ซื้อรถใหม่ ที่อเมริกา



ภาพวันไปซื้อรถใหม่ ที่ดิลเลอร์รถยี่ห้อเชฟโรเลต รัฐจอร์เจีย สหรัฐอเมริกา

เราอพยบไปอยู่ที่อเมริกา เมื่อปี 2004 ปีถัดมาก็ไปซื้อรถใหม่ใว้ขับ รถที่อมริกา เวลาถอยมาใหม่ไม่ติดป้ายเเดงเเบบเมืองไทย เป็นป้ายขาวปรกติ ขับพวงมาลัยซ้ายค่ะ

สมัยนั้นยังไม่มี GPS ยังไม่มีมือถือ จะไปไหนทีต้องอ่านเเผนที่จากในหนังสือ โทรศัพท์ก็มีเพียงโทรศัพท์บ้าน เคลื่อนย้ายหรือเอาพกติดตัวไปไหนมาไหนไม่ได้ คิดดูเหอะค่ะ มันนานมากเเค่ไหน

ท่านใดต้องการจะซื้อรถ เริ่มด้วยการตรงไปที่ Dealer ยี่ห้อรถที่ชอบ ก่อนหน้าจะไปซื้อรถเราต้องไปทำ Driver License หรือใบขับขี่ เเละต้องมีหมายเลข Social Security (number) เราสามารถขอลองขับรถ แล้วต่อรองราคา จนเป็นที่พอใจ

เจ้าหน้าที่จะเช็คเครดิตเราในอเมริกา ถ้าไม่เคยมีเครดิตในเมกามาก่อน คงต้องหาคน Co-sign ที่มีเครดิตดีมาช่วย เเละอาจต้องวางเงินดาวน์ ( Down Payment)  มากพอสมควร เเละอาจจะโดน Interest Rate ในอัตราสูงมาก (15%-20%) ปกติคนเครดิตดีๆ จะเสีย Interest Rate ราว 3-5% ที่กล่าวมานี้ กรณีซื้อเงินผ่อน

ที่ดิลเลอร์ก็จะมีสถาบันเงินกู้ให้บริการครบวงจรในนั้นเเหละค่ะ เเต่ถ้าเราต้องการก็ไปทำสถาบันการเงินอื่นที่เราชอบก็ได้ค่ะ

ความคิดเห็นส่วนตัวเรา หากคุณติดปัญหาบางข้อในการดำเนินการซื้อรถ ลองไปที่ดีลเลอร์ ไปคุยกับเขาโดยตรงว่าควรต้องทำอย่างไร เพราะทุกอย่างมันยืดหยุ่นกันได้ เเล้วเเต่เจ้าหน้าที่เเละบางสถานการณ์  เขาจะให้คำตอบได้ดีที่สุดค่ะ

หลังจากซื้อรถใหม่เเบบเงินผ่อน 5 ปีก็ผ่อนหมด ขับรถไปทำงานไม่ไกลบ้าน ส่วนลูกก็มีรถรับนักเรียนสีเหลืองๆมารับถึงหน้าบ้าน




ต่อมาเมื่อปี 2012 เราพาลูกย้ายไปอยู่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ไม่นานเราก็ขับรถไปชนท้ายรถชาวบ้านเขา เนื่องจากเราไม่คุ้นการขับรถเมืองหิมะ ถนนมันลื่นมาก บางวันหิมะตก เราไม่อยากขับรถไปรับลูกเลย เเต่มันไม่มีทางเลือก ที่ชิคาโก รถรับส่งนักเรียนคันสีเหลืองๆ เขามีใว้สำหรับเด็กพิเศษเเละเด็กพิการ ส่วนเด็กปรกติ ผู้ปกครองต้องมารับส่งด้วยตัวเอง

ที่นี่ไม่มีรถส่งเด็กนักเรียนเหมือนเมืองไทย ขนาดจะฝากเพื่อนรับลูกเขายังปฏิเสธ เนื่องจากเขาเกรงความไม่ปลอดภัย หรือเรื่องการลักพาตัวเด็ก ไม่ต้องการรับผิดชอบ 

ภาพการขับรถรับส่งลูกที่โรงเรียน ชิคาโก เเละสภาพความเสียหายของรถ



เมื่อขับรถเกิดอุบัติเหตุ ควรเรียกประกันมาตรวจสภาพความเสียหายทันที ไม่ควรเคลื่อนย้ายรถ ในวันที่เราขับรถเกิดอุบัติเหตุ เราเรียกประกัน เมื่อเจ้าหน้าที่มาประเมินสถาพความเสียหายเเล้ว เขาประเมินความเสียหายเป็น Total Loss หมายถึงรถยนต์เสียหายโดยสิ้นเชิงจนไม่อาจซ่อมอยู่ในสภาพเดิมได้ หรือเสียหายตั้งเเต่ร้อยละ 70% ของมูลค่ารถที่เกิดความเสียหาย บริษัทจะชดใช้ค่าสินไหมทดเเทนเต็มจำนวนเงินตามที่ระบุใว้ในตารางกรมธรรม์ เเละเราต้องโอนกรรมสิทธ์รถของเราให้เเก่บริษัทประกันไป

