Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2549
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
29 ธันวาคม 2549
 
All Blogs
 
3 น้ำพุร้อน วัดร่องขุ่น

ทริปที่ผ่านมา"พระพุทธชินราช และ พระธาตุลำปางหลวง"
//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=imaginer&month=12-2006&date=29&group=4&gblog=4


เวลาประมาณ16.30น. เราก็ถึงเขตจังหวัดลำพูนเกือบ6โมงเย็นเราก็วนหาที่พักจนเจอ
เพราะโทรถามน้องในเนตเจ้าของที่พัก

เป็นมิตรภาพที่ฉันและน้องสนิทกันผ่านทางตัวหนังสือเป็นเวลาหลายปีแล้วแต่พึ่งมีโอกาสได้เจอตัวเป็นๆกัน

ที่พักของน้องเค้าอยู่ที่ศูนย์ราชการบ้านพักนักกีฬา700ปี
ทางไปเท่าที่จำได้ตรงไปทางดอยสุเทพผ่านพวกโรงแรม
แต่พอถึงทางแยกเลี้ยวขวาเลียบคลองไปเรื่อยก็จะเจอหาไม่ยาก




ภายในบริเวณจะมีบ้านพักและแฟลตหลายหลัง ที่เมื่อก่อนให้นักกีฬาซีเกมส์พัก
ต่อมาภายหลังจะให้สิทธิราชการทหารและหน่วยงานอื่นมาพักฟรี เราก็เลยได้ที่พักฟรีไปด้วย อิอิ

แต่....ก็มีของติดมือไปฝากเป็นสินน้ำใจน้องเขาด้วยน๊า มีบัวหิมะด้วยละตอนเอาไปเสี่ยงปิดฝาขวดเลย
แต่คงเพราะเจออากาศหนาวระหว่างเดินทางพอเทออกมาปริมาณเพิ่มเท่าตัวเลย


ตอนโทรถามพักตึกหลังไหนน้องเค้าโบกมือนู๋อยู่นี่พี่ใส่เสื้อสีฟ้า
ไอ้ฉันก็ไปมองเป็นอีกคนอีกตึกและไม่มองเลขตึก พอตอนขนกระเป๋าขึ้นชั้น5 ไม่มีลิฟต์ออยด้วย

สะเหร่อไปเป็นคนแรกกระเป๋าก็หนักพะรุงพะรัง พอถึงชั้น5ก็เจอผู้หญิงยืนกวาดหน้าห้อง
" มาหาใครคะ"
"อ้าว ไหงพูดงี้ละ"(ฉันคิดในใจ เมื่อกี้ไหงคุยและชวนมาพักดิบดี พอมาถึงห้องไหงทำเป็นไม่รู้จัก)
พอบอกชื่อน้องไป "ไม่มีคนชื่อนี้นะคะ"
"เฮ้ย ผีหลอกเหรอเป็นไปได้ไง เมื่อกี้ยังโทรคุยกันอยู่เลย อย่าบอกนะว่า........................"
(ฉันคิด ทั้งที่หอบจนลมจะใส่เพราะยกกระเป๋ามาถึงชั้น5)
ลองกดโทรหาอีกทีดิไงกันแน่
"พี่ๆๆๆๆ นู๋อยู่นี่"
อย่าบอกนะว่า...........
ฉันขึ้นตึกผิด ถ้าใช่นู๋อยากร้องไห้

"พี่ไปอะไรตึกโน้นผิดตึกแล้วพี่"
และแล้วก็เป็นจริงน้องเค้าโบกมือเหยงๆที่ตึกและห้องตรงกันข้าม
"โอแม่เจ้า ให้ตายเถอะนี่ฉันต้องลากยกกระเป๋าขึ้นอีกตึกเหรอนี่ อุตส่าห์กัดฟันฮึดจน5ชั้น "

และแล้วก็ต้องทนฮึดแบกขึ้นอีกตึก เท่ากับฉันต้องยกกระเป๋าขึ้นตึก10ชั้น นู๋อยากเป็นลม แงๆๆๆ




ยังคะเรายังฟิตออกกำลังกายขาก่อนปีนเขายังไม่พอ
เพราะ.............
เราต้องไปหาข้าวกิน เอามันใกล้ๆนี่แระ
โรงอาหารของศูนย์700ปี
ในรูปก็อาคารชั้นเดียวสีดำนั่นแระ คือเป้าหมายที่เราจะไปเพิ่มพลังงานให้กะท้อง

