พฤษภาคม 2559

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
ไปแล้ว รัก "เลย" ทริปครอบครัว 3 วัน 2 คืน




ไปแล้ว รัก "เลย"
 พาครอบครัวไปเที่ยว เลย 3 วัน 2 คืน
เชียงคาน ภูเรือ ภูกระดึง
พักที่ The Creek Villa



สวัสดีค่ะ jellyjourney blog นี้พากลับมาเที่ยวในประเทศไทยกันดูบ้าง ทริปนี้ไปมาเมื่อช่วงคริสต์มาสปีที่แล้วค่ะ ไปจังหวัด เลย เนื่องจากคุณลุงกับคุณป้าอาศัยอยู่ที่จังหวัดเลย และเพิ่งเปิด The Creek Villa พวกเราเลยยกโขยงกันไปเยี่ยมชมค่ะ

เดินทางโดยสายการบินแอร์เอเชีย FD 3542 ออกเวลา 10.30 จากสนามบินดอนเมือง ค่าตั๋วเครื่องบินแพงมากๆประมาณ 5 พันบาท เพราะเป็นช่วงเทศกาลค่ะ เดินทางถึงท่าอากาศยานเมืองเลยเวลา 11.20 


ลงเครื่องปุ๊ปคุณป้าก็พาไปทานอาหารเวียดนามกันก่อนเลยที่ร้าน เลย ดานัง สาขา 2 บรรยากาศดีค่ะ มองไปเห็นต้นไม้ร่มรื่น ร้านนี้สามารถรองรับลูกค้าได้มากพอสมควร มีการแบ่งที่นั่งเป็นหลายโซน สามารถมาจัดเลี้ยงหรือทานอาหารเป็นหมู่คณะได้


ทานกันหลายอย่างเลย


เติมพลังเสร็จเรียบร้อยเราก็เดินทางต่อไปยัง อ.เชียงคาน ระหว่างทางก็แวะข้างทางถ่ายรูปกับแปลงดอกไม้สวยๆ


ถึงแล้ว destination แรก-แก่งคุดคู้

แก่งคุดคู้ Smiley

แก่งคุดคู้เป็นแก่งขนาดใหญ่บริเวณแม่น้ำโขง เราสามารถมองเห็นความสวยงามตามธรรมชาติของดิน หิน ทรายบริเวณนี้ กระแสะน้ำที่ไหลทำให้มีการรวมตัวของหินมากมายเกิดเป็นกองหินก้อนใหญ่ๆหลายๆก้อนทอดตัวขวางแม่น้ำโขง ถ้าหากมาเที่ยวในช่วงหน้าร้อน น้ำจะลดทำให้เราสามารถเห็นหินในแก่งคุดคู้มากเป็นพิเศษ

เราสามารถที่จะลงไปเดินด้านล่างหรือจะล่องเรือชมทัศนียภาพริมฝั่งแม่น้ำโขงได้ด้วยนะ ด้านล่างนี้เป็นวิวสวยๆที่แก่งคุดคู้ยามพระอาทิตย์ใกล้ตกค่ะ ภูเขาที่เห็นอยู่ฝั่งลาวชื่อว่าภูควายเงิน


ซูมเข้าไปอีกนิด


ทำไมถึงชื่อ “แก่งคุดคู้”ที่นี่เค้ามีตำนาน เล่ากันมาว่า…

"กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วมีนายพรานชื่อ “จึ่งขึ่งดังแดง” ไล่ล่าตามควายเงินพอถึงริมโขงเห็นควายเงินหยุดกินน้ำ นายพรานง้างหน้าไม้เตรียมยิงแต่พอดีมีเรือแล่นผ่านมา ควายเงินตกใจวิ่งหนีขึ้นไปบนภูเขาลูกหนึ่งทำให้ภูเขาลูกนั้นชื่อ “ภูควายเงิน” ส่วนนายพรานโมโหยิงพลาดไปถูกเขาลูกหนึ่งพังทลายลงกลายเป็น “ภูผาแบ่น”

นายพรานเมื่อพลาดก็โกรธเรือว่าเป็นต้นเหตุจึงไปขนหินมาปิดลำน้ำโขงกั้นทางเดินเรือ แต่มีเณรรูปหนึ่งผ่านมาเห็นจึงออกอุบายให้นายพรานใช้ไม้เฮียะ
ผ่าซีกหาบหินแทน ไม้เฮียะผ่าแล้วจะเป็นสันคมกริบเมื่อนายพรานใช้หาบหิน ไม้นั้นก็บาดคอนอนตายคุดคู้อยู่ที่ริมโขงนั้นเองแก่งหินนั้นจึงเรียกว่า “แก่งคุดคู้”"

