มิถุนายน 2568
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
7 มิถุนายน 2568

: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - หิมาลัยไม่มีจริง :


: หิมาลัยไม่มีจริง :
เขียน : นิ้วกลม






ผมไม่สนใจหนังสือเล่มนั้น
เพียงเพราะใครบอกว่ามันดี
ผมไม่อ่านหนังสือเล่มนั้น
เพียงเพราะใครบอกว่ามันดัง
ผมอ่านเพราะผมอยากอ่าน
และผมคิดว่าหนังสือก็เหมือนตัวเอง
บางครั้งมันก็รอคนอ่านพร้อม
หนังสือเล่มนั้นจึงปรากฏตัวขึ้นเพื่อให้เราอ่าน


“หิมาลัยไม่มีจริง” คือ หนังสือเล่มนั้น
ผมไม่เคยรู้ว่ามีหนังสือเล่มนี้ขาย ไม่เคยรู้ว่าหนังสือเล่มนี้ขายดีตีพิมพ์ซ้ำหลายครั้ง
จู่ ๆ ก็รู้สึกว่าผมอยากอ่านหนังสือเล่มนี้
เพียงได้ยินคุณเอ๋ – นิ้วกลม ผู้เขียนพูดถึงชื่อหนังสือในคลิปสัมภาษณ์แค่ครั้งเดียว

ผมสั่งซื้อหนังสือเล่มนี้ทางออนไลน์ในวันนั้น และเมื่อหนังสือเดินทางมาถึง
ผมก็ลงมืออ่านทันที....


---------------------------------------------


“หิมาลัยไม่มีจริง” คือ บันทึกความรู้สึกของนักเดินทางที่ชื่อ นิ้วกลม
การเดินทางไปสู่หิมาลัยไม่เคยอยู่ในความคิดของผมเลย
ผมไม่ใช่นักเดินทาง ยิ่งในวัยกลางคน เหตุผลที่จะทำให้ผมเดินทางไกลยิ่งน้อยลง

เส้นทางการเดินเท้าขึ้นสู่ยอดเขาสูงติดอันดับโลกย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย
สภาพอากาศสุดโหดและแปรปรวน เส้นทางอันยากลำบาก
ความกดอากาศที่ยิ่งสูงยิ่งอันตรายต่อระบบหายใจและสมอง
การเดินเท้าแบบก้าวต่อก้าว ชั่วโมงต่อชั่วโมง ท่ามกลางความหนาวเหน็บ
ท่ามกลางแดดร้อน ฝน ลมแรง และหิมะ --- ผมเคยสงสัยนะ
ว่าคนเราจะทรมานตัวเองขึ้นไปบนนั้นทำไม ?

คุณเอ๋เขียนไว้ว่า

“บนเส้นทางยาวไกล
สิ่งที่ทำได้ คือ หันมองเรื่องราวดี ๆ รอบตัว
ก้าวทีละก้าวไปเรื่อย ๆ เพราะแต่ละก้าวนั้น
ไม่ไกลเกินไปกว่าที่เราจะทำได้
ก้าวต่อก้าวเช่นนี้ ทำให้มนุษย์พิชิตทางไกลมานับไม่ถ้วน
ตรงกันข้าม , การมองไกลเกินไปต่างหาก
ที่หยุดเท้าของนักเดินทางไว้กับที่
หรือบางทีก็ทำให้พวกเขาเลือกที่จะหันหลังกลับ”



การเดินทาง คือ สายตาของนักเขียน --- ใครบางคนเคยกล่าวไว้


ในวัยหนุ่มผมเคยเลือกใช้ ‘การเดินทาง’ เป็นการแสวงหาตัวตนและคำตอบที่ผมสงสัย
โชคดีที่ผมบังเอิญไปพบอาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ เป็น ‘ขุนเขา’ ที่เมืองกุ้ยโจว ประเทศจีน
อาจารย์ซึ่งเป็นทิวเขาไกลสุดลูกหูลูกตา การยืนประจันหน้ากับขุนเขา
ทำให้ผมพบว่าตัวเองนั้นเล็กราว ‘ฝุ่นผงในจักรวาล’
วินาทีนั้น....ผมค้นพบว่า


“ชีวิตไม่ใช่การค้นหา แต่คือการค้นพบ”

เมื่อรู้สึกเช่นนี้ ความทุกข์ซึ่งเคยหมักหมมทับถมในใจ พลันหายไปจนหมดสิ้นทันที !


