มีนาคม 2568
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
16 มีนาคม 2568

: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - คัมภีร์เต๋าของเลี่ยจื่อ :


: คัมภีร์เต๋าของเลี่ยจื่อ :
แปล : ปกรณ์ ลิมปนุสรณ์








“เต๋า” คือ ระบบความคิด ความเชื่อ
ซึ่งถูกศึกษา ทดลอง กลั่นกรอง ค้นคว้า
จนกลายเป็น “ปรัชญาเต๋า” สืบทอดส่งผ่านมาจนถึงทุกวันนี้

ท่านเลี่ยจื่อนับเป็นนักปราชญ์คนสำคัญคนหนึ่งของจีน
โดยได้รับอิทธิทางความคิดจากท่านเหลาจื่อ และท่านจวงจื่อ

ไม่ผิดนักหากเราจะกล่าวว่า “เต๋า” ก็คือ “หลักธรรม” หนึ่ง
ในปวงปรัชญาโบราณทั้งหลาย โดยมีลักษณะพิเศษคือการใช้นิทาน
ตำนาน คำสอน คำเปรียบเทียบ เพื่อให้เห็นความจริงแห่งสัจธรรม


“คัมภีร์เต๋าของเลี่ยจื่อ” ก็เช่นกัน เนื้อหาใน 8 บท
ก็คือความพยายามในการบอกเล่าหลักการและแนวคิดของ “เต๋า”
ผ่านตำนานในอดีต เรื่องเล่า เรื่องสมมุติโดยใช้บุคคลจริงในประวัติศาสตร์เป็นตัวแสดง
บทสนทนาระหว่างท่านเลี่ยจื่อกับบุคคลต่าง ๆ และนิทานเปรียบเทียบเป็นจำนวนมาก

หลายเรื่องอาจไม่เข้ากับยุคสมัยในปัจจุบัน
นั่นเป็นเพราะแนวคิด ความเชื่อ และวัฒนธรรมต่าง ๆ ในยุคนั้น
ย่อมไม่สัมพันธ์กับความคิดความเชื่อในยุคปัจจุบันอยู่แล้วเป็นธรรมดา

แต่ไม่ว่าคนในยุคปัจจุบันจะศึกษา “เต๋า” ด้วยเหตุผลใดก็ตาม
ผมคิดว่าแนวคิดเต๋าก็จะสรุปลงตรงคำว่า



“รู้โลก รู้ตน พ้นทุกข์”


เราทุกคนสามารถพ้นทุกข์ได้
เมื่อเราเข้าใจตนเอง รู้จักตนเอง
แล้วสุดท้ายจึงนำไปสู่การรู้จักโลก และเข้าใจโลกนั่นเอง

ผมเขียนบทกวีนี้หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้จบลงครับ



------------------------------------------




: สรรพสิ่งจริงแท้ :


สรรพสิ่งก่อการเกิดในตนเอง
ก่อการเปลี่ยนในตนเอง
รูปย่อมมีสิ้นสุดแห่งรูป

เมื่อมีการเกิด ย่อมมีความไม่เกิด
เราต่างเดินเข้าและออก
ด้วยประตูบานเดียวกันทั้งนั้น

บุตรหลานญาติมิตรมิได้เป็นของเรา
หากเพียงเป็นการถอดคราบของฟ้าดิน
เราจึงไม่มีสิทธิ์ในชีวิตผู้อื่น
นอกจากพบพาน เพื่อจากลา

ผู้ใดแตะอยู่เพียงพื้นผิวแห่งถ้อยคำ
ย่อมมิอาจพบมรรควิถีแห่งความรู้แจ้ง
ผู้ใดเสาะแสวงหาแต่ปัญญานอกตัว
ย่อมงุ่มง่ามงมงายจนมิอาจเห็นปัญญาที่แท้ในตน

เราต่างเป็นผู้รู้หลับสลับกับตื่น
ถึงต้องเวียนว่ายในเกิดตายไม่รู้จบ
ผ่านชาติภพด้วยความเหนื่อยหน่ายถ่ายถอน
เกิดๆดับๆสลับกันอยู่อย่างนี้
โดยเกิดเพียงชั่วครั้ง และตายเพียงชั่วคราว
จนกว่าจะหยุดการเวียนว่ายด้วยการตระหนักรู้ในความจริง
และเราจะกลายเป็น ‘สิ่งเดียวกัน’ กับผู้ที่ให้กำเนิดเรามา










