ต่อจากบลอคที่แล้ว ... เรากำลังออกจากเกาะหินงาม
ต้นอะไรหว่าขึ้นอยู่บนหาด... สีสวยดี ขอลองกล้องสักหน่อย..
ลงหาดมาได้สักพักฝนก็ปรอยลงมา...
"อย่างเม็ดฝนที่ตกลง.. มา.. กระทบน้ำทะเล...
นี้... มองดีๆ.... เหมือนเม็ดคริสตัลสีเขียวเลย....
เม็ดคริสตัล กลิ้งอยู่บนผิวน้ำทะเต็มไปหมด สุดลูกหูลูกตา..."
555+ เพ้อ จริงๆ .... แต่นะ หนอนว่า.. อารมณ์เดียวกับ
ที่หนอนเคยไปเที่ยวระยองแล้ว ลงเล่นน้ำหน้าหาดตอนพระอาทิตย์ตกดินอะ
ตอนนั้น แสงอาทิตย์มันสะท้อนกับผิวน้ำทะเล มองเป็นสีทองระยิบระยับเต็มไปหมด
สวยมากๆ ... ตอนนี้ก็เหมือนกัน.. แต่เปลี่ยนเป็นเม็ดคริสตัลแทน
เหอๆ ... หนอนจะอินกับธรรมชาติมากไปไหมเนี๊ยะ
ผองเพื่อน พอรู้ว่า กล้องกันน้ำได้...
ก็ของลองกล้องกันใหญ่ .... เอาจมน้ำ... ก็เจอความขุ่นอย่างนี้ล่ะ
ฝนลงเม็ดหนักขึ้น... แต่เราก็ยังเล่นกันต่อ..
มองไปกรุ๊ปข้างๆ เค้าก็ลงมาเล่นน้ำเหมือนกัน.. ทำให้ตอนนี้ คนเต็มหาดเลย
ครึกครื้นมาก... แถมแอบแลหางตาไป น่านนนน กล้องรุ่นเดียวกับ สีนิลเลย
ถ่ายกันใหญ่..
ฮูแล....
มองเข้ามาที่หาดบ้าง..
เล่นน้ำเหนื่อยแล้ว... ขึ้นมาเก็บภาพด้านบนกันบ้าง..
จากนั้นก็มาล้างเนื้อล้างตัวรอฝนหยุด...
ด้านบนมีน้ำจืดที่ต่อลงมาจากน้ำตกให้ล้างตัว...
คนยังยืนอออยู่ด้านในกันเต็มเลย
ไม่นานฝนก็ซาลง...
แต่เมฆก็ยังครึ้มอยู่
พวกเราเลยเดินกลับมาที่เรือ เพื่อกินอาหารกลางวัน..
อาหารมื้อนี้ ของเรา เป็นข้าวกล่อง... ข้าวเยอะมากกก..
นั่งกินกันตรงนิ๊.. ตบท้ายด้วย แตงโม และสับปะรดชุ่มฉ่ำ
กินไป.. ฝนก็ปรอยๆ ตกใส่ข้าวไป... จนข้าวเกือบกลายเป็นข้าวต้มแนะ..
เลยต้องหลบเข้ามากินผลไม้ในนี้ แทน...
เพิ่งเห็นป้ายย.. งดดำน้ำดูประการัง
ออกจากเกาะราวี นั่งเรือ ต่อ มาแวะ.. ดำน้ำ(ของจริง) กันจุดแรกที่เกาะรัง(ถ้าจำไม่ผิดนะ)
เอิ๊กกก.. กลับมาหลายวันเริ่มจะลืมๆ เลือนๆ ไปแล้ว..
