มีนาคม 2568
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
6 มีนาคม 2568

: กะว่าก๋าแนะนำหนังสือ - การศึกษาและสาระสำคัญของชีวิต :


: การศึกษาและสาระสำคัญของชีวิต :
บรรยาย : จ.กฤษณมูรติ
แปล : นวลคำ จันภา







[ ว่าด้วยเรื่องราวด้านการศาสนา ]



ท่านกฤษณมูรติตั้งข้อสังเกตที่น่าสนใจเอาไว้ว่า

หากอยากเข้าใจสาระสำคัญของชีวิต เราจำต้องรู้จักคิดอย่างเป็นอิสระ
ไม่ปล่อยให้ความคิดขึ้นตรงต่ออำนาจใด ๆ รวมทั้งอำนาจของสถาบันศาสนาด้วย
เราต้องไม่เข้าหาศาสนาด้วยความกลัว ด้วยคำขู่ หรือจารีตประเพณีแบบทำตามๆกันไป

ศาสนาที่ผิดเพี้ยน มักปลูกฝังให้ผู้คนมีความเชื่อ ความหวัง ซึ่งผูกติดกับความกลัว

‘ความทุกข์’ เป็นสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นอยู่แล้วกับคนทุกคน
ศาสนาที่ถูกต้องจะทำให้เรารู้ว่า มนุษย์ทุกคนสามารถรับมือกับความทุกข์ที่ตนเผชิญอยู่ได้
ไม่ว่าจะเป็นความทุกข์ในเรื่องใด หนักหนาสาหัสเพียงใด

การก้าวข้ามความทุกข์เหล่านั้น ไม่จำเป็นต้องมีกฏเกณฑ์ พิธีกรรม
ความลึกลับ เครื่องราง ปาฏิหาริย์ ฯลฯ

เพราะความทุกข์เป็นเรื่องปัจจัตตัง
คือ เป็นสิ่งที่เราต้องรับมือ เรียนรู้ และผ่านมันไปให้ได้
ด้วยปัญญาซึ่งมีอยู่แล้วในตัวเอง


เมื่อเราผ่านทุกข์ของตนเองไปได้ มันจะไม่จบเพียงเรื่องส่วนตัว
แต่เราจะก้าวสูงขึ้นไปกว่านั้น เมื่อรู้ว่าตัวเองสัมพันธ์กับโลกและผู้อื่นด้วย
ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ไม่วิธีใดก็วิธีหนึ่ง
เราไม่ควรตัดตัวเองออกจากโลกและผู้คน
เพียงเพราะมัวแต่ยุ่งกับความทุกข์ ความอยากของตนพียงอย่างเดียว


‘ศาสนา’ จึงมิควรเป็นเครื่องมือในการสร้างความขัดแย้งทางความคิด ความเชื่อ
มิควรนำ ‘คำสอน’ มาใช้เป็นใบเบิกทางสู่การสร้างสงครามศาสนา
หรือเอาชนะคะคานกันว่าพระเจ้าหรือศาสดาของใครดีกว่ากัน



ศาสนาที่แท้จริง คือ การสนับสนุนให้เราสืบค้นความคิดของตนเอง
จนสามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือ ‘สิ่งที่จริงแท้’
และอะไรคือ ‘สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงไป’



เมื่อรู้แล้วว่า ‘สิ่งใดต้องเปลี่ยนแปลงไป’ นั่นคือ สิ่งที่ทำให้เราทุกข์
เราก็ค้นหาวิธีรับมือกับความเปลี่ยนแปลงนั้น
จนเป็นอิสระจากการร้อยรัดซึ่งเกิดจากความเปลี่ยนแปลงนั้นให้ได้
นี่คือ “วิถีทางแห่งการพ้นทุกข์” ไม่ว่าคนๆนั้นจะอยู่ในศาสนาใด
หรือนับถือความเชื่อแบบใดก็ตาม