สรุปคือ บริษัทประกันจ่ายเงินให้ 8,000 ดอลล์ เเละเราก็ยกรถให้กับบริษัทประกันไป

ส่วนคู่ฝ่ายกรณี หลังจากเกิดเรื่อง เราก็ไปบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจในท้องที่ที่เกิดเหตุ เเละไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย เป็นเรื่องของประกันทีต้องดำเนินการ เเต่เจ้าหน้าที่ประกันบอกว่า นางฉลาด ไปโรงพยาบาลพบเเพทย์ เเละเอกซเรย์ทั้งตัว เพื่อป้องกันโรคภัยที่จะตามมาหลังจากได้รับความกระทบกระเทือน เเละหากเป็นเรา เราก็คงทำอย่างนางเช่นกัน ซึ่งเราไม่ได้ควักกระเป๋าเสียเงินเลยซักเซ็นต์เดียว ประกันจ่ายให้หมด

ต่อจากนั้นเราจึงนำเงินชดเชยที่บริษัทประกันให้ ไปดาวน์รถคันใหม่ออกมา



ตอนที่เราไปซื้อรถ คิดอยู่เหมือนกันว่าอยากได้รถคันใหญ่ เนื่องจากเป็นห่วงเรื่องการขับรถในวันที่มีหิมะตก กลัวขับไปชนท้ายชาวบ้านเขาอีก เเต่เมื่อมานั่งพิจารณาว่า เราไม่ได้ใช้รถเพื่อขับทางไกล เเละกลัวว่าจะผ่อนไม่ไหว เลยเลือกซื้อรถใหม่ คันเล็ก ทำตามกำลัง เอาเเค่ไหว



การจอดรถ ที่นี่ไม่มีการเเย่งที่กันจอด หรือตบตีกัน หากคุณไม่ต้องการให้ใครมาจอดหน้าบ้าน หรือต้องการขอที่จอดรถสำหรับคนพิการ คุณต้องไปติดต่อที่เขต ทางเขตจะดำเนินการให้ เเละจะนำสัญญลักษณ์มาติดใว้ หากใครมาจอดทับที่ที่คุณขอใว้เเล้ว จะโดนตั๋ว



ดิลเลอร์ขายรถของที่นี่จะมีศูนย์ดูเเลเเละรับซ่อมรถอยู่ในเอเรียเดียวกัน เมื่อเราซื้อรถจากที่นี่ ที่อยู่ของเราก็จะลิ้งค์ให้กับทางศูนย์ดูเเลรถอัตโนมัต เเละเมื่อถึงระยะเวลาต้องนำรถเข้ามาเช็คสภาพ ทางศูนย์ก็จะมีจดหมายมาเเจ้งให้ทราบ หรือส่งคูปองลดราคา โปรโมชั่นต่างๆมาให้ เช่นการเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง การตรวจเช็คสภาพรถตามระยะทางเเละฤดูกาล สลับยาง หรือเปลี่ยนยาง เป็นต้น





รถที่มาจอดเเถวนี้ หากสติ้กเกอร์ หรือทะเบียนรถหมดอายุ คุณก็จะโดนตั๋วเหมือนกัน ใครที่จอดในที่ที่มีหัวดับเพลิงติดตั้งอยู่ หรือที่เรียกว่าหัวเเดง ก็จะโดนตั๋วเช่นกัน  ท่านใดจอดรถลูกล้อห่างจากฟุตบาทมากกว่าเขตกำหนด ก็โดนตั๋วเช่นกัน

ที่นี่มีพนักงานเขียนตั๋ว ซึ่งเป็นพนักงานของบริษัทเอกชน คอยเดินส่องรถที่ทำผิดระเบียบทุกวัน เเละเขียนตั๋วเสียบใว้ให้ที่รถ ส่วนเงินค่าปรับก็จะส่งตรงไปยังฝ่ายการเงินของเมืองชิคาโก 



ถอยรถใหม่มาวันเเรกก็หาจอดเอาตามริมถนน ตากเเดดตากหิมะ ไม่ใช่เเต่รถของเราคันเดียวนะคะ รถใหม่ยี่ห้อดีขนาดไหนก็มาจอดเหมือนกันหมด เนื่องจากเเถวนี้เป็นตัวเมือง คอนโดเเละอพาร์ทเม้นท์มีที่จอดรถให้จำกัด

หลายตึกไม่มีที่จดรถให้ เเบบตึกที่เราอยู่ เลยต้องมาหาจอดเอาข้างถนน จอดฟรี หน้าบ้านใครก็จอดได้ ไม่มีการเอาเก้าอี้ เอาไม้หรือเอาป้ายมาเเปะ ห้ามจอดขวางหน้าบ้าน ถนนเป็นทางสาธารณะใครมาจอดก็ได้ เเต่ทุกช่วงซัมเมอร์ ทางเขตจะมีการทำความสะอาดถนน เราต้องมาเคลื่อนย้ายรถตามวันเเละเวลาที่ทางเขตเเจ้งใว้ มิฉะนั้นจะโดนตั๋วค่ะ



