เป็นคำกล่าวของนักบุญเปโตรในพระคัมภีร์ใหม่ ข้าพเจ้าอ่านแล้วสะดุดกับประโยคนี้มาก

จะมีสักกี่คนที่ทำได้ แค่รักกันก็ยากแล้ว ปัจจุบันนี้ปีศาจครองโลกไปแล้ว มันมาในรูปแบบต่างๆ มากมาย จนข้าพเจ้าคิดไม่ถึงเลยทีเดียว

คนเราจะรักกัน ก็ต้องมีอะไรที่สามารถเข้ากันได้อย่างใดอย่างหนึ่ง ซึ่งยากมาก ขนาดพี่น้องยังฆ่ากันตายเพราะมรดกของพ่อแม่ นับประสาอะไรกับคนอื่น

แล้วนี้นักบุญเปโตรยังบอกให้รักกันจากใจ "จากใจ" นะ หมายถึงไม่ใช่สวมหน้ากากเข้าหากัน แต่คนทุกวันนี้ ใส่หน้ากากเข้าหากันทั้งนั้น ภายนอกนอกยิ้มแย้มให้ พูดจาไพเราะอ่อนหวาน แต่ภายในกลับเป็นอีกขั้วหนึ่งเลย

บางคนชอบคนแรงๆ ตรงๆ ด่าแรง เสียงดัง เพราะดูแล้วแสดงออกว่าจริงใจมากกว่า แต่ว่าคนเป็นสิ่งที่พระเจ้าให้อยู่รวมกัน การพูดแรงๆ ตรงๆ หรือใช้เสียงดัง อาจไม่เหมาะก็ได้ ตัวอย่างเช่นข้าพเจ้า เป็นต้น เพราะข้าพเจ้าชอบอยู่เงียบๆ อ่านหนังสือ ดูสารคดีที่สนใจ ดูตลก ถ้าข้าพเจ้าทำผิดอะไร ก็เรียกมาบอกกันตรงๆ โดยมีข้อแม้ว่าใช้น้ำเสียงที่นุ่มนวล พูดด้วยดีๆ ไม่ใช่เสียงดังใส่ หรือบ่น ด่า แค่เบาๆ แล้วปล่อยให้เรื่องผ่านไป ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าเป็นเหมือน "โคนันทวิศาล" ตีให้ตายก็ไม่ทำ แต่ถ้าพูดดีๆ ด้วยจากใจ จะทำให้

นี่ ! นักบุญเปโตรยังบอกให้รักันจากใจจริง "ยิ่งๆ ขึ้นเถิด" นั่นหมายความว่า วันนี้ ฉันรักคนนี้ หนึ่งส่วนจากใจ พรุ่งนี้ฉันต้องเพิ่มมากขึ้นอีก โอ๊ย ! ยาก คนที่ไหนจะทำได้

ตัวข้าพเจ้ายังมีอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ นี่ขนาดทานยาควบคุมอารมณ์อยู่นะ ถ้าไม่ได้ยาคงแย่

อย่างวันนี้ข้าพเจ้าอดทนกับน้ำเสียงของเพื่อนร่วมงาน ทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกว่า เขาพูดด้วยการประชดประชัน ข้าพเจ้าอดทนไม่โต้เถียงทำเป็นไม่ได้ยิน แต่จริงๆ แล้ว ข้าพเจ้าแต่จะกระโดดเข้าไปบีบคอเขาให้เขาเจ็บ จนไม่กล้ามายุ่งกับข้าพเจ้าอีกเลย ข้าพเจ้าต้องระลึกเสมอว่า ข้าพเจ้าต้องอดทน และไม่ใช่ความรุนแรง ถ้าเล่าเรื่องนี้ให้จิตแพทย์ฟังนะ ได้แอดมิดแน่นอน

จี๋ กวางน้อย