเว้น



‘โรคที่รักษายากที่สุด’ คือ ‘โรคหลงผิดยึดมั่นถือมั่นในตัวกู-ของกู’

แต่ในขณะเดียวกันก็มียารักษาโรคซึ่งได้ผลชงัดที่สุด นั่นคือยาที่มีชื่อว่า ‘ความว่าง’
โดย ‘ความว่าง’ นี้ เป็นได้ทั้งยารักษาโรค และเป็นความหายจากโรคด้วย



‘ความว่าง’ เกิดขึ้นจากการรู้
รู้ด้วยปัญญา
รู้อย่างถูกต้องตามธรรม แล้วนำธรรมนั้นไปปฏิบัติ
จนเกิดผลของความเปลี่ยนแปลงในจิตหรือความคิดของตน

ความเปลี่ยนแปลงนี้จะส่งผลให้ ‘จิตของเรา’ ว่างจากความทุกข์
ว่างจากกิเลสซึ่งเป็นเหตุแห่งทุกข์


‘ความว่าง’ ที่ว่านี้ คือ ต้องว่างจาก ‘การยึดมั่นถือมั่นในตัวตน’
ว่างจากความยึดมั่นว่านี่คือตัวกู นี่คือของกู
ว่างจากความมีตัวเรา ว่างจากความมีของเรา

เมื่อว่าง ก็ไร้ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน
ไร้ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน ก็ไร้ความทุกข์ ไร้คนที่ทุกข์
มีความทุกข์อยู่ แต่ไม่มีคนทุกข์เสียแล้ว ทุกข์จะไปเกาะกุมสิ่งใด
เมื่อว่าง เมื่อไร้ความยึดมั่นถือมั่นในตัวตน
ก็เหลือเพียงการดับทุกข์ ดับจนหมดสิ้น ก็สิ้นทุกข์

จิตที่เข้าถึงความว่าง
คือ จิตที่สว่าง สะอาด สงบ
จิตที่สว่าง สะอาด สงบ
คือ จิตถึงซึ่งพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์



เมื่อจิตเข้าถึงความว่าง
จิตนั้นเป็นหนึ่งเดียวกับความว่าง



ตลอดช่วงชีวิตของเราจึงควรอย่างยิ่ง
ที่จะทำการฝึกจิตให้ตระหนักถึงการปล่อยวาง
‘ความยึดมั่นถือมั่นในตัวกู-ของกู’ นี้ไปเรื่อย ๆ
เตือนตัวเองบ่อย ๆ จนกลายเป็นความเคยชิน
ว่าทุกสิ่งไม่ใช่ของเรา มันมาให้ใช้เพียงชั่วคราว
หมดเวลาก็ต้องไป ไม่มีสิ่งใดควรยึดถือยึดครองยึดอยากมากเกินไป
เพราะทั้งหมดมันตั้งอยู่บนความเสื่อม ตั้งอยู่บนความไม่เที่ยงไม่ทน
ตั้งอยู่บนการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป พร้อมอารมณ์และการยึดติดในอารมณ์



ไม่มีทางใดให้เราพ้นทุกข์ได้
ถ้าเราไม่ฝึกฝนตน ไม่เปลี่ยนความคิดตน



‘ความว่าง’ อาจดูคล้ายเป็นคำที่เข้าใจยาก
แต่ไม่มีอะไรยากเกินความเข้าใจ
หากเราลงมือทำ
ลงมือทำ เพื่อพบ ‘ธรรมที่แท้จริง’ นี้ในตัวเรา





































Create Date : 16 พฤศจิกายน 2567
Last Update : 16 พฤศจิกายน 2567 5:21:27 น. 11 comments
Counter : 578 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtanjira, คุณหอมกร, คุณmultiple, คุณปัญญา Dh, คุณmcayenne94, คุณกะริโตะคุง, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณปรศุราม, คุณtoor36, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณhaiku, คุณสองแผ่นดิน, คุณอุ้มสี


 
สวัสดียามเช้าค่ะก๋า

‘โรคที่รักษายากที่สุด’ คือ ‘โรคหลงผิดยึดมั่นถือมั่นในตัวกู-ของกู’
จริงที่สุดนะคะ ...

พี่เป็นหวัดคราวนี้หนักกว่าโควิดอีกค่ะ
สภาพพี่ตอนนี้ดีขึ้นมาหน่อยนึงค่ะ แต่ยังไม่เต็ม100
คงอีกสักพักเลยค่ะ ส่วนแม่ดีขึ้นเรื่อยๆเกือบปกติแล้วค่ะ

พี่มาเช้าแบบนี้คุณหอมกรคงแปลกใจแน่ๆค่ะ


โดย: tanjira วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:6:19:49 น.  

