ปฏิบัติการ go SINGAPORE กะทันหัน ... Part 2
อรุณสวัสดิ์สิงคโปร์ พ่ามพ่ามพามพ๊ามพ่าม ปฏิบัติการ go Singapore กะทันหันเริ่มต้นขึ้นแล้ว ทริปบินลัดฟ้ามาร่วมงานมอบรางวัลประกวดบล็อกท่องเที่ยวนานาชาติภาคพื้นเอเซียแปซิฟิค จัดประกวดโดย SkyScanner ในชื่องาน Skyscanner Travel Bloscars 2014 เช้านี้จะมีรถมารับ 9:00am ไหนดูเวลาซิ เจ็ดโมงเศษ มีเวลาชั่วโมงกว่าสบายๆ อาบน้ำแต่งตัวเปิดคอมฯเล่นเฟสต่อ อิอิ เล่นไปก็ดูเวลาบนคอมฯไป พอจวนเจียนจะแปดโมง จ๊าก!!!! นี่มันเวลาประเทศไทย shipหายแล้ว ปิดคอมฯเผ่นผ่าง จ้ำอ้าว คว้าเป๋ากล้องใส่รองเท้า พุ่งพรวดออกนอกห้อง ตรงไปกดลิฟท์ลงปู๊ดดดถึง lobby เก้าโมงเป๊ง โล่งอก ไม่มีใครมายืนรอ ห้องอาหารอยู่ตรงนี้พอดีด้วยสิเมื่อคืนยังไม่ได้กินไรเลย กินแค่หนมเปี๊ยะเวลคัมสองสามชิ้น เอาแระ จัดการเติมพลังซะหน่อย กินไปมองล็อบบี้ไปไม่น่าพลาด  
ระหว่างหม่ำๆ ขอเอ่ยถึง Accor Hotels สปอนเซอร์หลักสนับสนุนด้านที่พักให้เหล่าบล็อกเกอร์นานาประเทศในทริปครั้งนี้ด้้วยนะครับ Accor Hotels มีเครือข่ายรร.ทั่วโลกกว่า 2,700แห่ง ในกว่า 92ประเทศ โดยในสิงคโปร์มีโรงแรมที่พักในเครือ Accor กว่า 6แห่ง ได้แก่ ibis on Novena, ibis on Bencoonlen, Grand Mercure, Novotel, Sofitel (จะเปิด 31พค.2014นี้), และ The Singapore Resort and Spa Sentosa เชื่อว่าหลายๆ คนรู้จัก Accor hotels ดีอยู่แล้ว สำหรับนายน้ำฟ้าเองปกตินอนแต่เต็นท์ไม่รู้จัก Accor นี่หรอก แต่พอเริ่มทำการหาข้อมูลก็ต้องอุทานดังดังว่า ป๊าดดดดดด ชื่อเค้าดีดังเด่นฮิตซะขนาดนี้คนพันทิปรู้จักกันดี เข้าห้องบลูฯหาข้อมูลไม่หวาดไม่ไหว เรียกว่านายน้ำฟ้าอยู่ป่านานไปหน่อยไม่ค่อยอัพเดตความทันสมัยอะไรกับเค้าเล้ย
ห้องอาหาร Oopen Pasta & Grillบริการอาหารเอเซียและอาหารฝรั่งแบบตะวันตก
เวลาทำการ
คนต่ืนเช้า : 4.00 น. ถึง 6.00 น. //โห ตื่นมาทำไมตีสี่เนี่ย!
บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า: 6.00น.ถึง10.00น. //ช่วงเวลาของเราสินะ
คนตื่นสาย: 10.00น.ถึง12.00น. //โอ้ว ตื่นสายแค่ไหนก็มีให้ทาน
อาหารกลางวันและอาหารค่ำ : 12.00 น. ถึง 22.30 น. //ปักหลักกินที่นี่ได้เลยทีเดียวเชียว
กระผมทำเวลาดีมาก 20นาทีเท่านั้นในห้องอาหาร จากนั้นก็เดินเอ้อระเหยแคะฟันตรงไปล๊อบบี้ เอ๊ะ!! มันชักจะยังไงๆ จะเก้าโมงครึ่งแล้ว ทำไหมไม่มีใครมารับ ตัดสินใจเรียกเคาวเตอร์ให้ช่วยโทรตามสต๊าฟ skyscanner หน่อย ตุ๊ดๆๆๆๆ กริ๊ง หา!!!! ตกรถ!!!! Ship หายอีกรอบ สต๊าฟคุณเกรซแจ้งว่าทุกคนรอคุณพี่หยีอยู่ที่ Singapore Flyer จับแท๊กซี่ตามมาด่วนจี๋เลยนะคะ ให้มันได้อย่างนี้สิโรบิ้น รีบบอกเคาน์เตอร์ติดต่อแท๊กซี่ทันที พ่ามพ่ามพามพ๊ามพ่าม 
บรื๋น บรื๋น ปี๊นๆๆๆ หลีกทางหน่อย ขึ้นแท๊กซี่ปุ๊บแจ้่งจุดหมายปลายทางทันที ไปซิงโปฟายเออร์ด่่วนที่สุด โชเฟอร์หันมาถาม "จะให้ไปทางไหน" หา!!!! ป๊าดดดดด จะรู้มั้ยเนี่ยข้อยเพิ่งมาซิงโปครั้งแรก ไปทางที่เร็วที่สุด ไปๆๆๆ ด่วนๆ ตรูมีนัดกับหมู่คณะประมาณร้อยคนและทุกคนกำลังรอตรูอยู่คนเดียว เข้าใจสถานะการณ์ไหม รีบบึ่งๆ ไปๆ
ใช้เวลาเกือบครึ่งชม. แท็กซี่ก็พาผมมาหย่อนลงซิงโปฟายเออร์จุดรวมพลสำเร็จ ถึงแม้ระยะทางจากรร.มาที่นี่จะไม่ไกลนักแต่เมืองซิงโปเต็มไปด้วยแยกไฟแดงมหาศาล กว่าจะขยับผ่านแต่ละแยกได้เสียเวลาไม่ใช่น้อย ดีที่โชเฟอร์ตัดสินใจพามุดท่อทางด่วนอุโมงค์ยาวเฟื้อย //ต้องขอบอกว่าอุโมงค์ highway ของเค้าดีจริงๆ ระหว่างแล่นผ่าเมืองคุณพี่โชเฟอร์ยังทำตัวเป็นมัคคุเทศก์แนะนำสถานที่สองข้างทางต่างๆด้วยนะ ไม่เลวเลยทีเดียว แท๊กซี่คันแรกของประเทศนี้ก็ประทับใจสุดๆแระ
ทุกคนพร้อมหน้ากันอยู่นานแล้ว ภูมิใจซะคนเค้ารอมุงอยู่คนเดียว 555 ได้พบหน้าทีมงานคุณเกรซที่ประสานงานตัวแทน skyscanner ตลอด และพบบล็อกเกอร์ไทยอีก 2 ท่าน นั่นคือคุณมด แห่ง 9mot.com กะคุณนุ๊ก แห่ง 0ne22.com คนหลังนี่เจอกันมาแล้วเมื่อวานเพราะได้ขึ้นเครื่องบินมาไฟลท์เดียวกัน เอาล่ะครับ โปรแกรมแรกวันนี้ Funvee Greeting & Funvee City Tours 1ชม. รถมารอพร้อมแล้ว go go go 
