ฝันราลีห์
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบอ่านเรื่องผี เขียนเรื่องได้หลายแนว กำลังหัดเขียนเรื่องผีจากคนใกล้ตัว ประสบการณ์ตรงไม่มี อิอิ....

****สงวนลิขสิทธิ์ ห้ามนำไปโพสต์หรือไปลงที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต ดุนะเนี่ย เด๋วส่งผีตำรวจไปหลอก
แบร่ๆๆๆๆ
Group Blog
 
<<
มกราคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
15 มกราคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ฝันราลีห์'s blog to your web]
Links
 

 
ลูกกำพร้า (ตอนที่ 7 )

แม่ได้ดำรงชีวิตอย่างมีความสุขไปตามอัตภาพ จนกระทั่งอายุได้ 13 ปี ในปี พ.ศ.2485 ซึ่งเป็นปีที่น้ำท่วมใหญ่ ในกรุงเทพฯ เป็นปีแห่งประวัติศาสตร์รายการน้ำท่วมในประเทศไทย แถวๆลานพระบรมรูปทรงม้า มีคนเอาเรือออกมาพายกันคึกคัก เป็นปีที่ผู้ใหญ่เดือดเนื้อร้อนใจแต่เด็กๆสนุกสนานมากมาย ปกติกรุงเทพฯ จะโดนน้ำท่วมทุกปี แต่ปีนี้ น้ำมามากเป็นพิเศษ แม่เองก็เที่ยวเล่นน้ำสนุกไปเลย

ตั้งแต่คุณตาเสียไปในเหตุการณ์กบฎบวรเดช คุณยายก็ตรอมใจ ป่วยกระเสาะกระแสะไปเรื่อยๆ ไม่ค่อยแข็งแรง เป็นโรคโลหิตจาง แต่คราวนี้ คุณยายป่วยหนัก เข้าไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช แล้วก็เสียชีวิตลง แม่ซึ่งตอนนั้นยังเด็ก ได้มีโอกาสเข้าไปกราบคุณยายตอนที่สิ้นใจแล้วหลังจากเข้าโรงพยาบาลไม่นาน ตอนนั้น ศิริราชไกลมากต้องลงเรือข้ามฟาก แม่ไม่มีใครพาไป ต้องอาศัยญาติข้างพ่อคนหนึ่งที่เป็นหม่อม (แม่เรียกว่าหม่อมยาย แต่จะเป็นหม่อมของใครก็ไม่ทราบเสียแล้ว) ให้ท่านพาแม่เข้าไปที่โรงพยาบาล แม่เข้าไปหาคุณยายด้วยความรู้สึกว้าเหว่อ้างว้างของเด็กกำพร้าที่ไม่มีที่พึ่ง ไปกราบที่ห้องเก็บศพ หลังจากนั้นก็เชิญศพไปไว้ที่วัดพลับ ฝั่งธน และเผาเสียที่นั่น

วันหนึ่ง แม่นั่งอยู่ที่บ้านราชวัตรตรงเฉลียงบ้านตอนค่ำๆ มีลมพัดตึงๆ แม่คิดถึงคุณยายมาก รู้สึกว่าเหมือนอยู่ตัวคนเดียวในโลก ทันใดนั้น ก็ได้ยินเสียงก๊อกๆแก๊กๆ คล้ายตอนที่คุณยายยังมีชีวิตอยู่ คุณยายนานๆจะกินหมากเสียที เสียงนั้นคล้ายๆคุณยายกำลังตำหมากอยู่ แม่กลับไม่กลัวเลย กลับเรียก “แม่ อยู่ที่ไหนมาหาหนูด้วย หนูคิดถึงแม่มาก”

ก่อนที่คุณยายจะเสีย คุณยายได้สั่งเสียแม่ว่า
“ถ้าแม่ตาย ขอให้ลูกไปหาท่านนักขัตรฯ (พ.อ.ม.จ. นักขัตรมงคล กิติยากร (ยศขณะนั้น) พระชนกของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ) กับเจ้าคุณพิชัยฯ (พลตรี พระยาพิชัยสงคราม (แก๊ป สรโยธิน) อดีตแม่ทัพ 1 ผบทบและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระยะสั้นตอนสงครามสงบ) แม่ฝากท่านไว้แล้ว ไม่เช่นนั้นลูกจะลำบากมาก”
ทั้งสองท่านเป็นนายทหารผู้ใหญ่ที่เป็นผู้บังคับบัญชาของคุณตา ซึ่งเป็นที่เคารพรักสูงสุดของคุณตาและคุณยาย แม่เองได้รับประทานชื่อจากท่านนักขัตรฯด้วย สมัยเด็กๆ แม่เคยเข้าไปที่วังกรมพระจันท์ฯกับคุณยายบ่อยๆ ท่านได้กรุณาให้แม่และน้องชายได้เข้าร่วมโต๊ะเสวยกับคุณชายและคุณหญิง ส่วนคุณท่าน (ม.ล.บัว กิติยากร) ได้กรุณาหาของใช้มามอบให้เป็นพวกผ้าตัดเสื้อที่หายากมากในสมัยนั้น

