Bloggang.com : ใจรัก Jairuk Channel : ภัยพิบัติความร้อนและน้ำท่วมปี2561

ภัยพิบัติความร้อนและน้ำท่วมปี2561

ยุโรปร้อนจัด อุณหภูมิจ่อ 50 องศา

อิทธิพลความกดอากาศสูง และแห้งแล้งจากทวีปแอฟริกา ส่งผลให้พื้นที่ส่วนใหญ่ของยุโรปต้องเผชิญกับคลื่นความร้อน โดยอุณหภูมิมีแนวโน้มสูงแตะระดับ 50 องศาเซลเซียส

กรมอุตุนิยมวิทยาของยุโรปเปิดเผยว่า อุณหภูมิในยุโรปอาจเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 50 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติสูงสุดก่อนหน้าซึ่งบันทึกได้ 48 องศาเซลเซียส พร้อมคาดว่าวันเสาร์ที่จะถึงนี้จะเป็นวันที่ร้อนที่สุดในสัปดาห์ของยุโรป

ทั้งนี้ ทางกรมได้ออกประกาศแนะนำให้ประชาชนอยู่ในที่ร่ม ใช้ครีมกันแดด และหากต้องการคลายร้อนให้เดินทางไปพักผ่อนตามเมืองชายทะเล

ในส่วนของพยากรณ์อากาศวันพรุ่งนี้ ระบุว่า อุณหภูมิมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยกรุงลิสบอนของโปรตุเกสจะมีอุณหภูมิสูงสุดที่ 45 องศาเซลเซียส รองลงมาคือกรุงมาดริดของสเปน ที่ 44 องศาเซลเซียส ขณะที่หลายเมืองส่วนใหญ่ เช่น ซูริค เบอร์ลิน บูดาเปสต์ ปารีส ลอนดอน โรม และดับลิน จะมีอุณหภูมิเฉลี่ยระหว่าง 30 ถึง 34 องศาเซลเซียส

https://news.ch3thailand.com/abroad/74744

เอเชีย ยุโรป เจอคลื่นความร้อน เกาหลีใต้เสียชีวิตแล้ว 29 ราย

วันที่ 03 ส.ค. 61 เวลา 15:45:49

หลายประเทศในซีกโลกเหนือยังต้องเผชิญกับอากาศร้อนจัด โดยที่ยุโรปมีคำเตือนว่า ในอีกสองสามวันข้างหน้า อุณหภูมิจะร้อนจัดเป็นประวัติการณ์ ขณะที่เกาหลีใต้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 29 ราย

พยากรณ์อากาศเกาหลีใต้เผยว่า ในช่วง 15 วันที่ผ่านมา อุณหภูมิทั่วประเทศวัดได้ 35 องศาเซลเซียส ขณะที่กรุงโซลเมื่อวันพุธที่ผ่านมาร้อนสุดในรอบ 111 ปีวัดอุณหภูมิได้ 39.6 องศาเซลเซียส

ก่อนหน้านี้ ทางการได้ประกาศเตือนภัยคลื่นความร้อนทั้งในกรุงโซลและเมืองอื่นๆ โดยเฉพาะเมืองแทกู หนึ่งในเมืองที่อากาศร้อนที่สุดแห่งหนึ่ง สำนักข่าวอารีรังถึงกับรายงานว่าเป็น"แทฟริกา"ที่มาจากคำว่าแทกู รวมกับคำว่าแอฟริกา ซึ่งก็มีวิธีรับมือหลากหลาย ทั้งพ่นละอองไอน้ำทุกๆ 25 ถึง 30 นาที ในที่ชุมชน รวมถึงเปิดลานสเก็ตน้ำแข็งให้หลบร้อน ขณะเดียวกันก็แจกจ่ายน้ำเย็นถึงวันละ 8,500 ขวด ตามสถานที่ที่คนสัญจรด้วยการเดินหนาแน่น ทั้งนี้เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมวัดอุณหภูมิได้ 39.2 องศาเซลเซียส

ขณะที่ญี่ปุ่นทั่วประเทศยังคงต้องเผชิญกับอากาศร้อนจัดต่อเนื่องในวันนี้ โดยอุณหภูมิสูงสุดที่วัดได้คือ 39 องศาเซลเซียสที่ภูมิภาคคันโตและภูมิภาคโทะไค ในช่วงกลางวัน ส่วนในที่อื่นๆ อุณหภูมิสูงกว่า 35 องศาเซลเซียส ทางการประกาศเตือนประชาชนให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในช่วงกลางวัน อยู่ในห้องแอร์ และดื่มน้ำให้เพียงพอ