Funvee เป็นบริการรถทัวร์ 2ชั้นเปิดประทุน พาทัวร์ชมเมือง ชนิด Hop on hop off คือซื้อตั๋วแบบวันเดียวเที่ยวทั้งวัน โดดขึ้นโดดลงรถของ funvee คันไหนก็ได้ที่ตระเวนไปในใจกลางเมือง ค่าบริการราว 20เหรียญสิงคโปร์ คูณ25เข้าไปก็ประมาณ 500บาท สำหรับพวกเรา งานนี้ก็ฟรีหน่ะสิครับ ทีมงานจัดต้อนรับเหล่าบล็อกเกอร์ด้วยรายการ Funvee City
Tours เป็นปฐมฤกษ์ รถสองชั้นเปิดประทุนสีส้มๆ จอดคอยท่า ณ จุดสตาร์ท ใต้ฐานซิงโปฟายเออร์ชิงช้าสวรรค์ยักษ์นี่เอง ขึ้นรถได้ก็ตรงรี่ขึ้้นชั้นบนเลยครับ แม้จะอาบแดดบ้างแต่ต้องแลก เพื่อจะได้เห็นวิวเมืองเต็มตา วู้ๆ 
เหล่าบล็อกเกอร์ที่มาจากหลายประเทศ มีหลากหลายวัย ที่บนชั้น top bus ก็ชั้นบนที่เปิดประทุนนั่นแหละ สังเกตว่าจะมีแต่เหล่าบล็อกเกอร์วัยซะรุ่น นายน้ำฟ้าก็รวมอยู่ในวัยนี้ด้วย อิอิ แสงแดดแผดเผากลัวที่ไหน ออ ลืมบอกไป กลางเดือนมีนาแบบนี้ดวงอาทิตย์โคจรมาตั้งฉากเหนือเส้นศูนย์สูตรพอดีคิดดูละกันว่าร้อนแดดขนาดไหน 555 แต่เมืองสิงคโปร์เค้าดีจริงๆแม้จะอยู่กลางเมืองตึกระฟ้าเต็มไปหมดแต่ต้นไม้ใหญ่ๆมีให้เห็นหนาตาไม่แพ้กัน ดูเหมือนทางการเค้าจะเน้นสร้างเมืองให้เขียวเป็นพิเศษ ข้อนี้ต้องยอมรับว่าเค้าทำได้ดีสุดๆ บล็อกเกอร์ไทยมากัน3คน แต่ที่เห็นกลุ่มใหญ่ๆนั่นบล็อกเกอร์อินโดกับฟิลิปปินส์ครับ เฮฮากันสนุกสนานชื่นมื่นมาก ปูเดี๋ยวค่อยๆทำความรู้จักกันไปเน้อะตอนนี้ขอเสพวิวเมืองก่อน และก็ไม่พลาดที่จะ selfie ตัวเองด้วย อิอิ อ้อ ฝรั่งที่เห็นสองสามคนในภาพซ้ายนี่ไม่ใช่เหล่าบล็อกเกอร์นะครับ รถ funvee ที่เราขึ้นมานี่เราไม่ได้เหมาคันกันมา เค้าก็เลยจอดป้ายรับผดส. hop on hop off กันปกติ
City Tours Sightseeing ออกเดินทางพาชมวิวเมือง ช่วงเวลาแบบนี้ก็ได้แต่ชมเมืองนะครับ ไม่ได้มีไกด์มาอธิบายว่าที่ไหนคืออะไร สนใจจุดไหนก็อาศัยเอ่ยถามกับทีมงานคุณเกรซที่รับหน้าที่มาดูแลบล็อกเกอร์คนไทย เนื่องจากคุณเกรซเป็นคนไทยครับ บล็อกเกอร์แต่ละชาติจะมีทีมงานแบ่งกันดูแล มาดูเส้นทางกัน ตอนนั้นก็ไม่รู้ว่าพาไปไหนหรอก แต่ผมบันทึกจีพีเอสเอาไว้ กลับมาเปิดบน Google Maps ได้ความว่ารถพาเราวนเป็นวงรีลีบๆ ข้ามแม่น้ำไปกลับ แล่นไปทิศตต.เฉียงเหนือไปสุดที่จุดๆนึงห่างจาก flyer ไป 11กิโลแล้วก็วกกลับมาตามถนน Orchard ถนนที่สองข้างทางเต็มไปด้วยศูนย์การค้าใหญ่โตโอฬาร แล้วกลับมาซิงโปฟายเออร์อีกทีเป็นอันครบรอบ แต่ว่าพวกเรายังไม่ลงครับ hop on ต่อไปๆลงกัน ณ Esplanade สถาปัตยกรรมโดมแฝดรูปตาแมลงวัน รวมระยะทางไปกลับ 18กิโลเมตร ใช้เวลาไปหนึ่งชั่วโมงนิดๆ
