เวลาเป็นเงินเป็นทอง แต่เวลาที่ใช้อ่านหนังสือสามารถให้สิ่งที่มีค่ากว่าเงินทองแก่เราได้
Group Blog
 
All Blogs
 
กลิ่นการเวก : พงศกร



รายละเอียดของหนังสือค่ะ
กลิ่นการเวก
โดยผู้แต่ง: พงศกร
250.00 บาท
สำนักพิมพ์ : เพื่อนดี
พิมพ์ครั้งที่ : 1
ISBN: 974-94074-9-0

โปรยปกหลัง-----------

เมื่อต้นฉบับนวนิยายที่ส่งมาอย่างสม่ำเสมอเกิดขาดหายไป ‘อรรำไพ’ ในฐานะบรรณาธิการนิตยสารรวี จึงจำเป็นต้องบุกบั่นไปจนถึงวังเทวินทร์ เพื่อติดตามเอาต้นฉบับตอนต่อไปมาให้ได้ ทั้งที่ผู้คนรอบข้างพากันห้ามเอาไว้ ใครจะคิดว่าชีวิตของหล่อนจะต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล นับแต่วินาทีแรกที่ย่างเท้าเข้าสู่สถานที่แห่งนั้น

----------------------------------------------------------------------------------

เป็นผลงานของคุณพงกรเรื่องแรกที่จขบ.มีโอกาสได้อ่านค่ะ ตอนแรกเรื่องย่อจากปกหลังทำให้ จขบ. เข้าใจผิดเล็กน้อย นึกว่าจะเป็นเรื่องที่นางเอกเป็นคนแก้ปมปริศนาเสียอีก ที่ไหนได้พออ่านเข้าจริง ๆ กลับเป็นอีกแนวค่ะ

เรื่องมันเริ่มจากที่ "อายุธ" นักเขียนดังแห่งยุคที่ส่งต้นฉบับตรงเวลาไม่เคยขาด กลับไม่ส่งต้นฉบับมาตรงเวลา จนอรรำไพ บรรณาธิการนิตยสารรวีสงสัยมากว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เธอไม่สามารถติดต่อสอบถามถึงอายุธโดยตรงได้ เนื่องจากอายุธ หรือก็คือคุณชายอายุธไม่เคยให้เบอร์โทรศัพท์ไว้ เวลาที่ติดต่อจะผ่านทางไปรษณีย์เท่านั้น คุณชายอายุธเป็นผู้ที่เก็บตัว ไม่ออกงานสังคม ไม่เคยให้สัมภาษณ์นิตยสาร ไม่เคยแม้แต่จะมีรูปปรากฏในข่าวสังคม ทำให้อรรำไพได้แต่รอคอยต้นฉบับจากอายุธอย่างกระวนกระวายว่ามันจะมาถึงทันกำหนดพิมพ์เล่มต่อไปได้หรือไม่ โดยที่ทำอะไรแทบไม่ได้เลย

และแล้วต้นฉบับที่เธอรอคอยก็มาถึงจนได้ในวันสุดท้ายของกำหนดปิดเล่มพอดิบพอดี แต่ต้นฉบับที่ถึงมือเธอนั้นกลับมีสิ่งผิดปกติไป นั่นคือการดำเนินเรื่องที่วกวนไปมาไม่ได้ดำเนินไปจากตอนที่แล้วเลย และมิหนำซ้ำสำนวนภาษาก็ดูจะแปลกไปจากที่เคยในแง่เลวร้ายเสียด้วย อรรำไพคิดจะระงับการตีพิมพ์ตอนใหม่ลงในนิตยสาร แต่ผู้ช่วยของเธอจัดการส่งลงเรียงพิมพ์ไปแล้วด้วยความหวังดี และรอบการพิมพ์ปกติที่เคยเป็นของสำรักพิมพ์ก็จำเพาะมามีเหตุให้เปลี่ยนแปลงเอาในวันนี้ อรรำไพจึงไม่อาจหยุดการพิมพ์ได้ เพราะว่านิตยสารฉบับล่าสุดพิมพ์เสร็จไปเรียบร้อยแล้ว

