เมษายน 2558

 
 
 
1
2
3
4
5
7
8
9
10
12
13
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
27
28
29
30
 
 
All Blog
Italy [Review] Part 4: Rome เก็บตกโรม Trevi Fountain, Spanish steps, และ Gallery Borghese
ไขข้อข้องใจ บันไดสเปนเกี่ยวอะไรกับประเทศสเปน?
น้ำพุเทรวี่ ชื่อนี้มีที่มาจากไหน?
และจะพาไปเที่ยวพื้นที่สีเขียวสูดอากาศให้เต็มปอดในโรม



ความเดิมตอนที่แล้ว
Italy [Review] Part 1: Get Ready! จะไปอิตาลี รู้รึยัง?
Italy [Review] Part 2: Rome ตะลุยย่านเมืองเก่าในโรม Colosseum, Roman Forum และ Pantheon
Italy [Review] Part 3: Rome ตะลุยวาติกัน Vatican Museum, Sistine Chapel และ St'Peter Basilica

วันสุดท้ายในโรมแล้วจ้า วันนี้จะพาไป Gallery Borghese อีกหนึ่งมิวเซียมที่มีงานศิลปะเทพๆอยู่เพียบ และจะพาไปชมน้ำพุเทรวี่และบันไดสเปน, 2 landmark ที่ต้องมาเหยียบให้ได้ก่อนออกจากโรมจ้า

9.00: Gallery Borghese Smiley

เพื่อนๆจำกันได้มั๊ยเอ่ยจากบลอคแรกๆ เราบอกไปแล้วว่าที่นี่สามารถใช้ Roma pass ได้ โดยต้องมีการโทรมาจองรอบก่อน เนื่องจากวันนึงนี่จำกัดคนเข้าชมต่อรอบค่ะ และรอบนึงก็ให้ดูแค่ 2 ชั่วโมง เท่านั้น เรียกได้ว่า exclusive สุดๆ รอบที่เราจองไว้คือ 9.00 ค่ะ มาก่อนเวลาซักครึ่งชั่วโมงกำลังดีเลย

Gallery Borghese เป็นแค่ส่วนเล็กๆของ Villa Borghese ค่ะ Villa Borghese เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่ในโรม ภายใน Villa Borghese เป็นสวนสาธารณะที่ร่มรื่นมากค่ะ วันนี้ที่เราไปมีคนมาวิ่ง พาลูกพาหลานและพาน้องหมามาเดินเล่น สามารถปั่นจักรยานหรือเล่น rollerblade ได้ด้วยนะคะ เหมือนเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจยอดนิยมอีกที่หนึ่งในโรมค่ะ..Cardinal Scipione Borghese สร้างสวนสาธารณะแห่งนี้ขึ้นราวๆคริสต์ศตวรรษที่ 16 ต่อมาในปี 1902 รัฐบาลในยุคกษัตริย์ Umberto I ก็ได้ซื้อมาและตกเป็นของกรุงโรมจ้า

ส่วนที่เคยเป็นบ้านจริงๆก็คืออาคารที่เป็นที่ตั้งของแกลอรี่เลยค่ะ ตึกนี้สร้างขึ้นระหว่างปี 1609 ถึง 1613 เพื่อใช้เก็บผลงานศิลปะที่สะสมมาของตระกูลนี้, Cardinal Scipione Borghese เป็นผู้อุปถัมภ์ Bernini และชื่นชอบงานของ Caravaggio มากค่ะ ทำให้ด้านในเราจะเห็นรูปปั้นสวยๆฝีมือ Bernini อยู่เยอะมาก นอกจากนั้นยังมีวาดภาพของศิลปินผู้มีชื่อเสียงอีกเพียบ และด้วยความที่แกลอรี่จำกัดจำนวนผู้เข้าชมในแต่ละรอบ ทำให้แต่ละรอบสามารถดูได้อย่างสบายๆ ไม่ต้องเบียดกับใครค่ะ

Gallery Borghese มี 2 ชั้นนะคะ ชั้นล่างเป็นรูปปั้นและภาพวาดบางส่วน ส่วนชั้นบนจะเป็นภาพวาดค่ะ ที่นี่ถ่ายรูปได้นะคะ

