Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
All Blog
:+:Review:+: Bobbi Brown ❤ Intensive Skin Serum Foundation SPF 40 PA+++ หน้าฉ่ำวาวนี้ท่านได้แต่ใดมา








สวัสดีค่ะทุกคนกลับมาพบกันอีกแล้วนะคะ รีวิวหน้านี้รู้สึกว่าไม่เขียนไม่ได้จริงๆค่ะ
เราเจอของดีเข้าให้แล้วยังไงก็ต้องบอกต่อ
วันนี้เราจะมารีวิวรองพื้น 

"Bobbi Brown Intensive Skin Serum Foundation SPF 40 PA+++"

ให้เพื่อนๆอ่านกันนะคะเผื่อมีเพื่อนๆคนไหนกำลังหาข้อมูลเพิ่มเติม
รีวิวนี้อาจเป็นอีกหนึ่งในการช่วยตัดสินใจได้ค่ะ

สำหรับใครอยากอ่านรีวิวแล้วสามารถเลื่อนข้ามลงไปได้เล้ยน้าา
ด้านบนนี้เราอยากจะเกริ่นอะไรเล็กๆน้อยๆถึงที่มาที่ไปของการเลือกเจ้าตัวนี้มาครอบครองค่า
(เป็นคนชอบเขียนคำนำค่ะ 5555)Smiley



ก่อนหน้านี้เราใช้รองพื้นของของแบรนด์นึงมาตลอดเลยค่ะ
 แต่รู้สึกว่ามันยังไม่ใช่สำหรับเราเท่าไหร่ เพราะเราผิวแห้ง
 หลังจากใช้ๆไปเราว่ามันน่าจะเหมาะกับคนผิวมันมากกว่า
ประจวบเหมาะกับล่าสุดโดนผู้ใหญ่ใจดีทักว่าหน้าขาวไปนิดนึงนะ ดูไม่ธรรมชาติเลย
ถ้าปรับโทนลงมาให้เข้ากับผิวก็น่าจะสวยกว่านี้นะ  
เราเลยเอะใจ และพยายามเสาะหารองพื้นที่ธรรมชาติที่สุดมาให้จงได้
จริงๆก็แค่ซื้อแบรนด์เดิมแต่ลดเฉดลงก็พอ.. แต่เราเริ่มเบื่อแล้ว ใช้มานานมันไม่หมดซักที
และแอบคิดว่ามันน่าจะมีตัวอื่นๆที่ทำให้หน้าเราสวยได้มากกว่านี้สิน่า
(เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวยนะคะทุกคน เหตุผลเข้าข้างตัวเองสุดๆเลย5555)

ด้วยความที่ก่อนจะซื้ออะไรเรามักหาข้อมูลจากพี่ๆบิวตี้บลอคเกอร์ก่อนเสมอ
จะเสียเงินทั้งที่ก็ต้องมั่นใจเนอะว่าของเค้าดีจริง
เราก็เลยทำการเสิร์ช คีย์เวิร์ด "รองพื้นโทนธรรมชาติ" ว่ามีแบรนด์ไหนบ้างนะที่ทำรองพื้นออกมาได้สีผิวใกล้เคียงกับผิวธรรมชาติมากที่สุด
เสิร์ชไปเสิร์ชมาเจอรีวิวของพี่ทราย Feonalita ค่า
พี่เค้ารีวิวรองพื้นของ Bobbi Brown และเมนพอยท์ก็คือ รองพื้นของป้าบ๊อบมีเฉดสีเยอะ
และมีเม็ดสีเหลืองทำให้เข้ากับผิวธรรมชาติของคนเรามากที่สุด
ถ้าเราทารองพื้นที่สีเท่ากับใบหน้าเรา เราก็จะมีผิวที่สวยขึ้นไปอีกกกก



