กางผลเลือดครั้งที่ 3
"มีเงินมากมาย ก็ไม่เท่ามีร่างกายที่แข็งแรง . ." วันนี้มาเล่าๆ เรื่องราวในช่วงหลังสงกรานต์ สักหน่อยค่ะ จะบอกว่าเดือนเมษาเนี่ยะ เป็นเดือนที่หมอนัดพร้อมๆ กันเลย ฉันคือมี 3 นัดติดๆกัน คือ นัดตรวจปอด นัดตรวจเลือดในรอบ 4 เดือน และสุดท้ายนัดตรวจตาประจำปี แล้วนะ โรงพยาบาลชอบบบบบบ นัดมันคนละวันทุกที ด้วยความที่ไม่อยากลางานบ่อย ก็เลยเบี้ยวนัดหมอปอด แบบเนียนๆ แล้วเอาไปนัดที่ว่าไปยื่นวันเดียวกับที่นัดฟังผลเลือดแทน

และ ปัญหาที่ต้องเจอแทบทุกครั้งคือ ความดันค่ะ ช่ายยยย ฉันมัน ความดัน(ทุรัง)สูงปริ๊ดดดดด ซึ่งตรงหน้าเครื่องวัดความดันจะมี กระดาษแปะไว้เลยว่า คนไข้ที่วัดแล้วความดันเกิน 140/90 ให้กลับ มาไว้ใหม่อีกรอบหนึ่งจนกว่าความดันมันจะลด แย่สิฉัน วัดกี่ทีๆ ก็ได้ 160+ ทุกทีเลย ยิ่งวัดยิ่งสูง ยิ่งสูงยิ่งหนาว เหนื่อยใจว้อยยยย ทำไรไม่ได้ เลยเดินออกไปหาอะไรกินแก้เซ็ง . .

พอกลับมาวัดอีกที เท่านั้นแหละ . . หายไป 30 บ้าบอออออ ไปเล่าให้หมอฟังหมอบอกว่า . . คนไข้น่าจะหิวแหละ (พร้อมทำหน้ากลั้นขำ . . ) เรื่องความดันเนี่ยะ . . ความจริงเราก็แอบทำใจแล้วประมาณนึง มันอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับอาหารแบบนานๆ เลยล่ะ กว่าที่ค่ามันจะดีขึ้น แต่คุณหมอบอกว่า ถ้าดูจากน้ำหนักและอายุ เราค่าสูงประมาณนี้ก็เป็นเรื่องปกติแหละ (หรือหว่า . .) แต่นะ . . ทำตัวเละเทะมาตั้งนาน คงจะหวังให้หลอดเลือด มันสุขภาพดีแบบสาวๆ ก็คงเป็นไปไม่ได้
ในเมื่อหาหมอทุกหมอครบหมดแล้ว วันนี้เลยเข้ามารายงานผลหน่อยตามผลเรื่องปอด = ปกติ เอาจริงๆ เราก็ไม่ได้มีอาการอะไรแล้ว เหมือนหมอนัดมาคุยๆ ว่าปกติใช่ไหม แล้วก็เอายาพ่นป้องกับกลับบ้าน แต่อีก 4 เดือน หมอมีนัดเป่าปอด และเอ๊กเรย์ปอดอีกรอบหนึ่ง
ผลตรวจตา = ปกติ ปกตินี่หมายถึงว่า . . ก่อนหน้านี้ตอนที่เรา เคยปล่อยให้น้ำตาลในเลือดขึ้นมาเกือบ 300 ในตอนนั้น คาดว่าเบาหวานได้ขึ้นตามาแล้วบ้าง เบาหวานขึ้นตาเริ่มแรกคือ เส้นเลือดฝอยในตาแตก ตอนพบหมอครั้งก่อน หมอบอกตาเราปกติ แต่มีร่องรอยว่า มันเคยขึ้นตามาก่อนแล้ว ไม่มาก ไม่ต้องรักษาใดๆ