รายการทัวร์ต่อไป ร่วมถ่ายภาพหมู่ที่ระลึกกันริมอ่าว ข้างๆ esplanade สถาปัตยกรรมงามตาแปลกประหลาด บ้างว่าหน้าเหมือนตาแมลงปอ บ้างก็บอกเหมือนตาแมลงวันมากกว่า บางคนว่าสัปรดชัดๆ บางคนแย้งว่าหนามทุเรียนเฟ้ย ที่นี่มี mascot ของ ibis สามตัวสามคนแต่งตัวเป็นรูปหมอน 3สี แดง เขียว น้ำเงิน มายืนรอต้อนรับ เพิ่มสีสันได้น่าสดใสมาก ถ่ายรูปกันสนุกสนานเข้าไปอีกทีนี้ แล้วเราก็ชักภาพหมู่เป็นที่ระลึกกึ่งๆทางการกันที่นี่ พิกัดริมอ่าวที่เรายืนถ่ายรูปกัน (street view) นับจำนวนเหล่าบล็อกเกอร์คร่าวๆด้วยสายตาก็ประมาณสิบกว่ายี่สิบชีวิต ถ่ายภาพจุใจแล้วก็ชมทัศนียภาพริมอ่าวและปากแม่น้ำสิงคโปร์ วิวข้างๆเราคือโดม Esplanade ทางด้านซ้าย พอมองข้ามฟากอ่าวไปตรงหน้าก็เห็นตึกโรงแรมรูปเรือ Marina Bay Sands และ Art Museum อาคารรูปกลีบดอกไม้ เป็นแลนด์มาร์คขนาดใหญ่ เยื้องไปทางขวาเชิงสะพานข้ามแม่น้ำฝั่งตรงข้ามมองเห็น Merlion สิงโตเงือกสัญลักษณ์ประเทศสีขาวเด่นตั้งอยู่นั่น จากนั้นทีมงานก็ออกนำ พาเดินข้ามสะพาน Esplanade ข้ามแม่น้ำสิงคโปร์ เราจะไปชม Merlion ใกล้ๆ กันครับ
ภาพนายน้ำฟ้ากะ mascot ibis เท่มะค้าบ อิอิ ให้ทายหมอนสีไหนน่าอิงน่าพิงที่สุด แน่นอนตอบถูกกันหมดเลย ..เฉลย สีแดงหน่ะสิ 555
เราเดินข้ามสะพานมาถึง Merlion Park ว้าว ได้มาชมสิงโตเงือกใกล้ๆ เป็นขวัญตาแล้ว เป็นอันว่าได้มาถึงสิงคโปร์แล้วนะ the thing must see ตื่นเต้นตื่นตา แต่ว่าแต่มาซะเที่ยง! ปกตินักถ่ายวิวอย่างนายน้ำฟ้าเนี่ยถ้าให้แบกขามาหามุมแถวไหนล่ะก็เป็นต้องเลี่ยงชั่วโมงเงาตรงหัวแบบยามนี้ล่ะครับ แต่ก็อีกนั่นแหละจะมาเลือกเวลาให้ได้ดั่งใจอะไรกันตอนนี้ อ่ะ ถ่ายภาพเป็นที่ระลึกหน่อย เสียดายสีฟ้าเหนือท้องฟ้าสิงคโปร์เพลานี้ช่างขาวซีดเหมือนสีผิว Merlion เสียเหลือเกิ๊น อมแดดอมเงายังไงไม่รู้ แถมสิงโตเงือกไม่ยอมพ่นน้ำอีกต่างหาก กำ!เกร็ด Merlion จากเวปWiki
สตรีทวิว Merlion Park