บริเวณรอบๆแก่งคุดคู้จะมีร้านขายเสื้อผ้าขายของกินมากมาย โดยเฉพาะมะพร้าวแก้วที่มีให้เลือกเยอะแยะเลยค่ะ อันเกรด A อร่อยมากๆ

เริ่มเย็นแล้วเราก็เดินทางต่อไปยังถนนคนเดินอันเลื่องชื่อ วันนั้นเป็นวันศุกร์ค่ะ แต่คนก็ไม่เยอะมากนะ เดินชิลล์ชิลล์ ทานอาหารเย็นที่ร้านเฮือนพลวงพระบาง เป็นอาหารไทย-อีสานรสชาติอร่อยดีค่ะ


เดินเล่นถนนคนเดินเชียงคานซื้ออะไรไม่ค่อยได้เลยค่ะ เพราะส่วนมากก็ขายของคล้ายๆกันไปหมดพวกเสื้อยืด พวกกุญแจ แต่ตกแต่งร้านกันสวยดี





โลตัสสาขานี้มันเท่มาก


นั่งรถกลับมายังที่พัก – The Creek Villa

The Creek Villa ตั้งอยู่ที่อำเภอภูกระดึง บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 142-143 ห่างจากทางเข้าภูกระดึงนิดเดียว บ้านพักมีทั้งหมด 10 หลัง (บ้านพักเตียงเดี่ยว 6 หลัง บ้านพักเตียงคู่ 4 หลัง) ราคาห้องละ 1,000 บาทค่ะ

ภายในห้องพักค่ะ - อันนี้ห้องประเภทเตียงเดี่ยว


ทางเดินด้านหน้าห้องพักร่มรื่นเชียว



โซนนี้เป็นโซนทานอาหารเช้าและจิบเครื่องดื่มชากาแฟ ราคาที่พักนี่รวมอาหารเช้าแล้วนะคะ


ห้องนี้เป็นห้องใหญ่พิเศษและก็เป็นห้องที่วิวดีเป็นพิเศษค่ะ เป็น 2 ห้องตรงข้ามกันซ้ายขวา ตรงกลางมีที่ว่างสำหรับจัดกิจกรรมหรือจะปาร์ตี้บาร์บีคิวปิ้งย่างก็ได้เก๋ไก๋สุดๆ ราคาเท่ากันกับห้องอื่นๆนะคะ


ด้านหน้าที่พักอยู่ติดถนนเลยค่ะ สังเกตเห็นได้ง่าย


ดอกไม้สวยๆที่ The Creek



แปลงสตอร์เบอร์รี่ก็มีน้าา



วันที่สอง

เช้าวันนี้เราไปเที่ยวใน อ. ภูกระดึงกัน

10.00: ภูกระดึง

เริ่มจากการแวะไปภูกระดึงแต่ไม่ได้ขึ้นภูกระดึงกันนะคะ เพราะไปกับผู้ใหญ่และคุณยายซึ่งอายุก็ 90 กว่าแล้วค่ะ

ถ่ายรูปเฉยๆเป็นผู้พิชิต “ตีน”ภูกระดึง 55


12.00: แวะทานอาหารกลางวันเป็นส้มตำ ปลาเผา




14.00: ภูป่าเปาะ Smiley

อีกหนึ่งที่เที่ยวที่เป็นไฮไลท์ของทริปนี้เลยนั่นคือ ภูป่าเปาะ หรือฟูจิเมืองเลยค่ะ

ภูป่าเปาะตั้งอยู่ที่ อ.หนองหิน อยู่ห่างจากตัวเมืองเลยประมาณ 45 กิโลเมตร และห่างจากสวนหินผางาม หรือกุ๊ยหลินเมืองไทยแค่ 7 กิโลเมตรเท่านั้นเอง ชื่อภูป่าเปาะนี้มาจากการที่ภูเขาตรงนี้มีไผ่เปาะเยอะ ไผ่เปาะก็เป็นไผ่ประเภทนึงที่พบได้ทั่วไปทางภาคอีสาน เมื่อมีไผ่เปาะเยอะ จึงกลายมาเป็นชื่อของภูป่าเปาะนี้เอง