บ.ก.สาวแทบโยนระเบิดลงกลางกองบ.ก. แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่านั้น เพราะเจ้าของนิตยสารยังได้ตั้งกฎเหล็กไว้ว่าห้ามใครไปรบกวนคุณชายอายุธโดยเด็ดขาด การรบกวนที่ว่านั้นครอบคลุมรวมถึงการไปหาถึงที่พำนักด้วย อรรำไพจึงได้แต่รอต้นฉบับตอนต่อไปพร้อม ๆ กับยาดมเท่านั้นเองค่ะ

ข้างฝ่ายวังเทวินทร์ก้เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นเช่นกันค่ะ โดยเรื่องนี้เริ่มจากที่...อ่า แย่แล้วจขบ.จำชื่อจริงของเขาไม่ได้ จำได้แต่ชื่อเล่นแท้ ๆ พ่อแม่ตั้งให้ได้ว่า ...อาหมง... อ้อ...สืบได้จากบล็อกรีวิวของคุณผู้สาวเมืองยศ ได้ว่า เขาชื่อหัสดินทร์ จขบ.เป็นอะไรไม่รู้ จำได้แม่นแต่ชื่อเล่น กับนามสกุลที่อ่านแล้วรู้สึกขำมากจากจดหมายที่คุณชายเขียนถึงอาหมงว่า

...คุณหัสดินทร์ เกียรติก้องกังวานไกลไพศาล...

ก๊ากกกกก... อ่านแล้วขำนามสกุล ขอโทษนะอาหมง ก็แหม...ก้อง...กังวานแล้วยังไกล...ไพศาลอีก ส่วนชื่อเล่นนี้ เจ้าตัวเขาก็ไม่ชอบให้ใครมาเรียกว่าอาหมงค่ะ เพราะเจ้าตัวดันรู้สึกว่าหน้าตี๋ ๆ ของตัวเองนี้เป็นปมด้อย ทั้ง ๆ ที่เพื่อน ๆ ก็ปลอบว่าสมัยนี้หล่อตี๋นั้นกำลังอันเทรนด์ เจ้าตัวก็ไม่ยอม บอกให้เพื่อนว่ารักกันจริงต้องเรียกชื่อเล่นตั้งเองว่า "ยอร์ช" ค่ะ โธ่...อาหมง ชื่อนี้ฟังดูตลกกว่าชื่อเล่นแท้ ๆ พ่อแม่ตั้งให้อีก

นอกเรื่องไปเยอะ กลับมาเข้าเรื่องดีกว่าค่ะ หัสดินทร์เนี่ยเป็นวิศวกรหนุ่มที่กำลังวิจัยฝุ่นอยู่ เนื่องจากบริษัทปิดกิจการ แล้วเจ้าตัวก็ไม่ยอมกลับบ้านไปหาอาปาซึ่งเป็นถึงเศรษฐีใหญ่ประจำจังหวัด แต่กลับเลือกที่จะเสี่ยงดวงหางานใหม่เพราะอยากอยู่กรุงเทพฯ เพื่อจีบสาว - -

และดูเหมือนสาวที่ว่าก็ไม่รู้ว่าอาหมงเนี่ยเป็นถึงลูกชายคนเดียวของเศรษฐีภูธรเสียด้วย อาหมงเลยยังไม่ถึงกับจีบติดสักที เงินเก็บก็ใกล้หมด อาหมงเลยประชดชีวิตค่ะ ด้วยการสมัครไปเป็นเลขานุการตามที่อ่านประกาศเจอ