--------------------------------------


“หิมาลัยไม่มีจริง” ไม่ได้เป็นเพียงบันทึกการเดินทางของคนหนุ่ม
แต่เต็มไปด้วยข้อมูลมากมายหลากหลาย ทั้งด้านวิทยาศาสตร์ ปรัชญา ฯลฯ
คุณเอ๋ไม่ได้บันทึกแค่เหตุการณ์หรือสิ่งที่เกิดขึ้น
แต่บันทึกทุกความรู้สึกซึ่งผ่านเข้ามาในการรับรู้
‘ความรู้สึก’ นี่เอง คือ ‘เสน่ห์’ ของการเดินทาง

เพราะทุกก้าวที่เราเดินไป เราไม่เพียงเดินทางเพื่อไปให้ถึง ‘จุดหมาย’
แต่แท้จริงแล้ว ‘จุดหมาย’ อยู่ในทุกย่างก้าวของการเดินทาง
เหมือนความสุขและความสำเร็จในชีวิต
ที่แต่ละคนนิยามความหมายและคุณค่าของมันแตกต่างกันออกไป

กับใครบางคนอาจคิดว่า

“ไปทำไม ไม่เห็นมีอะไร เหนื่อยก็เหนื่อย อันตราย แพงด้วย
ดูภาพ..มันก็ภูเขาเหมือน ๆ กัน”



แต่ใครบางคน...นี่อาจเป็นเส้นทางที่ทำให้เขาค้นพบ ‘ตัวเอง’
ไม่ใช่ค้นพบด้วยความสะใจว่าตัวเองสามารถเอาชนะยอดเขาที่ยากจะพิชิต
แต่มันคือการค้นพบว่าตัวเอง คือ ‘ใคร’
ในท่ามกลางธรรมชาติอันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา


ผมนึกถึงวัยหนุ่ม ตอนยังไม่มีครอบครัว
ผมชอบเดินทางคนเดียว เก็บทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางเอาไว้หมด
ไม่ว่าจะเป็นตั๋วเครื่องบิน บัตรเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ธนบัตรของประเทศนั้น ๆ ใบไม้แห้ง ฯลฯ
จดบันทึกแทบจะทุกคำ และทุกความรู้สึกลงไปในสมุดบันทึก
พอกลับมาถึงเมืองไทยก็เอาฟิล์มไปล้าง
ซื้ออัลบั้มรูปมาจัดวางและเขียนเรื่องราวลงไป

ทุกรูปจากทุกสถานที่ คือ ความทรงจำ
คือ ความรู้สึกขณะเดินทาง
พออายุมากขึ้นการเดินทางของผมไม่ได้เป็นการค้นหาอะไรอีกแล้ว
ความหมายของการเดินทาง เหลือเพียงการท่องเที่ยวและการพักผ่อน
ผมจึงแทบไม่อ่านหนังสือแนวบันทึกการเดินทางเลย
เพราะรู้สึกว่า บันทึกแนวนี้คล้ายบันทึกส่วนตัวซึ่งผู้เขียนย่อมรู้สึกได้มากที่สุด
คนอ่านจะตั้งใจอ่านมากแค่ไหน ก็ไม่มีทางซึมซับรับรู้ความรู้สึกเหมือนนักเขียนได้
แต่หนังสือ “หิมาลัยไม่มีจริง” เล่มนี้ กับตรึงความรู้สึกของผมให้อ่านไปทีละหน้า ๆ จนจบเล่ม
หลายบทตอน พาผมย้อนกลับไปยัง “ภูเขาลูกนั้น” ซึ่งเป็นอาจารย์ทางธรรมของผม

ข้อความนี้ในหนังสือ
ทำให้ผมหวนนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเคยพานพบในวินาทีอันเงียบงัน ณ กุ้ยโจว ประเทศจีน


“เราไม่ได้เกิดมาเพื่อเป็นทุกข์ , จะพูดเช่นนั้นก็ไม่ถูกนัก
เราอาจเกิดมาเพื่อเป็นทุกข์ มีความสุข แล้วตั้งคำถาม ทำความเข้าใจ
เพื่อจะเข้าใจว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่ออะไรเลย
หรือหากกล่าวให้ถึงที่สุดแล้ว เราอาจมิได้ ‘เกิด’ มาด้วยซ้ำ
เราเพียงเปลี่ยนรูปไป เปลี่ยนแปลงตามวันเวลา
และยังคงเป็นส่วนหนึ่งของเอกภพ”



ใช่ --- เราเป็นส่วนหนึ่งของเอกภพอันกว้างใหญ่
และในความกว้างใหญ่นั้น มิใช่เพียงหิมาลัยไม่มีจริง
แม้ตัวเราก็ไม่มีจริง












































Create Date : 07 มิถุนายน 2568
Last Update : 7 มิถุนายน 2568 5:52:51 น. 9 comments
Counter : 614 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณhaiku, คุณmultiple, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณmcayenne94, คุณปรศุราม, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณAnanya Amy_1994, คุณทนายอ้วน, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse


 
เป็นหนังสือมึนอีกเล่มบนหิ้งหนังสือคุณก๋าจ้า
อ้าวอาจารย์ตื่นเช้ามืดยังไม่แวะมาลงชื่อเลย
หวังว่าแกคงสบายดี คุณธัญยังป่วยอยู่คุณก๋า



โดย: หอมกร วันที่: 7 มิถุนายน 2568 เวลา:8:04:53 น.  