ตรงนี้ มองเห็นหาดทรายเล็กๆ สีขาว หนอนไม่ได้ถ่ายรูปไว้ พอเรือจอดก็เริ่ม
เอิ่มมมม แบบว่า เกิดอาการเมาเรือ again เลยต้องรีบจรลีลงเรือโดยด่วน
ก่อนลงน้ำ ก็ตรวจสอบกล้องให้ดีก่อน ปิดเปิดทุกอย่างเรียบร้อยไหม
จากนั้นก็ลงโลดดดด อยู่นานกว่านี้ไม่ได้แล้ว ข้าวกล่องมะกิ๊มันจะขึ้นมาที่คอ
มองจากเรือลงไปที่ผิวน้ำ .... คลื่นค่อยข้างแรงเลยทีเดียว
คนที่ว่ายน้ำไม่เป็นอย่างหนอน จึงต้องเกาะเชือกให้ไกด์ดึงไปอย่างที่เห็น
แล้วก็รู้สึกเหมือนว่าจะโดนลมพัดเข้าหาฝั่งตลอดเวลา
ตอนนี้ ว่ายไปได้ทุกทิศทางเพราะมีไม่เรือลำอื่นเลย นอกจาก
เรือของทริปเราลองลำ คาดว่าคนอื่นๆ เค้าคงไปหลบฝนอยู่ที่ไหนสักแห่ง
อย่างที่เล่าให้ฟังว่า... ก่อนเดินทางหนอนมี ศึกษาการถ่ายรูปใต้น้ำเยอะแยะเลย
จากกระทู้เก่าใหม่ที่ผู้รู้..ทั้งหลาย แนะนำมา แต่พอถึงสถานการณ์จริง
มันไม่ได้ง่ายอย่างที่คนอื่นเขานั้นบอก เพราะที่นี่ น้ำคลื่นแรงมาก
ไม่เหมือนตอนว่ายที่เกาะเต่า ต้องคอยจับเชือกมือนึงอีกมือถือกล้อง
แล้วค่อยเหนียวนิ้ว ไปกดชัตเตอร์ ---------ฮ่าา
แล้วพวกประการัง มันก็อยู่ลึกเนอะ รูปที่หนอนถ่ายมาเลยได้มาแต่แบบนี้ๆ
หอยเม่นเต็มเลย แอบน่ากลัว...
แต่อย่างไรก็ตาม เราก็ไม่ย่อท้อ ยังถ่ายมั่วๆ อยู่ต่อไป
แทบไม่ได้มองวิไฟเดอร์ละ กดๆๆ ไปเลยอย่างเดียว
แชะๆ แชะๆ
จนสักพัก.. พี่ไกด์ เค้ากวักมือเรียก ส่งซิกประมาณว่า เค้าถ่ายให้ไหม
ก็เลยส่งกล้องให้พี่เค้าไป..
เลยได้ภาพแบบนี้มาบ้าง...
คิดๆ เนอะ นี่ขนาดว่า สิ่งแวดล้อมไม่เอื้ออำนวยทั้งลมทั้งฝน
มันยังมีแอบมองเห็นความสวยงามบ้าง ถ้ามาแบบปกติคลื่นลมดีๆ คงจะสวยกว่านี้เยอะเลย
จากนั้นก็ขึ้นเรือ แวะอีกที่ หนอนจำชื่อไม่ได้แล้ว..
คุณพี่ไกด์เอากล้องไปทำท่าจะถ่ายรูปแชะๆ หลายที แต่ได้รูปมานิดเดียวเองง่ะ
แต่จะว่าแกก็ไม่ได้ คือ แกต้องว่ายจูงห่วงยางให้เราเกาะ พอแกดำลงไปถ่ายรูปให้หนอน
ทั้งลมและคลื่นก็พัดเอาพวกเราลอยไปตามลมห่างแกมาไกลเลย
แกห่วงหน้าพวงหลัง เลยได้รูปมาให้ดูเท่านี้ง่ะ (แต่นะได้ก็ดีแระ ยังจะโลภอีก)
ไม่รู้ว่าอะไรชื่ออะไรกันบ้าง... ดำๆ ดูๆ อย่างเดียวเลย
แอ๊คกันบ้าง.. แชะๆ
เชิญขึ้นเรือ.. จะไปดำกันต่อที่อาดัง.. แต่ปรากฎว่าพอขึ้นเรือไปไม่นาน
เมฆก็ลอยมาแบบนี้เลย ประหนึ่งเล่นซ่อนหากับฟ้าฝน เราเลยต้องตรงดิ่งกลับรีสอร์ท
ด้วยประกาลฉะนี้
เหอะๆ
นั่งไปก็ลุ้นไป.. เราจะหลบฝนทันไหมหนอ
เมฆดำบนท้องฟ้า... ลอยมาปกคลุม
เม๊าเท่นรีสอร์ท... เกือบทั้งรีสอร์ทเลย
คาดว่าตอนนี้ สิตาบีช ของเราคงอยู่ในสภาวะการณ์เดียวกันแหงเลย
แล่นหนีเมฆกันมาแบบนี้เลย...