บังเอิญไปเจอคนภาคเดียวกันนั่งโต๊ะติดกันเพราะสำเนียงคุยนี่แระ เขาเลยเล่าให้ฟังช่วงนี้คนมาพักเยอะ
ทั้งด้านหลังศูนย์เป็นของสนามกีฬา700ปีที่เขาจะทำที่พักคล้ายกันกะที่นี่แต่ให้คนทั่วไปมาเช่าเหมือนโรงแรมคืนละ500บาท
ยิ่งงานสวนโลกคนยิ่งมาพักเยอะเพราะด้านหลังที่พักของพวกเราจะเป็นจุดมีรถฟรีรับส่งไปงานสวนโลก
เดินทางสบายเลย

ตัวเขามาอยู่ที่เชียงใหม่20ปีแล้ว เขาเล่าว่ามีญาติมาพักเมื่อเร็วๆนี้จะไปเที่ยวงานสวนโลกขนกันมา13คน
บ้านพักที่เขาพักไม่แทบไม่พอนอน บางคนญาติมาเยอะก็กางเต้นท์แถวนี้นอนกันได้ฟรี

มาเข้าเรื่องอาหาร อาหารที่นี่ถูกราคา10-20บาท เท่าที่ทานได้เยอะและอร่อยคนขายก็ใจดียิ้มแย้ม
เท่าที่เที่ยวกลับมายอมรับอาหารแถวเหนืออร่อยได้เยอะ




น้องเค้าบอกน้ำเย็นมากแต่พวกเรากับว่าไม่เท่าไหร่เพราะน้ำที่บ้านเย็นกว่าอีก และหนาวพอๆกัน

ตามแผนจริงๆเราจะเที่ยวสวนโลกพรุ่งนี้แต่เนื่องจากจองไม่ทันเลยต้องเปลี่ยนแผนพักที่นี่ก่อน
เพราะขับรถไปถึงเชียงรายไม่ไหวแน่ๆ


วันที่ 23 ธค.เที่ยววันที่สอง

ตื่นเช้ามาประมาณ.6.30น. เราจึงออกที่พักเพื่อไปเที่ยวเชียงรายก่อน
ลอดอุโมงค์ถนนประมาณ3อุโมงค์ของตัวเมืองเชียงใหม่


อากาศตอนเช้าหนาวเย็นพอทนไหว มีหมอกบ้าง




รถวิ่งแข่งกะบอลลูน
เชียงใหม่เจริญเร็วมาก มาเมื่อหลายปีก่อนมีแต่บ้านไม้
แต่เดี๋ยวนี้
บ้านจัดสรรหลังใหญ่ๆ ร้านอาหารสวยๆ ขึ้นเต็มไปหมด ยังกะชานเมืองกรุงเทพ

ถนนเมื่อก่อนไปเชียงรายเป็น2เลนธรรมดาเดี๋ยวนี้เป็น4เลนแล้ว




หมอกคะหมอก หมอกแถวสวนแก้วมังกรชานเมืองเชียงใหม่ เวลาเกือบ7โมงเช้าแล้วนะคะ





เวลา 8.00น. ระหว่างทางไปเชียงราย ริมทางอะไรควันๆๆคนจอดรถเยอะเลย
อ้อ น้ำพุร้อน ถือโอกาสจอดรถทานข้าวเช้าที่นี่ซะเลย





กลิ่นควันกำมะถันเหม็นยังกะไข่เน่า





ร้านค้าเท่าที่ดูเป็นพวกชาวเขาเป็นส่วนใหญ่ เด็กชาวเขาหน้ากลมแก้มป่องแดงยังกะมะเขือเทศเพราะหนาว






กว่าจะถึงเชียงรายผ่านโค้งนับไม่ไหวใครเมารถเก่งแย่แน่ๆ
เพราะเห็นรถตู้จอดให้นักท่องเที่ยวอ๊อกเป็นระยะๆ

ของขายริมทางช่วงนี้เห็นเป็นข้าวโพดร้อนๆควันกรุ่นเสียบไม้ให้ถือแทะกินเต็มไปหมด

ผ่านเขาจนถึงปากทางอ.แม่สรวย พวกเราเลี้ยวซ้าย
เพราะจะเข้าตัวเมืองไปหาคนให้บ้านพักอีกคน
และรถเกิดเหตุขัดข้องกระจกที่เปิดให้อากาศเข้าเพื่อปรับไม่ให้หมอกเกาะกระจกรถเกิดปิดไม่ได้ ต้องหาศูนย์รถ