ท่ามกลางเสียงซ้ำเติมของเพื่อน ๆ ว่าใครที่ไหนเขาจะบ้าจี้รับวิศวกรไปเป็นเลขาฯ แต่แล้วก็มีคนบ้าจี้จนได้ เพราะตอนที่อาหมงไปเล่าให้เพื่อนฟังนั้น อาหมงได้รับจดหมายตอบกลับว่ายินดีรับเขาเป็นเลขาฯ เรียบร้อยแล้ว และว่าที่นายจ้างของเขาก็คือคุณชายอายุธนั่นเอง พอเพื่อนได้ฟังก็อึ้งตะลึงว่านักเขียนใหม่เนี่ยนะจะจ้างอาหมงไปเป็นเลขา เลยพากันคาดเดาเหตุผลไปต่าง ๆ นานา แต่อาหมงก็ตัดสินใจแล้วค่ะว่าจะไปเป็นเลขาฯ

ในที่สุดหัสดินทร์(เรียกอาหมงบ่อย ๆ เดี๋ยวเขาโกรธ) ก็ได้ก้าวเข้าไปสู่วังเทวินทร์จนได้ เมื่อแรกที่เขาได้เข้าวังนั้นก็เริ่มสัมผัสได้ว่าบรรยากาศของวังแห่งนี้ช่างเย็นเยือกเหมือนไร้ชีวิต วังที่กว้างใหญ่แห่งนี้มีเพียงคุณชายอายุธผู้เป็นเจ้าของวังและลุงกล่ำ ข้ารับใช้เก่าแก่คอยดูแลวังอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น

ลุงกล่ำให้การต้อนรับหัสดินทร์เป็นอย่างดีและตอบว่าในวังไม่มีใครอีกแล้ว เพราะหลานชายดคนเดียวของลุงก็ไปเข้าค่าย หัสดินทร์จึงอดรู้สึกว่าวังนี้ช่างให้ความรู้สึกวังเวง และที่สำคัญวังแห่งนี้เต็มไปด้วยต้นการเวก ซึ่งเป็นปัญหากับหัสดินทร์อยู่ไม่น้อยเพราะเขาเคยมีความทรงจำอันน่าหวาดกลัวในวัยเด็กที่มีการเวกเข้ามาเกี่ยวข้อง ถ้าเล่าตรง ๆ ก็คือหัสดินทร์เคยเจอผีที่ซุ้มต้นการเวกในวัยเด็กนั่นเองค่ะ ~~บรื๋อ~~

และหัสดินทร์ก็ได้เจอกับเหตุการณ์ประหลาด ๆ ที่ชวนให้หลอนจิตมากมาย ทั้งเสียง กลิ่นการเวก เด็กชายผมจุกที่แต่งตัวเหมือนเด็กโบราณ และที่ประหลาดที่สุดก็คือนายจ้างของเขา คุณชายอายุธ ที่ไม่เคยปรากฏตัวออกนอกห้องสักครั้ง สั่งงานเขาผ่านจดหมาย และที่น่าหวาดหวั่นที่สุดก็คือ อาหารที่คุณชายกิน มันดูแล้วไม่น่าเป็นอาหารของมนุษย์เลย เพราะมันคือไก่ดิบ เครื่องในดิบ....

นอกจากนั้นงานที่คุณชายสั่งก็เป็นงานที่ทำให้เขาปวดเศียรเวียนเกล้าเป็นที่สุด เพราะมันคืองาน.... ให้เขาช่วยเขียนต้นฉบับไปจนกว่าคุณชายจะหายดี...