ศาสนาซึ่งกอปรด้วยปัญญา
จะไม่มีวันนำพาผู้คนให้หลงงมงายในตัณหา อวิชชา
ไม่สร้างกิเลสมาล่อหลอกให้คนงมงายด้วยวัตถุบูชา หรือ การบริจาคจนเกินพอดี
ไม่เอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่ เอากรรมมากรรโชก


ในทางเดียวกันหากเราเป็นผู้ใฝ่ธรรมโดยมีปัญญากำกับ
เราย่อมไม่ยึดติดในศาสนา ศาสดา นักบวช หรือคัมภีร์ใด ๆ
เพราะเราย่อมรู้ได้ด้วยตนเองว่า
“ธรรมที่แท้” นั้น อยู่ใน “ตัวเรา” มาโดยตลอด
อยู่ในจิตของเราตลอดเวลา


ขอเพียงเห็น ขอเพียงรู้ ขอเพียงค้นพบ
ให้เจอ
“ธรรมในตน”
เราย่อมเป็นอิสระจากการร้อยรัดทั้งปวง
ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อ ความกลัว ศาสนา
หรือแม้แต่การยึดมั่นถือมั่นในความเป็นตัวตนของตนเอง


 



Create Date : 06 มีนาคม 2568
Last Update : 6 มีนาคม 2568 5:15:08 น. 14 comments
Counter : 626 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณหอมกร, คุณSleepless Sea, คุณnewyorknurse, คุณtanjira, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณThe Kop Civil, คุณปัญญา Dh, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณกะริโตะคุง, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณmultiple, คุณnonnoiGiwGiw, คุณmcayenne94, คุณปรศุราม, คุณสองแผ่นดิน, คุณtoor36, คุณอุ้มสี


 
บล็อกนี้เล่มเดียวกับเมื่อวานนี่คุณก๋า
แต่เนื้อหาออกไปทางแนวนักคิดนะ
ป.ล.ป่านนี้คุณธัญจะตื่นหรือยังนะ



โดย: หอมกร วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:5:38:50 น.  

 
สวัสดียามเช้าค่ะก๋า

ความทุกข์เป็นเรื่องเฉพาะตัวจริงๆค่ะ
หากเราหลุดพ้นจากทุกข์ได้ ดีต่อเราเองล้วนๆเลยค่ะ

พูดถึงความเชื่อ เมื่อวานพี่เขยเขาไปไหว้พระ หลวงพ่อผอม
ซึ่งวัดนี้ส่วนมากคนที่ไปจะไปขอเรื่องสุขภาพ
พี่เลยบอกเขาว่า วัดนี้ส่วนมากคนขอเรื่องสุขภาพนะ
พี่เขยบอกว่า ขอให้อยู่จนหลานโตสักหน่อย
พี่นี่ได้แต่คิดว่า ไม่ดูแลสุขภาพ แนะนำอะไรก็บอกทำไม่ได้
แต่ไปไหว้พระขอให้สุขภาพดี มันได้ตรงไหนฟร่ะ

บางคนเราพูดบอกแทบตาย เขาไม่ฟังเราก็ปล่อยนะคะ
เสียเวลาเปล่าๆ

เมื่อคืนพี่กลับถึงบ้านสี่ทุ่มกว่าค่ะ
ออกมาจากรพ.ทุ่มนึงค่ะ
....

คิดว่าเช้านี้จะตื่นสายกว่านี้นะคะคุณหอมกร
แต่ก็ลุกออกมา 6โมงจะครึ่งแล้วค่ะ





โดย: tanjira วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:6:54:19 น.  

 


โดย: หอมกร วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:7:16:12 น.  

 
สวัสดียามสายค่ะ พี่ก๋า

ช็อตที่ เจ้าจุกยิง หนูนี่ลั่นบ้านเลยค่ะ 555555
ก็นะ ลุ้นอึดอัด โดนเขาข่ม มาทั้งเกม
ปารีสเล่นดีมากค่ะพี่ ถ้าไม่ได้พ่อหมีนะ
เรายิ่งกว่า7-1 ที่ปืนยิงเมื่อวานอีกค่ะ


เช้านี้แดดเปรี้ยงแต่เช้าเลยค่ะ
เย็นถ้าฝนไม่ตก น่าจะได้ไปเดินที่สวนค่ะ
เห็นข่าวว่าพายุจะเข้าบ้านหนูด้วย รอลุ้นค่ะ



โดย: โฮมสเตย์ริมน้ำ วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:8:48:57 น.  