 
ศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งการปฏิบัติจ้าคุณก๋า
แปลกใจจริงๆ ด้วย ดีใจที่คุณธัญสบายดีจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:6:25:14 น.  

 
เราเกิดมาก็ไม่มีอะไรมาด้วยนะครับ
ไอ้ที่ดิ้นรน หากันทำกัน ก็เหมือนของให้ยืมใช้
ตายไปก็เอาติดตัวไปไม่ได้ซะอีกนะครับ

อาจารย์เต๊ะ ทำมาหากินแบบปลาวาฬละครับ หาให้ได้แยะๆ แล้วก็หยุดพัก ไม่โหมทำงานทุกวัน ทำแค่พอใช้ในชาตินี้เท่านั้น อิอิ
ช่วง ยี่สิบปีหลังมานี่ อาจารย์เต๊ะ ทำงานแบบ ชิวๆมากครับ
บางเดือนทำแค่ สี่วัน ห้ามอิจฉานะครับ แฮร่ ฮ่าๆๆ
เวลาที่เหลือก็ทำงานอดิเรก ช็อปปิ้งแก้เบื่อไปวันๆ
ชีวิตน่าสงสารมากเลยละครับ แฮร่ ฮ่าๆๆๆ



โดย: multiple วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:8:22:44 น.  

 
สวัสดีครับ


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:9:45:53 น.  

 
การหมั่นโยนิโสมนสิการนี่เอง
จะทำให้ไปถึงสภาวะปราศจากผู้ทุกข์ได้ในที่สุด
จุดสำคัญของ "ความว่าง" ไม่ใช่ความว่าง
ที่จินตนาการ ว่าฉันว่างแล้ว แต่คำว่าว่างนั้น
หมายถึง ว่างจากความคิดปรุงแต่งในจิต
ที่เกิดจากอวิชชา จะลากพาไปคิดปรุงแต่งตาม
เมื่อไร้ตัวตน จึงสักแต่ว่า ในทุกสัมผัส
ผ่านมาแล้วผ่านไป เข้าสู่ความว่าง
ในที่นี้ หมายถึง ว่างจากความคิดปรุงแต่ง
เป็นตัวเป็นตนขึ้นมา
นักปฏิบัติหลายคน เข้าใจผิด พยายามตั้งความว่าง
ขึ้นในจิต และคิดว่าเป็นสภาวนิพพาน แท้จริงแล้ว
เป็นการนำตัวเข้าสู่กรอบโลกส่วนตัวที่จินตนาการขึ้นมาเองค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:11:04:40 น.  

 
สวัสดีครับ
คนอายุก็มาก สุขภาพก็แย่ ยังปล่อยวางจากสภาพทุนนิยมไม่ได้ก็มีอยู่ในสังคมเนอะ

ผมเองก็คงไม่คิดว่าตัวเองจะทำได้แบบ 100% หรอก แต่ผมก็พยายามหาจุดสมดุลที่จะทำให้ตัวเราและผู้อื่นไม่เดือดร้อนอยู่ครับ (ซึ่งตอนนี้ก็ถือว่าพอใจมาก)


โดย: กะริโตะคุง วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:11:21:22 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

แก่นพุทธศาสน์ ตอนที่ 2 ตอนนี้ เป็นแ่น เรื่องของ การทำให้
จิตว่าง เพื่อหลุดออกจากการยึดมั่นถือมั่น เฮ้อ! เรื่องของการทำให้
จิตว่างนั้น ไม่ใช่ของง่ายเนาะ จิต ของคนเรา มันไม่อยู่นิ่งหรอก นะ
ดังบทกลอนของ คุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ได้พรรณนาถึง
เรื่องของจิตใจคน ในงานบทร้อยกรอง เรื่อง วารีดุริยางค์ ว่า

สงสารใจ ใจเจ้าเอ๋ยไม่เคยนิ่ง วนและวิ่งคืนและวันหวั่นและไหว
เหมือนถูกกายกำบังกักขังใจ ใจจึงได้ดิ้นรนทุกหนทาง

อีกช่วงหนึ่งพรรณนาไว้ว่า

ทุกวิถีที่ใจได้เที่ยวท่อง ล้วนขึ้นล่องอยู่ระหว่างกลางปลายต้น
ที่โคจรของใจไม่เคยจน ไม่เคยพ้นไม่เคยพรากจากวงจร
ใจจึงหน่ายจึงเหนื่อยจึงเมื่อยล้า วุ่นผวาว่อนไหวถูกไล่ต้อน
เกิดแล้วก่อล่อแล้วเร้นเย็นแล้วร้อนไม่พักผ่อนเพียงสักคราวเฝ้าแฟบฟู

