|
ไปส่องต้นไม้ข้างบ้านกัน..
07 | 01 | 66วันนี้เป็นวันเสาร์ทำงาน วันเสาร์ทำงานจะเข้างานช้ากว่าปกติ ครึ่งชั่วโมง เราเลยมีเวลามาเดินเวิ่นเว้อดูนกดูไม้ข้างบ้าน จะบอกว่านอกจากแมวแล้ว . . ต้นไม้อะไรเขียวๆ ก็ช่วย ในเรื่องของการบำบัดจิตใจให้หายบาดเจ็บด้วยเหมือนกันนะ . . ในยุคโควิดช่วงแรกๆ อีตอนที่เรา WFH อยู่บ้าน เราบ้าต้นไม้ มากมายเลยล่ะ เอะอะซื้อ . . เอะอ่ะซิ้อ จนถึงขั้น แคะกระปุกไปซื้อก็มี . .แต่ไปๆมาๆ หมดแพสชั่นเฉย จากนั้น ก็ปล่อยให้บางต้นแห้งเหี่ยวตายไป แต่ก็มีบางต้นที่ยังอยู่ทนทายาด แบบฆ่าไม่ตาย วันนี้ . .เราจะพาทุกคนไปดูต้นไม้เหล่านั้นกันค่ะ . .

ต้นที่เห็นเป็นลายๆ ในรูปด้านบนคือ ต้นฟิโลเดนดรอน เบอร์กิ้น เป็นไม้ฟอกอากาศที่มีเอกลักษณ์แม่เราชอบมาก ใบมันจะเป็นเส้นๆสีขาว สลับเขียว สมัยก่อนเรามีต้นใหญ่อยู่หนึ่งต้น มันก็ร่อแร่ๆ มาสักพัก เพราะมีมดแดงไฟไปทำรังอยู่ที่ราก เราเลยจับต้นเอียงๆ ให้รากมันชี้ขึ้นบน จนแม่เราด่าว่า . . ดูมันทำกับต้นไม้ ปล่อยให้รากชี้ฟ้าแบบนี้ 55+

ตอนหลังเราจับเอาต้นแม่ มาเค้าเอามดออก แล้วตัดกิ่งแยกชำกระถางใหม่ แบ่งได้เป็นสองกระถาง วางอยู่บนชั้นสีขาวอยู่ข้างรั้ว ตอนนี้ รากงอกโอเคแล้วนะ เริ่มแตกยอดใหม่มาแล้วด้วย รอดแน่นอน ถือว่าเบอร์กิ้น ก็เป็นไม้ฟอกอากาศที่เลี้ยงง่าย ขยายพันธ์คล่องอีกชนิดหนึ่ง

เห็นกวักมรกตที่วางอยู่ข้างต้นหม่อนนั่นไหม นั่นคือกวักมรกตด่างนะ จะบอกว่าเราเลี้ยงมาเป็นปี มันเพิ่งจะออกกิ่งด่างให้ชื่นใจ แบบที่ด่างจริงๆ จังๆ เป็นลายหินอ่อนแบบที่เห็นเนี่ย แค่กิ่งเดียวเอง

กวักมรกตด่างเนี่ยะ เป็นอะไรที่ต้องเลี้ยงอย่างใจเย็นมาก เพราะมันใช้เวลาในการโตนานมาก สองปีก่อน ราคาแพงน่าดู ขายใบกันใบละห้าร้อยมาชำ บร้าไปแล้ว กว่าอีใบที่ชำจะออก กิ่งมาใหม่ใช้เวลาห้าเดือนเป็นอย่างต่ำ แล้วก็ต้องมาลุ้นอีกด้วยนะ ว่ากิ่งที่งอกออกมาจากใบนั้นๆ จะด่างหรือไม่ . .

แต่มันก็เป็นเสน่ห์อีกอย่างหนึ่ง ของการเลี้ยงกวักด่าง ตอนที่เราซื้อต้นนี้มา เราก็กะว่า พอมันออกกิ่งด่างมา เราจะตัดใบมันมาชำ เพื่อมานั่งลุ้นนี่แหละ ว่าแต่ละใบที่เราชำ จะให้ต้นด่างกี่ต้น แต่ก็นั่นแหละ ใช้เวลาตั้งปีกว่าจะออกกิ่ง ที่ดูแล้วพอจะเป็นแม่พันธ์เอาไปชำได้ ประเด็นคือ แก้งเพื่อนแม่ สาวๆๆ ของเค้าที่อยู่ข้างบ้าน พากันมาดู แล้วพากันนับใบ แล้วพากันเอาด้ายแดงมาผูกด้วยจร้าาา นับได้ 20 อีกกิ่ง ได้ 21 จากนั้นก็ไปซื้อหวย สรุปถูกหวยแดรกจร้าาา . .

