: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - การศึกษาและสาระสำคัญของชีวิต :
: การศึกษาและสาระสำคัญของชีวิต :บรรยาย : จ.กฤษณมูรติ แปล : นวลคำ จันภา
[ ว่าด้วยเรื่องราวด้านการศาสนา ]ท่านกฤษณมูรติตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจเอาไว้ว่า
หากอยากเข้าใจสาระสำคัญของชีวิต เราจำต้องรู้จักคิดอย่างเป็นอิสระ ไม่ปล่อยให้ความคิดขึ้นตรงต่ออำนาจใด ๆ รวมทั้งอำนาจของสถาบันศาสนาด้วย เราต้องไม่เข้าหาศาสนาด้วยความกลัว ด้วยคำขู่ หรือจารีตประเพณีแบบทำตามๆกันไป
ศาสนาที่ผิดเพี้ยน มักปลูกฝังให้ผู้คนมีความเชื่อ ความหวัง ซึ่งผูกติดกับความกลัว
‘ความทุกข์’ เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วกับคนทุกคน ศาสนาที่ถูกต้องจะทำให้เรารู้ว่า มนุษย์ทุกคนสามารถรับมือกับความทุกข์ที่ตนเผชิญอยู่ได้ ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ในเรื่องใด หนักหนาสาหัสเพียงใด
การก้าวข้ามความทุกข์เหล่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีกฏเกณฑ์ พิธีกรรม ความลึกลับ เครื่องราง ปาฏิหาริย์ ฯลฯ
เพราะความทุกข์เป็นเรื่องปัจจัตตัง คือ เป็นสิ่งที่เราต้องรับมือ เรียนรู้ และผ่านมันไปให้ได้ ด้วยปัญญาซึ่งมีอยู่แล้วในตัวเอง
เมื่อเราผ่านทุกข์ของตนเองไปได้ มันจะไม่จบเพียงเรื่องส่วนตัว แต่เราจะก้าวสูงขึ้นไปกว่านั้น เมื่อรู้ว่าตัวเองสัมพันธ์กับโลกและผู้อื่นด้วย ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง เราไม่ควรตัดตัวเองออกจากโลกและผู้คน เพียงเพราะมัวแต่ยุ่งกับความทุกข์ ความอยากของตนพียงอย่างเดียว
‘ศาสนา’ จึงมิควรเป็นเครื่องมือในการสร้างความขัดแย้งทางความคิด ความเชื่อ มิควรนำ ‘คำสอน’ มาใช้เป็นใบเบิกทางสู่การสร้างสงครามศาสนา หรือเอาชนะคะคานกันว่าพระเจ้าหรือศาสดาของใครดีกว่ากันศาสนาที่แท้จริง คือ การสนับสนุนให้เราสืบค้นความคิดของตนเอง จนสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือ ‘สิ่งที่จริงแท้’ และอะไรคือ ‘สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป’เมื่อรู้แล้วว่า ‘สิ่งใดต้องเปลี่ยนแปลงไป’ นั่นคือ สิ่งที่ทำให้เราทุกข์ เราก็ค้นหาวิธีรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนั้น จนเป็นอิสระจากการร้อยรัดซึ่งเกิดจากความเปลี่ยนแปลงนั้นให้ได้ นี่คือ “วิถีทางแห่งการพ้นทุกข์” ไม่ว่าคนๆนั้นจะอยู่ในศาสนาใด หรือนับถือความเชื่อแบบใดก็ตาม
ศาสนาซึ่งกอปรด้วยปัญญา จะไม่มีวันนำพาผู้คนให้หลงงมงายในตัณหา อวิชชา ไม่สร้างกิเลสมาล่อหลอกให้คนงมงายด้วยวัตถุบูชา หรือ การบริจาคจนเกินพอดี ไม่เอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่ เอากรรมมากรรโชก
ในทางเดียวกันหากเราเป็นผู้ใฝ่ธรรมโดยมีปัญญากำกับ เราย่อมไม่ยึดติดในศาสนา ศาสดา นักบวช หรือคัมภีร์ใด ๆ เพราะเราย่อมรู้ได้ด้วยตนเองว่า “ธรรมที่แท้” นั้น อยู่ใน “ตัวเรา” มาโดยตลอด อยู่ในจิตของเราตลอดเวลา
ขอเพียงเห็น ขอเพียงรู้ ขอเพียงค้นพบ ให้เจอ “ธรรมในตน”เราย่อมเป็นอิสระจากการร้อยรัดทั้งปวง ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อ ความกลัว ศาสนา หรือแม้แต่การยึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตนของตนเอง
Create Date : 06 มีนาคม 2568 |
Last Update : 6 มีนาคม 2568 5:15:08 น. |
|
14 comments
|
Counter : 626 Pageviews. |
|
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณหอมกร, คุณSleepless Sea, คุณnewyorknurse, คุณtanjira, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณThe Kop Civil, คุณปัญญา Dh, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณกะริโตะคุง, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณmultiple, คุณnonnoiGiwGiw, คุณmcayenne94, คุณปรศุราม, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณอุ้มสี |
โดย: หอมกร วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:5:38:50 น. |
|
|
|
โดย: tanjira วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:6:54:19 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:7:16:12 น. |
|
|
|
โดย: กะริโตะคุง วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:12:35:12 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:13:30:22 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:15:56:07 น. |
|
|
|
โดย: mcayenne94 วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:19:24:09 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:23:26:20 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:23:36:13 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 7 มีนาคม 2568 เวลา:2:13:21 น. |
|
|
|
| |
แต่เนื้อหาออกไปทางแนวนักคิดนะ
ป.ล.ป่านนี้คุณธัญจะตื่นหรือยังนะ