Create Date : 16 มีนาคม 2568
Last Update : 16 มีนาคม 2568 4:59:25 น. 10 comments
Counter : 657 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณปรศุราม, คุณปัญญา Dh, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณกะริโตะคุง, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSleepless Sea, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณtoor36, คุณThe Kop Civil, คุณnonnoiGiwGiw, คุณสองแผ่นดิน, คุณNior Heavens Five, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณnewyorknurse


 
เต๋านี่น่าจะเป็นพวกพราหมณ์แบบจีน
หรือเป็นศาสนาพราหมณ์แบบหนึ่ง
ที่ไม่มีการแบ่งชนชั้นวรรณะนะคุณก๋า



โดย: หอมกร วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:5:42:08 น.  

 
“รู้โลก รู้ตน พ้นทุกข์” เป็นเรื่องจริงแท้แน่นอนเลยนะครับ
อยู่ที่ว่าเราจะทำได้แค่ไหน แค่นั้นเองนะครับ

สมัยเรียนมหาลัย นี่ อาจารย์เต๊ะ เจอครูแบบที่ว่า ชอบสอนแบบบุฟเฟต์
คือให้ นศ ไปหาวิชาความรู้สะเปะสปะไปเอง
เมื่อตัวเองมาเป็นครูเลยคิดว่า สอนให้เด็กเก่งๆ นี่มันจะยากซักแค่ไหนกัน ไม่อยากจะโม้ อิอิ แต่ก็ต้องเอาซักนิ้ดว่า

ที่มหาลัย คณะถาปัด วิชาที่อาจารย์เต๊ะสอน นศ จะแยะ เป็น 100กว่าคน
เลยต้องมีอาจารย์ อย่างน้อย 2 คน แยกกันสอน คนละsection
นศ ก้เลือกเรียนได้ว่าจะเรียนกับ อาจารย์คนไหน
แต่ section ของ อาจารย์เต๊ะ นี่ คนจะแยะกว่าเพื่อนเสมอ
ถามว่า อาจารย์เต๊ะ ชอบมั้ย ตอบตามตรง ดีใจแต่ไม่ชอบ
เพราะจะต้องเหนื่อยกว่าชาวบ้านทั้งเรื่องสอน และตรวจการบ้านเลยครับ แฮร่ 555



โดย: multiple วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:9:02:47 น.  

 
สวัสดีครับพี่ก๋า

ผมเคยคิดมาตลอดว่า เต๋า เซน ขงจื๊อ คือพุทธ อีกนิกายครับ จนมากอ่านบล๊อกพี่ก๋าเรื่อยๆ เหมือนได้อ่านเรื่องยาวให้สั้นๆ สรุปเข้าใจง่ายขึ้น
ตอนนี้เข้าใจมากขึ้นครับ แต่งงอยู่ดี 55555
หลักๆ เข้าใจว่าแนวคิดเรียกว่าคล้ายพุทธมาก แต่เน้นความเป็นธรรมชาติ เข้าใจธรรมชาติ เข้าใจตัวเอง ใช่ไหมครับ

ตอนนี้อยู่พัทยาแล้วครับร้อนมาก…. เอ็นเตอร์เทนสามสาวจนเพลีย ต้องขอเบียร์เย็นๆ แล้วครับ


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:15:08:25 น.  

 
อ่านสรุปจากที่คุณก๋าเขียนแล้ว ก็ดูไม่ล้าสมัยนะครับ
ผมรู้สึกเหมือนเป็นอีกแนวคิดหนึ่งเฉยๆครับ ก็แล้วแต่คนเราจะตีความเนอะครับ

อย่างที่อ.เต๊ะว่าข้างบน ผมว่าเป็นเพราะแนวทางการสอนของอ.สนุกและเด็กๆชอบด้วยล่ะครับ คนเราถ้ามีความคิดบวกกับสิ่งที่จะเรียนรู้ส่วนหนึ่ง ก็จะทำให้เข้าใจเนื้อหาได้ง่ายขึ้นนะครับ


โดย: กะริโตะคุง วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:16:56:04 น.  

