พฤศจิกายน 2567
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
15 พฤศจิกายน 2567

:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 364 ::


:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 364 ::

โจทย์ --- พักผ่อน
ผู้คิดโจทย์ --- toor36





: งานคือการพักผ่อน :









ผมโตมากับการทำงานกับพ่อ
พ่อผมเป็นคนหลงใหลในการทำงานมาก
ชีวิตมีแต่งาน งานคือความอยู่รอด
งานคือความจริงจัง เป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต

เมื่อเริ่มต้นทำงานกับพ่อ
ผมจึงทำงานด้วยความไม่เข้าใจ
ว่าทำไมการทำงานมันจึงต้องหนักและเครียดขนาดนี้

ปีแรกที่เราบุกเบิกเริ่มต้นร้านด้วยกัน
สองปีแรกผมไม่เคยหยุดงานเลยแม้แต่วันเดียว
ตื่นเช้าเดินไปทำงานที่ร้าน ตกเย็นเดินกลับเข้าห้อง
หยุดสองวันนั่นคือป่วยจนลุกไม่ไหว
แต่หลังจากนั้น ผมก็เริ่มได้หยุดบ้างเดือนละ 2 วัน
จนผมมีครอบครัว แต่งงาน และมีลูก
จึงหยุดเดือนละ 4 วัน มีพักร้อนปีละ 7-10 วันโดยประมาณ

ส่วนพ่อผมไม่เคยหยุดงานเลยสักวัน
ดูเหมือนการทำงานคือความสุขและการพักผ่อนที่แท้จริงเพียงอย่างเดียวของพ่อ
ยิ่งพออายุมากขึ้น พ่อยิ่งไม่เดินทางไปเที่ยวที่ไหน
ปัญหาสุขภาพทำให้ไม่สนุกกับการท่องเที่ยวอีกต่อไป


แล้วเราก็เจอโควิด
3 ปีที่หยุดงาน ต้องปิดร้าน ผมรู้สึกเหมือนตัวเองได้พักผ่อนอย่างแท้จริง
โควิดทำให้ต้องอยู่กับบ้าน ผมนั่งดูหนังวันละหลายเรื่อง
นอนอ่านหนังสือทุกวัน เริ่มทำงานบ้านที่ไม่เคยทำมาก่อน
ซื้อเครื่องตัดหญ้า กรรไกรตัดกิ่ง ทำสวนครึ่งวันเหมือนได้พักผ่อนและออกกำลังกาย

ผมรู้เลยว่าโควิดทำให้พ่อยิ่งเบื่อ
การไม่ได้ทำงานเหมือนการตัดทอนพลังชีวิตของพ่อไปเลย
ไหนจะเครียดเรื่องค่าใช้จ่ายภายในบ้านอีก
แต่ในที่สุดเราก็ผ่านมันมาได้ในที่สุด



ผมกลับมาเปิดร้านใหม่อีกครั้ง
ร้านมีขนาดเล็กลง จำนวนนักท่องเที่ยวก็น้อยลง
การจับจ่ายใช้สอยเงินทองไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
แต่ผมกลับชอบชีวิตในช่วงนี้ มันมีเวลาเหลือให้ผมทำนู่นทำนี่ที่ตัวเองชอบ
งานไม่ยุ่งเหมือนก่อน ขายไม่ดีเหมือนเก่า
แต่ไม่เป็นไร อย่างน้อยผมก็ยังมีอาชีพ มีรายได้ประทังชีวิต
เลี้ยงลูกน้องเก่า ๆ ที่ร้าน มีเวลาดูแลรับส่งลูกเต็มที่

ผมไม่ได้เดินทางไปเที่ยวที่ไหนมานานหลายปีแล้ว
หลัก ๆ คือต้องดูแลร้าน พ่อแม่แก่เฒ่าลงไปเรื่อย ๆ
ไม่ได้มาที่ร้านทุกวันเหมือนก่อน
ความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในชีวิตอีกหลายอย่าง
ซึ่งทำให้ผมยากที่จะไปเที่ยวไหนไกลๆหลายๆวัน