David (1623-24) white marble cm. 170 | Gian Lorenzo Bernini


Apollo and Daphne Carrara's marble cm. 243 | Gian Lorenzo Bernini


Pluto and Proserpina (1621-22) white marble cm. 255 | Gian Lorenzo Bernini


นอกจากรูปปั้นที่สวยแล้ว ห้องก็มีการจัดไว้สวยงามมากๆค่ะ



เค้าก็กะเวลาไว้พอดีๆนะคะ 2 ชั่วโมงดูครบพอดีเลย ตอนเราเดินออกมาก็มีคนรอบต่อไปรอเข้าชมอยู่ค่ะ มีการจัดการผู้ชมได้ดีเลยทีเดียว

นี่คืออาคารด้านนอกค่ะ


พาลูกกับน้องหมามาเดินเล่นค่ะ


Need to know: เปิดอังคาร – อาทิตย์ ตั้งแต่ 8.30-19.30 ปิดวันจันทร์ และวันที่ 1 มกราคมและ 25 ธันวาคม

ราคาค่าเข้าชม 11 ยูโร แต่ที่สำคัญต้องโทรไปจองค่ะ เบอร์นี้เลย +39 06 32810 เค้ารับปุ๊ปก็บอกว่าขอจองรอบโดยมี Roma pass แล้ว จะไปวันไหน รอบกี่โมง (มี 9.00 11.00 13.00... คือทุกๆ 2 ชม. ไปเรื่อยๆค่ะ) และกี่คน เสร็จแล้วเราก็จะได้รับรหัสการจอง ไปถึงวันจริงก็เดินเข้าตรงที่ขายตั๋วบอกรหัสได้เลย

ส่วนถ้าใครไม่ใช้ Roma pass ก็เข้าไปจอง ที่นี่

ออกจากที่นี่แล้วต้องไปทานข้าวเที่ยงที่ร้าน Armando Al Pantheon ที่จองไว้จากวันแรกค่ะ ร้านอยู่แถว Pantheon ซึ่งต้องไปถึงบ่ายโมง เราเลยพอมีเวลาเดินเล่นใน Villa Borghese ซักนิดแล้วแวะไปชม Piazza อีกแห่งหนึ่งค่ะ

11.45: Piazza del Popolo

เราเดินออกจาก Villa Borghese ทางรถไฟใต้ดินสถานี Flaminio ซึ่งคนละทางกับทางที่เข้าเพื่อจะแวะไป Piazza del Popolo, Piazza แห่งนี้ใหญ่มากค่ะ ลักษณะเป็นวงกลมตรงกลางมี Obelisk จากอียิปต์เช่นเคย Piazza del Popolo หากแปลเป็นภาษาอังกฤษก็คือ People’s Square ค่ะ สถานที่สำคัญบริเวณนี้ คือ Santa Maria del Popolo ถ้ามีเวลาลองแวะไปดูโบสถ์นี้ด้านในได้ค่ะมีผลงานของ Raphael อยู่ด้านในโดมด้วย


เดินวน 1 รอบเสร็จก็ไปขึ้นรถใต้ดินที่สถานี Flaminio เพื่อไปลงสถานี Berberini ค่ะ

13.00: Lunch at Armandoal Pantheon

ออกจากรถไฟใต้ดินก็เดินขาขวิดไปร้านอาหารค่ะ สั่งมาทั้งหมด 5 จานด้วยกัน จัดเต็มเลยเพราะทานข้าวเช้ามาน้อยมากๆ ที่สั่งวันนั้นก็มีออเดิร์ฟ 2 อย่าง มี Artichoke เสริฟ์คู่กับ buffalo Mozzarella กับมะเขือม่วงอบชีส ส่วน main course สั่งเนื้อแกะ สปาเกตตี้คาโบนาราและเนื้อวัวอบซอสมะเขือเทศค่ะ

ตอนออเดิร์ฟมาเสริฟ์ มันอร่อยมากๆๆ แบบใช่เลย คุ้มค่าที่ต้องจอง แต่พอมาจานหลัก มัน “เค็ม” มากเลยค่ะ ประดุจดั่งทำเกลือหก แต่เราสังเกตนะว่าอาหารอิตาเลียนที่อิตาลีแท้ๆจะติดเค็มค่ะ แต่ร้านนี้สุดๆจริงๆ ส่วนของหวานสั่งแพร์เชื่อมค่ะ อร่อย..ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆเองค่ะ มีประมาณ 10 โต๊ะ ร้านนี้เป็นร้านดังเลยนะคะ มีคน local มาทานเยอะ ส่วนนักท่องเที่ยวก็เนี่ยแหละค่ะ เอเชียหัวดำนั่งกันอยู่ 2 โต๊ะ


