
การยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ภายหลังจากผู้ตาย (เจ้ามรดก) ได้ถึงแก่ความตายแล้ว มรดก คือ ทรัพย์สินทุกชนิดของผู้ตาย รวมทั้งสิทธิหน้าที่และความรับผิดต่าง ๆ ของผู้ตาย เช่น ที่ดิน เงินฝากธนาคาร หุ้น ค่าเช่า ดอกเบี้ย เงินปันผล หนี้ ภาระติดพันทั้งการจำนอง จำนำ หรือ ค้ำประกัน เป็นต้น จะตกทอดแก่ทายาทโดยธรรม แต่ก็อาจเกิดปัญหาในการแบ่งมรดก เช่น ไม่สามารถจดทะเบียนโอนที่ดินได้ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน หรือ ลูกหนี้ของเจ้ามรดกไม่ยอมชำระหนี้ กฎหมายจึงให้ตั้งผู้ที่จะมาจัดการมรดกของเจ้ามรดกซึ่งเรียกว่า “ผู้จัดการมรดก“ แม้เจ้ามรดกจะทำพินัยกรรมโดยจะตั้งผู้จัดการมรดกตามพินัยกรรมไว้หรือไม่นั้น ทายาทผู้รับมรดกตามพินัยกรรมก็มีความจำเป็นต้องร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก เช่นกัน >> ทายาทที่มีสิทธิรับมรดก ได้แก่ - ผู้รับพินัยกรรม
- ทายาทโดยธรรม ซึ่งมีสิทธิได้รับมรดก มี 6 ลำดับ ดังนี้
- ผู้สืบสันดาน
- บิดามารดา
- พี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกัน
- พี่น้องร่วมบิดาหรือร่วมมารดาเดียวกัน
- ปู่ ย่า ตา ยาย และ
- ลุง ป้า น้า อา
>> คุณสมบัติของผู้จัดการมรดก - บรรลุนิติภาวะ (มีอายุ 20 ปีบริบูรณ์)
- ไม่เป็นคนวิกลจริต
- ไม่เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
- ไม่เป็นคนล้มละลาย
>> เขตอำนาจศาล ให้ยื่นต่อศาลที่ผู้ตาย (เจ้ามรดก) มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลในขณะถึงแก่ความตาย ได้แก่ ศาลแพ่ง (กทม.), ศาลจังหวัด (ต่างจังหวัด) หากผู้ตายมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศ ให้ยื่นต่อศาลที่ทรัพย์มรดกนั้นตั้งอยู่ในเขตศาล 1. จ้างทนายความยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก (เรทค่าจ้าง 6000 – 20,000 บาท) 2. ติดต่อสำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด ดำเนินการยื่นคำร้องให้แทน (มีค่าใช้จ่ายประมาณ 700 – 1000 บาท (ค่าธรรมเนียมศาล + บางศาลยังมีค่าประกาศทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น) ทั้งนี้ ทายาททุกคนต้องเซ็นต์ให้ความยินยอม และเอกสารจะต้องครบถ้วนเท่านั้นอัยการจึงจะสามารถดำเนินการให้ได้ 3. ทายาทดำเนินการยื่นด้วยตนเอง เบิกความด้วยตนเอง (ค่าใช้จ่ายประมาณ 700 – 1000 บาท (ค่าธรรมเนียมศาล + บางศาลยังมีค่าประกาศทางหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น) >> เอกสารหลักฐานที่จะต้องใช้ในการยื่นคำร้องขอให้ศาลตั้งผู้จัดการมรดก1. เอกสารผู้ตาย (เจ้ามรดก) – ใบมรณบัตรหรือหนังสือรับรองการตาย (ขอที่เทศบาลหรือที่ว่าการอำเภอ) – ทะเบียนบ้าน , บัตรประจำตัวประชาชนผู้ตาย (ถ้ามี) – ใบสำคัญการสมรส (ทะเบียนสมรส) กรณีผู้ตายจดทะเบียนสมรส – หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล (ถ้ามี) 2. เอกสารของบิดาและมารดาของผู้ตาย กรณียังมีชีวิต – ทะเบียนบ้าน, บัตรประจำตัวประชาชน – ใบสำคัญการสมรส (ทะเบียนสมรส) กรณีเสียชีวิต – ใบมรณบัตร หรือ หนังสือรับรองการตาย (ขอได้ที่เทศบาล หรือ ที่ว่าการอำเภอ) 3. เอกสารของคู่สมรสของผู้ตาย กรณียังมีชีวิต – ใบสำคัญการสมรส (ทะเบียนสมรส) – ทะเบียนบ้าน – บัตรประจำตัวประชาชน – หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล (ถ้ามี) กรณีเสียชีวิต – ใบมรณบัตร หรือ หนังสือรับรองการตาย (ขอได้ที่เทศบาล หรือ ที่ว่าการอำเภอ) 4. เอกสารของบุตรของผู้ตาย กรณียังมีชีวิต – ทะเบียนบ้าน – บัตรประจำตัวประชาชน หรือ (ยังไม่มีบัตรประจำตัวประชาชนให้ใช้ สูติบัตร) – หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อตัว – ชื่อสกุล (ถ้ามี) – ถ้าบุตรของผู้ตายคนใดสมรสแล้ว ให้เพิ่ม ใบสำคัญการสมรส (ทะเบียนสมรส) กรณีเสียชีวิต – ใบมรณบัตรหรือหนังสือรับรองการตาย (ขอได้ที่เทศบาล หรือ ที่ว่าการอำเภอ) 5. เอกสารอื่น ๆ – บัญชีเครือญาติ (ผู้ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก เป็นผู้ลงชื่อรับรองบัญชีเครือญาติ) ขอแบบได้ที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด (กรณีว่าจ้างทนายความ ทนายจะเป็นผู้จัดทำบัญชีเครือญาติให้) – หนังสือให้ความยินยอมในการร้องขอจัดการมรดก (บิดา,มารดา,คู่สมรส และบุตรของผู้ตายทุกคนที่ยังมีชีวิตต้องลงชื่อยินยอม (ยกเว้นผู้ที่ร้องขอเป็นผู้จัดการมรดก))ขอแบบได้ที่สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายและการบังคับคดีจังหวัด (กรณีว่าจ้างทนายความ ทนายจะเป็นผู้จัดทำหนังสือให้ความยินยอม) – เอกสารที่เกี่ยวกับทรัพย์มรดก เช่น โฉนดที่ดิน, น.ส.3, สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ, สมุดเงินฝากธนาคาร, ทะเบียนอาวุธปืน และอื่น ๆ >> วิธียื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก – ยื่นคำร้องต่อศาลที่ผู้ตายมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลในขณะถึงแก่ความตาย ได้แก่ ศาลแพ่ง (กทม.), ศาลจังหวัด (ต่างจังหวัด) หากผู้ตายมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างประเทศ ให้ยื่นต่อศาลที่ทรัพย์มรดกนั้นตั้งอยู่ในเขตศาล – ยื่นคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ผ่านทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing) ได้ – เมื่อยื่นคำร้องต่อศาลแล้ว กำหนดวันนัดไต่สวนคำร้องขอตั้งผู้จัดการมรดก ใช้ระยะเวลาดำเนินการประมาณ 45 – 60 วัน – ส่วนการไต่สวนคำร้อง ผู้ร้องสามารถยื่นคำร้องขอใช้วิธีพิจารณาคดีทางอิเล็กทรอนิกส์ ผ่านระบบประชุมทางจอภาพอิเล็กทรอนิกส์ โดยใช้โปรแกรม (Google Meet , Zoom Meeting , Line Meet) ได้ ผู้จัดการมรดก มีหน้าที่รวบรวม ทำบัญชี และแบ่งปันทรัพย์สินซึ่งเป็นมรดกของผู้ตายให้ทายาทโดยธรรมผู้มีสิทธิรับมรดกหรือผู้รับพินัยกรรม ตลอดจนชำระหนี้สินของเจ้ามรดกแก่เจ้าหนี้ ทำบัญชีทรัพย์มรดกและทำรายการแสดงบัญชีการจัดการและแบ่งมรดก โดยต้องจัดการไปในทางที่เป็นประโยชน์แก่มรดก จะทำนิติกรรมใด ๆ ที่เป็นปรปักษ์ต่อกองมรดกไม่ได้
Create Date : 09 มีนาคม 2566 |
Last Update : 9 มีนาคม 2566 0:27:29 น. |
|
0 comments
|
Counter : 365 Pageviews. |
 |
|