นี่แหละ จิตใจของคนเรา มันเป็นอย่างที่ คุณเนาวรัตน์ กวี
ซีไรท์ ได้พรรณนาไว้ และครูว่า มันเป็นเช่นนั้นจริง ๆ นะ
ดังนั้น การฝึกจิตให้นิ่ง จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ คนที่ฝึกได้มาก
ย่อมได้ประโยชน์ พ้นทุกข์ได้ง่ายและเร็ว นั่นเองนะ ก๋า อิอิ

โหวดหมวด การแนะนำหนังสือ





โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:12:48:34 น.  

 
พุทธทาสภิกขุบรรยายเข้าใจยากครับ ผมยังไม่ค่อยถนัดการย่อยแบบนี้เท่าไหร่ แต่ก็น่าคิดเหมือนกันว่าถ้าตอนนี้พุทธทาสภิกขุยังมีชีวิตอยู่แล้วเห็นพฤติกรรมที่เสื่อมทรามของศาสนาพุทธท่านจะพูดอะไร


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:21:12:39 น.  

 
จิตว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย

อากาศยังไม่เย็น/หนาวครับ วันนี้ร้อนมาก



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:58:48 น.  

 
เล่มนี้น่าสนใจจ้า


โดย: อุ้มสี วันที่: 17 พฤศจิกายน 2567 เวลา:2:55:24 น.  

 
{🔴 [2.21] มนุษย์เอ๋ย จงเคารพภักดีพระผู้อภิบาลของสูเจ้า ผู้ทรงบังเกิดสูเจ้า และบรรดาก่อนหน้าสูเจ้า เพื่อสูเจ้าจะได้สำรวมตน จากความชั่ว

🔵 [2.22] ผู้ทรงทำแผ่นดิน ให้เป็นพื้นสำหรับสูเจ้า และชั้นฟ้าเป็นหลังคา และทรงส่งน้ำมาจากฟากฟ้า และทรงให้ผลไม้ต่าง ๆ งอกเงยออกมา เพราะเหตุนั้น เพื่อเป็นเครื่องยังชีพสำหรับสูเจ้า ดังนั้นเมื่อสูเจ้ารู้ดีอยู่แล้ว ก็จงอย่าตั้งสิ่งใดเคียงคู่กับอัลลอฮ์

🔴 [2.23] และถ้าหากสูเจ้า ยังคงคลางแคลงสงสัย ในสิ่งที่เราได้ส่งมาแก่บ่าวของเรา ก็ขอให้สูเจ้า จงแต่งขึ้นมาสักซูเราะฮ์หนึ่ง ที่เหมือนกับสิ่งนี้ สูเจ้าอาจจะเรียกใครอื่น นอกจากอัลลอฮ์มาช่วยเหลือสูเจ้าก็ได้ ถ้าหากสูเจ้าแน่จริง (ในความสงสัยก็จงทำ)

🔵 [2.24] แต่ถ้าหากสูเจ้าไม่ทำ และสูเจ้าก็ไม่มีทางที่จะทำได้ด้วย ดังนั้น จงระวังไฟ ที่ถูกเตรียมไว้สำหรับบรรดาผู้ปฏิเสธ ซึ่งจะมีมนุษย์และหินเป็นเชื้อเพลิง

🔴 [2.25] และ (มุฮัมมัด) จงแจ้งข่าวดี แก่บรรดาผู้ศรัทธา และประกอบการดีทั้งหลายว่า สำหรับพวกเขา คือสวนสวรรค์หลากหลาย ที่เบื้องล่าง มีลำน้ำหลายสายไหลผ่าน คราวใดที่พวกเขา ได้รับผลไม้จากที่นั่นเป็นปัจจัยยังชีพ พวกเขาจะกล่าวว่า นี่เป็นสิ่งที่เราได้ถูกประทานมาก่อน และพวกเขา จะถูกประทานให้เยี่ยงนั้น และจะมีคู่ครองที่บริสุทธิ์ สำหรับพวกเขาในนั้น และพวกเขาทั้งหลาย จะพักอยู่ในนั้นตลอดไป}

❤ ประโยชน์บางประการของศาสนาอิสลาม 💙


https://justpaste.it/b790p


โดย: ศาสนาอิสลาม IP: 104.194.11.90 วันที่: 21 พฤศจิกายน 2567 เวลา:14:37:56 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]