 
ธรรมะอยู่ในใจตนจริง ๆ ครับ ไม่ต้องไปค้นหาที่ไหนเลย
เมื่อคืนผมไปดูหนังมากลับมานอนรอดูบอลต่อ เผลอหลับไปก่อนบอลเตะครึ่งชั่วโมง ตื่นมาดูผลตอนเช้าครับ อลิสซงได้แมนออฟเดอะแมทซ์เลยครับ


โดย: The Kop Civil วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:10:29:25 น.  

 
สวัสดี จ้ะ น้องก๋า

"การศึกษาและสาระสำคัญของชีวิต" บล็อกเมื่อวาน ว่าด้วย
เรื่อง การศึกษา วันนี้ ว่าด้วยเรื่อง ศาสนา ซึ่งครูคิดว่า เป็นเรื่อง
สำคัญไม่น้อยกว่าเรื่องการศึกษานะ ศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็น
คนดีเป็นหลักใหญ่ เพียงแต่ มีข้อปลีกย่อยที่แตกต่างกันไป
ศาสนาพุทธ เน้นสอนคนที่มีปัญญาพิจารณาคำสอนขององค์
ศาสดา ไม่เน้นการยึดถือพระองค์เป็นหลัก ถือว่า ใครที่นำคำสอนของพระองค์ไปปฏิบัติ ถือว่า นั้นก็คือ การเคารพ นับถือ พระองค์แล้ว ซึ่งเป็นคำสอนที่แตกต่างจากศาสนาอื่น ที่สอนให้เคารพนับถือ
องค์ศาสดา
ชอบข้อความที่สรุปเกี่ยวกับศาสนาที่ว่า

"ในทางเดียวกันหากเราเป็นผู้ใฝ่ธรรมโดยมีปัญญากำกับ
เราย่อมไม่ยึดติดในศาสนา ศาสดา นักบวช หรือคัมภีร์ใด ๆ
เพราะเราย่อมรู้ได้ด้วยตนเองว่า
“ธรรมที่แท้” นั้น อยู่ใน “ตัวเรา” มาโดยตลอด
อยู่ในจิตของเราตลอดเวลา"
ข้อสรุปนี้ ตรงกับ ความจริง เป็นสัจธรรม การนับถือศาสนาใด
ต้องใช้สติ ใช้ปัญญา และเข้าใจด้วยว่า ศาสนานั้น อยู่ในจิตของ
เราเสมอ การปฏฺิบัติตนของเรา เหมือนพุทธคติที่กล่าวว่า ใครทำกรรมอะไร ก็จะได้กรรมนั้นเสมอ จ้ะ

โหวดหมวด แนะนำหนังสือ




โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:11:58:41 น.  

 
ผมว่าเรื่องความเพี้ยนของคำสอน นำเสนอเรื่องเหนือธรรมชาติ อวิชชาทั้งหลายมันขึ้นอยู่กับคนนี่แหล่ะครับที่สร้างสรรค์ บิดเบือนคำสอนจนผิดเพี้ยนแบบส่งต่อกันมา มันก็อาจจะเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้น่าสนใจหรือดึงดูดคนให้มาเข้าร่วม แต่วิธีอื่นก็มีถมไป คนรับฟังก็ควรจะมีวิจารณญาณ คนส่งสารก็ควรจะมีจรรยาบรรณมีความสำคัญทั้งคู่เนอะ


โดย: กะริโตะคุง วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:12:35:12 น.  