วันที่เราไปเลือกดูรถ ดิลเลอร์ที่ศูนย์โตโยต้า เขาจะมีป้ายเเบบในภาพเเปะไว้ที่หน้าต่างรถ เพื่อให้ลูกค้าเดินมาอ่านรายละเอียดต่างๆเพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจ เราสามารถต่อรองราคา เเละเลือกซื้อตามความพอใจ (วงกลมสีเเดง คือตัวเลขราคารถเราค่ะ)



เมื่อตกลงใจซื้อเเล้ว เราก็ทำเรื่องสัญญาซื้อขายกับดิลเลอร์ ใบสีชมพูด้านล่างคือใบสัญญาซื้อขาย ในการซื้อรถใหม่ครั้งนี้ เราจ่ายค่าอะไรบ้าง ดูจากภาพเลยค่ะ



โตโยต้า โคโรลล่า รุ่นปี 2014 รถใหม่ ซื้อเมื่อปี 2014 ซื้อแบบเงินผ่อน ระยะเวลา 5 ปี บัดนี้ผ่อนหมดเเล้ว โล่งมากก รถคันนี้มีดีที่ชอบอยู่หลายอย่าง คือเราสามารถรับโทรศัพท์ได้จากพวงมาลัยรถ  (ตามภาพ) เนื่องจากที่อเมริกาห้ามมือถือคุยในขณะขับรถ



ที่เเผงหน้าปัดจะมีจอติดตั้งสัญญาณไวไฟ เเละบลูธูท มีกล้องหลังรถติดตั้งมาให้ ง่ายเเก่การถอยหลังเข้าซอง นอกจากนี้ยังมีปุ่มควบคุมความเร็วให้มีความเร็วในกรณีที่ต้องขับรถในระยะทางไกลเป็นเวลานาน (Cruise control) 



GPS มีระบบเตือนในกรณีที่มีกล้องจับสัญญาณความเร็วติดตั้งอยู่ สัญญาณจะเตือนส่งเสียดังมาก นอกจากนี้ยังมีเครื่องมือการใช้อื่นๆที่มีประโยชน์ เเละความสะดวกเเก่ผู้ขับขี่รถอีกหลายรายการ (อันนี้ซืื้อมาต่างหาก)

เวลาเราขับรถ จะไม่ชอบเปิดเพลง หรือเปิดวิทยุค่ะ



นอกจากจะเสียค่าน้ำมัน เเละการบำรุงรักษาเครื่องยนต์เเล้ว สิ่งที่เจ้าของรถต้องเสียคือการเสียภาษีรถยนต์ประจำปี (ป้ายวงกลม) เเละป้ายทะเบียนรถยนต์ 

เมื่อใกล้ถึงวันครบอายุ เจ้าหน้าที่จะมีจดหมายมาเเจ้งเตือน



เราก็จ่ายเงินค่าธรรมเนียมที่เเจ้งมาในจดหมาย ปีนี้สติ๊กเกอร์เป็นสีชมพู นำมาเเปะตรงเเผ่นทะเบียนหลังรถ





สติ๊กเกอร์หน้ารถ สามารถต่อได้คราวละ 1 หรือ 2 ปี ตามสะดวกค่ะ



ขับขี่รถยนต์ด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยในชีวิต เเละทรัพย์สิน ขอบคุณทุกท่านที่เเวะมาเยี่ยมนะคะ


Create Date : 16 มีนาคม 2564
Last Update : 16 มีนาคม 2564 23:12:22 น. 1 comments
Counter : 3647 Pageviews.

 
ขอบคุณมากๆ ครับ ที่เขียน blog นี้ ไว้ ได้สาระและความรู้เยอะมาก เนื่องจากว่าเพิ่งจะตัดสินใจจะซื้อรถครั้งแรกที่อเมริกา ก็เลยทำรีเสิร์ชดู


โดย: สุธาฤทธิ์ IP: 172.58.219.91 วันที่: 20 มิถุนายน 2566 เวลา:6:52:55 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

สมาชิกหมายเลข 3661152
Location :
ชิคาโก United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Single Mom in USA.
ไดอารี่ออนไลน์ของ"ซิงเกิ้ลมัม"ในสหรัฐอเมริกา
ปี 2003 อยู่เมือง Rex รัฐจอร์เจีย
ปี 2010 ย้ายไปอยู่เมือง Elon รัฐนอร์ทแคโรไลนา
ปี 2012 ย้ายไปอยู่เมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ จนถึงปัจจุบัน
ปี 2020 เขียนไดอารี่ออนไลน์ bloggang



Group Blog
 
<<
มีนาคม 2564
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
16 มีนาคม 2564
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add สมาชิกหมายเลข 3661152's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.