Another Side of the Mount Fuji : by kanaho__( ^ ^ )
|
|||||
= ປະຫວັດຜູ້ໄທ (ประวัติผู้ไท) - ສິລິພອນ ສີປະເສີດ (สิลิพอน สีปะเสิด) = แปลไทย จะพูดกล่าวเป็นบทกลอน ให้ลองฟังด้วยกัน เล่าเรื่องราวความเป็นมา ของปู่ย่าตายาย เป็นเรื่องจริงอิงตำนาน เราลูกหลานศึกษาเอาไว้ พี่น้องเราเผ่าภูไท สืบเชื้อสายมาจากหนใด คุณปู่สั่งมาคุณตาสั่งไว้ คนภูไทให้รักใคร่กัน สืบเชื้อสายไม่ใกล้ไม่ไกล เป็นเชื้อสายมาจากที่เดียวกัน อยู่ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง เดี๋ยวนี้เรียกว่าประเทศลาว หลายร้อยปีตั้งแต่สมัยก่อนเก่า เป็นร่มเงาของแผ่นดินสยาม ปี พ.ศ. 2388 เกิดกบฎจีนฮ่อ รัชกาลที่ 3 ยกทัพสยามมาปราบกบฎจีนฮ่อ ตีเอาเมืองพิน เมืองนอง เมืองวัง เซีงฮ่ม ผาบัง เซโปน เมืองญ้อ เมืองคำม่วนก็ยังมิวาย จนกบฎจีนฮ่อแตกพ่ายหนีตาย ท่านกวาดต้อนเทครัวพี่น้องเรา(ชาวภูไท) ทิ้งบ้านเก่าทางฝั่งซ้าย พากันเดินเท้ามาแสนไกล ทั้งหาบทั้งสะพายพะรุงพะรัง ถ้วยโถโอชาม ทั้งหม้อทั้งไห ผูกมัดเอาไว้กับหลังวัว หอบลูกผูกหมาดึงหน้าดึงหลัง พะรุงพะรังทั้งผ้าทั้งหมอน หนามก็เกี่ยวจนดิ้นไปดิ้นมา ขึ้นเขาลงห้วยทั้งแดดก็ร้อน พอตกกลางคืนใจวิงวอน นอนกลางดินกินกลางทราย ข้ามแม่น้ำโขง ลงแพขึ้นมายังฝั่งขวา พี่น้องเราชาวภูไท พากันแยกย้ายลงหลักปักฐาน ทาง จ.กาฬสินธุ์ถิ่นน้ำดำ พากันข้ามดง(เทือกเขา)ภูพาน ไปทางซุ้มภูสีฐาน มุกดาหารบ้านคำชะอี(ปัจจุบันอ.คำชะอี) ทางเมืองเว้เรณุนคร(ปัจจุบันอ.เรณูนคร ) พากันล่วงหน้ามาก่อนอยู่หลายปี สร้างบ้านแปลงเมืองจนได้ดิบได้ดี ชาวภูไทสมัยนี้ร่ำรวยก็มากประมาณ ฮีต12คอง14 ประเพณีรักษาไว้ ให้ลูกหลานที่เกิดใหม่(รุ่นใหม่) ได้ภูมิใจ ความรักให้แบ่งปัน อย่ายึดติดชนชั้นเกลียดชังกัน มีมากมีน้อยญาติมิตรใกลไกล ผู้ใหญ่ขอให้เมตตาผู้น้อยที่ขอแบ่งปัน ชาติพันธุ์เดียวกัน(สื่อถึงเชื่อสายเดียวกัน บทเพลงกล่าวถึงเมล็ดพันธุ์ของผัก) เป็นสามีภรรยาสืบเชื้อสาย เป็นพี่เป็นน้อง เป็นชุมชนอยู่ร่วมกัน ให้ดูแลกันและกันตลอดไป ให้สร้างความดีแทนคุณแผ่นดิน ที่ได้อาศัยอยู่่กินตั้งแต่เกิดจนตาย จะเดินทางไปไหนใกล้หรือไกล คนภูไทให้รักมั่นกลมเกลียวกัน แปลโดย:บ่าวภูไท บ้านเป้า อ.หนองสูง จ.มุกดาหาร กลุ่มศิลปินภูไทรุ่นใหม่ทางฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงนำเอาเพลง "ประวัติผู้ไท" ของอาจารย์ "แสง สกุลโพน" (คนภูไทฝั่งขวาแม่น้ำโขง) มา COVER ในแบบของพวกเขา ร้องโดยสาวน้อยวัย 19 "สิลิพอน สีปะเสิด" ที่โด่งดังมาตั้งแต่อายุ 14 กับเพลง "ຮັກບ່າວເມຍປະ | ฮักบ่าวเมียปะ", "ສາວໜອງໄຮ | สาวหนองไฮ", "ກະຖິນຄືນຖິ່ນ | กะถินคืนถิ่น" และอีกมากมายหลายเพลง (จนนับไม่หวาดไม่ไหว) อยากรู้จักเธอมากกว่านี้ คลิก มาว่าในส่วนของ MV กันบ้าง ดูเผิน ๆ ก็เหมือนกับ MV เพลงลูกทุ่งทั่ว ๆ ไปนี่แหละ แต่ถ้าสังเกตกันสักนิด เสื้อผ้าหน้าผมและรองเท้า โลเคชั่นกับช่วงเวลาถ่ายทำ มันช่างลงตัวและเข้ากับเนื้อหาของเพลงเหลือเกิน เสื้อผ้าที่มีทั้งแบบท้องถิ่นกับแบบสมัยใหม่แต่ไม่เวอร์วังอลังการ แถมยังให้ทุกคนสวมรองเท้าแตะฟองน้ำ มันบ่งบอกถึงคนภูไทยุคนี้ที่เห็นกันทั่วไปตามหมู่บ้าน ไม่ใช่ที่เราเห็นตามงานพิธีหรืองานเทศกาล ส่วนสถานที่ใช้โลเคชั่นชนบทมีบ้านหลังเล็กแบบภูไทอยู่ด้านหลัง บวกกับช่วงเวลายามบ่ายแก่ ๆ ที่มีแสงนุ่มสีเขียวอมเหลืองกับส้มอ่อน ๆ ดูไปดูมาทำเอารู้สึกผูกพันกับสถานที่ตรงนั้นอย่างบอกไม่ถูก (ทั้งที่ตัวเองก็ไม่ใช่คนภูไท...เอ๊ะ...หรือจะเป็น) ยิ่งเมื่อมารวมกับเสียงร้องที่หวานปนเศร้าบวกกับเสียงขลุ่ยรำพึงรำพันถึงการพลัดพรากจากกัน มันก็ยิ่งทำให้เป็น MV ที่ยิ่งดูก็ยิ่งรับรู้ได้ถึงอารมณ์เพลงแห่งการโหยหาอดีตที่ไม่มีวันย้อนคืน ใครที่เป็นคนภูไทเปิดดู MV นี้เชื่อว่ามีน้ำตาซึมแน่นอน |
kaizank
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?] I'm a simple man ( ^ ^ )............
All Blog
Friends Blog
Link |
||||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |
ts911