 
มันเหมือนกับพูดถึงเรื่องหนึ่งในทางสว่าง ก็มีอีกด้านในทางที่มืดเช่นกันนะครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:20:41:13 น.  

 
รู้จักตนเองผมว่าสำคัญที่สุดเลยครับ ผมรอดูบอลคืนนี้ พรีเมียร์ลีกอาร์เซน่อลนำเชลซีไป 1-0 ละครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:21:23:27 น.  

 
สวัสดี ยามดึก จ้ะ

วันนี้ อยู่นอกบ้านเกือบทั้งวัน ไปเยี่ยมลูกศิษย์ที่ป่วยเป็นมะเร็ง
อีกคนเท้าพลิกเข้าฝึก ช่วงบ่ายพาลูกศิษย์ไปหาพระลูกศิษย์ เขา
ต้องการหาที่เก็บอัฐิพ่อเขาไว้ที่วัดธาตุทอง หมดไป 1 วัน จ้ะ
พรุ่งนี้ต้องตื่นเแต่เช้า มีกายภาพและพบหมอกายภาพ ห้าห้าห้า
บล็อกวันนี้ ก็ยังอยู่ในการแนะนำหนังสือให้เพื่อนได้รู้จัก เป็น
หนังสือ แนวปรัชญา แนวคิด ข้อคิด ให้คนอ่านเลือกนำไปปฏฺบัติ
ตามจริตของคนคนนั้นได้
เล่มนี้ คนเขียน คือ เลื่ยจื่อชื่อนี้ ครูไม่คุ้นหู ในจำนวนนักปราชญ์
ที่เขียนเกี่ยวกับลัทธิเต๋า พวกคัมภีร์เกี่ยวกับเต๋า ทำให้ได้รู้จักลักษณะ
เด่นของหนังสือที่เธอแนะนำด้วย แต่ชอบที่่เธอสรุปและเขียนเป็น
ข้อความด้วยความคิดเห็นของเธอเอง อิอิ ยกข้อความนี้

“รู้โลก รู้ตน พ้นทุกข์”
เราทุกคนสามารถพ้นทุกข์ได้
เมื่อเราเข้าใจตนเอง รู้จักตนเอง
แล้วสุดท้ายจึงนำไปสู่การรู้จักโลก และเข้าใจโลกนั่นเอง"
น่าจะตรงประเด็นทุกบล็อกที่เธอสรุป นะ เน้น รับความจริง
รู้จักตนเอง เข้าใจตนเอง ทุกข์ก็จะได้รับการแก้ไข ก็ คือ พ้นทุกข์
นั่นเอง และก็สรุปเป็นหลักแห่งสัจธรรม จริง ๆ เนาะ
โหวดหมวด แนะนำหนังสือ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:21:23:46 น.  

 
หนังสือดีมากๆครับ จะยังมีขายไหมครับ
สุดท้ายทุกสิ่งจบสิ้นที่ตัวเราเอง เข้าใจตัวเอง
ชอบประโยคนี้ครับ มิรู้จักความเบาสบายของวัยแก่เฒ่า

สภาพวันนี้ ก็ยังไม่มีฝนครับ เย็นหลงฤดูก็ยังร้อนมากๆอยู่ ค่าฝุ่นไม่เกินวิ่งครับ







โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:22:55:59 น.  

 
สวัสดีครับพี่ก๋า
เรื่องราวของเต๋ายังมีเรื่องราว น่าสนใจมากเลย
จากบล็อกตอนที่ทำแรกๆ ก็มีคนทักมาอยู่ ว่าที่จะเขียนมา มันไม่ใช่นิยายแต่เป็นบทละคร แต่ผมก็ไม่แน่ใจ เพราะผมไม่เคยอ่านนิยาย ที่เขียนมาจากความรู้สึก


โดย: Nior Heavens Five วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:23:17:22 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า
วันนี้ขอมารอบดึก

ผมก็เชื่อว่า ถ้าเข้าใจตัวเองแล้ว ก็จะเข้าใจโลก
และเมื่อมองโลก ก็ย้อนกลับมามองตัวเราครับ
ทั้งสองสิ่งเอื้อและสัมพันธ์ต่อกัน


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 16 มีนาคม 2568 เวลา:23:37:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]