อีกต้นที่เราชอบในมุมนี้คือ ฟิโลดาบเงิน ต้นนี้ราคาไม่แพงเลย แต่เราชอบที่ใบเค้าเป็นสีเงิน ถ้าโตเต็มที่แล้วใบจะเปลี่ยนทรง คล้ายๆ ดาบ แต่ของที่บ้านเราตอนนี้ ยังไม่โตเท่าไร ก็เลยยังดูอ้วนๆ อยู่ ที่เห็นนั่นสามารถตัดไปชำได้สองกิ่งละ แต่เรายังไม่มีเวลาชำ เอาจริง พอโตแล้วเราก็ตัดๆๆ ชำๆๆ ก็ไม่รู้เมื่อไรมันจะโตเต็มวัยกลายเป็นรูปดาบสักที

ส่วนนี่เป็นแคคตัสที่ผัวเพื่อนบ้านให้มา ง่อนแง่นมาก เราไม่กล้า เอาของเค้ามาเลี้ยงอีกเลย เราน่าจะไม่เหมาะ กับการเลี้ยงตะบองเพชร ต้องเลี้ยงใบๆ อย่างพลูด่างน่าจะเข้าท่าสุด 5555+

เรามาโม้ต้นนี้ดีกว่า . . มันคือต้นไทรใบสักแคระ ที่ปีที่แล้ว เราพยายามตัดใบไปชำ แล้วรากงอกหมดทุกใบในหนึ่งเดือน แลดูเหมือนง่ายมาก แต่พอเราเอาใบมันไปแยกปลูกในกระถาง กลายเป็นว่าใบเน่าตายหมดเลย . . รอบนี้เราเลยเอาใหม่ ตัดยอดมันไปชำสามยอด สรุป รอดทั้งสามกระถางเลยดีงามมาก

เราสังเกตุดูแล้วเหมือนว่าพวกนางจะไม่ชอบ ถ้าเราใส่ใจมากเกินไป เราเลยอาศัยไปฝากกระถางพวกนาง ไว้ตามมุมตามซอกของต้นอื่นๆ แล้วรดน้ำต้นไม้รวมๆ ไป ไม่ต้องใส่ใจมากนัก นึกได้ก็รด ลืมๆทิ้งๆ ขว้างๆ ไปบ้าง
 เลี้ยงแบบนี้ ดันรอดจร้าาาา . .

ตอนนี้ ยอดเล็กๆ งอกออกมาใหม่ทั้งสามกระถางแล้ว

แต่ต้นไทรใบสักเป็นอะไรที่เลี้ยงประคมประหงมไม่ได้จริงๆ พวกนางเอาใจยากพอสมควร ให้น้ำมากไปก็ไม่ชอบใบไม่ห่ออีก ให้น้ำน้อยไปก็ไม่ได้อีก . . ก็เลยเลี้ยงๆลืมๆซะเลย ดีเฉยซะงั้น

ในวันปีใหม่ บ้านตรงข้ามนางทำความสะอาดบ้านและโละของ ที่ไม่ใช้ นางบริจาคชั้นวางต้นไม้มาให้เรา หนึ่งชั้น (ชั้นสีขาวๆฝั่งซ้าย) เราเลยเอาไปวางคู่กับชั้นด้านขวาที่เรามีอยู่แล้ว สวยงามเลยจร้า ต้นไม้ฝั่งนี้สิ่งที่เห็นชัดสุดคือต้นไทรใบสัก เป็นไทรใบสักใบใหญ่ ที่เห็นเป็นสามยอดนั้นไม่ใช่สามต้นนะ ต้นเดียวกันนั่นแหละ แต่อยู่ดีๆ มันก็แตกกิ่งเป็นสามยอดเฉยเลย . . เรากะว่า เราจะตัดทุกยอดมาชำในกระถางใหม่ แล้วปล่อยให้ต้นแม่ มันแตกกิ่งออกมาอีกรอบ . . แต่ยังไม่ได้ทำเลย ไว้ทำแล้ว ถ้าสำเร็จจะเอามาเล่าเม้ามอยในบล็อกอีกทีนะ ส่วนถ้าไม่สำเร็จ เราก็จะเงียบๆ ไป ฮ่าๆ . .

