Bloggang.com : nonnoiGiwGiw : หยุดโลก >> สวดมนต์ภาวนา >> เพื่อปัญญาและความสงบในใจ

หยุดโลก >> สวดมนต์ภาวนา >> เพื่อปัญญาและความสงบในใจ

หลวงตาม้าบอกว่า "ฌาณ" คือ "ชิน" นั่นหมายถึง . .
เวลาที่เราฝึกจิตให้เข้า ฌาน (ภาวะที่จิตตั้งมั่น สงบ มีสมาธิ) ไปบ่อยๆ
มันก็จะเกิดเป็น ความเคยชิน ความคุ้นเคยของจิตเอง เหมือนกับว่า
แรกๆ เวลาเราจะนั่งสมาธิ จิตมันฟุ้งซ่านไปนู่นนี่ แต่พอฝึกทุกวันๆ
บ่อยๆ จิตมันจะเริ่ม คุ้นกับการรวมลงกลายเป็นความ “ชิน”
พอเรานั่งเมื่อไร จิตก็พร้อมจะกลับเข้าสู่ความสงบได้ง่ายขึ้น

คือ เรื่องของเรื่อง เมื่อวานเราเขียนบล็อกเล่าว่า เราเคยมีความคิดว่า
ถ้าเราตายก่อนวัยอันควร เราจะเอาวิญญาณเราไปฝึกจิตที่วัด
แต่พอเราป่วย เราก็เพิ่งจะมองเห็นว่า ยังไม่ทันตาย แค่ป่วยหายใจลำบาก
มันทำให้ฝึกจิตยากกว่าเดิมเยอะ เพราะลมหายใจมันไม่โฟลว

ทีนี้ ถ้าเกิดตาย ไปแล้วไม่มีลมหายใจแล้ว จะกำหนดจิตยังไง ...
แค่คิดจะถาม คำตอบก็เด้งมาในยูทูปพอดี 55+ เป็นคลิปของ
หลวงพ่อปราโมทย์ ที่พูดถึงการทำ ฌาณ ด้วยใจที่ปกติ เป็นการกำหนดจิต
แบบสบายๆ ด้วยจิตใจที่ปกติพอจิตเริ่มสงบ จิตจะเริ่มสว่างขึ้น ถึงตรงนั้น
มันจะไม่ต้องมาสนใจแล้วว่าจะหายใจออกหรือหายใจเข้า ใช้อุคคหนิมิตร
เป็นแสงสว่างที่เกิดจากกำลังของสมาธิแทน พอจิตมันคุ้นเคย
มันก็จะกำหนดความสว่างของมันได้เอง . . ไม่ค่อยเข้าใจ
เลยไปถามพุดดี้ พุดดี้อธิบายว่า . .

ตอนเริ่มฝึกอานาปานสติ → เราเอาจิตไปตั้งไว้ที่ลมหายใจ
พอสมาธิแน่นขึ้น จิตเริ่มไม่ต้องเกาะลมอีก → จะเกิด อุคหนิมิต ขึ้นมาเอง
เช่น แสงสว่าง ความว่างใสๆ หรือบางทีเป็นภาพวัตถุใดๆ นิมิตนี้
ไม่ใช่ของเพ้อฝัน แต่คือ ผลของพลังสมาธิ พอจิตคุ้นกับแสงนี้
→ ต่อให้ไม่กำหนดลม มันก็สามารถกำหนด “แสงสว่างภายใน”
เป็นอารมณ์กรรมฐานได้

อีแสงขาวๆ เนี่ยะ พอได้พบเจอกับเขาได้แล้ว แต่ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจนัก
อาจจะเป็นเพราะชั่วโมงบินยังต่ำเตี้ยอยู่ . . ฟังหลวงพ่อปราโมทย์จบ
คลิปของหลวงตาม้าก็โผล่มา . . เหมือนมาเป็นคำตอบให้กับเรา
เรื่องที่ว่าเราบ่นๆ ว่าตัวเองขี้เกียจสวดมนต์ . . อะไรแบบนั้น
การฟังเทศของหลวงตาม้า เปิดโลกกับเรามาก เราชอบฟังมาก
สนุกมาก . . หลวงตาอธิบายไว้หมด ในเรื่องเกียวกับพลังงาน
เหมือนเรื่องที่เรากำลังทำอยู่ทุกวันนี้ เป็นเรื่องปกติในแนวทางนี้ไปเลย
เป็นการเทศที่เข้าถึงได้ง่ายมาก ฟังสนุกด้วย . . เราชอบฟังหลวงตาม้ามาก
เราเคยท่องคาถา มหาจักรพรรดิ มันมีท่อนนึงพูดถึงถ้ำนะ แล้วเราไม่รู้จักเลย
ไลน์ไปถามตาอีโก้ นางเลยเล่าว่าถ้ำนะเนี่ยะมันคือที่ไหน . . ในตอนนั้น
ก็นึกว่าสถานที่นี้มันเป็นแบบตำนานอะไรแบบนั้นซะอีก ไปๆมาๆ พอมาเจอ
คลิปหลวงตาม้าเพิ่งรู้ว่ามันเป็นสถานที่ที่จับต้องได้ . . แล้วความรู้สึก
มันก็ผุดขึ้นมาทันทีเลยว่า ชีวิตนี้ ฉันจะต้องได้ไปนั่งสมาธิที่นั่นสักครั้งหนึ่ง
ฟังไปฟังมา . . เลยเข้าใจได้มากขึ้น ว่าทำไมเราต้องสวดมนต์