ด้านยุโรปก็เผชิญกับคลื่นความร้อนเช่นกัน โดยมวลความร้อนจากตอนเหนือของแอฟริกา ทำให้ประชาชนในหลายเมืองต้องรับมือกับอากาศที่ร้อนและแห้งจัดเป็นประวัติการณ์ โดยอุณหภูมิมีแนวโน้มพุ่งขึ้นทำสถิติแตะระดับสูงสุดที่ 48 องศาเซลเซียสในช่วง 2 ถึง 3 วันข้างหน้า โดยขณะนี้ รัฐบาลในแถบเมดิเตอร์เรเนียน เช่น อิตาลี สเปน และโปรตุเกส ออกประกาศเตือนภัยคลื่นความร้อน ปัญหาพายุฝุ่น และไฟป่าแล้ว

https://news.ch3thailand.com/abroad/74828

เกาหลีใต้เผชิญ ‘คลื่นความร้อน’ เสียชีวิตแล้ว 35 ราย

คลื่นความร้อนปกคลุมเกาหลีใต้อุณหภูมิพุ่งสูงสุดทำลายสถิติ ที่ 40.7 องศาเซลเซียส ยอดผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนในเกาหลีใต้เพิ่มขึ้นเป็น 35 คน

วันที่ 4 ส.ค. 2561 สำนักบริหารอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้ รายงานยอดผู้เสียชีวิตจากคลื่นความร้อนในเกาหลีใต้ เพิ่มเป็น 35 คนแล้ว นับตั้งแต่คลื่นความร้อนเริ่มถล่มเกาหลีใต้ ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย.จนถึงปัจจุบัน และศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเกาหลีใต้ระบุว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตดังกล่าว สูงเป็น 3 เท่าของปีที่แล้ว

ล่าสุดอุณหภูมิในเกาหลีใต้ อยู่ที่ 40.7 องศาเซลเซียส ที่เมืองฮองชอน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเกาหลีใต้เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ทำลายสถิติเดิมที่ 40.0 องศาเซลเซียส ที่เมืองแดกู ซึ่งบันทึกไว้เมื่อ 1 ส.ค. 2485 นอกจากนี้อุณหภูมิดังกล่าว ยังสร้างสถิติใหม่เป็นอุณหภูมิสูงสุดในเกาหลีใต้ในรอบ 111 ปี นับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกสถิติอุณหภูมิสูงสุดในเกาหลีใต้ตั้งแต่ปี 2450

ส่วนอุณหภูมิในกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้ก็พุ่งสูงสุดทำลายสถิติของกรุงโซลเช่นกัน โดยอุณหภูมิในโซลเมื่อวันพุธที่ผ่านมา อยู่ที่ 39.6 องศาเซลเซียส ทำลายสถิติเดิมที่ 38.4 องศาเซลเซียส หน่วยงานท้องถิ่นได้ออกประกาศเตือนสุขภาพเป็นประจำเนื่องจากผู้คนนับพันได้รับความเดือดร้อนจากความร้อนภายใต้ผ้าห่มอันไม่หยุดยั้งของความชื้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : South Korea breaks temperature records

https://workpointnews.com/

ฝนตกหนักน้ำท่วมหลายจังหวัด มีผู้เสียชีวิตแล้ว 21 ศพ

สำนักข่าวไทยรัฐ ระบุว่า

เหตุน้ำท่วมและดินถล่มในญี่ปุ่น ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 50 ราย มีผู้สูญหายจำนวนมาก ขณะที่ประชาชนหลายล้านคนได้รับคำสั่ง หรือแนะนำให้อพยพออกจากบ้าน..

จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุน้ำท่วมและดินถล่มในภาคตะวันตกของประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 50 รายแล้ว และมีผู้สูญหายอีกหลายสิบคน โดยเหยื่อส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดฮิโรชิมา ซึ่งเผชิญกับฝนตกหนักมาตั้งแต่วันพฤหัสบดี (5 ก.ค.) มีบ้านเรือนเสียหายอีกหลายร้อยหลัง

นายโยชิฮิเดะ สุกะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงว่า “ฝนจะตกหนักอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ตั้งแต่ภาคตะวันตกถึงตะวันออกของญี่ปุ่น และมันจะเป็นฝนตกหนักครั้งประวัติศาสตร์ ซึ่งอาจเป็นฝนตกหนักที่สุดเท่าที่ประเทศเคยบันทึกมา”

ขณะที่ตามรายงานของสำนักข่าวเกียวโด ของญี่ปุ่น ผู้เสียชีวิตบางส่วนถูกดินถล่มฝังทั้งเป็น เจ้าหน้าที่ดับเพลิง, ตำรวจ และทหาร จำนวนหลายพันนาย เข้าร่วมในปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย โดยมีประชาชนได้รับคำสั่งให้อพยพออกจากบ้านแล้วกว่า 1.5 ล้านคน ทางการยังออกคำแนะนำให้พลเรือนอีกกว่า 3 ล้านคนอพยพด้วย

ทั้งนี้ สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น เตือนว่า จะมีฝนตกต่อเนื่องไปอีก 2-3 วัน ขณะที่ในจังหวัดเกียวโต ซึ่งห่างจากจังหวัดฮิโรชิมาไปทางตะวันออกราว 300 กม. ก็เผชิญกับฝนตกหนักเช่นกัน โดยชาวบ้านที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำต้องเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิด

ญี่ปุ่น” เจอฝนหนักเป็นประวัติการณ์ น้ำท่วม-ดินถล่มคร่าแล้ว 27 ศพ-สูญหาย 47 คน

รอยเตอร์ - ฝนซึ่งตกลงมาอย่างหนักในจังหวัดทางตอนกลางและตะวันตกของญี่ปุ่นทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 27 ราย สูญหายไม่ต่ำกว่า 47 ราย และอีก 5 รายบาดเจ็บสาหัส ขณะที่ประชาชนราว 1.6 ล้านคนได้รับคำสั่งให้อพยพ ตามรายงานของสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเควันนี้ (7 ก.ค.)

สำนักงานอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นได้ออกประกาศเตือนภัย “ฝนที่ตกหนักเป็นประวัติการณ์” ครอบคลุม 4 จังหวัดทางฝั่งตะวันตกของเกาะฮอนชู โดยขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากดินถล่ม ระดับน้ำในแม่น้ำที่เพิ่มสูงขึ้น และลมกระโชกแรง

เมืองโมโตยามา (Motoyama) บนเกาะชิโกกุซึ่งอยู่ห่างจากโตเกียวประมาณ 600 กิโลเมตร มีปริมาณฝนตกถึง 23 นิ้วในช่วงระหว่างวันศุกร์ (6) จนถึงเช้าวันนี้ (7)

สำนักงานอุตุฯ เตือนว่ายังคงมีความเสี่ยงเกิดฝนตกหนัก เนื่องจากกระแสลมที่อุ่นกว่าได้ไหลเข้าสู่แนวปะทะของอากาศ (weather front) และพื้นที่ซึ่งมีน้ำท่วมสูงอยู่แล้วอาจเผชิญฝนตกหนักได้อีกในวันพรุ่งนี้ (8)

เอ็นเอชเครายงานว่า หนึ่งในผู้เสียชีวิตเป็นชายซึ่งตกจากสะพานลงไปในแม่น้ำที่ฮิโรชิมา และอีกคนเป็นชายชราวัย 77 ปี ในเมืองทาคาชิมาซึ่งห่างจากเกียวโตไปทางตะวันออกราว 56 กิโลเมตร ถูกน้ำซัดลงไปในคลองระหว่างที่กำลังขนย้ายเศษขยะ

นอกจากนี้ ยังมีผู้บาดเจ็บสาหัสอีก 5 คนจากเหตุดินถล่มที่จังหวัดเอฮิเมะ, ฮิโรชิมา และยามางุจิ

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7) ทางการญี่ปุ่นได้สั่งให้อพยพประชาชนกว่า 1.6 ล้านคนออกจากพื้นที่เสี่ยง ขณะที่อีก 3.1 ล้านคนได้รับคำแนะนำให้อพยพเพื่อความปลอดภัย ตามข้อมูลจากสำนักงานดับเพลิงและจัดการภัยพิบัติแห่งญี่ปุ่น

โยชิฮิเดะ สุงะ โฆษกคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงว่า กองกำลังป้องกันตนเอง ตำรวจ และหน่วยดับเพลิงประมาณ 48,000 นายได้สนธิกำลังลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว

สภาพอากาศที่เลวร้ายยังส่งผลกระทบถึงภาคอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น โดยค่ายรถหลายแห่งได้งับการสายผลิตชั่วคราวเนื่องจากฝนและน้ำที่ท่วมสูงเป็นอุปสรรคต่อการขนส่ง และอาจกระทบต่อความปลอดภัยของพนักงาน

มิตซูบิชิ มอเตอร์ส สั่งปิดโรงงานอย่างน้อย 1 แห่งเนื่องจากไม่สามารถลำเลียงชิ้นส่วนรถยนต์เข้าไปได้ ขณะที่โรงงานประกอบรถยนต์ 2 แห่งของ มาซด้า ก็หยุดผลิตชั่วคราวเพื่อให้พนักงานไม่ต้องเสี่ยงอันตรายเดินทางไปทำงานในช่วงนี้

ญี่ปุ่นร้อนถึงขีดสุดทะลุ 40'c ตายแล้ว 14 คน อีกนับหมื่นเข้าโรงพยาบาล!

👉 เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเนื่องจากคลื่นความร้อนที่แผ่เข้าสู่ประเทศญี่ปุ่น มีผู้เสียชีวิต 14 รายและมีผู้ป่วยเกือบ 10,000 คนถูกนำส่งโรงพยาบาลเนื่องจากอาการอ่อนเพลียจากความร้อนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

👉 แต่ละจังหวัดอุณหภูมิสูงถึง 35'c โดยเมืองต่างๆในภาคกลางของญี่ปุ่นมีระดับสูงสุด 40 องศาเซลเซียส ในขณะที่ความร้อนที่รุนแรงคาดว่าจะยังมีต่อเนื่อง ทางกรมอุตุเตือนคนให้ใช้ความระมัดระวัง และดื่มน้ำให้เพียงพอ

👉 ในวันพุธอุณหภูมิพุ่งสูงขึ้นถึง 40.7 องศาเซลเซียสในเมือง Tajimi จังหวัดกิฟุและเมืองมิโนะในจังหวัดเดียวกัน จังหวัดโอซาก้ามีจำนวนผู้ป่วยที่มารับการรักษาที่โรงพยาบาลสูงสุด 752 คนตามมาด้วย 704 คนในโตเกียวและ 687 คนในจังหวัดไอจิ

👉 จาก 9956 คนเกือบ 190 คนต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนานกว่า 3 สัปดาห์ ผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไปคิดเป็น 46.1 เปอร์เซ็นต์ของทั้งหมด

👉 ในจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมดมีเด็กชายวัย 6 ขวบ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่หนึ่งในจังหวัดไอจิซึ่งกำลังเข้าชั้นเรียนที่ต้องอยู่กลางแจ้งประมาณสองชั่วโมงกับครูและเพื่อนร่วมชั้น ตอนเที่ยงในวันอังคาร ซึ่งมีอุณหภูมิประมาณ 33 องศาเซลเซียส

👉 ความร้อนยังคงเป็นอุปสรรคสำหรับการปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ที่น้ำท่วมและแผ่นดินถล่ม

⭕ หากใครจะมาเที่ยวญี่ปุ่นช่วงนี้ก็ดูแลตัวเอง พกร่มกันแดดและUV พกน้ำดื่มไว้ตลอด พยายามดื่มน้ำให้เพียงพอ ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าออกมาที่โล่งแจ้งในเวลากลางวันและตอนบ่ายๆครับ เข้าห้างสรรพสินค้าได้ก็เข้าไปพักรับแอร์เย็นๆบ้าง

🙏 ขอบคุณข่าวจากมายนิจิ ชินบุมและวีดีโอจาก ANN News ด้วยครับ

ญี่ปุ่นหายร้อนปุ๊บพายุเข้า! ฝนถล่มบ้านไฟดับนับแสนหลัง เจ็บอีก 21 คน

พายุชงดารีเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งแล้ว ทำให้เกิดฝนตกหนัก เสียงเกิดน้ำท่วมและดินถล่ม นอกจากนี้ยังทำให้เกิดไฟดับบ้านเรือนจำนวนมากไม่มีไฟฟ้าใช้

30 ก.ค. 2561 00:20

อ่านข่าวต่อได้ที่: https://www.thairath.co.th/content/1344142

Create Date : 16 สิงหาคม 2561

Last Update : 16 สิงหาคม 2561 11:50:27 น.

0 comments

Counter : 1987 Pageviews.