 
อ่านคำโปรยแล้ว แหม ถ้าคนชอบแนวนี้ มันต้องซื้อมาอ่านให้ได้เลยเชียวนะครับ 555

แต่อาจารย์เต๊ะ สายชิว ขี้รำคาญ ไม่ชอบไปเที่ยวเป็นหมู่คระ เหมือนกันครับ เรื่องแยะ ขนาดบ้านเดียวกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน
ยังปวดหัว จะตีกันตาย
เมื่อวาน ขับรถไป รพ คนเดียว ไม่ต้องมีญาติไปด้วย
แสนจะสบายใจ ขาไป ชมนึง โชคดีมีที่จอด ตึกหน้าไม่ต้องเดินไกล
ไปเอาคิว อุลตร้าซาวส เสร็จก้ไปเจาะเลือดต่อ
เจาะเลือดตอนเย็นไม่มีคนเลยครับ จ่ายตังก็เจาะได้เลย
แต่เหมาะกับ คนอึด สายถึกอดทน เพราะ อดข้าวนาน555

ขากลับรถติดมาก ขนาดขึ้นทางด่วน ยัง 2 ชม กว่าจะถึงบ้าน
วันสุกร์ กทม จราจรบ้าคลั่งมากเลยครับ 555

ช่วงนี้ อาจารย์เต๊ะ ก้เสียวโควิดมาก เพราะไป รพ บ่อย ระแวงไปหมดเลยครับ แต่พวก จนท รพ ยังชิวๆ บางคนก้ไม่เห็นใส่หน้ากกากกันนะครับ





โดย: multiple วันที่: 7 มิถุนายน 2568 เวลา:9:20:24 น.  

 
สาธุกับคนเขียนหนังสือ
หนังสือและเรื่องราวดีๆของแต่ละคน
เป็นแรงบันดาลใจ ให้แก่คนอื่นตามแง่มุมที่สนใจ
ว่าบุคคลใดๆ สามารถไปให้ได้ ทำให้ถึงได้เช่นกัน
ถ้าได้น้อมนำ มาพิจารณากระทำให้มีขึ้นในตนบ้างค่ะ



โดย: mcayenne94 วันที่: 7 มิถุนายน 2568 เวลา:10:42:13 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

"หิมาลัยไม่มีจริง" เออ ! เราเชื่อว่า มีผู้พิชิตยอดเขาหิมาลับมา
แล้ว ทำไมหนังสือเล่มนี้ ตั้งชื่อว่า "หิมาลัยไม่มีจริง" อยากรู้ จึง
ต้องอ่าน เนาะ อิอิ และแล้ว ครูก็ไปอ่านที่เธอรีวิว อ้อ! ทำไม
หิมาลัยไม่มีจริง ในความหมายนั้น แฝงแง่คิด สิ่งต่าง ๆ ที่เราเห็น
เราเป็น ล้วนแต่เพียงภาพ มันเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เนาะ
อ่านแล้ว ก็สรุปได้ว่า การเดินทางไม่ใช่เพียงแต่ให้ถึงปลายทาง
ที่เราตั้งเป้าหมายเท่านั้น แต่ทุกย่างก้าวที่เราเดินนั้น ท่ามกลาง
ธรรมชาติ เราสามารถคิด ค้นหา ความเป็นจริง ที่คุณนิ้วกลม บอก
ว่า ธรรมชาติ ขุนเขา เป็นครูของเขา กระตุ้นให้เขาคิด และเข้าใจ
ตัวตนของตนเอง ซึ่งก็น่าจะจริงนะ คิดว่า คนเดินทาง คนปีนเขา
สูง ก็เพื่อพิชิต จุดหมายปลายทางที่อยากไปพิชิตเหมือนนักเดินทาง
ทั่วไป เนาะ ครูก็เช่นกันนะ เดินทางไปเที่ยวสถานที่ต่าง ๆ ก็เพื่อ
ให้เห็นโลกกว้าง ได้ดื่มด่ำท่ามกลางธรรมชาติ เคยเดินขึ้นเขาลูก
แล้วลูเล่า เพื่อจุดหมายปลายทางคือ ชมพระอาทิตย์ขึ้น ช่างภาพก็
เช่นเดียวกันตั้งขากล้องเตรียมเก็บภาพพระอาทิตย์ขึ้น ครูก็เคยถาม
ตัวเองนะว่า เฮ้ย! นี่เราตื่นตั้งแต่ตีสามตีสี่ เดินขึ้นเขาหวงซาน เพื่อ
ไปชมพระอาทิตย์ขึ้นเหรอ แล้วถ้าไม่ไหว ก็เดินกลับไม่ได้ เพราะว่าจุดนัดพบอยู่ปลายทาง คือ ต้องเดินหน้าอย่างเดียว เหนื่อยใจจะ
ขาด ก็พักและเดินต่อ กว่าจะถึงจุดชมพระอาทิตย์ขึ้น มันก็ขึ้นก่อน
เราไปถึง ห้าห้าห้า แต่ข้อคิดที่ได้ นั่นคือ ความอดทน จ้ะ เมื่อ
ตัดสินใจมาแล้ว หันกลับไปทางเก่าก็ไม่ได้ และคิดว่า ท่ามกลางธรรมชาติที่เดินผ่าน มันก็คุ้มค่านะ เพราะมันสวย ต้นไม้เขียวขจี
ขุนเขาแต่ละเขา มีความสูงต่ำลดหลั่นกันไป มันก็ทำให้หายเหนื่อย
ได้นะ อิอิ ลงมาถึงพื้นล่างจุดนัดพบ เท้าบวมไปหลายวัน แต่ไม่ได้
คิดที่จะค้นพบตัวตนของเราอะไรเหมือน นักเขียน นิ้วกลม จ้ะ

