สิงหาคม 2560
 
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
7 สิงหาคม 2560

:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 184 (1) ::




:: ถนนสายนี้มีตะพาบ โครงการที่ 184 ::


โจทย์ --- เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นกลางดึก

ผู้คิดโจทย์ --- กะว่าก๋า









:: สายสุดท้าย ::

เรื่องและภาพ : กะว่าก๋า










เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นกลางดึก
ทำลายความเงียบในห้องอันแสนสงัด
ปาเชคอฟโยกคอซ้ายขวาสลัดความงุนงง
เปิดโคมไฟ ก่อนสไลด์หน้าจอมือถือที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียง
เขารู้ดีว่านี่ต้องเป็นเรื่องด่วนมากที่สุด
มิเช่นนั้นลูกน้องคนสนิทคงไม่กล้าโทรมารบกวนตอนตี 2 แบบนี้

“ว่าไงคิมินอฟ มีอะไรสำคัญถึงต้องโทรมากลางดึกแบบนี้”

ปลายสายเสียงละล่ำละลักบ่งบอกถึงความลนลานตื่นเต้น
“ท่านครับ เราอยู่เฉยไม่ได้แล้ว ตอนนี้ประชาชนในเครมลินกำลังลุกฮือ
ผู้คนเรือนล้านกำลังทยอยออกมาประท้วงที่กลางจัตุรัส
และเตรียมพร้อมที่จะมุ่งหน้ามาที่ทำเนียบครับ”

ปาเชคอฟขมวดคิ้วโดยไม่รู้สึกตัว
“แล้วทหารหายหัวไปไหนหมด ?”

คิมินอฟซึ่งดำรงตำแหน่งโฆษกรัฐบาลรีบตอบ
“บางส่วนแปรพักต์ไปเข้ากับฝ่ายนู้นครับ”

“ใครบ้าง”

“มีตั้งแต่ระดับนายพลไปจนถึงพลทหารเลยครับท่าน”

ปาเชคอฟขบกรามจนขึ้นเป็นนูน ไม่เคยมีคืนใดที่เขาจะได้นอนอย่างสงบใจ
ไม่ปัญหาเรื่องนั้นก็เรื่องนี้ การได้อำนาจมาครองนับว่ายาก
แต่การรักษาอำนาจนั้นไว้กลับยากยิ่งกว่า

“แล้วปาวานโก้ทราบเรื่องนี้แล้วหรือยัง”
ปาเชคอฟถามถึงพี่ชายคนสนิทที่กุมอำนาจทางการทหาร
เขาไว้ใจพี่ชายคนนี้ในทุกเรื่อง ปาวานโก้มีบารมีสูงสุดในกองทัพ
ไม่ว่าจะคิดทำอะไรทหารทุกกรมกองล้วนเกรงใจ
รวมทั้งตัวเขาซึ่งเป็นประธานาธิบดีด้วย

“ท่านปาวานโก้ยังอยู่ระหว่างการเดินทางไปพักร้อนที่ฮาวายครับ” คิมินอฟรายงาน

“ทำไมยังไม่กลับมาอีก” ปาเชคอฟถามกลับไปด้วยเสียงดุดัน

คิมินอฟรีบตอบกลับมาด้วยเสียงสั่นเครือ “ผมก็ไม่ทราบครับท่าน”

“แล้วตอนนี้ใครดูแลกองกำลังรักษาความสงบฯ”

“อูโก้ครับท่าน” คิมินอฟตอบ

“อูโก้” ปาเชคอฟเงียบไปชั่วขณะ
เขานึกถึงนายพลหนุ่มผู้มีนิสัยเลือดร้อน โผงผาง แต่บ้าดีเดือด
แม้เป็นนายพลแล้ว แต่อูโก้ ซามารินอฟยังคงชอบสงคราม
อาสาไปรบทัพจับศึกอยู่เสมอ

ปาเชคอฟสั่งการผ่านคิมินอฟก่อนจะวางสาย

“ดีแล้ว สั่งการให้อูโก้ใช้อาวุธเข้าปราบปรามพวกกบฏให้สิ้นซากไปเลย
เดี๋ยวอั๊วจะนั่งเฮลิคอปเตอร์ไปที่กองบัญชาการทหารสูงสุดในอีกสิบนาที แค่นี้นะ !!!”