ในชั้นนี้ . . ส่วนใหญ่จะเป็นต้นชำของเราทั้งนั้นเลยนะ อย่างซ้ายมือบนสุดเป็นเบอมาร์คด่าง ชำมาจากต้นแม่กระถางที่อยู่ข้างต้นใบสักแคระนั้นแหละ ส่วนพวกกระถางสาวน้อย ตอนนี้ เอามาใส่พลูด่างหมดแล้ว มันน่าจะเลี้ยงง่ายสุด

อย่างกระถางสาวน้อย ด้านบนนี้ เราใส่ต้นพลูแอปเปิ้ล เป็นอีกต้นหนึ่งที่เราชอบมากเลยนะ . . ส่วนที่เห็นเป็นใบลายๆ ใต้กระถางสาวน้อยคืออีพิด่างขาว หรือ Epipremnum Pinnatum Variegated มันก็เป็นพลูด่างพันธ์หนึ่งนั่นแหละ ถามว่าเลี้ยงง่ายไหมก็ง่ายนะ แต่ใบที่เป็นสีขาวถ้าโดนน้ำมากๆ ใบมันจะไหม้ง่าย หรือ ถ้าขาวทั้งใบ ก็มีโอกาสตายสูง หลังๆ เราเจอขาวมากเราก็ตัดทิ้งจร้า

เราเอากิ่งตามันมาชำได้หลายกระถางเลย สวยงาม ถ้าโตกว่านี้ หน่อยจะหาอะไรมาให้พวกนางเกาะ

เราหลงไหลเสน่ห์ไม้ด่างจริงๆ นั่นแหละ แต่หลังๆ คือ เลือกเอาที่เลี้ยงง่ายและไม่แพง . .

แต่หลังๆ กระแสไม่ด่างตกลงจริงๆ เป็นราคาที่จับต้องได้ ซึ่งมันดีมาก เพราะไอ้พวกที่เลี้ยงไว้ชื่นชมแบบเรา ไม่ได้คิด จะเพาะขายจะได้เข้าไปเอฟได้อย่างสบายกระเป๋าบ้าง ไม่งั้นนะจับแล้วก็วางๆ แพงเกิ๊นต้านนนน สุดๆ

มาดูชั้นฝั่งนี้กันบ้าง . . ชั้นฝั่งนี้ที่เห็นเยอะสุดจะเป็นต้น ฟิโลเดนดรอน พาราโซ่ พวกนี้คือต้นชำทั้งหมดเลย ต้นแม่จะเป็นต้นใหญ่ๆ อยู่ข้างรั้ว ที่เราเล่าให้ฟังว่า แม่เคยฟันใบทิ้งเพราะคิดว่าเป็นวัชพืชอ่ะ 555+ นั่นแหละ

ใบหาย แต่กิ่งยังอยู่เราก็เลยเอากิ่งมันมาชำจร้าาา . . ได้เป็นต้นเล็กต้นน้อยน่ารักตะมุตะมิ

มีหลายกระถางมว๊ากกกก . . เวลาที่เพื่อนที่รักต้นไม้มาบ้าน เราก็แจก เราก็แจก ให้ด้วยจิตพิศวาสทุกครั้งไป 555+ เสียดายที่เพื่อนบ้านเราแต่ละคน ไม่มีใครบ้าต้นไม้เหมือนเราเลย ถ้าไม่นับผัวสุดยอดเพื่อนบ้านอะนะ แต่พี่เค้าบ้าแคกตัส มันก็คนละแนวกับเราอีกแหละ . . แต่เพื่อนต๊อดเราชอบต้นไม้นะ นางเอาไปหลายกระถางละ แต่เอาไปแล้วก็ตายๆ ทุกที จนพ่อนางตั้งฉายาให้ว่า "ต๊อดร้อยศพ" แล้วก็ขอร้องว่า อย่างเอาต้นไม้เข้าบ้านมาอีกเลย พ่อสงสารต้นไม้ 555+

ที่เห็นด้านบนนี้เป็นต้นกวักมรกตดำ . . มันเพิ่งแตกกิ่งใหม่มา เลยยังเขียวๆ อยู่ ถ้าผ่านไปสักพักมันจะดำสนิท เหมือนกิ่งเล็กๆ ที่อยู่ข้างล่างนั้น เราชอบต้นกวักดำนี้ มากเหมือนกัน ใบไม้สีดำสนิทไม่มีเขียวเลยเนี่ยะ เราว่ามันดูมีเสน่ห์ไปอีกแบบนะ แปลกดี . .