โปรแกรมต่อไป ล่องเรือครับ River Cruise ลงเรือที่ท่าข้างๆ Merlion ตีวงชมอ่าวแป๊บนึงแล้วก็มุ่งหน้าย้อนอ่าวเข้าแม่น้ำสิงคโปร์ แล่นเรือไป 2 กิโล ไปขึ้นฝั่งที่ย่าน Clarke Quay
ทัศนียภาพสองฟากฝั่งแม่น้ำสิงคโปร์บริเวณนี้สวยงามมาก กลุ่มตึกระฟ้าสูงตระหง่านเบียดเสียดกันจนแทบไม่เห็นช่องว่าง เมื่อกวาดตามองลงมายังระนาบพื้นก็เห็นความเปรียบต่างกับสถาปัตยกรรมย้อนยุค ที่ไม่ได้ถูกทุบทำลาย เดาว่าเป็นความตั้งใจที่จะอนุรักษ์เอาไว้ แม่น้ำก็สวยงามสะอาดตาหามลพิษทางสายตาไม่ได้เลย เห็นแล้วอยากให้แม่น้ำเจ้าพระยาบ้านเราที่ไหลผ่านกทม.สวยสะอาดแบบนี้บ้าง จริงๆนะ 
ท่าเรือคลาร์กคีย์ Clarke Quay (wiki) เป็นท่าเรือที่รุ่งเรืองพลุกผล่านที่สุดในยุคศตวรรษที่ 19 และปัจจุบันถูกอนุรักษ์ไว้เป็นย่านช๊อปปิ้ง กินดื่ม แหล่งรวมร้านอาหารสถานบันเทิงริมน้ำยอดนิยมสูงสุดแห่งหนึ่งของสิงคโปร์เลย ที่เห็นเป็นโดมเห็ดขาวๆ สี่ห้าโดมนั่นดูเหมือนจะเป็นระบบปรับอากาศของเค้านะครับผสมผสามกับหลังคากันแดดแบบมีท่อส่งไอเย็น ใหญ่โตโอฬารและครอบคลุมให้ร่มเงาไปตลอดทางเดินในย่านเลย เรียกว่าเดินเที่ยวได้ไม่มีเหงื่อไหลไคลย้อยเชียวล่ะ
ขึ้นฝั่งได้ก็เดิน เดิน เดิน สองสามร้อยเมตรเลาะเลียบแม่น้ำที่ร้านอาหารเต็มไปหมด นึกภาพได้เลยว่ากลางคืนคงคึกคักสุดสุด เดินกันมาสุดย่านคลาร์กคีย์ก็พบกับตึกโรงแรมโนโวเทล รร.ในเครือ Accor hotels กำหนดการของเราคือกินมื้อเที่ยงกัน ณ ห้องอาหาร The SQUARE ในโรงแรมนี้ครับ แหม่ กำลังหิวไส้กิ่วพอดีเลย แถมกำลังอยากได้แอร์เย็นๆด้วย
อิ่มหนำกับมื้อเที่ยงทีมงานก็จัดรถมาพากลับโรงแรมไปพักผ่อนครับ มีเวลาพักผ่อนผึ่งพุงชั่วโมงกว่าเตรียมตัวพบกับงานหลักของทริปนี้นั่นคืองานมอบรางวัล Bloscars Award ในช่วงเย็นค่ำ รถที่มารับเป็นคันเดียวกับที่ไปรับผมเมื่อเช้าที่รร. ได้การละ ถามซะเลยเมื่อเช้าแกทำไมไม่รอตรูฟร๊ะ โชเฟอร์มันบอก ไอไม่รู้ ไอขับไปถึงรร.แล้วไอไม่เห็นใครไอก็ให้เคาว์เตอร์เค้าโทรขึ้นไปหาที่ห้อง ไม่มีใครรับสายไอก็ไปเลย เอ่อ กำ ตอนนั้นเราอยู่ในห้องอาหารนั่นเอง
5:00 pm ณ ถนนโรบินสัน ตึกโรบินสันพ๊อยท์ street view ได้เวลาทัวร์บริษัท ชมออฟฟิคสำนักงาน Skyscanner เจ้าภาพและผู้จัดงานประกวดบล็อกท่องเที่ยวภาคพื้นเอเซียแปซิฟิคในครั้งนี้