ผมไม่ได้นึกถึงการพักผ่อนแบบลาหยุดไปเที่ยวยาวนานหลายวันอีกแล้ว
ทุกวันนี้ได้หยุดแค่วันอาทิตย์ แต่ก็เหมือนไม่ได้หยุดอะไร
เพราะลูกชายก็มีกิจกรรมไปนู่นไปนี่
วันว่างจริง ๆ คือ นอนเล่นอยู่ที่บ้าน เท่านี้ก็มีความสุขแล้ว

แต่หากมีโอกาส ก็อยากจะหยุดงานยาวๆเพื่อเดินทางท่องเที่ยวไกลๆอยู่เหมือนกัน
และนั่นยังเป็นเพียงความฝันเล็ก ๆ ตอนนี้ขออยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุดก่อนก็พอ

























Create Date : 15 พฤศจิกายน 2567
Last Update : 15 พฤศจิกายน 2567 5:13:23 น. 12 comments
Counter : 499 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณหอมกร, คุณ**mp5**, คุณปัญญา Dh, คุณmultiple, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณmcayenne94, คุณกะริโตะคุง, คุณtoor36, คุณปรศุราม, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณสองแผ่นดิน, คุณSweet_pills


 
อันนี้คือคติของคนมีเชื้อสายจีน
และพวกมีปรัชญาในการดำเนินชีวิตคุณก๋า 555



โดย: หอมกร วันที่: 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา:6:58:05 น.  

 
สวัสดีครับ


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา:9:57:06 น.  

 
ภาพประกอบนี่ อาจารย์เต๊ะ นึกถึงหนัง men in black
มนุษย์ต่างดาว มาเปิดร้านขายเครื่องหนัง เลยนะครับ นี่ แฮร่ ฮ่าๆๆ

เรื่องวันหยุดนี่ ถ้าอาจารย์เต๊ะเป็นเจ้าของร้าน ก็อยากจะเปิดมันทุกวันเลยละครับ อาจารย์เต๊ะ ไม่ชอบไปเที่ยวที่คนแยะๆ ชอบอยู่บ้าน อยู่เงียบๆ แบบว่าโลกส่วนตัวสูงลิบ ฮ่าๆๆๆ

แต่คนขายของนี่ ร้านก็เหมือนบ้านแห่งที่สอง นอนชั้นบน เช้าลงมาเปิดประตูก็ขายกันได้เลย คนจีนยุคนั้นร่ำรวยกันแทบทุกคน
มีลูกหลานก็อยากให้สืบทอดกิจการ พ่อแม่ปูทางไว้ให้หมดแล้วนะครับ คุณก๋า โชคดีและคิดถูกแล้วละครับ
ที่ดำเนินธุรกิจต่อ เป็นเจ้านายตัวเอง ไม่ต้องรอรับเงินเดือนนะครับ

ของอาจารย์เต๊ะ นี่ รายได้ขึ้นอยู่กับความขยัน
เดือนไหน ขยันทำงานก็ได้แยะ แต่อาจารย์เต๊ะ โดยมากจะเลือกลูกค้า ถ้าไม่ชอบใจ นิสัย ความประพฤติไม่ดี เงินดีแค่ไหน ก้ไม่ทำให้นะครับ เล่นตัวซะด้วย ฮ่าๆๆๆ



โดย: multiple วันที่: 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา:12:31:48 น.  