ฝีมือของหัสดินทร์นั้นร้ายกาจจนบ.ก.อรรำไพต้องดมยาดมเลยค่ะ - -"

และเรื่องราวยิ่งดำเนินไปในทางแปลกขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่ง.......................
-----------------------------------------------------------------------------------

ไปอ่านต่อในเล่มค่ะ ไม่อยากสปอยล์
ทีนี้มาถึงความรู้สึกที่จขบ.มีต่อหนังสือเล่มนี้บ้าง

กลิ่นการเวกเป็นเรื่องลึกลับเหนือธรรมชาติและหลอนค่ะ แต่จขบ.เล่าแล้วดูเหมือนนิยายตลก - -" ต้องขออภัยค่ะ แต่ที่เล่าเป็นแบบนั้นเพราะบรรยากาศของหัสดินทร์และอรรำไพในช่วงแรกมันอ่านแล้วออกฮา ๆ ค่ะ ก็เลยทำให้เรื่องนี้มีบรรยากาศสลับกันระหว่างขำตัวหัสดินทร์กับบรรยากาศยะเยือกชวนให้หลอนในบรรยากาศของวังเทวินทร์ที่อวลด้วยกลิ่นการเวกค่ะ

จขบ.ชอบบรรยากาศชวนหลอนในช่วงแรกไปจนถึงเกือบท้ายเรื่องมาก ๆ เลยค่ะ ทั้งกลิ่นการเวกเอย ลมเย็นที่ออกยะเยือกในบางคราวเอย เสียงประหลาดที่มาจากชั้นบนเอย

รวมความแล้วชอบบรรยากาศนั้นมากค่ะ แต่พอรู้ความจริงว่าคุณชายเป็นอะไรแล้ว ความหลอนตกฮวบเลยค่ะ คงเพราะรู้แล้วมันเลยไม่หลอนเท่าตอนเราจินตนาการเอง

ส่วนในด้านตัวละครนี่ชอบทุกตัวเลยค่ะ ดูมีสีสันดี อาหมงเป็นพระเอกที่ฮา ๆ แต่เป็นคนดีมาก ๆ เลย ถ้าเป็นจขบ. เจอความหลอนตอนเอาอาหารไปวางหน้าห้องคุณชายเข้าไปขนาดนั้นก็โบกมือบ๊ายบายแล้วค่ะ - -"

แต่นี่อาหมงยังอุตส่าห์มีน้ำใจเป็นห่วงว่าคุณชายไม่สบายช่วยเหลือตัวเองไม่ได้อีก(นั่นน่ะนะช่วยตัวเองไม่ได้) เฮ้อ...จะว่าไม่ยอมรับความจริงเราะความกลัวก็คงพอได้ เลยทำให้เกิดเรื่องร้ายตามมาค่ะ

ส่วนอรรำไพก็ใช่ย่อยค่ะ ชอบ ๆ เป็นสาวมั่นที่มีความรับผิดชอบสูงปรี๊ดดี และยังมีอีกหลาย ๆ คนที่ต่างก็มีชีวิตชีวาดี

อีกคนที่จขบ.ทั้งชอบทั้งสงสารก็คือ คุณชายอายุธค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นนักเขียนที่เก่ง มีความสามารถ รักการเขียนขนาดที่ว่าถึงจะตายก็ยังห่วง (อันนี้ออกแนวน่ากลัว) และตอนที่คุณชายได้ปรากฏตัวทีแรกก็บรรยายไว้เท่ห์มากเลย จขบ. ยิ่งเป็นโรคแพ้ตัวละครชายรุ่นลุงแบบเท่ห์ ๆ ด้วยสิ แต่คุณชายน่าสงสารมาก ทั้งที่เป็นคนดีแต่คนรอบตัวกลับไม่ดีกับคุณชายสักคนทั้งภรรยา ทั้งญาติ - -
จนกลายเป็น...แบบนั้นไป

โดยรวมแล้วชอบเรื่องนี้มากค่ะ อ่านแล้วได้อะไรหลายอย่างดี ได้ข้อคิดเรื่องปล่อยวางด้วย

ทำให้อยากหาเรื่องอื่น ๆ ของคุณพงศกรมาอ่านอีกค่ะ








Create Date : 02 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 2 พฤศจิกายน 2550 17:18:50 น. 6 comments
Counter : 4760 Pageviews.

 
ยังไม่ได้อ่านแนวนี้ของผู้เขียนเสียที


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:18:14:48 น.  