 
สวัสดีครับคุณกะริโตะคุง

ธรรมะถูกทำใหเ้ป็นเรื่องง่าย เรื่องยาก
เรื่องเหนือธรรมชาติ เรื่องเหนือจินตนาการ
รวมไปถึงการเป็นเรื่องหลอกลวงได้ด้วย

ขึ้นอยู่กับผู้นำไปใช้ต้องการอะไรจากผู้คน

ถ้าสอนอย่างถูกต้อง ถูกทาง ถูกธรรม
ผมคิดว่าการเรียนรู้ ศึกษาเรื่องธรรมะนััน
เป็นประโยชน์ต่อชีวิตเรามากจริงๆครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:13:30:22 น.  

 
เหมือนที่ว่ากันว่า ทุกศาสนา สอนให้คนเป็นคนดีนะครับ
เมื่อเช้า อาจารย์เต๊ะ ไปทำบุญที่วัดมาครับ
เลือกไปกุฎิท้ายวัดที่คนไม่ค่อยไปกัน
หลวงตาแก่มากแล้ว ท่าทางดีใจมากกก คงนานๆจะมีญาติโยมมาถวาย
สังฆทาน จัดบทให้พรชุดใหญ่ สวดร่วม 10 นาที
เสร็จแล้วตักน้ำมนต์มาเต็มบาตร รดน้ำมนต์แบบชุ่มฉ่ำ เปียกโชก
ชวนคุยอีกนาน แทบจะฉันเพลไม่ทันเลยละครับ 555



โดย: multiple วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:15:56:07 น.  

 
วันนี้วันพระ มาอ่านย่อความสาระดีๆจากหนังสือคุณก๋าค่ะ


โดย: mcayenne94 วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:19:24:09 น.  

 
สวัสดีครับคุณก๋า

การจะก้าวผ่านความทุกข์นั้น
แท้จริงแล้วอยู่ที่ตัวเราเป็นสำคัญเลยนะครับ
ถึงแม้เราจะอ่านอะไรมา ฟังอะไรมา แต่ถ้าเราไม่เปลี่ยนไม่แก้ ก็ไม่เป็นผล


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:22:05:04 น.  

 
กฤษณมูรติ สอนเกี่ยวกับเรื่องศาสนาโดยรวมได้ดีครับ (ตัวเขาเองก็ไม่ได้นับถือศาสนาใดศาสนาหนึ่ง)
พุทธเราเลยกึ่งพุทธกาล หลงทางกันไปหมด ไหว้กระทั่งหุ่นเหล็ก แสวงหาที่พึ่งทางใจมั่วไปหมด



โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:23:26:20 น.  

 
ผมมองว่าสุดท้ายมันเหมือนการมุ่งไปจุดหมายเดียวกันเพียงแต่ใช้วิธีการที่แตกต่างกัน ผมมองแบบนั้นครับ


โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 6 มีนาคม 2568 เวลา:23:36:13 น.  

 
แค่คำนำก็เริ่ดมากจ้า

หากอยากเข้าใจสาระสำคัญของชีวิต
เราจำต้องรู้จักคิดอย่างเป็นอิสระ
ไม่ปล่อยให้ความคิด
ขึ้นตรงต่ออำนาจใดๆ
รวมทั้งอำนาจของสถาบันศาสนาด้วย
เราต้องไม่เข้าหาศาสนาด้วยความกลัว
ด้วยคำขู่ หรือจารีตประเพณี
แบบทำตามๆกันไป
ศาสนาที่ผิดเพี้ยนมักปลูกฝังให้ผู้คน
มีความเชื่อ ความหวัง
ซึ่งผูกติดกับความกลัว


โดย: อุ้มสี วันที่: 7 มีนาคม 2568 เวลา:2:13:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

กะว่าก๋า
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 395 คน [?]




มองฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
หรืออาจไม่เห็นฉัน

ฉันแค่แวะผ่านทางมา
และอาจไม่หวนกลับมาทางนี้อีกแล้ว

เราเคยรู้จักกัน
และมันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป

มองดูฉันอีกครั้ง
เธออาจเห็นฉัน
และฉันอาจมองไม่เห็นเธอ.





[Add กะว่าก๋า's blog to your web]