 
สัวสดีครับพี่ก๋า

ผมดีใจจังครับที่ได้อ่านบล๊อกนี้ของพี่ก๋า แล้วพบว่าใครซักคนนึงมีงานที่ทำแล้วมีความสุข
ไม่รู้สึกอยากหยุดพักเพราะเหน็ดเหนื่อยจากงาน แต่การทำงานคือการได้พักผ่อนในทุก ๆ วัน
แต่....พี่ก๋ามีพักร้อนประจำปีน้อยกว่าผมอีกนะครับ 5555555 แต่ผมก็ใช้ไม่หมดครับ เพราะแค่ลาป่วยกับหนีไปเที่ยวบ้างก็เกิน 13 วันละ

ส่วนคุณพ่อ สุดยอดมากครับ ร้านคือสิ่งที่ท่านรักและมีความสุขจริงๆ
ผมว่า การที่ใครซักคนได้ทำงานแล้วรู้สึกรักในมัน รู้สึกมันมีคุณค่า และเป็นคุณค่าของชีวิต
เป้นเรื่องที่ดีมากๆ หายากมากๆ ปกติมนุษย์เงินเดือนอยากผมนี่ ทำงานด้วยความทรมานทุกวัน

“การไม่ได้ทำงานเหมือนการตัดทอนพลังชีวิตของพ่อไปเลย”
อันนี้เข้าใจเลยครับ คนแก บางครั้งงานที่ทำทุกวันคือคุณค่าในชีวิต
ทำแล้วมีความสุข รู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง มีคุณค่าในตัวเองในทุก ๆ วัน

หลังโควิด ร้านได้กลับมาเปิดอีกครั้ง เป็นเหมือนของขวัญของครอบครัวนะครับ
การที่ไม่ยุ่งเหมือนเดิม จริงๆ แล้วอาจจะดีก็ได้ครับ มีเวลาได้ทำสิ่งอื่นที่รักที่ชอบเหมือนกันเพิ่มครับ ^^


จากบล๊อก
ปกติเพื่อนคนนั้นก็ไม่ได้เงียบครับ เฮฮาพูดนั่นนี่กับคนอื่นปกติ
แต่ในงาน มันไม่เคยบ่นโดนอะไรมาก็ “ครับ” อย่างเดียว ไม่ตอบโต้ไม่เถียง ไม่บ่น แล้วนั่งทำงานเงียบๆ ไป
งานก็เดินปกติไม่ได้มีอะไรผิดปกติ อยู่ๆ มารู้ว่ามันมีปัญหา
เมื่อเช้าออกไปกินข้าวตอนเช้ากับลูกพี่มัน เลยเกริ่น ๆ ให้ฟัง ว่าให้หัดไว้ใจคนอื่น แล้วอย่าคาดหวังว่าคนอื่นจำทำเหมือนในสิ่งที่เราคิด
ถ้าปลงไม่ได้เราก็เหนื่อยต้องทำเอง เป็นหัวหน้าแล้ว ขยับตัวเองออกมาจาก Detail งานมาดูภาพรวมดีกว่า
ปกติผมกับมันก็ไม่คุยกันเรื่องการดูแลลูกน้องหรอกครับต่างคนต่างไม่ยุ่งกัน
แต่ไอ่ผมอ่ะมีหน้าทีดูแลความเป็นอยู่ของจูเนียร์ทั้งแผนกด้วยเลยต้องคุยครับ
ไอ่ผมก็ไอ เสียงเพิ่งจะมี กว่าจะพูดกับมันจบนี่ไอจนจอแทบดับ 5555
เมื่อวานนี่ผมนั่งฟังเงียบๆ ให้เพื่อนมันคุยกันเอง ส่วนผมรับฟัง


โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา:12:38:03 น.  

 
ผมว่าพ่อของคุณก๋าทำงานอย่างมีความสุขเลยนะครับ มีรุ่นพี่ที่ทำงานเคยเล่าให้ฟังแกเกษียณไปแล้วนะครับว่าสมัยก่อนทำงานกันสนุกมาก ๆ บรรยากาศในที่ทำงานเหมือนครอบครัวทำให้เค้าอยากมาทำงานทุกวัน แต่ปัจจุบันนี้ไม่เหมือนเดิมแล้ว
โควิดนี่ตอนแรกนึกว่าจะมาเล่น ๆ แต่มันเปลี่ยนโลกไปทั้งโลกเลย


โดย: The Kop Civil วันที่: 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา:15:23:24 น.  

