| | |
คนโง่มักใช้ชีวิตอย่างไร้เป้าหมาย จึงว่ายเวียนไปมา แล้ววนกลับมาที่เดิม ต้องเริ่มต้นใหม่เรื่อยไป สู่อนาคตที่ไร้ทิศทาง | คนฉลาด มักตั้งเป้าหมายชีวิตยิ่งใหญ่ ท้าทาย จึงไม่พอใจสักที เพราะดูทีไร ยังห่างไกลเป้าหมายเสมอ | คนมีปัญญา ย่อมมีเป้าหมายสูงสุดแห่งชีวิต และมีเป้าหมายน้อยนิดสานสู่เป้าหมายใหญ่ จึงมีบันไดแห่งความสำเร็จให้บรรลุเป็นลำดับไป ได้กำลังใจและความสุขไปตลอดทาง |
คนโง่ แม้เมื่อมีจิตใจไม่เห็นจิตใจ จึงไม่บริหารจิตใจตน แต่สัปดนไปบริหารคนอื่น และมักขื่นขมที่ควบคุมคนอื่นไม่ได้ | คนฉลาด เมื่อมีจิตใจ ก็เข้าใจจิตใจตน แม้จะไม่เห็นอยู่ จึงทู่ซี้ระวังรักษา ได้ประโยชน์บ้างตามกำลังสติสัมปชัญญะ | คนมีปัญญา เมื่อมีจิตใจ ย่อมเห็นแจ่มแจ้งในจิตใจอยู่ รู้แจ้งโครงสร้างจต และอำนาจแห่งใจ จึงสามารถบริหารให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้เสมอ |
คนโง่ ชอบเถียง เขาจึงได้การทะเลาะเบาะแว้ง และความบาดหมางตอบแทน | คนฉลาด ชอบถาม เขาจึงได้ความรู้และมิตรภาพตอบแทน | คนมีปัญญา ชอบนำเสนอ เขาจึงได้โอกาสและความเจริญตอบแทน |
คนโง่ ชอบให้อารมณ์พูด จึงกระทบตนกระทบคนอื่นเนืองๆ ผิดพลาดมาก ล้มเหลวบ่อย | คนฉลาด ชอบให้เหตุผลพูด จึงถูกต้องมาก แต่มักไร้ความรู้สึก และประสบแต่ความสำเร็จอันแห้งแล้ง | คนมีปัญญา ชอบให้ธรรมะพูด จึงบริสุทธิ์เหนือถูก เหนือผิด และเป็นหนึ่งเดียวกับความสำเร็จโดยธรรม |
คนโง่ มัววิพากษ์วิจารณ์นินทาคนอื่น คนอื่นจึงเจริญ แต่ตนเสื่อม เพราะไม่จริงใจกับใคร จึงไม่มีใครจริงใจด้วย เขาคือมิตรเทียม และย่อมมีแต่มิตรเทียม | คนฉลาด มัววิพากษ์วิจารณ์ตนอย่างที่เป็น โดยไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงที่ตนต้องเป็นไป จึงไม่พอใจตัวเอง จนต้องถล่มทลายตนเนืองๆ คนอื่นจึงมักไม่เข้าใจเขา และเคียงข้างเขาด้วยความกังขา | คนมีปัญญา ย่อมไม่วิพากษ์วิจารณ์ใคร ด้วยแจ้งแจ้งว่าทุกคนย่อมเปลี่ยนไป เขาย่อมเลี่ยงคนที่ชอบวิจารณ์ตนและคนอื่น ทุกคนจึงสบายใจที่จะอยู่ใกล้เขา เขาย่อมเป็นมิตรแห่งตน และมีมีตรแท้ที่มั่นคง |
คนโง่ มักกล่าวร้ายป้ายโทษผู้อื่น จึงมีศัตรูรอบตัว นำมาซึ่งความหายนะและความตาย | คนฉลาด ชอบกล่าวหาตัวเอง จึงได้รับความสงสารไปทั่ว นำมาซึ่งความสมเพช | คนมีปัญญา ไม่กล่าวหาใคร ด้วยแท้จริงไม่มีใครอยากผิด แต่พลาดไปเพราะไม่เห็นความผิด หรือเห้นแต่ไม่มีโอกาสเลือกสิ่งที่ถูก หรือมีโอกาส แต่ไม่มีกำลังพอที่จะตัดสินใจเลือก เขาจึงให้กำลังใจทุกคนสู่ความแกล้วกล้า ทุกคนจึงเป็นหนี้บุญคุณเขา และยอมรับเขาดั่งมิตร |