อีกต้นที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือต้นแก้วสาระพัดนึก หรือ ก็คือ อโลคาเซีย ซานเดอเรียนา ทีเห็นในรูปนี้เป็นตัวผู้ ใบจะมีลักษณะอวบอ้วน ต่างจากตัวเมียที่มีใบเรียวยาว ซึ่งก่อนหน้านี้ เราเคยมีต้นแม่ ต้นใหญ่อยู่ต้นนึง ปีที่แล้ว เราเอาดึงเอาไข่ ที่อยู่ติดกับรากพวกนางมาอบ ได้เป็น ต้นลูก ต้นเล็กต้นน้อยหลายกระถางเลยนะ แต่แจกไปหมดแล้ว พอแจกหมด ไปๆ มาๆ อีต้นแม่ มันเพลี้ยลง เน่าตายเฉยเลย เราก็เลยตัดหน่อ ซีกที่เน่าทิ้งไป แล้วเอาหน่อที่เหลือไปฝากไว้ กับกระถางต้นไม้ต้นอื่น ปล่อยลืมไว้ข้างบ้านนั่นแหละ . .

จนเวลาผ่านไปๆ เราเพิ่งมาเห็นว่าเฮ้ยยยย มันไม่ตายยยย มันงอกขึ้นมาใหม่เว่ยยยย พร้อมลูกเล็กที่อาจจะงอกมาจากไข่ ที่หล่นหลงมาต้นไหนก็ไม่รู้ ผสมอยุ่ในดินจนสุดท้ายก็งอกออกมาเลย แล้วมันก็โตวันโตคืนจนสวยงามอย่างที่เห็น . .

แต่เรายอมถอดใจ เรื่องการเลี้ยงไม้พันธ์อะโคคาเซียจริงๆ เราว่ามันไม่น่าเหมาะกับเรา . . เลี้ยงกี่ต้นๆ ก็ตายเรียบ นี่นึกว่าตายหมดแล้ว นะ แต่เหมือนจะยังหลงเหลือไข่แอบอยู่ในกระถางอื่น น่าจะเป็นเพราะเราเอาดินในกระถางอะโรคาเซียต้นเก่ามารียูส แล้วน่าจะมีไข่ พวกนางแฝงมาเลย แอบโตเหลือให้เราดูเล่นอยู่ต้นสองต้น ก็ไม่แน่ใจว่าจะโต ตลอดรอดฝั่งไหม ลุ้นอยู่ อย่าง ซิลเวอร์ดราก้อน ต้นนี้

เราก็ลุ้นหนักหน่วงอยู่เหมือนกัน 55+ หวังว่าจะรอดจนต้นโตนะ

อีกต้นที่เหมือนจะเลี้ยงง่ายแต่ไม่ง่ายนั่นคือ ต้นเงินไหลมาด่างขาว ที่ว่าไม่ง่ายคือไรรู้มะ . . ไม่ใช่ว่าเลี้ยงแล้วตายนะ แต่เลี้ยงแล้ว ยอดใหม่ที่พวกนางงอกออกมามันไม่ด่างเลยเฮ้ย เขียวปี๋ๆ เราต้องตัดทิ้งอยู่เรื่อย ให้มันเหลือไว้เฉพาะกิ่งด่าง . .และนี่ก็คือ ต้นที่เหลือรอดที่ยังดูด่างสวยงามอยู่ตอนนี้ มีอยู่ต้นเดียว ในบ้านเลยแหละ ที่เหลือแม่มมันกลายเป็นเขียวหมดแล้ว 55+

เอาจริงๆ พอเลี้ยงต้นไม้มาเยอะๆ เลี้ยงไปเลี้ยงมา เราจะรู้ได้เลยว่า การเลี้ยงไม้ใบธรรมด๊า ธรราดาเนี่ย มีความสุขที่สุดแล้ว . . ไม่ต้องไปตามกระแส ตามใครให้มากมาย

อย่างพลูฉลุพวกนี้ ที่เราพยายามชำอยู่ เพราะมีพี่ที่ออฟฟิตอย่างได้ คือ พอมันเลี้อยๆ ยาวๆ แล้ว มองกี่ทีก็ดูสวยมีสไตล์ ไม่เบื่อเลยนะ ฟอร์มไม้เลื่อยๆ มันก็เป็นอะไรที่สวยไปอีกแบบ

พูดถึงต้นเงินไหลมาชมพู หรือต้นออมชมพูทั้งหลาย เราก็ชำกิ่งไว้เยอะเหมือนกันนะทุกคน . .