พี่คือต้นเหตุที่ทำให้หนูเลือกป้าบ๊อบค่ะ ผิวสวยมากก
ในคลิปพี่เขารีวิวอีกรุ่นนึง คือรุ่น Long Wear แต่ก่อนหน้านี้เราแอบเห็นอีกรุ่นนึงที่เป็นเซรั่ม
เราเลยลองเสิร์ชหาข้อมูลเพิ่มก็เลยเจอรีวิวของพี่แป้ง Kirari แล้วก็ พี่นีน่า Beautyworld
ปรากฏว่ามันดีทั้งสองรุ่นเลย ยิ่งหา ยิ่งคิดไม่ตก


ประทับใจคลิปนี้มากตรงที่พี่เค้าซูมผิวให้ดู ปรากฏว่าผิวพี่เค้าเนียนมากกก
พี่คือต้นเหตุที่ทำให้หนูเลือกป้าบ๊อบค่ะ





ว่าแล้วก็ตัดสินใจพุ่งตัวไปที่เคาน์เตอร์ Bobbi Brown สาขาพารากอน พร้อมแจ้งถึงความประสงค์ว่า
ตอนนี้อยากได้รองพื้นมากเลยค่ะ ดูไว้สองรุ่นคือตัวนี้กับตัวนี้ *ชี้ๆ* 
รบกวนลองให้อย่างละครึ่งหน้าได้ไหมคะ พี่บีเอก็ใจดีมาก หอบรองพื้นมาวางที่โต๊ะ 4 ขวดด้วยกัน
คือเบอร์ 3 กับ 3.5 ของแต่ละรุ่นค่า (เค้ามีเฉดสีเยอะจริงถึงขนาดแบ่งเป็น .5 .5 เลยนะ)

ตอนแรกลองรุ่น Long wear เบอร์3 ที่ใบหน้าซีกขวาก่อนค่ะ finish look ที่ได้คือออกแมตต์ๆค่ะ
จะไม่ค่อยมีความฉ่ำวาวของผิว แต่รู้สึกว่าผิวมันผ่องๆขึ้นมาจากหน้าจริงนิดนึง เรากลัวซ้ำรอยก็เลยตัดสินใจว่า ขอลองเป็นเบอร์ 3.5 ละกันนะคะ ปรากฏว่าได้สีผิวเกือบพอดีกับหน้าเลยค่ะ
หน้ากับคอเป็นสีเดียวกันเลย แม้ว่าที่คอยังไม่ได้ทาได้ ใจพองโตมากกก
ไม่คิดว่าการทารองพื้นที่สีเดียวกับผิวจะทำให้ผิวสวยขนาดเน้  Smiley
ต่อมาก็ลองตัว Intensive Skin Serumค่ะ คราวนี้ Finish look ที่ได้คือผิวฉ่ำวาว งานผิวที่แท้จริง!



ในที่สุดงานยากก็เกิดขึ้น! นั่นก็คือ จะมีเพียงตัวเดียวเท่านั้นที่ถูกเลือก
ซ้ายก็ดี ขวาก็ดี เอาไงดีน้า
เราก็เลยคิดว่าด้วยราคาเท่านี้ มันก็ควรที่จะเป็นรองพื้นที่สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย
แต่ก็ต้องทาไปออกงานได้ด้วย ว่าแล้วพี่บีเอก็ช่วยแนะนำให้เราเลือกเจ้าตัว Intensive
โดยพี่บีเอได้แนะนำว่าถ้าเราอยากทาวันธรรมดาเราก็ลงบางๆไม่ต้องเซตด้วยแป้ง
แต่ถ้าวันไหนไปออกงาน หรือทำงานที่ค่อนข้างทางการหน่อยก็ลงให้หนาขึ้น แล้วเซตด้วยแป้ง
โอเคค ตอบโจทย์ ขอถือกระจกเดินส่องตามแสงต่างๆนิดนึงค่ะ
โอเค หน้าไม่ลอย งั้นตัวนี้เลยค่ะพี่!