คนโง่ ทำงานเพื่อเงิน จึงได้เงินมาอย่างเหนือยยาก และมักไม่ได้คุณค่าอื่นๆ ของงาน | คนฉลาดทำงานเพื่องาน จึงได้ผลงานที่ยิ่งใหญ่ และได้เงินตามมาโดยง่าย | คนมีปัญญา ทำงานเพื่อหยิบยื่นคุณค่าแก่สังคม เขาจึงได้ผลงานที่น่าชื่นชม เงิน ชื่อเสียง และมิตรมหาศาลย่อมตามมา |
คนโง่ ทำงานเพื่อระเบียบ จึงถูกระเบียบ แต่มักพลาดผลสมบูรณ์ | คนฉลาด ทำระเบียบเพื่องาน จึงถูกเจตนารมณ์และได้ผลงานดี แต่มักสับสนที่ต้องแก้ระเบียบกันอยู่เสมอ | คนมีปัญญา ทำทั้งงาน จัดทั้งระเบียบเพื่อผล จึงได้ผลงานที่เหมาะสม มีปัญหาน้อย และไม่พลาดเจตนารมณ์เลย |
คนโง่ มัวขยันในเรื่องที่ไร้สาระ จึงพบปะแต่เรื่องไร้ประโยชน์ แล้วมักตัดพ้อว่า ทำไมทำดีแล้วไม่ได้ดี | คนฉลาด ขยันในเรื่องที่มีคุณมาก มีโทษน้อย จึงได้ประโยชน์มาก และมีโทษแทรกบ้าง แล้วมักบ่นว่าอุตส่าห์ระวังอย่างที่สุดแล้วยังพบเรื่องร้ายๆ | คนมีปัญญา ขยันทำตนให้เหนือคุณและโทษ จึงบริหารสถานการณ์อย่างอิสระ ไม่ปรากฎเสียงตัดพ้อหรือบ่นว่าอีกต่อไป |
คนโง่ ยึดความชอบ หรือความไม่ชอบเป็นสำคัญ เขาจึงได้รับความสุขและความทุกข์อันบีบคั้นเป็นของตอบแทน | คนฉลาด ยึดความถูกและความผิดเป็นสำคัญ เขาจึงมีหลักการ แต่ได้รับศัตรูต่างความคิดเห็น เป็นรางวัล | คนมีปัญญา ยึดประโยชน์สุขสำหรับทุกฝ่าย ในทุกกาลเวลาเป็นสำคัญ เขาจึงได้รับศรัทธา และมหามิตรเป็นกำนัล |
คนโง่ ชอบเรียกร้อง เขาจึงเป็นที่น่าเบื่อหน่าย น่าสมเพชรสำหรับคนทั้งหลาย | คนฉลาด ชอบต่อรอง เขาจึงเป็นที่ระแวงระวัง สำหรับคนทั้งหลาย ยอมรับได้ตราบที่ประโยชน์ลงกัน และคบหากันอย่างไม่จริงใจ | คนมีปัญญาอาสาสละ เขาจึงเอาชนะใจคนทั้งหลาย ได้รับความรักและความนับถือ เป็นผลตอบแทคนโง่ ชอบตามใจตนเอง จึงมีภารกิจการตามใจที่ไม่สิ้นสุดน |
คนโง่ ชอบตามใจตนเอง จึงมีภารกิจการตามใจที่ไม่สิ้นสุด | คนฉลาด ชอบควบคุมใจตนเอง จึงมีภารกิจหนึ่งเดียวที่เหนื่อยยาก และขัดแย้งตลอดกาล | คนมีปัญญา ชอบล้างใจตนเอง จึงมีที่สุดแห่งภารกิจ ณ ความบริสุทธิ์ |
คนโง่ เอาแต่ใจตนเอง จึงได้รับความสะใจเป็นผล และความรังเกียจเป็นรางวัล | คนฉลาด เอาใจคนอื่น จึงได้รับความลำบากเป็นผล และความรัก ความเห็นใจเป็นรางวัล | คนมีปัญญา ไม่เอาทั้งสองอย่าง เพราะรู้ชัดว่าคือกิเลสหรือตัณหาทั้งคู่ แต่เอาสัจจะที่ก่อให้เกิดประโยชน์สุขแท้สำหรับทุกฝ่ายเป็นที่ตั้ง จึงได้รับคุณค่าเป็นผล และได้รับความสุขสบายเป็นรางวัล |
คนโง่ ชอบเอาเปรียบคนอื่น จึงได้ประโยชน์ตนสั้นๆ แต่เสียความรัก และความเชื่อใจ | คนฉลาด ชอบยอมเสียเปรียบคนอื่น จึงได้คนรักและความศรัทธา แต่มักพบความไม่เป็นธรรม และขมขื่นในใจตน | คนมีปัญญา ชอบบริหารประโยชน์สุขทุกฝ่าย จึงเป็นสุขใจ ได้ความรัก ความศรัทธา และสถาปนาระบบประโยชน์อันยั่งยืน |