....................................................


ปาเชคอฟนั่งอยู่ในห้องบัญชาการด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
อูโก้นั่งอยู่ด้วย โดยมีทหารองค์รักษ์อีก 5 นายยืนอารักขา
ภายในห้องเต็มไปด้วยควันบุหรี่ คิมินอฟแง้มม่านหน้าตา
มองลงไปเห็นประชาชนราว 5 หมื่นคนกำลังล้อมทำเนียบประธานาธิบดีไว้
เสียงโห่ร้องปลุกเร้าดังขึ้นเป็นระยะ ๆ
โดยมีทหารพร้อมอาวุธครบมือคอยระแวดระวังอยู่ที่ริมรั้วทั้งสี่ด้าน

“อูโก้ มันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง ทำไมพวกบ้านั่นถึงมาล้อมเราได้” ปาเชคอฟจี้ถาม

อูโก้ยักไหล่
“ก็อย่างที่ท่านเห็น....เยวาเรนก้าวางแผนมาเป็นอย่างดี
ไม่เพียงมีประชาชนสหนุนหลัง เธอยังได้ทหารเก่าที่แปรพักต์ไปเป็นพวกอีกเป็นจำนวนมาก
ผมเองยังงงว่าทำไมฝ่ายเราถึงเพลี่ยงพล้ำได้ขนาดนี้ หรือว่าเราจะมีหนอนบ่อนไส้”

“ใครวะ --- จะกล้าหักหลังอั๊ว !!!” ปาเชคอฟตะโกน

“คนที่ท่านไว้ใจที่สุดนั่นแหละที่น่ากลัวกว่าใครเพื่อน” อูโก้กล่าวเสียงเรียบ ๆ

“ลื๊อหมายถึงปาวานโก้อย่างนั้นรึ ?” ปาเชคอฟพูด
“เป็นไปไม่ได้ ไม่มีทางเป็นอย่างนั้นแน่นอน” ปาเชคอฟส่ายหน้า

“แต่ตอนนี้มันเป็นไปแล้วครับ ผมได้รับรายงานจากสายลับ
ว่าท่านปาวานโก้แอบดอดไปตกลงลับ ๆ กับเยวาเรนก้าผู้นำการประท้วง
โดยสร้างเงื่อนไขให้ท่านกลายเป็นผู้นำที่ล้มเหลวในการบริหารบ้านเมือง
พอเศรษฐกิจภายในประเทศตกต่ำอย่างที่เห็น ประชาชนเลยลุกฮือขึ้น
หลังจากล้มท่านได้ ปาวานโก้จะขึ้นครองอำนาจต่อ
โดยมีเยวาเรนก้าเป็นรองประธานาธิบดีครับ” อูโก้รายงานตามข่าวที่สืบมา

ปาเชคอฟนั่งหมดเรี่ยวหมดแรง ใบหน้าสลด
ไม่เหลือเค้ารางของผู้นำเรืองอำนาจที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอีกแล้ว

“เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้” เขาพูดพึมพำออกมาเบา ๆ


..............................................


การประท้วงจลาจลลุกลามขยายผลไปทั่วประเทศ
ทหาร ตำรวจ ข้าราชการแบ่งออกเป็นฝักเป็นฝ่าย
บ้างยังซื่อสัตย์ต่อรัฐ แต่ส่วนใหญ่ไหลรวมไปยืนอยู่ข้างฝ่ายประชาชน
5 ปีแห่งการปกครองประเทศของปาเชคอฟ
ทำให้เห็นว่า “อำนาจ” ที่แท้จริงนั้นควรกลับคืนสู่ประชาชน
แนวทางในการพัฒนาประเทศควรรังสรรค์ขึ้นมาความต้องการของประชาชน
วิถีชีวิตของคนในประเทศไม่ควรถูกกำหนดกฏเกณฑ์โดยกลุ่มคนหรือใครคนใดคนหนึ่ง
กฎหมายควรถูกบังคับใช้อย่างเท่าเทียมและยุติธรรม
มิใช่ใช้เป็นเครื่องมือในการขจัดฝ่ายตรงข้าม