ครั้งนี้ก็เหมือนเดิม คือ ร่องรอยเท่าครั้งที่แล้ว ไม่มีมีร่องรอย ของความเสียหายเพิ่มเติม คิดแล้วก็น่ากลัวเหมือนกันนะ ถ้าเราไม่ได้ตั้งใจกลับมารักษาตัวเองจริงจัง ตาและการมองเห็นของเรา มันอาจจะเสียหายไปมากกว่านี้แล้วก็ได้ . .เฮ้ออออออออออ

ส่วนผลเลือด . . เฮ้อออออออออออ ขอถอนหายใจ อีกรอบสองรอบก่อนที่จะสารภาพบาปได้ไหม . . 555555+ แต่คือ เข้าไปคุยกับหมอ หมอชมทุกคำเลยนะ ถึงขนาดที่ว่า เค้าต้องแหงะดูผลอีกรอบว่าเค้าดูผิดหรือเปล่า . .

จากนั้น . . ก็หันหน้ามาถามเราว่า . . " นี่คนไข้ทำยังไงคะ ผลดีกว่าเดิมทุกตัวเลย . . "คือ ก็ไม่ได้บอกว่าทำยังไงแค่บอกว่า พี่เข้าครัวทำอาหารกินเอง แล้วก็คุมแป้งและไม่กินน้ำหวานค่ะคุณหมอ บลาๆ . .

แต่ค่าน้ำตาลสะสมเรามันก็ดีขึ้นจริงๆ เอาจริงๆ ก็ไม่แปลก น่าจะเป็นผลกรรมดีที่เราปฎิบัติดีมาตั้งแต่เดือน มกราคม มันส่งผล ให้เห็นในเดือนนี้ . . แต่นั่นคือหมอเปรียบเทียบค่า เก่าของเราที่ตรวจในเดือนะํนคาคมไง ตอนนั้น น้ำตาลสะสม เรายัง 9.6 อยู่เลย ใดใด คือ หมอก็ไม่ได้ลดยาให้ และเราก็ไม่ได้ บอกว่าอีค่าที่ได้เนี่ยะ เป็นค่าจากการกินจริงๆ เพราะเราไม่ได้กินยา ตั้งแต่เดือน พย. ปีที่แล้วละเหอะ ไม่กล้าบอกกลัวโดนด่า
เอาจริงๆ ถ้ามองจากค่าน้ำตาล ก็ถือว่า . . ค่ามันดีกว่าเดิมมากจริงๆHbA1c ธันวาคม 9.6 >> มกราคม 7 >> เมษา 5.6ตามเป้าที่เราวางแผนไว้คือ แค่คงค่าน้ำให้ได้ 6 เดือน ติด เราก็ถือว่า อยู่ในสภาวะเบาหวานสงบแล้ว จากนั้นก็ค่อยมาตั้งใจทำ IF แล้วเช็ค ค่าการทำงานของอินซูลินอีกครั้งหนึ่ง แต่ . . ถ้าดูค่าตัวอื่น เปรียบเทียบ กับ ผลเลือดที่ได้จากการตรวจแลปในเดือนมกราคม ถือว่า ผลเลือดเดือนนี้ เละเทะ แบบต่างกันมากอย่างกะฟ้ากับเหว คือ แค่ดูก็รู้เลยว่าเราหลุดจาก Fat Burner ไปไกลแบบสุดๆ วิถี Sugar Burner นี่อาจจะไม่เหมาะกับเราในตอนนี้จริงๆ แค่แว๊บบบ ไปแพร๊บ เดียวเองจร้า ฉันกลายเป็นนุด(หลุด)เผ่าอันเละเทะไปเลย ไตรกลีเซอไรด์จาก 58 ในเดือนมกราคม เมษาเพิ่มมาเป็น 106 Hdl จาก 52 ในเดือนมกราคม เมษา ลดมาเหลือ 44 เศร้าอิ๊บบบ_______________________________ ความเสี่ยงโรคหลอดเลือดหัวใจ Cho - Hdl - Ldl น้อยกว่าหรือเท่ากับ 17[ 189 - 44 - 124 = 21 ] เกินจร้าาา _______________________________ ความเสี่ยงโรคหัวใจTri / Hdl น้อยกว่า 2[ 106 / 44 = 2.4 ] เกินอีกแว้วว _______________________________ แนวโน้มต่อต้านอินซูลิน Cho / Hdl น้อยกว่าหรือเท่ากับ 4.5[ 189 / 44 = 4.2 ] เออ อันนี้พอเปรียบเทียบ กับเดือนมกราคมแล้วดีกว่าเดิมจริงๆ กรรมดีหนอ _______________________________ส่งผลเลือดให้คุมอ้อมดู . . นางแค่บอกว่า อ้อมต้องการค่าไตรกลี ให้ไม่เกิน 80 นะคะ . . ฮือออ ขนาดเราดูแล้วยังรู้เลยว่าอีนี่กินหลุด แล้วคุณอ้อมจะไม่รู้ได้ยังไง . . (ก็เมริงทำตัวเองหนังหนอน )