ในที่สุดก็ได้เจ้า Bobbi Brown Intensive Skin Serum Foundation SPF 40 PA+++
มาครอบครองในราคา 2,250.- บาทจากราคา เต็ม 2,500.- บาทค่ะ
(ซื้อเครื่องสำอางในบิวตี้ฮอลล์วันเสาร์-อาทิตย์จะได้ลด 10% ตลอดเลยค่ะ)







และนี่คือโฉมหน้าของ Bobbi Brown Intensive Skin Serum Foundation SPF 40 PA+++ นั่นเอง ป้ามาพร้อมกับกล่องดำสุดหรูฟ้อนท์ขาวอันคุ้นตา


เผยโฉมหน้าคุณป้าค่ะ เราชอบขวดมากๆเลย เป็นขวดแก้วสีดำ มันมีความเรียบหรู ดูแพง
ป้ามาในขนาด 30 ml. ใช้ได้อีกนานลืมม
(แต่ถ้าทำตกก็คงแตก มีน้ำตาร่วงแน่นอน 5555 Smiley)



มาดูขวดใกล้ๆกันค่า รุ่นนี้เค้าทำเป็นแบบดรอปเปอร์ บีบๆหยดๆเอาเน่อ
แอบกลัวว่าใช้ไปนานๆแล้วยางตรงที่เป็นดรอปเปอร์จะเสื่อมมั้ยน้า



แอบเปิดให้ดูค่ะ ดรอปเปอร์เป็นแบบนี้เลยยยย Smiley



สีที่ได้มาคือสี 3.5 ชื่อสี Warm Beige ค่าา


ลองหยดให้ดูกันนิดนึงค่ะ เนื้อมันค่อนข้างข้นๆหน่อยนะคะ
เพราะว่ามันเป็นเซรั่มบำรุงผิวไปในตัวด้วยค่ะ ดังนั้น สำหรับใครที่ผิวมันมากๆไม่น่ารอดค่า



ลองเกลี่ยให้ดูจะเห็นว่ามันมีความฉ่ำวาวเกิดขึ้นแบบธรรมชาติ
ประดุจว่าเกิดมาก็มีผิวฉ่ำวาวสุขภาพดีสุดๆเลย (ทั้งที่จริงๆแล้วผิวฉันนั้นแห้งผากมากเลยจ้านายจ๋า)

อันนี้แอบให้ดูรูปตอนมันอยู่บนใบหน้านิดนึง เรารู้สึกว่ามันเป็นรองพื้นที่ทำให้ผิวดูสวยธรรมชาติ
สวยในทุกๆแสงเป็นอย่างมาก อันนี้แอบถ่ายเก็บไว้ในวันที่ไปลองที่เคาน์เตอร์ค่ะ


เห็นความฉ่ำวาวของผิวไหมคะ Smiley



แสงสลัวๆก็เอาอยู่น้า (ป.ล.ขออภัยสำหรับใต้ตาค่ะช่วงนี้ภูมิแพ้กำเริบ อันนี้อะไรๆก็เอาไม่อยู่เด้อ)




เอาล่ะค่าา มาถึงในพาร์ทรีวิวกันเลยนะคะ 

สภาพผิวของเรา : แห้งผาก มีรูขุมขนตรงจมูกและข้างแก้ม มีรอยสิว มีแพนด้า มีรอยเส้นเลือดฝอย(โอ้...ทำไมปัญหาเยอะ)
ปริมาณเหงื่อบนใบหน้า: เป็นคนเหงื่อออกไม่ค่อยเยอะ ยิ่งอากาศเย็นๆแบบนี้แทบไม่มีเลยค่ะ

หมายเหตุ เราได้ใช้ผลิตภัณฑ์นี้ในช่วงที่สภาพอากาศในประเทศไทยมีความเย็น อากาศแห้งลง
เราเลยไม่แน่ใจว่าถ้าตอนใช้ตอนหน้าร้อน แดดเปรี้ยงๆ จะเป็นยังไง
ผลข้างล่างนี้คือ ผลและความรู้สึกขณะที่ใช้ตอนฤดูหนาวนะคะ ถ้าประเทศไทยกลับมาร้อนเมื่อไหร่
เราจะมาเพิ่มเติมผลด้านล่างนี้เลยค่าา