ราคานี่แพงจับใจเลยค่ะ ทั้งหมดนี้ 95.5 ยูโร ร้านนี้เป็นร้านเดียวในทริปที่คิด cover charge คนละ 2 ยูโรค่ะ

ร้านค้าน่ารักๆระหว่างทางจาก Pantheon มา Trevi Fountain


หน้านี้เป็นหน้า Artichokes จริงๆค่ะ มีการนำมาโชว์หน้าร้านเลย


14.30: Trevi FountainSmiley

เดินเล่นดูร้านขายของระหว่างทางมาเรื่อยๆจนถึงTrevi Fountain ค่ะ ตอนที่มานี่น้ำพุยังซ่อมอยู่ คือซ่อมมานานมากแล้วแหละ ตั้งแต่ปี 2014 และตามแพลนคือหน้าหนาวปี 2015 นี้คงจะเสร็จสมบูรณ์ นี่ขนาดเรารู้อยู่แล้วว่าจะปิดซ่อมนะคะ พอไปเห็นของจริงๆแล้วตกใจอยู่นิดนึง คือซ่อมเยอะมากอะ น้ำนี่สูบออกหมดเลยค่ะ ยังดีนะที่เค้าทำทางเดินให้เดินชมได้ ถือว่าเป็นโอกาสพิเศษเลยนะคะเนี่ย ได้เข้าไปใกล้น้ำพุแบบ close up สุดๆ


ชื่อ Trevi เป็นชื่อของเขตนึงในโรมค่ะ Trevi Fountain ก็คือ น้ำพุที่ตั้งอยู่ในเขต Trevi นั่นเอง น้ำพุแห่งนี้เป็นผลงานการออกแบบของ Nicola Salvi สูง 26.3 เมตร กว้าง 49.15 เมตร เป็นศิลปะแบบบารอคค่ะ ตรงกลางเป็นเทพเจ้าเนปจูน ส่วนรูปปั้น 2 ข้างซ้ายขวาเป็นตัวแทนของ ความมีสุขภาพดี (good health) และ ความอุดมสมบูรณ์ (fertility) ค่ะ..ใครๆมาที่นี่ก็ต้องมาโยนเหรียญเค้าให้โยนเหรียญด้วยมือขวาข้ามไหล่ซ้ายไปค่ะ โดยมีการคาดการณ์ว่าในวันนึงมีคนโยนเหรียญลงไปมูลค่ารวมกว่า 3,000 ยูโร ซึ่งจะนำไปช่วยเหลือผู้ยากไร้ต่อไป ถ้าใครไปตอนซ่อมนี่ก็ต้องโยนเหรียญลงไปในบ่อที่ไม่มีน้ำนะคะ แปลกๆดี

16.00: Spanish StepsSmiley

อีกหนึ่ง Landmark สำคัญของโรม เคยสงสัยมั๊ยคะว่าทำไมต้องบันได”สเปน” ก็เพราะมันถูกตั้งชื่อตามสถานฑูตสเปนที่เคยตั้งอยู่ตรงนี้มาก่อนนั่นเองค่ะ ในหน้าร้อนบันไดสเปนจะสวยมากเพราะประดับด้วยดอกไม้ แต่หน้าหนาวก็โล่งๆกันไปค่ะ ไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ ขยะก็เยอะอยู่ แต่คนก็ยังมานั่งกันเยอะนะคะ ด้านหน้าบันไดสเปนมีน้ำพุฝีมือ Bernini อยู่ด้วย

บรรยากาศตอนฝนตก


บรรยากาศตอนกลางคืน


ถนนรอบๆบันไดสเปนนี้คงเป็นที่ถูกอกถูกใจของบรรดาสาวกแบรนด์เนมทั้งหลาย โดยเฉพาะถนน Condotti (Via Condotti) เป็นถนนสายยาวๆที่เต็มไปด้วยร้านแบรนด์เนมจ้า