เพราะการสวดมนต์มันเหมือนเป็น รหัสพลังงาน ที่ครูบาอาจารย์
ท่านถ่ายทอดไว้ สวดไปๆจิตเราก็ยิ่งตั้งมั่น ไม่ฟุ้งซ่านไปเรื่องอื่น
พอใจสงบแล้ว พลังงานบุญ + พลังครูบาอาจารย์ก็จะ “เชื่อม” มาที่เรา
ยิ่งสวดบ่อย จิตจะ “ชิน” (อย่างที่หลวงตาม้าว่า “ฌานคือชิน”) แล้วเรา
ก็จะสัมผัสได้เองว่ามันต่าง ตอนที่เราเริ่มเข้าใจนี่แหละ เหมือนประตู
มันเปิดออก — ไม่ใช่แค่ “สวดตาม” แต่คือ “สวดด้วยการรู้”
แล้วพลังที่ได้มันต่างกันจริงๆ

ทำบุญ = เติมพลังงาน กรวดน้ำ
อุทิศบุญ = ส่งพลังงานออกไป
นั่งสมาธิ สวดมนต์ = สร้างสนามพลังงานในใจให้บริสุทธิ์
แม้แต่การคิดดีก็เหมือนเปิดคลื่นให้พลังงานสูงๆ ไหลเข้ามา

มันเป็นการเทศที่ทำให้เราเข้าใจมันง่ายๆ
เป็นเหมือนหนทางปฎิบัติสู่การใช้ชีวิตในโลกใหม่จริงๆ

มีท่อนนึงที่ท่านพูดถึงเรื่องของโลกวิญญาณ ทุกวันนี้
บ้านฉันนี่เหมือนโรงทาน ส่งบุญให้กับพวกวิญญาณในมิติที่ 4
หนึ่งคือ เป็นความมุ่งหวังอยากจะทำในสิ่งดีๆ ให้กับพวกเขา
เป็นสิ่งที่เราพอจะทำได้ . . แต่ . . ทุกอย่าง ถ้ามันยึดมากไป
มันก็ไม่ดี ไม่ใช่ตัวเองก็ยังเอาตัวเองไม่รอด แต่อยากไปกู้โลก
การทำทุกอย่างให้มันตั้งอยู่ในความพอดีจึงสำคัญ ไม่งั้นเราก็จะ
กลายเป็นเดอะแบกโดยไม่รู้ตัว . . คลิปหลวงตาทำให้
มีไฟในการสวดมนต์มากขึ้น เยอะเลย . . ดีจัง!

ย่อยสาระที่ได้จากพระ . . ได้แนวทางชีวิตง่ายๆ สามสี่ข้อ
เป็นหลักง่ายๆ เช่น รักษาพลังงานใจให้สะอาด –
ทำตัวเราเองให้เบาอยู่ในศิล 5 กรรมบท 10 ไม่ใช่แค่ไม่ทำชั่ว
แต่เลือกเสพ เลือกคิด สร้างบุญเป็นคลื่น

ศีล 5 : เกราะพื้นฐานของมนุษย์
ไม่ฆ่าสัตว์ – เริ่มจากการไม่เบียดเบียนใจคนอื่นด้วย
ไม่ลักทรัพย์ – รักษาความซื่อสัตย์ ไม่เอาเปรียบ
ไม่ประพฤติผิดในกาม – ความสัมพันธ์ชัดเจน โปร่งใส
ไม่พูดเท็จ – ฝึกพูดความจริงที่อ่อนโยน
ไม่เสพของมึนเมา – ไม่ปล่อยให้ใจหลงไหลไปกับสิ่งที่ทำลายสติ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
👉 ศีล 5 คือ รั้วแรกของพลังงานใจ ทำให้ชีวิตเรา
ไม่ต้องแบกเวรกรรมที่ไม่จำเป็น