เหตุการณ์ตอนนั้น ลำบากจริงๆ ญาติพี่น้องที่เป็นทหาร ก็ลำบาก เพราะการเป็นครอบครัวลูกกบฎสมัยจอมพล ป. ที่ยิงเป้าคนได้ง่ายๆ ถ้าเกิดมีปัญหาเป็นนักโทษการเมืองขึ้นมา ทำให้มีสันติบาลมานั่งเฝ้าอยู่หน้าปากตรอกบ้าน ใครจะช่วยเหลือก็ไม่กล้า พี่น้องทุกคนเข้าเรียนโรงเรียนรัฐบาลไม่ได้ รับราชการไม่ได้ ต้องเลี่ยงเข้าโรงเรียนอาชีวะหรือโรงเรียนราษฎร์ แม่เองก็ได้ไปสอบชั้น ม.6 อยู่ที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสรณ์

ชีวิตของแม่หลังจากที่กลายเป็นลูกกำพร้าอย่างสมบูรณ์แบบนั้น ยิ่งลำบากเข้าไปอีก แม่ได้อยู่กับญาติที่บ้านราชวัตรต่อไป ส่วนน้องชายไปอยู่กับญาติอีกบ้านหนึ่ง ทั้งๆที่ญาติพี่น้องมากมาย แต่ก็ไม่มีใครยื่นมือมาอุปถัมภ์จริงๆ แม้แต่คุณป้าของแม่บางคน ที่แม่เอาทองหยองเครื่องแต่งตัวของคุณยายไป “ไขว้เขว” หรือไปจำนำไว้ เพื่อนำเงินมาใช้จ่ายเป็นทุนการศึกษาและเงินประทังชีวิต พอแม่เรียนจบมีงานทำ จะนำเงินไปไถ่ของคืน แม่เห็นไกลๆว่า คุณป้าคนนั้น ใส่เข็มขัดทองของคุณยายอยู่ พอแม่เดินเข้าบ้านไป ก็รีบไปเปลี่ยนเสื้อเอาเข็มขัดออก และบอกว่า เครื่องแต่งตัวของคุณยายนั้นได้จำหน่ายออกไปจนหมดแล้ว ซึ่งคุณป้าคนนั้น ตอนหลังก็ได้รับกรรมที่ทำไว้โดยกลายเป็นผู้พิการไปในตอนบั้นปลายของชีวิต

หลังสงครามสงบ ท่านนักขัตรฯ ได้ไปทรงดำรงตำแหน่งเอกอัคราชฑูตที่ยุโรป แม่ได้รับความอุปการะทุนการศึกษาจากท่านนักขัตรฯ ทุกเทอม แม่ต้องนั่งรถรางเข้าไปกราบที่วังเทเวศน์หรือวังกรมพระจันท์ (พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาท) ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ไปหาคุณท้าววนิดาพิจาริณี ซึ่งเป็นคุณยาย ของสมเด็จฯ เพื่อรับค่าเล่าเรียน

ส่วนค่าใช้จ่ายในการกินอยู่นั้น แม่ได้รับการอุปการะจากท่านเจ้าคุณพิชัยสงครามและคุณหญิง ที่ท่านทั้งสองย้ายหนีสงครามมาจากบ้านสะพานหัน ไปที่บ้านสวนฝั่งธนอยู่ตรงบุคคโล เลยวงเวียนใหญ่ไปตรงดาวคะนอง เข้าซอยไป ต้องเอารถไปจอดเป็นโรงจอดรถ แล้วเดินเข้าไป หน้าบ้านจะมีกริ่งแบบโบราณที่เป็นเหล็กคล้ายๆแหวน ใช้ดึงเอา เหล็กเส้นยาวๆที่ผูกต่อวงแหวนเหล็กก็จะเข้าไปเขย่ากระดิ่งให้คนในบ้านได้ยิน เพราะประตูใหญ่และตัวบ้านอยู่ห่างกันมาก มีทางเดินเป็นซีเมนต์ทอดยาวผ่านสวนเข้าไป ตัวบ้านเองอยู่ริมคลองบางไส้ไก่ สมัยก่อนมีเรือก๋วยเตี๋ยวมาทุกวัน มีสวนอยู่เป็นไร่ๆ มีท้องร่องปลูกผลไม้หลายชนิด เรือนของท่านเจ้าคุณเป็นเรือนไม้สองชั้น มีนาฬิกาปารีสโบราณเต็มบ้าน แม่ต้องคอยเดินไขทุกเรือนทุกวัน เวลาตีจะตีพร้อมกัน เป็นที่หนวกหูมากๆ แต่เป็นที่โปรดปรานของท่านเจ้าของบ้านมาก

