ลองอ่านบทวิจารณ์ใน website beartai.com เพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจไปชมกันจ้า
เขาวิจารณ์ไว้ว่า การกลับมาในครั้งนี้ของ Escape Plan 2 ได้ทำการออกแบบคุกใหม่ได้
ไฮเทคดูฉีกแนวดี หนังพยายามปูพรมผูกปมสร้างสถานการณ์ต่าง ๆ ที่จะทำให้ เรย์ เบรสลิน
มีเหตุต้องกลับไปช่วยเหลือเพื่อนอีกครั้งในคุกเฮเดส ซึ่งเคลมว่าเป็นคุกอเวจีที่ไม่มีใครสามารถ
ออกมาได้ ซึ่งในช่วงแรกของการปูทางนั้น ฟอร์มหนังดูมีของไม่น้อยเลย นั่นทำให้เกิดความคาดหวัง
ว่าภาคนี้น่าจะสนุกกว่าภาคที่แล้ว แต่แท้ที่จริงแล้ว ทั้งหมดทั้งมวลก็เพราะหนังพยายามทำ
เอาใจพี่จีนนายทุนมากเกินไป เลยกลายเป็นว่า สตอลโลน และ บาติสต้า มีสภาพไม่ต่างอะไรกับ
ดาราสมทบ ให้หวงเสี่ยวหมิง ซึ่งสวมบทเป็น ไมเคิล สกอฟิลด์ ทั้งเรื่อง โดยมาเป็นป๋าดัน
ให้พระเอกจีนปล่อยของไม่มีผิด อย่างเรื่องการใช้เหตุผลวิเคราะห์ ปฏิภาณไหวพริบ หรือความคิด
สร้างสรรค์ในการแหกคุก หรือทำยังไงก็ได้ให้เชื่อว่าตัวละครตัวนี้ดูมีสมองแหกคุกหน่อยก็ยังไม่ถึง
ขั้นนั้น มันตื้นเขิน อะไรมันก็ดูง่ายเวอร์ แต่อย่างน้อย หวงเสี่ยวหมิง ก็มีอินเนอร์ในฉากต่อสู้อยู่พอตัว
อย่างไรก็ตาม ถ้าพูดถึงภาพรวมของ Escape Plan 2 มันเริ่มต้นมาด้วยการวางปมทิ้งไว้หลายอย่าง
ให้ซับซ้อน แต่สุดท้ายก็ตัดจบง่าย ๆ เกินคาด แถมยังมีหลายปมที่ไม่ได้คลี่คลายให้ชัดเจน
มีการเล่นแร่แปรธาตุให้ทุกอย่างมันดูล้ำ ดูเจ๋ง ท่ามกลางความเล่นใหญ่ แต่พี่จีนอาจลืมคิดไปว่า
คนดูทั่วโลกไม่ได้คิดจะเออออหยวน ๆ ทนดูอะไรได้นาน ๆ เหมือนละครหลังข่าว เอาจริงๆ
ฉากบู๊ที่ทำให้หนังเรื่องนี้ยกระดับก็มาจากลุงแรมโบ้อยู่สองสามฉากนี่แหละ สำหรับเรื่อง
ไดอะล็อกของตัวละครก็ยังเป็นเหมือนหนังซุปเปอร์ฮีโร่ยุคไดโนเสาร์ ประเภทฝากไว้ก่อนเถอะ
หรือว่าเราจะตามล่ามันให้จงได้ ซึ่งมันมุกรุ่นพ่อแล้ว มันไม่ควรหลุดออกจากปากแล้ว
ต้องไม่พลาดค่ะ