เกี่ยวกับ Skyscanner
Skyscanner เป็นเว็บไซต์ค้นหาการเดินทางชั้นนำระดับโลกที่เป็นโปรแกรมค้นหาเที่ยวบินอันดับหนึ่งของยุโรป ให้ข้อมูลเปรียบเทียบแบบออนไลน์ได้ทันที สำหรับเที่ยวบินนับล้าน รวมถึงการเช่ารถและจองโรงแรม สนง.ใหญ่อยู่ประเทศอังกฤษและมีสำนักงานภาคพื้นเอเซียแปซิฟิคอยู่ ณ ประเทศสิงคโปร์ อ่านเพิ่มเติม
ออฟฟิคหรูหรามีระดับ ดูดีมีสไตล์มาก พนง.แต่งตัวตามสบายทำงานสไตล์ฝรั่ง มีมุมพักผ่อนคลายเครียด relax เล่นXbox game ตีปิงปอง ปาเป้าด้วย เห็นแล้วให้อิจฉา พนังงานที่นี่ทุ่มเทเพื่องานขณะเดียวกันก็พักผ่อนสมองได้เต็มที่
แนะนำบริษัทและทีมงานกันเสร็จ ฝรั่งคนนึงก็พาชมออฟฟิคทั่วๆ พนง.มือคอมพิวเตอร์โบกมือทักทายพวกเรา จากนั้นก็เข้าสู่พิธีการมอบโล่รางวัล Mr.Andy Sleigh ผู้จัดการทั่วไปเอเซียแปซิฟิก เป็นผู้มอบ เป็นรางวัลสำหรับผู้ชนะที่หนึ่งของแต่ละประเทศ สำหรับไทยเราผู้คว้าที่หนึ่งก็คือ Rinsa Yoyolive ซึ่งติดภารกิจบินไปเกาหลีพอดีไม่สามารถบินมารับมอบได้ คุณมด แห่ง 9mot ผู้รั้งอันดับ3 จึงขึ้นรับมอบรางวัลแทน //เพราะ hotsia อันดับสองไม่ได้มาเช่นกัน เอ้า แล้วนายน้ำฟ้ามาเกี่ยวอะไรกะเค้าเนี่ย ฮี่ ก็ไม่รู้สินะ คือว่าเข้ารอบมากะเค้าด้วยอ่ะ เค้าก็เชิญมาเสริมบรรยากาศ มาเป็นสักขีพยานงานแจกรางวัลมั้ง คนบล็อกแกงค์ของเรานอกจากน้องริน นายน้ำฟ้าแล้วก็ยังมีน้องหนึ่ง Chenyuye อีกคนที่เข้ารอบมาด้วยแต่ไม่ได้เดินทางมา สำหรับแฟนขับน้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา นายน้ำฟ้าต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ เนื่องจากแข่งรอบแรกนั้นเป็นการตัดสินผู้เข้ารอบด้วยคณะกรรมการ แต่พอเข้ารอบชิงนั้นกติกาเค้าแข่งกันที่คะแนนโหวต ไม่เข้าทางนายน้ำฟ้าที่แฟนขับน้อยเลยอุ๊บเงียบไม่ได้บอกใครให้รู้ว่าลงแข่งครับ ผลออกมาก็เลยหล่นไปอยู่อันดับบ๊วย แต่ก็โชคดีได้รับเชิญมาเยือนสิงคโปร์ด้วย โอ้ว ฟลุ๊ค อิอิ และไหนๆ ในฐานะที่เป็นชาวบล็อกแกงค์ก็เลยรับมอบโล่รางวัลมาเก็บไว้ให้ และโล่นี้ก็ถึงมือเจ้าตัวเจ้าของโล่ไปเรียบร้อยแล้ว
