จากการที่ผมได้ทำประวัติของแกไว้ ชื่อ วิธีการเทรดของ Dan Zanger ก็ได้เห็นสิ่งที่แกพยายามจะบอกให้โลกรู้ว่า pattern ทำเงินของแกที่ชอบมากคือ bullish flag นั่นเองครับ
เมื่อมันสุดยอดและทรงประสิทธิภาพแบบนี้ ผมเลยขอลงทุนทำบทความเจาะลึกเกี่ยวกับ Bullish flag pattern ทั้งหมดตั้งแต่รูปแบบทางทฤษฎี, เคสจริง, ความเสี่ยง และจิตวิทยาเบื้องหลังมาให้ท่านได้อ่านกันแบบเต็มๆกันในโพสต์เดียวเลยดีกว่า
ส่วนประกอบของ bullish flag ก็คือ
๑) เริ่มต้นที่ "แท่งเขียวยาว" ครับ จะแท่งเดียว หรือหลายแท่งติดต่อกันก็ได้
๒) ต่อมา ราคาพักตัว บีบตัวแคบๆ เป็นกรอบ โดยจะออกข้างแนวตรงก็ได้ เฉียงลง หรือขึ้นก็ได้ครับ ขอให้มันแกว่งแคบลงมากๆ
๓) วอลุ่มในช่วงผืนธงต้องลดน้อยลงไปมาก เมื่อเทียบกับวอลุ่มของแท่งเขียวยาวติดต่อกัน วอล่มช่วงที่เป็นผืนธงต้องน้อยกว่ามากเรียกว่าแห้งกันเลยทีเดียว ยิ่งแห้งยิ่งดีครับ เพราะสื่อว่าไม่มีแรงขายจากมืออาชีพ
๔) ตอนที่ราคาดีดแรง breakout กรอบของผืนธงขึ้นไป แท่งเขียนต้องเขียวยาว มาพร้อมกับวอลุ่มที่สูงกว่าตอนพักตัวเป็นผืนธง 50% ขึ้นไป ยิ่งมายิ่งดี เป็นเท่าตัวได้จะสุดยอดมาก (เดี๋ยวดูเคสจริงจะเห็นภาพชัดขึ้นครับ)
มันก็เป็นเหมือน pivot buy point นั่นเองครับ
จิตวิทยาเบื้องหลัง
มันเป็น "การพักเหนื่อยในขาขึ้น" หรือ continuation pattern รูปแบบหนึ่งครับ
คือก่อนหน้านี้ราคาหุ้นถูกไล่ซื้อขึ้นมาอย่างรุนแรง
เขียวยาวต่อเนื่อง บวกเป็นสิบเปอร์เซ็นต์ บางตัวก็ ceiling แล้วพักก็มี
เมื่อราคาหุ้นบวกแรงมากๆ
คนที่ทุนต่ำและพอใจในกำไรก็เริ่มทยอยขายครับ
ซึ่งคนทำราคาก็รู้แกวว่า ช่วงนี้ต้องมีคนขายแน่ๆ ก็เลยหยุด
ระดับราคาที่หยุด ส่วนใหญ่แล้ว มักจะเป็น
- แนวต้านใหญ่
- ระดับ all time high
- ตัวเลขกลมๆที่มีนัยยะ เช่น 1 บาท, 5 บาท, 10 บาท, 100 บาท
อีกเหตุผลคือ
คนทำราคาเขาไม่ไล่ราคาขึ้นพรวดเดียวจบหรอกครับ
เขา "กลัวไม่ได้ขาย" ครับ
เพราะถ้าไล่ราคาเพลิน เจอคนทุนเยอะ เงินหนา สอยเข้าให้ที่ยอดดอย
คนดอยหุ้น ไม่ได้มีแค่รายย่อยนะครับ
เจ้ามือ ก็มีสิทธิ์โดนได้เช่นกัน
ดังนั้น เขาต้องไล่ไปพักไป
บริหารเงินทุน หมุนเงินไปด้วย
ซึ่งเป็นศาสตร์ลึกลับ ที่ผมพยายามหาเบาะแสอยู่
นอกจากช่วงพักตัวเป็นการบริหารเงินทุนของคนทำราคาแล้ว...
ก็ยังเป็นการปล่อยคนที่หมดใจ ลงจากรถไปนั่นแหละครับพูดง่ายๆ
ซึ่งจะมีทั้งคนที่ได้กำไร ขายด้วยความสุข
และคนอึดอัด เพราะดันไปไล่ซื้อ ตอนที่ราคาทำแท่งเขียวยาวกลัวตกรถ