เนื้อผลิตภัณฑ์ : ค่อนข้างเข้มข้น ด้วยความที่เค้าผสมสารบำรุงเลยทำให้เนื้อคล้ายๆกับเซรั่มของแบรนด์นี้  สำหรับสาวผิวแห้งอย่างเราๆ บอกเลยว่าตัวนี้เหมาะมาก ขนาดอากาศเย็นๆแห้งๆแบบนี้ ทาตัวนี้เข้าไป(โดยไม่เซตแป้ง) จะพบว่าหน้ายังมีความชุ่มชื้นตั้งแต่เช้าจรดเย็นเลยค่ะ เราให้ เลยค่ะ
ป.ล. ด้วยความที่เนื้อของมันเข้มข้น ดังนั้น เวลาดูดขึ้นมาจากขวดบางครั้งมันดูดขึ้นมายากนิดนึง เทคนิคคือบีบตัวดรอปเปอร์ค้างไว้นานนิดนึงแล้วค่อยปล่อยนะคะ

กลิ่น : ชอบกลิ่นมากเลย กลิ่นออกแนวสมุนไพร ทาทีไรก็นึกว่ากำลังทาครีมบำรุงผิวมากกว่ารองพื้น ไม่เหม็นเลยซักนิด สำหรับเรา เราให้  เช่นกันค่า

Finish Look : ฉ่ำวาว ผิวดูใส สุขภาพดี ไม่ได้วาวจนมันเมือก รู้สึกว่าเป็นธรรมชาติมากๆเลย เราให้  แบบไม่ต้องสงสัย

 ระดับความปกปิด : รองพื้นตัวนี้ทำให้สีผิวเรียบเนียนเสมอเท่ากันทั้งใบหน้า ทำให้หน้าสวยขึ้นมากจริงๆ ปกปิดรอยเส้นเลือดฝอยได้ แต่สำหรับรอยสิว รอยแพนด้าอะไรพวกนี้ยังคงต้องพึ่งคอนซีลเลอร์อยู่นะคะ นางไม่ปกปิดขนาดน้านน อันนี้ได้ไป .5 ค่ะ

 ความรู้สึกเมื่ออยู่บนผิว : เบามาก ไม่หนักหน้าเลย ด้วยความที่อากาศเย็นด้วยเลยไม่รู้สึกว่าหนึบหรืออะไรเลย (เหมือนทาครีมบำรุงเท่านั้นเองแก๊ ฉันไม่ได้ทารองพื้นเล้ย 5555) เรียกได้ว่าเป็นรองพื้นที่ออกแบบมาเพื่อผิวแห้งและหน้าหนาวมาก สำหรับเรา เราชอบความรู้สึกนี้เอาไป  ค่ะ

ระดับความชุ่มชื้น : เราว่ารองพื้นตัวนี้เกิดมาเพื่อคนผิวแห้งมากๆเลยค่ะ เพราะว่ามันทำให้ผิวดูชุ่มชื้น ไม่แห้งตลอดวันเลย เราเองเป็นคนผิวแห้งมาก ปกติจะทาครีมบำรุง+กันแดด+คุชชั่น+ทำงานทั้งวันในห้องแอร์ที่เย็น(เหมือนเลี้ยงเพนกวิน5555) พอตกเย็นผิวนี่แห้งผาก บอกเลยว่าตัวนี้เราปลื้มมากก ไม่เสียดายเงิน 2,250 บาทที่จ่ายไปเลยซักนิด แนะนำตัวนี้ให้กับสาวๆผิวแห้งที่กำลังหารองพื้นดีๆซักตัวนะคะ รับรองไม่ผิดหวัง

 ความติดทนและการดรอปของรองพื้น : ด้วยความที่เราเป็นคนผิวแห้งและเหงื่อออกน้อยมากทำให้รองพื้นค่อนข้างติดทน สำหรับเราเช้ามายังไงเย็นก็เป็นแบบนั้นเลยค่ะ สีไม่ดรอป ไม่หมอง  เช่นกันค่าาา



อันนี้คือสภาพหลังจากทำงานมาทั้งวันและออกมาจากคลาสโยคะค่ะ ซูมให้เห็นกันชัดๆเท่าที่กล้องไอโฟนน้อยๆจะทำได้