 
คุณก๋าภารกิจยังไม่มาก เย็นภารกิจมากมาย
เพื่อนสนิทไปเที่ยวกันเรื่อยๆ ไม่ได้ไปกับเขา
จนเขาเลิกชวน จนเขาน่าจะเลิกสนิทไปแล้ว
เคยคิดรอวันที่จะได้ไปตะลอนตามใจอยากไป
ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่

วันหนึ่งก็ทำใจได้ว่า ถ้าเราจะทุกข์เพราะไม่ได้ไป
ไม่ได้ทำ และรอวันที่จะไปที่อยากไป ทุกวันก็จะเป็นวันทุกข์
พระพุทธเจ้าท่านก็ไม่เคยสอนว่า ไปเที่ยวไปโน่นมานี่แล้วจะสุข
เราต้องคิดอะไรผิด ตั้งความคิดไว้ผิดแล้วหล่ะ( และเรื่องอื่นๆอีกร้อยแปดพันเก้า ที่เคยนึกทีไรก็กังวล และคิดล่วงหน้าไปว่าจะต้องทำยังงั้นยังงี้เมื่อเกิดขึ้น กลายเป็นว่าทุกวันเป็นวันทุกข์วันกังวล)

แค่ปรับเปลี่ยนความคิดใหม่ ทุกวันเป็นวันสุข พอใจในทุกๆวัน อยู่ที่ไหนทำอะไรก็พอใจ ให้มีสุขตามอัตภาพที่สามารถทำได้
ไม่เบียดเบียนตัวเอง หรือไปเบียดเบียนคนอื่น มีชีวิตอยู่ที่เป็นประโยชน์และพยายามแบ่งปันความสุขแก่ทุกๆคนที่พบเจอ ส่วนปัญหาต่างๆก็แค่ปล่อยวาง เกิดขึ้นค่อยแก้ไข ไม่เกิดก็ไม่ปริวิตก ทุกวันกลายเป็นวันสุข ไม่ต้องตะลอนไปที่ไหนค่ะ นั่งหน้าคอมอ่านเรื่องราวเพื่อนๆพี่ๆน้องๆก็แฮปปี้ดีค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา:18:20:20 น.  

 
สวัสดีครับ
การพักผ่อนของเรานั้นคล้ายๆกันครับ คุณกะว่าก๋า
หลังจากต้องปิดเมืองเพราะโควิด ผมออกจากงานกลับไทยมาก็ได้ใช้เวลาช่วงนี้พักผ่อน มันจะดีกว่านี้ถ้าไม่ต้องเครียดกับการหางานใหม่ แต่จนแล้วจนรอดผมก็ได้เปลี่ยนวิถีชีวิตมาดูแลคุณพ่อที่เกษียณแล้วอยู่ต่างจังหวัด เพราะท่านบอกว่ามีเท่านี้ก็มีกินมีใช้ไม่หมดแล้ว ไม่ต้องดิ้นรนมากก็ได้

ชีวิตตอนนี้เลยกลายเป็นว่าผมพักผ่อนแบบตลอดเวลาไปเลย


โดย: กะริโตะคุง วันที่: 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา:20:57:13 น.  

 
ทำงานมากเกินไปมันเบิร์นเอ้าท์ได้เลยนะครับ ยังไงเราก็ต้องพักผ่อน

ถ้ามีเงินอยู่แล้วรวยแล้วก็คงไม่เดือดร้อนอะไร ก็ไม่ต้องทำงานก็ได้ แต่เพราะเราคิดว่ามันยังไม่มากพอที่จะอยู่ได้เลยต้องพยายามหนักหน่อย

อย่างตอนโควิดหลายคนก็เละเหมือนกัน จนตอนนี้ยังกลับมาเหมือนเดิมไม่ได้เลยก็มี ผมก็เกือบหลับแต่ยังพอไหว

จากบล็อก
ไรซ์น่ารักครับ ในการ์ตูนจริงจังมากด้วย~


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา:21:06:39 น.  