ชอบประโยคนี้ จ้ะ "แท้ที่จริงแล้ว เราไม่ควรตามหา เราควร
มองเห็น " ตามหาคือ กิเลสอย่างหนึ่ง มองเห็น คือเข้าใจ จ้ะ
โหวดหมวด แนะนำหนังสือ



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 7 มิถุนายน 2568 เวลา:11:09:02 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

ช่วงนี้ผมเปิดดูคุณนิ้วกลมทางช่องยูทูปบ่อยๆ
เป็นรายการ Have a nice day
เขาจะมาเล่าหนังสือและนำเสนอมุมมองความคิดเห็นครับ
ปกติเขาไลฟ์แทบทุกเช้า แต่ผมมาดูเทป
ก็ได้ข้อคิดสำหรับปรับปรุงตัวเองได้เรื่อยๆ ครับ

จากบล็อก พูดถึงปราสาท ตอนเด็ก ชอบอ่านคอลัมน์ในคู่สร้างคู่สม
จะเป็นเรื่องเล่าผีใน tower of London ครับ ชอบมากๆ


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 7 มิถุนายน 2568 เวลา:11:43:13 น.  

 
ติดตามเพจนักเขียนท่านนี้ แรงบันดาลใจเยอะดีคะ


โดย: Devastar วันที่: 7 มิถุนายน 2568 เวลา:12:07:53 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า


วันนี้มีนัดทำกายภาพ นักกายภาพบอกว่าตึงไปทั้งร่าง .... นึกตั้งนานว่าไปทำอะไรมา ... เพิ่งนึกออกว่าเมื่อวันหยุดยาว 4 วัน กิจกรรมเยอะไปหน่อยครับ ทั้งงานบ้าน ทำกับข้าว ออกไปเดินตลาดต้นไม้ รื้อสวนทำที่วางกล้วยไม้อีกที่นึง


วันพฤหัสคุณนายแม่ท้องเสียต้องทำความสะอาดห้องน้ำ กับห้องคุณนายแม่กว่าจะเสร็จ ....


นักกายภาพขอนัดอาทิตย์ละ 2 ครั้งครับ สงสัยจะตึงจริงๆครับ ฮ่าๆๆๆ


โดย: ทนายอ้วน วันที่: 7 มิถุนายน 2568 เวลา:19:58:45 น.  

 
เล่มนี้ผมไม่เคยอ่านเหมือนกัน แต่ตัวนักเขียนผมรู้จัก

เรื่องจริงเลย เราเดินทางโดยที่เราไม่รู้อะไรเลย เหมือนคนตาบอดที่เดินในที่มืดยังไงอย่างนั้น


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 มิถุนายน 2568 เวลา:22:33:55 น.  

 
เป็นหนังสือที่น่าสนใจครับ
เห็นตัวตนตัวเองชัดเจนเมื่อไร ก็ชนะทุกข์อย่างแล้ว

วันนี้ ฝนน่าจะตกไม่ทั่วฟ้าครับ ใกล้ๆกันห่างไม่กี่กิโลฝนตก




โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 7 มิถุนายน 2568 เวลา:23:55:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]