เดิมภูป่าเปาะเริ่มเสื่อมโทรมเพราะมีผู้บุกรุกเข้ามายังภูป่าเปาะเพื่อตัดต้นไม้ จนผู้ใหญ่บ้านและชาวบ้านร่วมมือกันเพื่อจะฟื้นฟูสภาพภูป่าเปาะขึ้นมาจนกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวในปัจจุบัน และเพื่อเป็นการรักษาธรรมชาติไม่ให้ภูป่าเปาะเสื่อมลงจากการมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวจำนวนมาก ทางกลุ่มชาวบ้านจึงมีการบริหารจัดการการท่องเที่ยวในภูป่าเปาะไว้อย่างดีค่ะ การเดินทางท่องเที่ยวในภูป่าเปาะจึงเก๋มากเพราะเราต้องใช้บริการรถอีแต๊กของชาวบ้าน ไม่สามารถขับรถเข้าไปได้เองนะจ๊ะ รถอีแต๊กดัดแปลงมาจากรถไถนา โดยมีการเสริมที่นั่งเข้าไปที่นั่งมีเป็นแบบเก้าอี้ และถ้าใครอยากเพิ่มความตื่นเต้น ก็นี่เลยมานั่งด้านหน้ารถเหมือนเราค่ะ อากาศดี๊ดี ฝุ่นไม่ค่อยมีด้วย เพราะรถที่สวนกันก็เป็นได้แค่รถอีแต๊กของกลุ่มอื่นๆค่ะ


ภูป่าเปาะมีจุดแวะทั้งหมด 4 จุดด้วยกัน แต่ละจุดห่างกันประมาณ 200 เมตร จะมองเห็นวิวต่างกันแล้วเค้าก็ตกแต่งจุดชมวิวซะสวยงามเลย ถ่ายรูปออกมาแล้วน่ารักดีค่ะ รถอีแต๊กจะพาเรามาจอดตามแต่ละจุดและมีเวลาให้ถ่ายรูปตามใจชอบเลยค่ะ




วิวของภูหอหน้าตาเหมือนภูเขาไฟฟูจิมั๊ยคะ?นี่แหละที่ทำให้มีคนเรียกภูป่าเปาะว่าฟูจิเมืองเลย



จุดที่ 4 เป็นจุดสูงสุดต้องเดินขึ้นเขามาจากจุดจอดรถเล็กน้อย ประมาณ 200 เมตร พอให้หอบ 55 แต่ขึ้นมาแล้วคุ้มค่ะ มองเห็นวิวได้กว้างเลย เค้าบอกว่าตรงนี้เราสามารถชมวิวได้แบบ 360 องศาเลยนะ ถ้าวันไหนฟ้าใสๆเราสามารถมองเห็นอีก 8 สถานที่ท่องเที่ยวได้แก่ 1. ภูหินร่องกล้า 2. ภูหอ 3. ภูหลวง 4. ภูกระดึง 5. ภูผาจิต 6. ภูผาม่าน 7.สวนหินผางาม 8. เขาค้อ


ค่าบริการรถอีแต๊กคิดคนละ 60 บาท นั่งได้ไม่เกิน 10 คน แต่จริงๆนั่งซักประมาณ 5-7 คนต่อคันกำลังพอดีค่ะ ใช้เวลาท่องเที่ยวทั้งหมดประมาณ 2 ชั่วโมง

------

กลับมาที่พักพร้อมปาร์ตี้บาร์บีคิวค่ะ


อีกหนึ่งมุมสวยๆของ The Creek Villa สามารถที่จะจัดปาร์ตี้เล็กๆได้นะคะ ถ้าใครอยากจะจัด team outing ไม่เกิน 20 คน ที่นี่ก็เหมาะค่ะ หรือหากใครพาน้องหมาน้องแมวมา มีบริการที่พักให้สัตว์เลี้ยงแสนรักของเพื่อนๆด้วยค่ะ

ที่อยู่: เลขที่ 434 หมู่ที่ 2 ตำบลห้วยส้ม อ. ภูกระดึง จ. เลย 42180

Tel: 081 051 9134, 062 695 9934 Email: info@creekvilla.com


วันที่สาม

วันสุดท้ายแล้ว เราจะไปเที่ยว อ.ภูเรือกัน

12.00: เกษตรที่สูง หรือศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรที่สูงเลย

ตั้งอยู่ที่ ตำบลปลาบ่า อำเภอภูเรือ เป็นพื้นที่ที่ศูนย์วิจัยการเกษตรได้มาทำการทดลองปลูกพืชเมืองหนาว เนื่องจากบริเวณนี้มีอากาศเย็นตลอดปี ศูนย์วิจัยนี้ทำหน้าที่ด้านวิชาการในการศึกษาค้นคว้าทดลองไม้ดอกไม้ผลทั้งของเมืองหนาวและพืชสวนของท้องถิ่นที่เหมาะสมกับดินฟ้าอากาศและระบบนิเวศ ได้แก่ทุ่งซัลเวีย แปลงไม้กฤษณา สวนไม้หอมเฉลิมพระเกียรติ แปลงสตรอเบอร์รี่โรงเรือนเพาะชำ ไม้กระถาง จากนั้นก็นำผลการทดลองออกเผยแพร่แก่เกษตรกรและผู้ที่สนใจต่อไป