ด้วยความช็อคกับผลเลือดตัวเอง เลยต้องรีบตัดแป้งน้ำตาลอย่างไว

เริ่มจากเอาตัวเองไปช๊อปอาหารเผ่าก่อนอย่างแรก แต่ก็งง มาก คิดว่าไม่ได้ซื้ออะไรทำไมมันตั้งพันแปดกันฟระ!!

จากนั้นก็ตั้งเวลาปลุกเพื่อตื่นมาเข้าครัวตอนตีห้าอีกครั้ง

กลับมากินเนื้อกินไข่อีกครั้งหนึ่ง
จนตอนนี้ ครบ 7 วันของการตัดน้ำตาลแล้วค่ะ ผลประกอบการที่ได้ นน. ที่เด้งขึ้นมา ลดลงไป 3.85 กิโล
หนึ่งอาทิตย์พุงเริ่มยุบมา 3 นิ้วแล้ว ไขมันก็ค่อยๆ ลดลงมา แม้บางวันลดเยอะ บางวันลดน้อยไม่เป็นไร ก็ค่อยๆ สะสมกันต่อไป

 อย่างไรก็ตาม . . ตอนนี้ ยังปรับได้แค่เอาตัวเองเข้าครัว กับตัดแป้งและน้ำตาลได้อย่างเดียว เรื่องออกกำลังกายยัง ไม่กระเตื้องเลย วันหยุด มันนอนอืดอย่างเดียวไม่ทำอะไร

และยังมีหน้าใส่ชุดนอนออกจากบ้านมาคาเฟ่ . . แน่นอนว่า กินได้แค่แบล็คคอฟฟี่กับเพียวมัทฉะ ขมมาก ฉันกินไม่หมด หอบกลับบ้านมาแช่เข็งเอาไว้กินวันอื่นต่อ

ยังดีว่า . . ลูกชายฉันมันมานั่งกดดันให้พาออกไปเที่ยวตอนเย็น วันหยุดเลยต้องหอบลูกออกไปเดินดูนั่นดูนี่รอบหมู่บ้านบ้าง ไม่งั้นแม่มันอย่างฉันคงนอน นอน นอน อย่างเดวจริงๆ

ถถถถถถ . . นังหนอน มึงกลายเป็นผู้ญิงเนือยนิ่งอีกแล้วววว อ๊าววว เลิกงานแล้ว ขอจบบล็อกสารภาพบาปแต่เพียงเท่านี้ บั น ทึ ก D i a r y โ ด ย ตั ว ห น อ น กิ๊ ว ๆ
Create Date : 06 พฤษภาคม 2568 |
Last Update : 6 พฤษภาคม 2568 18:03:27 น. |
|
8 comments
|
Counter : 401 Pageviews. |
 |
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณ**mp5**, คุณหอมกร, คุณSleepless Sea, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณhaiku, คุณmultiple, คุณThe Kop Civil, คุณtanjira, คุณtoor36, คุณกะว่าก๋า, คุณจันทราน็อคเทิร์น |
โดย: หอมกร วันที่: 6 พฤษภาคม 2568 เวลา:17:15:21 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 6 พฤษภาคม 2568 เวลา:19:00:44 น. |
|
|
|
โดย: multiple วันที่: 7 พฤษภาคม 2568 เวลา:19:36:39 น. |
|
|
|
โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 7 พฤษภาคม 2568 เวลา:22:49:46 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 7 พฤษภาคม 2568 เวลา:23:19:30 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
พี่คนนั้นยืนยิ้มอยู่ข้างเสานะคะ