ทีแรกน้าคนขับจะไม่พาแวะดูวัดร่องขุ่น
เนื่องจากแกดูแล้ว และอีกอย่างแกไม่ค่อยชอบอ.เฉลิมชัย
ก็ทำใจที่แรกว่าคงอดดู
แต่เพราะกระจกรถและเป็นทางผ่านไปซ่อม เพราะบังเอิญเห็นหลังคาวัดขาวระยิบระยับล่อใจ
เลยต้องพาพวกเราแวะไป เพราะไม่ไกลจากถนนใหญ่ แต่แกนั่งรอในรถ

ทางเดินไปวัดก็เต็มไปด้วยร้านค้า และร้านนี้ก็ขายสัปะรด ขึ้นชื่อของเชียงราย"นางแล"กิโลละ30บาท ตกลูกละ6บาท
ใครชอบกินก็อย่าลืมซื้อนะเป็นของฝากก็ได้
("นางแล" ลูกขนาดย่อม จะหวานฉ่ำ
ลูกเล็กๆ ที่หวานกรอบน่ะ คือ "ภูแล"
เป็นลักษณะผสมระหว่างสับปะรด ภูเก็ต+นางแล

ตัวกลมๆผมม้า ข้อมูลสับปะรด )





เวลาประมาณ10.30น.ที่เราเดินชมวัดร่องขุ่น
ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นวัดที่เราเคยมาเมื่อหลายปีก่อนกับเพื่อน ซึ่งตอนนี้ไม่เหลือเค้าวัดชาวบ้านให้เห็นอีกเลย

เรื่องเล่าวัดร่องขุ่นเมื่ออดดีตที่เคยไปมาก่อน



เสียดายไปไม่เจอ อ.เฉลิมชัย เพราะเดี๋ยวนี้จะแอบดูคนมาเที่ยวแทนมานั่งเจอคนมาเที่ยว
ได้ยินแต่เสียงพูดผ่านไมค์
แต่ก็ขำมุขแกแซว พอแกพูดคนที่เดินๆอยู่พากันหยุดฟังแกละขำกันใหญ่


เป็นวัดที่อ.เฉลิมชัยมีความสามารถเรื่องงานศิลปะ ลงทุนบูรณะทำด้วยเงินตัวเองก่อน ศิลปะที่เด่นกว่าวัดอื่นเพราะออกแบบเองไม่ให้เหมือนวัดอื่น ทาสีขาวและประดับกระจก โดยใช้ลูกมือชาวบ้านผู้ชอบงานศิลปะ ช่วยกันปั้น





ตัวอย่างลายที่ปั้น ของจริงจะสวยมากระยิบระยับเพราะกระจกสะท้อนกับแสงแดด





ด้านข้างทางเดินจินตนาการเหมือนทางเดินขึ้นสรวงสวรรค์






มีลูกนักท่องเที่ยวหลง แกให้คนที่วัดอุ้มไปโชว์ที่หน้าห้องน้ำ และแซวเด็กและ พ่อแม่เด็กหน้าห้องน้ำ
เด็กเลยไม่กลัวไม่ร้องไห้ คนก็ขำแกพูดสนใจหันมาดูเด็กกันใหญ่


นี่แระสุขาอลังการงานสร้างมาก ตรงกลางคือที่ให้คนอุ้มเด็กประกาศหาพ่อแม่
สุขาทาสีทองอร่าม






บรรยากาศคนไปเที่ยววัด นักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะ ตั้งกล้องถ่ายรูปกันใหญ่

พอเรากลับมาที่รถ เสียดายมากน้าบอกตอนพวกเราไปวัดแป๊บนึง อ.เฉลิมชัยมาทักคุยกะแกที่รถตั้งนาน

อะไรกันเนี้ยทีคนไม่ชอบกันดันเจอคุยกัน
ทีเราเป็นแฟนคลับแกกลับไม่เจอเสียดายมากเลยบ่นกันเสียดายตลอดทาง

น้าแกบอกมาดูคราวก่อนร้านขายงานภาพอ.เฉลิมชัยแกนั่งขายด้วย น้าพาฝรั่งมาดูแต่ยืนลังเลแถวประตุ
อ.เฉลิมชัยแกแกเลยเรียก สไตล์นักเลง"มาเข้ามาไม่อยากซื้อก็เข้ามาให้ฟรีก็ได้วะ" ฮ่าๆ
แต่พวกน้าก็ไม่เอาของแกฟรีหรอก