กรรมบท 10 : เส้นทางการสร้างพลังงานใหม่
กรรมบท แบ่งเป็น 3 ด้าน = กาย วาจา ใจ
กาย (3) → ไม่ฆ่า, ไม่ลัก, ไม่ประพฤติผิดในกาม
วาจา (4) → ไม่พูดโกหก, ไม่ส่อเสียด, ไม่คำหยาบ, ไม่พูดเพ้อเจ้อ
ใจ (3) → ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของคนอื่น, ไม่พยาบาท, มีสัมมาทิฏฐิ
- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -
👉 กรรมบท 10 คือ คลื่นที่เราส่งออกไปสู่โลก
ถ้าเราสร้างคลื่นที่สะอาด ใจเราก็จะดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาเอง

"เวลาไม่ใกล้แล้ว ทำในสิ่งที่เราทำได้ ตั้งใจสร้างสะสมบุญ
ของเราต่อไป ทำไปเรื่อยๆ แต่ต้องไม่แบก เพราะแบกมากไป
เราก็จะกลายเป็นเดอะแบกโดยไม่รู้ตัว บุญไม่ใช่แค่เราเอง
แต่เผื่อแผ่ไปยังผู้อื่นด้วย ส่งต่อคลื่นดีๆ อยู่กับปัจจุบัน – ไม่จมอดีต
ไม่กังวลอนาคต มีเมตตาเป็นเกราะ – ยิ่งให้ ยิ่งได้
ยิ่งเป็นพลังปกป้องตนเอง ศรัทธาและปฏิบัติ
แบบต้องลงมือทำได้จริงถึงจะดี

ศีล 5 คือรั้วที่ป้องกันไม่ให้ชีวิตเราหลุดทาง
กรรมบท 10 คือเส้นทางที่พาเราเดินไปสู่โลกใหม่ที่เบากว่า
เมื่อทั้งสองสิ่งมารวมกัน… เราจะพบว่าการดำเนินชีวิต
ที่สงบสุขเนี่ยะเป็นเส้นทางที่เป็นไปได้จริงๆ . . ”

การป่วยทำให้เห็นความจริงว่าร่างกายไม่ใช่ของเรา
การฟังธรรมทำให้รู้ว่าจิตยังฝึกได้แม้ไม่มีลมหายใจ
การหยุดพักทำให้เห็นว่าชีวิตที่เหลือควรใช้ทำอะไร
เวลาไม่ใกล้แล้ว… จงใช้ทุกลมหายใจเพื่อฝึกจิตให้เบา
เร่งภาวนา เหมือนไฟไหม้เรือน เพราะไม่มีใครรู้หรอกว่า ลมหายใจนี้
จะเป็นครั้งสุดท้ายหรือไม่ นึกถึงวันที่ร่างกายป่วย หายใจไม่สะดวก

เพิ่งเข้าใจว่าการฝึกจิตมันยากกว่าที่คิด แต่อะไรที่มันยาก
มันก็ยิ่งเห็นคุณค่าว่า . . ถ้าไม่เริ่มฝึกตอนนี้ แล้วจะรอถึงเมื่อไหร่
การสวดมนต์ไม่ใช่เพื่อขอผล ไม่ใช่เพื่อกรวดน้ำอย่างเดียว
แต่คือการ “สร้างคลื่นพลังงาน” ให้จิตมันชิน เมื่อชินแล้ว
ต่อให้วันหนึ่งร่างดับไป จิตก็ยังรู้จักเส้นทางแห่งความสงบ

คำตอบในใจวันนี้ . . ถอดความได้ว่า สิ่งสำคัญที่สุด
ไม่ใช่การแบกโลกไว้ทั้งหมด แต่คือการจัดวางใจตัวเองให้สมดุล
และใช้เวลาที่เหลืออยู่ยังไง . . ให้มันคุ้มค่าที่สุด!

หยุดโลก >> สวดมนต์ภาวนา >> เพื่อปัญญาและความสงบในใจ

บั น ทึ ก D i a r y โ ด ย ตั ว ห น อ น กิ๊ ว ๆ

Create Date : 24 กันยายน 2568

Last Update : 24 กันยายน 2568 16:07:27 น.

0 comments

Counter : 294 Pageviews.

(โหวต blog นี้)

ผู้โหวตบล็อกนี้...

คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณmultiple, คุณรัชต์สารินท์, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