หลังจากนั้นก็เข้าสู่ช่วงเวลาฉลอง ทีมงานเตรียมแท็กซี่ไว้มารับพวกเราไปฉลองรางวัลกันต่อที่ย่านกินดื่มย่านนึง บนนถนนสายเล็กๆที่ชื่อ Duxton rd. ในร้านที่มีชื่อว่า Group Therapy street view
ดูสิครับ ถนนสายเล็กๆของเค้ายังเรียงรายด้วยต้นไม้สวยงามเป็นระเบียบ เป็นเมืองที่ใส่ใจในการเพิ่มพื้นที่สีเขียวจริงๆ อาคารก็ดูสวยน่ามอง ร้านที่เราจะไปอยู่ชั้นสองของร้านนี้ครับ (ภาพขวา) ส่วนชั้นล่างเป็นร้านอะไรไม่รู้ ชั้นละร้านเลย! ถนนสายนี้เวลานี้ดูคึกคักมาก เดาว่าเป็นย่านที่กลางคืนเป็นถนนสายของกินว่างั้น เพราะมองไปมีแต่ร้านอาหาร รถราก็เยอะวันเวย์เข้ามาไม่ขาดสาย
ได้เวลาเมาไวน์ ฮ่าฮ่าฮ่า นายน้ำฟ้าเติมไวน์ไม่อั้นเมาไม่ขับ เพราะไม่ได้เอารถมา ส่วนกับข้าวของกินอะไรตักไม่เป็นครับ ดีว่ามื้อกลางวันยังมีตุนอยู่ในท้องเลยเน้นเฮฮากะไวน์มากกว่า บรรยากาศเต็มไปด้วยความชื่นมื่น ทีมงานสกายสแกนเนอร์เหมาร้านไว้ให้เรียบร้อย พร้อมกันนี้ก็ยังมีทีมงานจากเหล่าสปอนเซอร์หลัก อย่างเช่นตัวแทนจาก ibis, novotel มาร่วมงานฉลองอย่างพร้อมเพรียง
ม่วนชื่นและได้เพื่อนใหม่ต่างชาติมากมาย มีทั้งเพื่อนใหม่ชาวอินโด ฟิลิปปินส์ อินเดีย ออสเตรเลีย เกาหลีใต้และทีมงานเจ้าภาพ งานนี้แลกนามบัตรกันให้วุ่นวาย ผมเองไม่มีนามบัตรกลับมาเมืองไทยเลยต้องพิมพ์ไว้แจกกับเค้ามั่ง อ้อ แล้วคราวหน้าจะต้องหัดยิ้มยิงฟันบ้างด้วย ดูเสะภาพออกมาแต่ละภาพมันจะเม้มปากทำไมนักหนาฟร๊ะสงสัยกลัวไวน์กระฉอก
ในงานยังมีเซอร์ไพรส์ด้วยการเพิ่มประกาศรางวัลตำแหน่งพิเศษเพิ่มอีกหนึ่งรางวัลสำหรับผู้ชนะเลิศระดับภูมิภาค Bloscars Asia Pacific (Bloscars APAC) หลังจากที่เมื่อตอนเย็นนั้นแจกรางวัลในระดับประเทศไป และผู้ที่คว้ารางวัลไปได้แก่ แถ่นแท๊น บล็อกเกอร์คู่สามีภรรยาเชื้อสายอินเดียสัญชาติสิงคโปร์แห่งเวป travel & beyond ขอแสดงความยินดีด้วยค้าบ
ส่วนอันดับสูงสุด (ซึ่งมาประกาศภายหลังจากงานนี้ไปประมาณ 10วัน) ที่หนึ่งของที่หนึ่ง (เรียกชื่อตำแหน่งไม่ถูกแล้ว) นั่นคือแหม่มสาวชาวออสเตรเลียที่เหินฟ้าตรงมาจากเมืองบูดาเบส ยุโรป เธอคือ Miss Brooke Saward (สวาท! โอ้ว เพราะพริ้ง ทั้งสวยทั้งเก่ง เอาผลงานคลิปวีดีโอในยูทูปของเธอมาให้ชมนะครับ คลิกชมความน่ารักสดใสของเธอได้ World of wonderlust
งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา กิมย้งกล่าวไว้ ใกล้จบงานเหล่าบล็อกเกอร์ก็ทยอยกันขอตัวกลับ ใครใคร่ไปฉลองต่อที่ไหนก็ตามอัธยาศัย สำหรับบล็อกเกอร์ชาวไทยไม่มีใครไปฉลองต่อนะครับแต่กลับสวมหัวใจนักรีวิวชวนกันออกล่าภาพถ่าย city night scape อีก มุ่งหน้าไปอ่าวมารีน่าอีกรอบ !! งานนี้นายน้ำฟ้านึกไม่ถึงว่าจะมีการไปต่อ ขาตั้งกล้องก็เลยทิ้งไว้ที่โรงแรม เอาล่ะสิ ไปก็ไปวุ้ย
ราตรี ณ Marina Bay อีกครั้ง คราวนี้ได้มาส่องสิงโตเงือก Merlion อีกหนแต่เป็นกลางคืน ได้ชมโรงแรมเรือฉายแสงเลเซอร์ ได้ดูแสงสีที่ยิงเล่นลวดลายใส่ art museum โดมรูปกลีบดอกไม้ และที่สำคัญผมได้มาเดินเล่นบนสะพานบิดเกลียว Helix bridge สะพานบิดเกลียวมุมมองบนสะพาน street view จุดที่ยืนถ่าย ด้วยครับ ตื่นตาตื่นใจกับสะพานอย่างมาก ของเค้าสร้างได้เดิ้ลดีจริงๆ
ขอลาไปด้วยภาพปิดวิวแถวอ่าวมารีน่าสองสามภาพนี้นะค้าบ ขอบคุณ 9mot ที่ให้ยืมขาตั้งกล้องมาส่องสิงโตเงือกหนึ่งช๊อท ส่วนสะพานนั่นแข็งใจกลั้นลมกดชัตเตอร์เอา โชคดีไม่สั่นไหว ภาพที่เหลือนอกนั้น! จะเหลือเหรอ สปีดต่ำกว่า 2วิขึ้น ไม่มีคมชัดเข้าเป้าซักใบ _ _" สำหรับเรื่องราวหลังจากนั้นก็ไม่มีอะไรมากแล้ว ย่อๆก็คือถ่ายภาพเสร็จก็แยกย้ายกันกลับรร.ใคร รร.มัน ผมเกือบตกรถไฟฟ้า MRT เนื่องจากเที่ยวสุดท้ายหมดเที่ยงคืน เห็นเขาวิ่งกันไอ้เราก็วิ่งตามอิอิ วันรุ่งก็นอนตื่นสาย เก็บเป๋า รอเช็กเอ๊าท์ ลากเป๋าโหนรถไฟฟ้ากลับหนามบินชางงี้บินลัดฟ้ากลับสู่ฟ้าเมืองไทยโดยสวัสดิภาพ
ฝากคอมเมนท์ไว้เป็นกำลังใจหรือ Like & Share หรือทิ้งร่องรอยให้รู้ว่าท่านมาเยี่ยมเยือนเรา นายน้ำฟ้า นะค้าบ ^__^
go SINGAPORE กะทันหัน ตอนที่ 1
| Create Date : 17 พฤษภาคม 2557 |
| Last Update : 16 เมษายน 2558 9:08:28 น. |
|
50 comments
|
| Counter : 5733 Pageviews. |
 |
|
ที่จริงแวะมากดไลค์กับโหวตให้แล้ว แต่ไม่มีเวลานั่งคุยน่ะ
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 185 คน [
เหนือความคาดหมาย เพราะสวยมากกก
ว่าแต่เค้า ให้ พระ เลิกห่มจีวร
ไปรับรางวัลแทนได้ด้วยเรอะ
เกรียนมาเชียว
ขอบคุณที่รับรางวัลมาให้ด้วยค่าาา
แบบนี้ต้องให้คนรับแทน พาไปเลี้ยงปู 555
แปะก่อน ไว้ค่อยมาอ่าน