การเดินทางท่องเที่ยวในศูนย์วิจัยฯ เนื่องจากกว้างขวางมาก บางส่วนก็เดินได้ บางส่วนก็ต้องนั่งรถไปค่ะ เนื่องจากเรามีเวลาไม่มากจึงไปดูสวนดอกไม้ใกล้ๆบริเวณทางเข้าก็พอ แค่นี้ก็สวยงามมากแล้วค่ะ



เค้าจัดดอกไม้ไว้สวยมากๆ ที่นี่ไม่เก็บค่าเข้าชมด้วยนะคะ สถานที่ค่อนข้างไกลนิดนึงแต่คุ้มค่ากับการมาค่ะ ใครสนใจไปสามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์ 042-891-199 และ 042-891-398 ค่ะ

14.00: ล่องแพรับประทานอาหารที่แพไผ่งามบ้านห้วยกระทิง

เดินทางมาทานอาหารกลางวันที่ร้านแพไผ่งามตั้งอยู่ที่บ้านห้วยกระทิง ต.กกทอง อ.เมือง ร้านอาหารตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำห้วยกระทิงหรือชื่อที่ชาวบ้านเรียกคืออ่างเก็บน้ำหมานตอนบน เป็นอ่างเก็บน้ำสันเขื่อนดินสร้างขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์ทางการชลประทานค่ะ บรรยากาศสวยมาก เพราะเป็นอ่างเก็บน้ำที่มีภูล้อมรอบและมีลมโกรกสบายๆตลอดเวลา


ที่นี่มีร้านอาหารบนแพให้เลือกหลายร้าน วันนี้เรามาที่ร้านแพไผ่งาม เป็นการกินข้าวบนแพ ที่ลอยอยู่กลางน้ำครั้งแรกในชีวิต ขั้นแรกเราต้องทำการจองแพและสั่งอาหารให้เรียบร้อยบนบก ราคาค่าเช่าแพขึ้นกับขนาดค่ะ ถ้าแพเล็ก ไม่เกิน 5 คน 200 บาท, แพกลาง ไม่เกิน 10 คน 300 บาท, แพใหญ่ ไม่เกิน 20 คน 400 บาท ส่วนถ้าอยากให้เค้าลากแพชมบรรยากาศหรือเล่นน้ำ ต้องเสียค่าบริการลากแพเพิ่มอีกแพละ 300 บาทค่ะ


อาหารหลักของที่ร้านนี้ก็จะเป็นส้มตำไก่ย่าง ปลาเผา และอาหารอีสานอื่นๆ สั่งอาหารชำระเงินเสร็จแล้วเราก็ลงแพไปนั่งเล่นรอ จะมีพนักงานพาเราเดินไปยังแพหมายเลขที่เราจองค่ะ พออาหารมาครบ ในขณะที่รับประทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อย เค้าก็จะทำการลากแพเราไปลอยอยู่กลางอ่างเก็บน้ำ ใครจะลงเล่นน้ำก็โดดลงไปได้เลยหรือจะนั่งเอาเท้าจุ่มน้ำชิลล์ชิลล์ก็เพลินแล้วค่ะ




หมดเวลาสนุกแล้วสิ ต้องเดินทางกลับแล้ว เดินทางโดยสายการบินแอร์เอเชียเที่ยวบิน FD 3549 ออกจากเลย 6 โมงเย็น ถึงกรุงเทพ 19.20 ค่ะ

***************************

เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย – ทริปนี้เราพาคุณยายไปด้วยค่ะ คุณยายอายุ 94 ปี สามารถเดินได้ด้วยตัวเองแบบมีไม้เท้าคอยพยุง พอดีคุณยายเป็นคนแข็งแรงมากๆแต่เราก็ไม่อยากให้ยายใช้แรงเยอะโดยไม่จำเป็นอะเนอะ เราเลยได้มีโอกาสศึกษาวิธีการ request high lift ที่สนามบินดอนเมืองและอยากจะมาแชร์ให้เพื่อนๆฟัง

