เช้านี้อยู่ที่มุยเน่แล้ว ยังไม่ทันจะนอนเท่าไหร่เลย นาฬิกาปลุกดัง กระเด้งตัวออกจากเตียงทันควัน เดี๋ยวจะพลาดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ทะเลทรายสีขาว อ๊ะ งงหละสิ ทำไมเวียดนามถึงมีทะเลทราย ตอนแรก Jellyjourney ก็ไม่ยักกะรู้มาก่อนเหมือนกันว่าจะมีทะเลทรายที่อยู่ใกล้ประเทศไทยมากขนาดนี้ พอไปเที่ยวจริงๆละ โอ้โห มันสวยมากนะเนี่ย

มุยเน่เป็นเมืองเล็กๆติดทะเล อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ ห่างจากโฮจิมินท์ประมาณ 4 ชั่วโมงค่ะ ปัจจุบันเป็นเมืองตากอากาศและเป็นอีกหนึ่งเมืองท่องเที่ยวที่ห้ามพลาดหากมาเยือนเวียดนามใต้ ด้วยความที่ภูมิประเทศที่นี่น่าสนใจมากๆ ทำให้ที่มุยเน่มีที่เที่ยวหลักๆอยู่ 4ที่ค่ะ คือ ทะเลทรายขาว (White Sand Dune), ทะเลทรายสีแดง(Red Sand Dune), หมู่บ้านชาวประมง, และ ลำธารแฟรี่สตรีม (Fairy Stream) การเดินทางที่ง่ายสุดคือใช้บริการ half day tour ราคา 15 USD ต่อรถจิ๊บ 1 คัน ค่ะนั่งได้ 3 คนพอดี เราเริ่มทัวร์ตอน 4.30 จบประมาณ 8.30-9.00

4.30: White Sand Dune

4.30 ออกจากโรงแรมใช้เวลาประมาณ 50 นาทีเพื่อเดินทางไปทะเลทรายสีขาวไปถึงก็ยังมืดอยู่เลย แต่นั่นแหละค่ะ เป้าหมายของเราคือไปดูพระอาทิตย์ขึ้นบนเนินทราย ทะเลทรายสีขาวใหญ่กว่าที่คิดมาก ไม่ต้องคิดที่จะเดินขึ้นไปเลยเพื่อประหยัดเวลาและได้ลองทำกิจกรรมใหม่ๆ เราก็เช่ารถ ATV ขับขึ้นไปค่ะราคา 400,000 VND ต่อคันต่อชั่วโมง

ปรื๊นๆ ขับขึ้นไป แอบเสียวอยู่เหมือนกัน บางเนินก็ค่อนข้างสูงขึ้นไปด้านบน แทนที่จะเจอพระอาทิตย์ เรากลับได้พบปะกับดวงจันทร์แทน 55 ตอนเช้ามีคนพอสมควรค่ะ ไม่ถึงกับเยอะเท่าไหร่ ทะเลทรายคือใหญ่ ถ้าใครจะหามุมเงียบๆโล่งๆถ่ายรูปสวยๆก็ต้องขับออกไปไกลหน่อยซักนิดนึง แต่รับรองมีที่ให้โพสถ่ายรูปแน่นอน

ด้านนี้ของทะเลทรายมีคล้ายๆโอเอซิสเล็กๆด้วย น่ารักดี

ลมค่อนข้างแรงค่ะ ผมปลิวสไว

ที่นี่เนินทรายไม่ค่อยสูงมากนักถ้าเทียบกับทะเลทรายในประเทศตะวันออกกลางแต่ทรายที่นี่นิ่มดีค่ะ สีขาวสะอาดตาดีด้วย ช่างเข้ากับสีฟ้าใสของท้องฟ้าในวันนี้ได้เป็นอย่างดี

6.30: Red Sand Dune

อยู่ที่ทะเลทรายสีขาวซักชั่วโมงเราก็กลับมาขึ้นรถจิ๊บเพื่อไปทะเลทรายสีแดงกันต่อทะเลทรายสีแดงนี้อยู่ใกล้ตัวเมืองมุยเน่มากๆ ที่เก๋คือมันอยู่ติดถนนนี่แหละเดินข้ามถนนก็เข้าทะเลทรายเลย 

สาเหตุที่ถูกเรียกว่าทะเลทรายสีแดงก็เพราะสีของทรายจะออกสีแดงอิฐ ทรายมีความหนักมากกว่าทะเลทรายสีขาว แล้วมิหนำซ้ำเราต้องเดินเข้าไปในทะเลทรายด้วยตัวเองไม่มีรถทุ่นแรงแล้วค่ะ เป็นการออกกำลังกายดีๆนี่เอง

กิจกรรมสุดเด็ดห้ามพลาดเลยคือการเล่นสไลด์เดอร์ลงเนินทรายค่ะ จะเอาหน้าลง หลังลง ลงกันที่หลายๆคน ทำได้หมดเลย จะมีคุณป้าให้เช่าแผ่นสไลด์เดอร์ราคาก็ตามต่อรองเลยค่ะ มีทั้งครั้งละ 20 บาท จนไปถึง 1 USD unlimited เล่นกี่ครั้งก็ได้ เวลาเล่นต้องระวังนิดนึงนะคะ ข้าวของสัมภาระก็ฝากเพื่อนไว้ หมวกแว่นกันแดดถ้ากลัวตกก็เก็บไว้ให้ดี ไม่งั้นโดนกลืนหายไปในทะเลทรายไม่รู้ด้วยน้า