แต่ดูท่าทางแล้ว... ยังไงก็คงหนีไม่พ้น...
เพราะเมฆดำลอย.. คลุมเกาะหลีเป๊ะทั้งเกาะเลย
รอเราอยู่ข้างหน้าแล้ววว...
ดูสินั่น... นึกไปถึงตอนเราอยู่เกาะหินงามเมื่อเช้าเนอะ..
แดดยังเปรี้ยงๆ อยู่เลย อยู่ดีๆ ฝนก็มาซะงั้น
ตอนขณะที่นั่งเรืออยู่ หนอนรู้สึกได้ว่า ...
ความรู้สึกของตัวเอง กับคลื่นบนท้องทะเลเปลี่ยนไป
จากที่เคยเฉยๆ ตอนนี้ พอมองไปที่คลื่นหรือตอนที่เรือมันไต่ไปตามคลื่น
แอบมีความรู้สึกว่า คลื่นในท้องทะเลนี้ช่างน่าเกรงขามไม่น้อย
มันดูทรงพลังอย่างบอกไม่ถูก..
ในที่สุดเราก็มาถึงฝั่งแล้ว...
พวกเพื่อนๆ ทยอยกันเดินขึ้นหาด หนอนมีแอบเมาบกนิดหน่อย..
แม้จะเจอทั้งลมและฝน... แต่เราก็ไม่ยอมแพ้หรอก
สู้ตาย..
"การลงเรือไปดำน้ำในครั้งนี้.. แม้มีทั้งลมและฝน ... เป็นอุปสรรค
ได้เที่ยวนิดเดียวเอง ดำน้ำก็ไม่ครบทุกที่ก็ต้องกลับแล้ว
แต่... คิดในอีกแง่มุมหนึ่ง ไอ้อุปสรรคที่ว่า มันก็ไม่ได้ย่ำแย่ไปเสียทีเดียว
อย่างน้อย...มันก็ทำให้เรามีประสบการณ์เล่นน้ำทะเลท่ามกลางสายฝนอย่างเริงร่า
ได้เห็นเม็ดคริสตัลสีเขียว (ไอ้ที่เพ้อไว้ตอนกลางกระทู้ง่ะ)
ได้มองเห็นความงามในมุมมองที่แปลกใหม่
เพราะอย่างไรแล้ว... ธรรมชาติ ก็คือ ธรรมชาติ
ไม่ว่าจะอยู่ในมุมในไหน
มันก็ยังคง...ความงดงาม ในตัวมันเองอยู่เสมอ"
ยะฮู้ววววววววววว จบแล้ว
ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกคนที่ติดตามอ่านหนอนเพ้อมาถึงตรงนี้นะคะ
ขอร่วมแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ท่ามกลางสายฝน
ให้ทุกๆ ท่านร่วมสนุกสนานด้วยกัน
และ เพิ่อนๆ คนไหน ก่อนจะมาเที่ยวก็ลองเลือกวันเลือกเดือน
หลีกเลี่ยงลมและฝน แบบหนอนบ้างก็ดีนะคะ
นอกซะจากว่า...จะมีใครแอบอยากลองเห็นเม็ดคริสตัลเขียวแบบหนอน
ก็เชิญเลยไม่ว่ากัน 55+
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ สำหรับคอมเม้นค่ะ
กระทู้ต่อไป.. จะพาไปชม สิตาบิช รีสอร์ท
และพาไปนั่งเคเบิลคาร์ที่ลังกาวีค่ะ
Bye Bye ค่ะ แล้วเจอกันใหม่เร็วๆ นี้
.............................หนอน
คิดถึงมากมายจ๊ะ...