การควบคุมความมัน : ด้วยความที่เนื้อมันออกแนวฉ่ำวาวอยู่แล้ว เลยไม่รู้ว่ามันควมคุมความมันมั้ย แต่สำหรับเราตัวนี้ไม่ทำให้หน้ามันเพิ่มค่ะ ตอนเช้ายังไง ตอนเย็นอย่างงั้นเลย

 ความประหยัดเวลาในการแต่งหน้า : อันนี้เป็นอีกหนึ่งข่อดีของรองพื้นตัวนี้เลยก็ว่าได้ค่ะ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ตัวนี้เป็นทั้งรองพื้นที่ไม่ต้องเซตด้วยแป้งก็ผิวสวยฉ่ำวาว, กันแดด ( SPF40+++ จัดว่าเป็นกันแดดที่ค่าป้องกันแสงแดดสูงมากเลยน้า..ถ้าไม่ต้องออกแดดเยอะ ทาตัวนี้ตัวเดียวก็น่าจะเอาอยู่ ประหยัดขั้นตอนไปหนึ่งขั้น)และยังเป็น เซรั่มบำรุงผิว เนื่องจากรองพื้นตัวนี้ป้าบ๊อบเขาได้แรงบันดาลใจมาจากตัวที่เป็นเซรั่มบำรุง ดังนั้น ทาตัวนี้ก็เหมือนได้บำรุงไปในตัวเลยค่าเรียกได้ว่าซื้อ 1 ได้ถึง 3 เลยนะคะเนี่ย ตั้งแต่ได้ป้ามาเราก็วางกันแดดทิ้งไว้เป็นอาทิตย์แล้ว5555

สรุปก็คือเราพอใจกับ Bobbi Brown Intensive Skin Serum Foundation SPF 40 PA+++ มากในระดับ   เลยค่ะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสภาพผิวของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน ยังไงก่อนตัดสินใจซื้อแนะนำว่าพุ่งตัวไปลองที่เคาน์เตอร์กันก่อนดีกว่านะคะแล้วเพื่อนๆก็ได้รองพื้นที่ใช่สำหรับเราจริงๆ และจะไม่เสียดายเงินที่จ่ายไปเลยค่า




สำหรับวันนี้คงต้องจบรีวิวเอนทรีนี้ลงแต่เพียงเท่านี้ค่ะ อาจจะยาวไปนิดนึงแต่รู้สึกว่าได้เล่าทุกอย่าง
อย่างหมดเปลือกแล้ว หวังว่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ทำให้สาวๆตัดสินใจได้นะคะ
วันนี้ไปก่อนแล้วค่ะ หากมีตัวไหนเด็ดๆที่ประทับใจจนต้องมาเล่าก็จะได้พบกันอีกนะคะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนถึงบรรทัดนี้เลยค่ะ Smiley




Create Date : 07 พฤศจิกายน 2560
Last Update : 12 พฤศจิกายน 2560 19:01:16 น.
Counter : 6757 Pageviews.

1 comments
  
ดีจ้า มาทักทายนะจ้ะ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค Hyaluronic คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4245812 วันที่: 21 ธันวาคม 2560 เวลา:18:49:12 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

KanKan92~
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



สวัสดีค่ะทุกคนที่คลิกเข้ามาหน้านี้นะคะ
เราเป็นคนที่ชอบเรื่องสวยๆงามๆมากกก ชอบมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว แต่เพิ่งมีโอกาสได้เขียนบลอคจริงๆก็ตอนนี้แหละน้า

นอกจากนี้เรายังชอบพวกงานฝีมือด้วย ถ้ามีโอกาสก็จะอัพบลอคเกี่ยวกับพวกงานโครเชต์ แท็ตติ้ง DIY ฯลฯ ค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะ (แวะเข้ามาบ่อยๆน้าาาา )ใครมีคำถามอะไรฝากไว้หลังไมค์ได้นะคะ > ___ <
New Comments