จะกล่าวถึงเมื่อเวลาผ่านไปอีกหลายสิบปี เมื่อตอนหลัง ที่แม่ได้แต่งงานแล้ว ขณะนั้น สร้างบ้านอยู่แถวๆถนนเจริญนคร ไม่มีที่อยู่ แม่ก็ได้มาอาศัยอยู่บ้านนี้อีกชั่วคราว ท่านเจ้าคุณก็ล้มป่วยลงที่โรงพยาบาลจุฬาฯ โดยเป็นคนไข้ในพระบรมราชานุเคราะห์

มีอยู่คืนหนึ่ง เจ้าคุณตายังอยู่ที่โรงพยาบาล แม่ก็เข้านอน ปูที่นอน กางมุ้งอยู่กับพื้น ปรากฎว่านอนสักพักก็หลับไป คืนนั้น พระจันทร์แรม แสงสลัวๆ ดูไม่สว่างเท่าใดนัก เสียงหริ่งหรีดเรไรในสวนก็ดังจนน่ารำคาญทั้งๆที่แม่ก็ชินเสียแล้ว แม่ลืมตาขึ้นมาโดยที่ยังครึ่งหลับครึ่งตื่น ก็เห็นท่านเจ้าคุณมายืนอยู่ตรงหน้ามุ้ง แต่งกายชุดธรรมดาๆที่ท่านใส่อยู่ประจำ มามองแม่กับพ่ออยู่พักใหญ่ แม่ก็นึกในใจอย่างง่วงๆว่า เอ๊ะท่านอยู่โรงพยาบาลไม่ใช่เหรอ แล้วก็หลับไป

ตอนเช้า แม่เล่าให้พ่อฟัง แต่ท่านเจ้าคุณตาก็ยังมีชีวิตอยู่ เพียงแต่อาการไม่สู้จะดีนัก ไม่รู้สึกตัวแล้ว หลังจากนั้นอีกแค่ 2-3 วัน ท่านก็สิ้นลมอย่างสงบ

คิดๆดูก็แปลกที่ “เจตภูต” ของคนที่ยังไม่ตาย เสมือนวิญญานออกจากร่างมาเยี่ยมลูกหลานว่าอยู่กันเรียบร้อยดีไหม เยี่ยมบ้านว่าเป็นอย่างไร

ปกติแม่เคยเห็นแต่วิญญานของคนที่ตายแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งเดียวที่เห็นวิญญานของคนที่ยังไม่ตาย ....

มันแปลกดีนะ




Create Date : 15 มกราคม 2552
Last Update : 16 มกราคม 2552 23:22:04 น. 6 comments
Counter : 1000 Pageviews.

 
แวะมาอ่านเรื่องราวดีๆ


โดย: sarntee วันที่: 15 มกราคม 2552 เวลา:17:28:36 น.  

 
แวะมาอ่านค่ะ
แอบติดตามมาหลายตอนแล้วค่ะ
มาอัพบล็อกบ่อยๆนะคะ รออ่านอยู่ค่ะ


โดย: The eye of earth วันที่: 16 มกราคม 2552 เวลา:15:23:22 น.  

 

คิดถึง...เลยเอาดอกไม้มาฝากจร้า...

เด๋วมาอ่านต่อนะจ๊ะ...




โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:00:14 น.  

 

ป้ามาติดประกาศ..จร้า...

ช้าปายฉองวานมะเปงรายน้า...




โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 16 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:18:24:23 น.  

 
สวัสดีครับ
แวะมาเยี่ยมนะครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 25 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:22:39:32 น.  

 
สนใจทุกเรื่องเลยชอบม๊ากมาย.......


โดย: อะฮ่า...หวัดดีค่ะ IP: 223.204.207.202 วันที่: 26 กันยายน 2554 เวลา:11:48:35 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.