 
ในช่วงโควิดมันเป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน หลายๆ บ้านหมดตัวเลยก็มี ความน่ากลัวคือ มันไม่รู้ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ มันเหมือนวิ่งไปข้างหน้าเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จุดหมายว่าจะสิ้นสุด ณ ที่แห่งใด

คุณกะว่าก๋ามองโลกในแง่ดี ถือว่าช่วงเวลานั้นใช้พักผ่อนอย่างเต็มที่ชาร์จพลังลานเตรียมไว้ลุยต่อในอนาคต


โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา:21:23:37 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

วันนี้ มีนัดกับหมอ เพื่อดูผลอัลตร้าซาวด์ นิ่วในถุงน้ำดี ผล
ตรวจออกมาว่า ก้อนนิ่วยังไม่โตถึงกับต้องผ่าตัดเอามันออก มันยังโต
เท่าเดิม นัด 1 ปี อัลตร้าซาวด์ใหม่ โล่งออกไป รอดไปอีก 1 ปี

อ่าน ตะพาบ ของก๋า แล้ว ก็เป็นแนวหรือ วิถีชีวิตอีกรูปแบบ
หนึ่ง ที่เราจำเป็นต้องเลือก จากการอยากเป็นครู ด้วยความกตัญญู
ที่มีต่อพ่อ ต้องรับช่วงงานที่พ่อชื่นชอบ จนในที่สุดก็รักอาชีพนี้
โควิด มาทำให้วิถีชีวิดของเธอเปลี่ยนไปอีก พ่ออายุมากขึ้น
ถึงจะรักงานและถือการทำงานที่รักเป็นการพักผ่อนก็เถอะ แต่อย่าง
ไรก็ตาม ชีวิตต้องการพักผ่อนแบบไม่ต้องกังวลกับงานอยู่ดี
การทำการค้าและมีครอบครัว ก็เป็นปัจจัยตัวหนึ่งที่ทำให้เรา
ทำอะไรที่อยากทำไม่ได้เต็มที่ แต่ก็เป็นความสุขอีกรูปแบบหนึ่งของ
ชีวิต เนาะ ชีวิตที่อบอุ่น พร้อมหน้าพร้อมตา คิดเสียอย่างนี้ มันก็
เป็นความสุขเหมือนกัน จ้ะ สู้ ๆ จ้ะ
โหวดหมวด ตะพาบ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา:22:12:26 น.  

 
ที่ทำงาน ผมได้น้องใหม่มาทำงาน 3 คน แบ่งงานผมไปเยอะเลย งานเบาลง
แต่ที่บ้านมีสว ต้องดูแล 3 คน กลับมางานหนักที่บ้านแทน
ตั้งแต่โควิด หลังโควิดมา ยังไม่ได้เที่ยวไกลๆเลยครับ

ไม่มีฝน ไม่หนาว อากาศกลางคืน 30 องศา
ไม่ได้ไปลอยกระทง



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 15 พฤศจิกายน 2567 เวลา:23:26:38 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณก๋า

คุณก๋าเรียนจบแล้วลาออกจากงานประจำ
กลับมาสานต่อธุรกิจครอบครัวจนถึงวันนี้
คุณก๋าดูแลครอบครัว ดูแลคุณพ่อคุณแม่ ดูแลร้านอย่างต่อเนื่อง
คุณก๋ามีทั้งความเสียสละ ความเป็นผู้นำและความกตัญญู
ชื่นชมมากๆค่ะ

ความสุขกับกิจกรรมที่คุณก๋าทำก็เหมือนจิตใจได้พักผ่อนอยู่ตลอดเวลา
การอยู่กับปัจจุบันให้ดีที่สุดเป็นข้อคิดดีๆด้วยค่ะ
ขอบคุณคุณก๋าที่แบ่งปันประสบการณ์นะคะ

ขอบคุณสำหรับกำลังใจค่ะคุณก๋า
ฝันดีคืนนี้ค่ะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 16 พฤศจิกายน 2567 เวลา:0:46:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

BlogGang Popular Award#20


 
กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]