แต่ต้นที่เราชำส่วนใหญ่ กระถางมันดันไปอยู่ในช่องดูนก ของพวกแมวๆ มันก็เลยดูชอกช้ำอย่างที่เห็น . .
เห็นช่องที่อยู่ใต้รั้วไหม พวกแมวๆ นางจะมายืนเหยียบกระถาง เรียงตัวเลย แล้วก็จะชะโงกหัวออกนอกรั้วไปเผือกทุกเรื่องที่อยู่นอกบ้าน

ต้นออมที่เรามีก็เลยไม่สมประกอบอีกต่อไป ก็คงต้องหาโอกาส ย้ายตำแหน่งน่ะแหละ แต่ยังไม่ว่างเลย เหอๆ

แต่ก็มีออมที่ซุกซอกอยู่ตามมุม ถูกลืมอยู่ใต้โต๊ะด้วยนะ พวกนางรอคอยเรากลับมาใส่ใจอยู่ . . แต่เราทำเบลอใส่ เราแม่มโคตรอินดี้ . .
เอาน่าาาาา . . เป็นลูกแม่ต้องอดทน นะจ๊ะๆ 555+ แต่ต้นไม้ที่อยู่บ้านเราแล้วไม่ตายง่ายๆ แบบมงลง เลยนี่ต้องยกตำแหน่งให้ต้นพลูด่าง . .

อย่างกระถางสาวน้อยผีเสือนี้ สมัยก่อน นางปลูกต้นผีเสื้อราตรีไว้ แต่ไปๆมาๆ เพลี้ยลง ตายเรียบ เราเสียใจมากตอนหลังเลย เอาพลูหินอ่อนมาใส่ไว้ งามเป็นพุ่มอย่างที่เห็น . . เรากำลังรอพวกนางแตกยอด เลื้อยอยู่มันจะได้คล้ายเป็นผมของสาวน้อย อิอิ
ต้นพลูต้นสุดท้ายที่จะเอามาเม้ามอยกันในวันนี้ คือ พลูเอกวาดอร์ จร้าาาา พลูนี้ได้ชื่อเรื่องความใบกลมกลิ๊กน่ารัก แต่ . . แต่ . . พอมาอยู่กับเราความกลมหายไปเฉ้ยยยย . . เอกลักษณ์ของพลูเอกวาดอร์นี้คือ ลายใบสีชมพู สวยงามไม่ต่างจากพลูลงยาเลย ซึ่งพลูลงยาเราเคยมี แต่ตอนนี้ตายหมดแล้ว . . เสียจุยยยยย

แต่เอาน่ะ ยังดีที่เหลือผู้รอดชีวิตมาจากช่วงหมดแพสชั่นของเราได้ . .

อย่างพลูเอกวาดอร์นี้ ตอนนี้เราก็ชำไว้ได้สองกระถางแล้ว

กระถางนึงแตกยอดแล้ว ส่วนอีกกระถาง ไม่มีวี่แวว ไม่ตายแต่ไม่โต น่ะ เหอๆ

บล็อกเริ่มยาวอีกแล้ว . . เราก็อยู่เวิ่นเว้อข้างบ้านซะนาน ไม่ไปทำงานสักกะที . . จนแม่ใกล้จะลงมาด่าแล้ว




ไปก่อนนะ . . ดูเหมือนว่านอกจากแม่ที่ใกล้จะลงจากบ้านมาด่าเราแล้ว ก็ยังมีบางตัวที่แอบส่งเสียงเรียกอยู่ในบ้าน ดีนะที่เราปิดประตูแล้ว 555+แม่ขอไปทำงานก่อน . . เฝ้าบ้านไปนะจ๊ะลูกรัก . . บั น ทึ ก D i a r y โ ด ย ตั ว ห น อ น กิ๊ ว ๆ
Create Date : 07 มกราคม 2566 |
Last Update : 9 มกราคม 2566 9:06:44 น. |
|
14 comments
|
Counter : 256 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณThe Kop Civil, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณtuk-tuk@korat, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณhaiku, คุณกะว่าก๋า, คุณเริงฤดีนะ, คุณหอมกร, คุณนายแว่นขยันเที่ยว |
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 มกราคม 2566 เวลา:14:59:28 น. |
|
|
|
โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 7 มกราคม 2566 เวลา:22:50:19 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 8 มกราคม 2566 เวลา:2:34:18 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 8 มกราคม 2566 เวลา:6:53:41 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 8 มกราคม 2566 เวลา:8:06:13 น. |
|
|
|
โดย: เดหลีสีแดง (noinoi42 ) วันที่: 9 มกราคม 2566 เวลา:12:10:49 น. |
|
|
|
|
|
|
|
เห็นต้นไม้เขียว ๆ ชุ่มชื่นหัวใจจริง ๆ ครับ