พอเอารถไปเข้าศูนย์รถพึ่งซื้อใหม่ไหงเจ้งเร็ว หน้าแตกที่แท้มือคนขับซนไปกดปุ่มล็อคอันโนมัติ
เลยไม่ต้องรอซ่อม เย้ๆๆๆๆไม่เสียเวลาเที่ยวแล้ว

จดที่พักราคาถูกมาติดถนนใหญ่ ราคา200-300บาท นันทชัย 053-702381







กดคลิกชม การเดินทางต่อไป มหาลัยแม่ฟ้าหลวง เขานางนอน น้ำตกก้างปลา


ข้อมูลเพิ่มเติมวัดร่องขุ่น











Create Date : 29 ธันวาคม 2549
Last Update : 13 กุมภาพันธ์ 2553 16:34:33 น. 0 comments
Counter : 4625 Pageviews.

ใจรัก Jairuk Channel
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 91 คน [?]








ติดตามดูต่อที่YouTube

ใจรักJairukChannel



ติดตามดูต่อที่Facebook

ใจรักJairukChannel



แนะนำให้ชม

บัวหิมะ
บัวหิมะ
วิธีเลี้ยงบัวหิมะ
เกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
ติดอันดับTOP Page Views
อาหารและการดูแลสุขภาพ ผู้ป่วยมะเร็งและคนทั่วไป
เที่ยวขอนแก่น
Michael Jackson
คอนเสิร์ตบอย Peacemaker
คลิปเจ้าขุน
การกลับมาของX Japan

ท่องเที่ยว

UFOที่เคยเห็น
บั้งไฟพญานาคที่ไปดูมา
หาดใหญ่และปัตตานี
ไข่มุกอันดามัน
อะ พีพี
เกนติ้ง
กัวลาลัมเปอร์
หาลิงเข้าถ้ำทะเลภูเขาเลยจ้า นอนดูหมอกที่ปราจีนบุรี
เที่ยวปราจีนบุรีต่อ
เลยจะถึงไหมละนี่
พักค้างแรมที่เลย
เลยจนเกือบถึงลาว
ขุดกรุเขื่อนป่าสัก
บึงแก่นนคร ขอนแก่น
พระธาตุขามแก่น
เดินทางไปลพบุรี
กินข้าวอิงภูชัยภูมิ
ลาว เวียงจันทร์
ลาว2
ปิดทริปเที่ยวลาว
ล่องเรือเจ้าพระยา
รถไฟลอยฟ้า ฟ้า ไทย
รถไฟใต้ดินไทย
ทะเลน้ำจืดหาดวังโกขอนแก่น บ้านปราสาทโคราช
วังน้ำเขียวโคราช
ชอปปิ้งหนองคาย
ตัวเมืองขอนแก่น
น้ำผุดทับลาว ชัยภูมิ
สนามหลวง2
ไปดูงานศิลป
สายน้ำกับปลาที่ไปปล่อย
งานExpro
เขื่อนอุบลรัตน์
เที่ยวป่าวัดพรไพรวัลย์
ล่องแพอ่างเก็บน้ำห้วยไร่
ทะเลหมอกภูพานน้อย
วัดเจดีย์ชัยมงคล
ครั้งหนึ่งที่เคยโบกรถ
น้ำหนาว,เพชรบูรณ์
พระพุทธชินราช,พระธาตุลำปางหลวง
น้ำพุร้อน,วัดร่องขุ่น
มหาลัยแม่ฟ้าหลวง,น้ำตกก้างปลา
เวียงแก่น,ภูชี้ฟ้า
ดอยแม่สลอง
อุทยานฯขุนแจ
สวนโลกราชพฤกษ์
วัดเจดีย์7ยอด,วัดเจดีย์หลวง
ดอยสุเทพ,ทุ่งสแลงหลวง
โครงการครูบ้านนอก
วัดหลวงพ่อโตใหญ่ที่สุดในโลก
ที่พักปากช่อง
เลย-ลาว-ท่าลี่
ถึงระยองแล้วจ้า
ทะเลตอนเช้า
งานเที่ยวภาคใต้






Friends' blogs
[Add ใจรัก Jairuk Channel's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.