 
อ่านรีวิวจขบ.แบบปิดตาข้างเดียวไปด้วยค่ะ เพราะฝากน้องสาวซื้อไว้แล้ว กลับไปเราจะอ่านให้สะใจ อิอิ

แต่ดีใจที่จขบบอกว่าสนุกนะคะ ยังงี้ค่อยคุ้มคาตั้งตารออ่านหน่อย


โดย: พัท IP: 85.75.210.62 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:19:39:43 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ของพงศกรเคยอ่านแต่สาวหลงยุคค่ะ เรื่องอื่นยังไม่เคยอ่าน

แต่เอ่อ..แนวหลอนเหรอ

จะกล้าอ่านมั้ยเนี่ย


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 3 พฤศจิกายน 2550 เวลา:22:15:45 น.  

 
คุณพุดน้ำบุศย์ --- แนะนำให้ลองค่ะ พึ่งเคยอ่านแค่ 2 เล่มคือเรื่องนี้กับเรื่องวังพญาพราย

คุณพัท --- ก็สนุกค่ะ แต่อย่างที่บอกค่ะ ว่าพอความจริงเปิดเผยว่าคุณชาย"เป็นอะไร" แล้ว ความหลอนจิตตกลงไป จขบ.ชอบตอนหลอน ๆ แบบตอนแรก ๆ มากกว่า

คุณสาวไกด์ใจซื่อ --- สวัสดีค่า ^^
หลอนเยือก ๆ ค่ะ ลองอ่านดูสิคะ เพราะบุคลิกอาหมงทำให้ความหลอนลดลงบ้างนิดหน่อย จะขำแทน ยิ่งตอนอรรำไพตรวจต้นฉบับยิ่งฮาค่ะ


โดย: จินตานุภาพ วันที่: 5 พฤศจิกายน 2550 เวลา:12:50:14 น.  

 
อืมมมมมม

แรก ๆ ก็สนุกนะ ตลกกับนางเอกและลูกน้องของหล่อน

ทั้งยังลุ้นกับพระเอกด้วย คอยเอาใจช่วยสุดตัว

แต่พออ่านไปอ่านมาชักรู้สึกว่าการดำเนินเรื่องมันช้าไปอ่ะ

เลยต้อง stop ไปชั่วคราว

คือแบบว่าเพิ่งอ่านเรื่องนี้และนักเขียนคนนี้

เสร็จแล้วพอมาอ่านเรื่องย่อในบร็อกนี้ กลับมีความรู้สึกใหม่ว่า เฮ้ย ชักสนุกขึ้นมาแล้วสิ

มีความคิดใหม่ขึ้นมาอีกด้วยว่า เฮ้ย ต้องกลับไปอ่านใหม่แล้วหละ

ดังนั้นผมคงไม่คอมเมนท์อะไรเพิ่มเติมจนกว่าจะไปอ่านให้จบเสียก่อน

ชื่อ พงศกร นี้ ได้ยินจากผลงานละครเรื่องสาปภูษา

เลยพยายามเสาะแสวงหาหนังสือของเขา

สาปภูษาเป็นละครที่สนุกเรื่องหนึ่ง ชอบมากครับ

กำลังหาเป็นหนังสืออยู่ครับ

เอาหละครับผมคงต้องเอวังไปก่อนนะครับ บายยยยย

From:
Time , free time
E-mail:
Free.time33@hotmail.com



โดย: time free time IP: 58.9.171.100 วันที่: 15 พฤษภาคม 2552 เวลา:21:14:16 น.  

 
อ่านแล้ว หลอนมากเลย
สงสารวิศิษย์และหัสดินมาก
แต่ตอนจบก็ไม่ผิดหวัง
สนุกมากๆ ค่ะ


โดย: อินทิรา IP: 222.123.95.154 วันที่: 15 กันยายน 2552 เวลา:10:53:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

จินตานุภาพ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Imagination is more important than knowledge
Friends' blogs
[Add จินตานุภาพ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.