ชอปปิ้งจนเพลิน เย็นแล้วก็กลับที่พักค่า ครบแล้วกับ 3 วันในโรม จริงๆยังมีย่าน Trastevere และ Jewish Getto ที่ยังไม่ได้ไป สงสัยต้องเก็บไว้คราวหน้า อิอิ

2 ภาพสุดท้ายเอามาฝาก เป็นสถานี Roma Termini และขบวนรถไฟใต้ดินที่เปรี้ยวที่สุดที่เคยเห็นมา




หวังว่าเพื่อนๆคงได้ข้อมูลไปไม่มากก็น้อยนะคะสำหรับการท่องเที่ยวในโรม แม้โรมจะมีถนนที่ซอกแซกเดินยาก ถนนมีขยะ ผนังมีพ่นสี แต่มันมีเสน่ห์มากค่ะลองมากันดูนะคะ แล้วจะติดใจ..เมืองต่อไป Florence ค่ะ ฝากติดตามกันต่อไปนะคะ Smiley

ฝากติดตามตอนต่อไปด้วยนะค่าา ตามด้านล่างเลย Smiley

Day 4 : Florence (Piazza del Duomo, Dante church, Palazzo Vecchio) here

Day 5 : Florence (Uffizi Gallery, Accadamia Gallery, Ponte Vecchio) here

Day 6 : Pisa and “The Mall” Outlet here

Day 7 : Siena (Duomo and Piazza del Campo) here

Day 8: Venice (Saint Mark Basilica, Doge’s palace, Bride of sighs) here

Day 9 : Murano and Burano island here

Day 10 : Milan (Duomo and Santa Maria Church for “The Last Supper”) here




Create Date : 14 เมษายน 2558
Last Update : 25 มิถุนายน 2558 21:46:42 น.
Counter : 17202 Pageviews.

6 comments
  
เห็นรูปในบล็อกนี้แล้วรู้สึกถึงอารมณ์ขลังๆ อึนๆ เทาๆ สื่อถึงตัวตนของโรมจริงๆค่ะ เมืองนี้ไปมาแล้วสองรอบ รอบที่สามต้องมีอีกแน่ๆ

ปล เห็นด้วยว่า อาหารรสเค็มนำจริงๆค่ะ
โดย: settembre วันที่: 15 เมษายน 2558 เวลา:17:32:10 น.
  

hbd จ้า
โดย: belle1 วันที่: 17 เมษายน 2558 เวลา:0:34:22 น.
  





สุขสันต์วันเกิดค่ะ ..

มีความสุขมากๆนะคะ ..


ตามไปเที่ยวด้วยคน ..

ขอบคุณค่ะ ..







โดย: foreverlovemom วันที่: 17 เมษายน 2558 เวลา:11:54:47 น.
  
สุขสันต์วันเกิดครับ
โดย: **mp5** วันที่: 17 เมษายน 2558 เวลา:17:02:39 น.
  
บ่อ Trevi Fountain เนี่ย ต่อให้ไม่มีน้ำ ถ้าเราไปถึงยังไงก็ต้องโยนเหรียญเหรอค่ะ แปลกดีเนอะ ^^
โดย: YingYang IP: 119.46.218.1 วันที่: 23 เมษายน 2558 เวลา:17:20:57 น.
  
ขอบคุณค่ะ เขียนเล่าให้รายละเอียดดีและมีประโยชน์มากๆเลยค่าา เหมือรได้ตามไปเที่ยวด้วยเลย
โดย: นิดออนเดอะโรด IP: 124.120.122.13 วันที่: 7 กันยายน 2562 เวลา:22:45:58 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jellyjourney
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 58 คน [?]



สวัสดีค่ะ ชื่อ เยลลี่ นะคะ blog นี้สร้างขึ้นเพื่อเอาไว้แบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ในการไปเที่ยวของเรากับเพื่อนๆทุกคน เข้ามาเยี่ยมชม มาคุยกัน หรือมีอะไรติชมแนะนำกันได้นะคะ

Facebook page: Jellyjourney

follow my Instragram @JELLYJOURNEY for extraordinary pics in my ordinary life
+++ Please stay tuned for "Norway" trip +++