7.30: Fisherman village

เล่นกันพอหอมปากหอมคอ ต้องกลับมาที่รถเพื่อไปหมู่บ้านชาวประมง เรือหาปลาของที่นี่น่ารักมากเลยค่ะ หน้าตาจะคล้ายๆขันขนาดใหญ่ แถมมีสีสันหลากหลายเหมือนขันจริงๆด้วย ถ่ายรูปออกมาสีสวยดี

จับปลาเสร็จก็มาคัดแยกและขายปลากันตรงนั้นเลย ให้บรรยากาศหมู่บ้านชาวประมงดีจริงๆ เดินเล่นริมทะเลซักพักก็เจอน้องปลาดาวน่ารักเชียว

8.00: Fairy Stream

ที่สุดท้ายของวันนี้คือลำธารแฟรี่สตรีม เป็นหนึ่งในที่ที่ไปแล้วจะประทับใจกับความสวยงามของธรรมชาติที่นี่ น้ำจากภูเขาไหลลงมากัดเซาะทำให้เกิดเป็นเสาหินแท่งๆและหน้าผาที่โดนกัดเซาะลดหลั่นกันไป น้ำในลำธารเย็นสบาย เราต้องถอดรองเท้าเดินเอานะคะ ความสูงน้ำแค่ตาตุ่มค่ะ น้ำเย็นดีแต่ไม่ใสนะ เพราะด้านล่างเป็นทราย

จุดยอดนิยมที่ต้องมาโพสต์ท่าถ่ายรูปค่ะ สีขาวและสีส้มตัดกันอย่างลงตัว กว่าจะมาถึงจุดนี้ต้องเดินประมาณซัก 15 -20 นาทีได้ค่ะ ระหว่างทางเราจะรู้สึกว่า เอ๊ะ นี่มันต้องเดินไปถึงตรงไหน แล้วข้างหน้าจะมีอะไรอีกรึปล่าวเนี่ย เราก็ใช้วิธีถามคนที่เดินกลับมาเลยค่ะ ว่ายังมีอะไรให้ดูอีกรึปล่าว เค้าก็ตอบมาว่ามี เราก็เลยเดินต่อมาเจอเนี่ยแหละค่ะ 55

...ถ้าจะมาทางนี้ จากจุดลงลำธารให้เดินไปทางขวานะคะ ส่วนทางซ้ายมีอะไรเราก็ไม่ทรายเหมือนกันเพราะไม่มีเวลาเดินย้อนไปทางนั้น

8.30 หมดเวลาเดินกลับไปขึ้นรถจิ๊บ กลับที่พักค่ะ โชคดีที่บอกโรงแรมตั้งแต่ตอนเชคอินว่าให้เก็บอาหารเช้าใส่กล่องไว้ให้หน่อยเพราะจะออกไปเช้ามาก ไม่มีเวลาทานอาหาร กลับมาเลยได้รองท้องด้วย ไส้กรอก ไข่ต้ม ขนมปัง และแก้วมังกร

10.30: lunch at Lam Tong

ออกไปทานอาหารที่ร้าน Lam Tong ร้านอาหารริมทะเลใกล้ๆที่พักอาหารอร่อยดีค่ะ สด ราคาไม่แพงด้วย

ข้าวผัด – ปลานึ่ง – ปูนึ่ง – ปลาหมึกผัดซอสมะขาม

เดินเล่นริมทะเล ดูผู้คนมาเล่นน้ำ บางคนเล่นกีฬาทางน้ำค่ะ

กลับไปเก็บกระเป๋า อาบน้ำอีกซักรอบ ก่อนลงมารอรถไปดาลัทค่ะ ได้เวลาเที่ยงครึ่งรถมารับพอดีเป๊ะ..ต่อไปความสนุกจะบังเกิดแล้ว เมื่อรถที่ต้องนั่งไปดาลัทมันไม่ใช่อย่างที่คิด!!

เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่มีวันลืมได้เลย รถตู้คันเล็กๆ แอร์ไม่เย็น นั่งเบียดกันเต็มคัน นอกจากผู้โดยสารแล้ว รถตู้ยังเป็น cargo รับส่งพัสดุด้วยค่ะ! รถตู้นี้จะแวะรับคนไปตามโรงแรม กว่าจะมาถึงโรงแรมเราก็เกือบจะเป็นกลุ่มสุดท้ายแล้ว ได้นั่งแถวหลังสุด ระหว่างทางมีฝรั่งถอดใจ ไม่ไหวกับสภาพรถขอลงระหว่างเลย

เป็นข้อเตือนใจเลยว่า ถ้าใครจะนั่งรถจากมุยเน่ไปดาลัท อย่าลืมคุยกับ agency ให้ดีบอกขอรถคันใหญ่ ไม่งั้นจะได้รถคันเล็ก นั่งกระแทก เด้งๆ แอร์ไม่เย็น ฝุ่นเข้ารถนั่งพังๆไปตลอด 5 ชั่วโมงอย่างเรา TT เศร้าสุดๆ

นี่เลยค่ะ รถเรา local bus คันซ้าย เทียบกับรถของบริษัท Sinh คันขวา รถเรามีดีอย่างเดียวค่ะ ขับเร็วดี ถึงเร็ว แต่ก็แลกมากับการนั่งเด้งๆตลอดทาง ถนนระหว่างมุยเน่ไปดาลัทมันแย่มากจริงๆ

ติดตามพาร์ทอื่นๆของทริปเวียดนาม ได้ตามนี้เลยค่า 

South Vietnam -โฮจิมินท์ มุยเน่ ดาลัท 4 วัน 3 คืน 1 internal flight (Part 1/4)