1. หลังจากซื้อตั๋วเครื่องบินแล้ว ประมาณ 1อาทิตย์ก่อนถึงวันเดินทาง โทรไป air asia callcenter แจ้งว่าจะขอ request wheel chair และ highlift สำหรับคุณยาย ทั้งขาไปและขากลับ (แจ้งชื่อและเที่ยวบินให้เรียบร้อย)

2. ถามทางแอร์เอเชียว่าสนามบินปลายทางมี high lift หรือไม่ ถ้ามีก็จะได้ใช้ highlift ทั้งที่ดอนเมืองและที่สนามบินปลางทาง แต่อย่างสนามบินเลยเป็นท่าอากาศยานเล็กๆไม่มี high lift ดังนั้นถ้าเดินไม่ไหวจริงๆเค้าจะอุ้มลงบันไดเครื่องมาค่ะซึ่งกรณีนี้ดูจะอันตราย ถ้าสามารถที่จะพอเดินลงบันไดไหวก็คอยประคองลงบันไดมาดีกว่า

3. วันเดินทาง ไปติดต่อที่เคาเตอร์ค่ะแล้วชื่อคุณยายก็จะอยู่ใน list แล้วเรียบร้อยเค้าจะให้มี 1 คนที่ต้องคอยดูแลผู้สูงอายุโดยจะต้องไปที่อีกเคาเตอร์นึงตามเวลาที่บอก แล้วจะมีพนักงานพาไปขึ้น highlift ขึ้นไปถึงประตูเครื่องบินโดยไม่ต้องเดินซักนิดเลย ส่วนผู้โดยสารคนอื่นก็เชคอินตามปรกติ..ไปเจอกันอีกทีก็บนเครื่องเลยค่ะ

4. ขากลับจากเลยมาดอนเมืองก็ทำเช่นเดียวกันคือติดต่อเคาเตอร์ที่เลยแล้วแจ้งว่าจะขอwheelchair และ high lift ที่ดอนเมืองอีกที พอไปถึงสนามบินดอนเมือง ก็จะมีคนมารอรับจากเครื่องพาคุณยายและผู้ติดตามลง high lift และก็นั่งรถเข้า terminalต่อด้วยมี wheelchair มารอรับแทบจะไม่ต้องเดินเหมือนเดิมค่ะ

ง่ายๆ 4 ขั้นตอนในการอำนวยความสะดวกผู้สูงอายุค่ะ


//jellyjourney.bloggang.com
facebook page: Jellyjourney




Create Date : 17 พฤษภาคม 2559
Last Update : 17 พฤษภาคม 2559 22:22:46 น.
Counter : 8360 Pageviews.

2 comments
  

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาตามเที่ยวด้วยคนครับ บล็อกนี้เป็ฯบล็อกท่องเที่ยวที่มีรายละเอียดเยอะมาก ๆ แบบว่าเอาไว้ใช้เป็นข้อมูลสำหรับจะไปเที่ยวได้เลย

ทั้งเชียงคานและภูกระดึงผมยังไม่เคยไปเที่ยวเลยครับ ดีจังนะครับได้เที่ยวกับครอบครัวด้วย ได้เที่ยวได้ใช้เวลาว่างกับครอบครัวนี้ดีที่สุดแล้วครับ

โหวตเพื่อเป็นกำลังใจให้ครับ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
jellyjourney Travel Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

อิอิ

โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 19 พฤษภาคม 2559 เวลา:0:35:10 น.
  
ตามมาเที่ยวเลยด้วยคนค่ะ
เคยไปเมื่อหลายปีมาแล้ว ตอนนั้นยังไม่บูมเหมือนกับตอนนี้
แต่ก็ธรรมชาติมากกว่าค่ะ
คุณยายอายุ 94 แข็งแรงมาก ๆ นะคะ ได้ไปเที่ยวกันพร้อมหน้าแบบนี้สมาชิกในครอบครัวมีความสุขแน่นอนค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
jellyjourney Travel Blog ดู Blog
โดย: เนินน้ำ วันที่: 24 พฤษภาคม 2559 เวลา:17:14:09 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jellyjourney
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]



สวัสดีค่ะ ชื่อ เยลลี่ นะคะ blog นี้สร้างขึ้นเพื่อเอาไว้แบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ในการไปเที่ยวของเรากับเพื่อนๆทุกคน เข้ามาเยี่ยมชม มาคุยกัน หรือมีอะไรติชมแนะนำกันได้นะคะ

Facebook page: Jellyjourney

follow my Instragram @JELLYJOURNEY for extraordinary pics in my ordinary life
+++ Please stay tuned for "Norway" trip +++