เยวาเรนก้าไม่ใช่คนแรกที่กล้าลุกขึ้นมาต่อกรกับปาเชคอฟ
และแน่นอน...เธอไม่ใช่คนสุดท้าย
ตราบใดที่ระบอบการปกครองที่แท้จริง
ยังมิได้เป็นไปเพื่อประชาชน โดยประชาชน


ปาเชคอฟสั่งการให้อูโก้นำทหารทั้งหมด
ออกไปปราบปรามประชาชนที่ล้อมทำเนียบ
แต่อูโก้ถูกยิงตายอยู่ที่หน้าประตูทำเนียบ
ประชาชนลุกฮือและยอมตายเพื่อฝ่าแนวกระสุนของเหล่านักรบที่ป้องกันทำเนียบ
คนจำนวนร้อยหรือจะสู้คนจำนวนหมื่น ทหารรักษาการณ์พากันทิ้งอาวุธ
วิ่งแตกตื่นหนีออกจากทำเนียบด้วยความรักตัวกลัวตาย
ประชาชนกรูกันขึ้นไปบนห้องในทำเนียบเป็นจำนวนมาก


............................................


ภายในห้องนั้น...
ปาเชคอฟมองดูปืนพกที่อยู่ในมือ เขาเพิ่งยิงคิมินอฟจนนอนแน่นิ่งจมกองเลือด
ก่อนจะยกปืนกระบอกนั้นขึ้นจ่อที่ขมับอย่างช้า ๆ

แล้วเสียงโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะก็ดังขึ้น....

ปาเชคอฟชะงักนิ้วชี้ที่เหนี่ยวไกปืนอยู่
เขาเอื้อมมือรับสายฯ หน้าจอเป็นเบอร์โทรที่ไม่คุ้นเคย

“นั่นใคร ?” ปาเชคอฟถาม

“พี่ชายลื๊อเอง”

“ปาวานโก้”

“ใช่...อั๊วเอง” ปาวานโก้ตอบ

“ทำไมถึงทำแบบนี้ ?” ปาเชคอฟตะคอกกลับไป

“มันเป็นสิ่งที่อั๊วต้องทำ ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับอั๊วอีกแล้ว”

“ทำไมถึงทรยศต่อความมุ่งมั่นของพวกเรา”

“ของพวกเรา” ปาวานโก้ทวนคำพูดของปาเชคอฟ
“ไม่ใช่หรอกปาเชคอฟ ความมุ่งมั่นใน 5 ปีที่ผ่านมาของนายมันสูญเปล่า
ความมุ่งมั่นของประชาชนต่างหากที่จะดำรงคงอยู่นับต่อจากนี้ไป
นี่คือสิทธิ์ที่ประชาชนเรียกร้องและอยากเห็นมาโดยตลอด
บัดนี้ถึงเวลาที่เราต้องคืนอำนาจนั้นกลับคืนสู่ประชาชน”


เสียงโห่ฮาของประชาชนด้านนอกดังขึ้น เสียงเขย่าประตูดังสนั่นหวั่นไหว
เสียงทุบ เสียงตะโกน ดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง
ประตูไม้บานใหญ่ถูกเปิดผลั๊วออกไปอย่างรวดเร็ว
ผู้คนถาโถมเข้ามาในห้องพร้อมอาวุธครบมือ

“ลาก่อนปาเชคอฟ” เสียงสุดท้ายของปาวานโก้ดังขึ้น
พร้อมสติที่ดับวูบไปของอดีตผู้นำสูงสุดของรัฐบาล !!!!








Create Date : 07 สิงหาคม 2560
Last Update : 7 สิงหาคม 2560 6:04:18 น. 1 comments
Counter : 649 Pageviews.  

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณคนผ่านทางมาเจอ


 
สวัสดีค่ะคุณก๋า..

งานเขียนของคุณก๋าเอง..ตามมาอ่านด้วยคะ

แต่เอ..น่าจะครั้งที่ 185 ไม่ใช่หรอคะ..หรือว่าเราจำผิดไป



โดย: อ้อมแอ้ม (คนผ่านทางมาเจอ ) วันที่: 7 สิงหาคม 2560 เวลา:6:07:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 392 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]