เอสพี .....เป็นผลิตภัณฑ์ ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในหลายประเทศ (แต่เจ๊หลีว่า หลาย ๆ ประเทศก็หา sp ยาก อะ) ใช้กันเป็นเวลานานกว่า 20 ปี เช่น ในญี่ปุ่นมีการใช้กว่า 2,000 ตันต่อปี ..... เ อ ส พี ...ป ร ะ ก อ บ ด้ ว ย น้ำตาล ส่วนผสมที่ใช้ในการถนอมอาหารและอิมัลซิไฟเออร์ ซึ่งส่วนผสมทุกตัวในเอสพี องค์การอาหารและเกษตร ( FAO ) แห่งสหประชาชาติ และองค์การอนามัยโลก ( WHO ) ได้อนุญาติให้ใช้ในอาหารได้ จึงแน่ใจว่า ไม่เป็นโทษ ต่อร่างกายของเรา ( เฮ้อ.......... สบายใจหน่อยนุงเนอะ)เ อ ส พี...เ ป็ น ส่ ว น ผ ส ม ที่ ผ ลิ ต เ พื่ อ ใ ช้ ใ น เ ค้ ก ไ ข่ ที่เราต้องการฟองมาก ๆ เช่น สปันจ์เค้ก แยมโรล และ ขนมปุยฝ้าย ( เจ๊หลี สรุปให้ว่า เป็นเค้ก หรือขนม ที่มีส่วนผสมของไข่ที่ใช้หลักการตีไข่ทั้งฟองกับน้ำตาลทรายเป็นหลัก ) ทั้งนี้ เพราะ......ส่ ว น ผ ส ม ข อ งเ อ ส พี มี คุ ณ ส ม บั ติพิ เ ศ ษ คือ ช่วยทำให้เกิดฟองได้ดี ซึ่งจากคุณลักษณะนี้ ทำให้ในการทำเค้กชนิดนี้ ทำง่ายขึ้น สะดวกและเค้กไม่ยุบง่าย สปันจ์เค้กที่เติมเอสพีไม่จำเป็นต้องนำเข้าอบ ทันที ) อาจตั้งทิ้งไว้ได้นาน ถึง 3 ชั่วโมง ( ไปดูหนังซักรอบ กลับมาค่อย อบ ไงคะ ซึ่งเค้กจะไม่ยุบ นอกจากนี้เอสพี ยังช่วยให้เค้กมีขนาดใหญ่ขึ้น ค่ะคุ ณ ส ม บั ติ ข อ ง เ อ ส พี1. ช่วยให้การผสมง่ายขึ้น สามารถผสมแบบขั้นตอนเดียวได้2. ช่วยให้ประหยัดเวลาและแรงงาน3. เนื่องจากเอสพีช่วยให้เกิดฟอง และช่วยให้ฟองอยู่ตัว จึงสามารถตั้งทิ้งไว้ได้ 2-3 ชั่วโมง ก่อนเข้าอบ4. ช่วยให้ปริมาตรขนมใหญ่ขึ้น5. ช่วยให้เค้ก นุ่ม และสด นานขึ้น6.ขนมนุ่มและสามารถมีอายุการเก็บนานขึ้นสำหรับการทำเค้กสปันจ์ ที่ ใช้ อบ ถ้าใช้โอวาเล็ต จะนุ่มฟูดี กว่า เอสพี ส่วนเอสพีใช้สำหรับ ของที่ นึ่ง จะมีคุณภาพ กว่า (อันนี้คือความคิดส่วนตัวนะคะ)ลั ก ษ ณ ะ ทั่ ว ไ ป ข อ ง เ อ ส พีมีลักษณะเป็นครีมใส สีน้ำตาลอ่อน กลิ่นหอมอ่อน ๆ ป ริ ม า ณ ก า ร ใ ช้3-5% ของน้ำหนักแป้งก า ร เ ก็ บ รั ก ษ า ควรใส่ภาชนะที่มีฝาปิดสนิท และเก็บไว้ในที่เย็น (ส่วนตัวเจ๊หลี เก็บไว้ตู้เย็นช่องธรรมดาค่ะ)มี comment จากข้างล่างถามว่า ถ้ า จ ะใ ช้ เ อ ส พี จ ะใ ส่ ช่ ว งไ ห นเจ๊หลีขอตอบเพิ่มเติมตรงนี้เลยว่าเอสพี สามมารถทำเค้กไข่ ได้สองวิธีคือ >1. ตีผสมแบบปุยฝ้าย 2. ตีแบบรวบยอดเร่งรัด ขั้นตอนเดียวจบค่ะขั้นตอนมีดังนี้ นำส่วนผสมในสูตรทั้งหมด ใส่ลงอ่างผสม ใช้หัวตีตะกร้อเปิดด้วยความเร็วต่ำของเครื่อง ผสมพอส่วนผสมเข้ากันดีเท่านั้น เปลี่ยนเป็นความเร็วสูงสุดของเครื่องตีจับเวลา 5 นาที หลังจากนั้นตีตัดฟองอากาศด้วยความเร็วต่ำ 1 นาที เค้กจะเนื้อละเอียดขึ้น จากนั้นใส่พิมพ์ปอนด์กลม ไม่ทาไขมัน และรองกระดาษไขที่ก้น ส่วนพิมพ์เหลี่ยม ทำแยมโรล ให้ทาเนยขาวและรองกระดาษไข แล้วทาเนยขาวทับอีกทีหนึ่งที่มาของข้อมูล ดี ๆ ...............จากตำราทำขนมจากแป้งข้าวสาลี ของโรงเรียนสอนทำขนม UFM ค่ะ ขอบคุณแหล่งข้อมูล นะคะ....เจ๊หลีไม่สามารถ ขนาดแต่งเนื้อหาสาระดี ๆ อย่างนี้ได้ เองหรอกค่ะ ขอได้รับความขอบคุณ ณ ที่นี้อีกครั้งค่ะ.............^ 0 ^ แล้วติดตาม ดู ส่วนของโอวาเล็ต ซึ่งเป็นของอีกบริษัท และมีคุณสมบัติ เหมือนเอสพี
แต่ถ้า ไม่มี เอสพีล่ะ เราจะทำอย่างไร คำ ถ า ม นี้ เ ป็ น คำ ถ า ม ที่ ค น มั ก ถ า ม บ่ อ ย ๆ ตอบ .. เราสามารถทำเค้กได้โดยไม่ต้องใส่เอสพีลงไปในส่วนผสมก็ได้ค่ะ แต่เราอาจต้องเปลี่ยนขั้นตอนของการผสม โดย เราจะผสมแบบสปันจ์ทั่วไป โดยวิธีการทำดังนี้ค่ะ ร่อนแป้งกับผงฟูเข้าด้วยกัน ตีไข่ไก่ด้วยหัวตีตะกร้อด้วยความเร็วสูงสุดของเครื่องตีจนไข่ข้นขาว จากนั้นเราเปลี่ยนเป็นความเร็วปานกลาง ค่อย ๆ ใส่น้ำตาลทรายขาวเม็ดเล็ก ๆ ช้า ๆ จนหมด ตีต่อจนกระทั่งส่วนผสมข้นอยู่ตัว เปลี่ยนเป็นความเร็วต่ำ ตีตัดฟองอากาศ 1-2 นาที ค่อย ๆ เติมแป้งจนหมดผสมจนเข้ากันดี จึงเติมนม หรือส่วนของ ๆ เหลว อย่างเบามือ และตามด้วยเนยละลาย ผสมจนเข้ากันดี จากนั้นตะล่อมด้วยพายยางเบา ๆ ให้เข้ากันอีกครั้งหนึ่ง เทใส่พิมพ์ แล้วรีบนำเข้าอบทันที ห้ามตั้งทิ้งไว้เพียงเท่านี้เราก็ได้เค้กสปันจ์แบบไม่ใส่เอสพี ที่ง่าย ๆ แล้วค่ะ
เจ๊หลี "美 麗"กิน ๆ เที่ยว ๆ เหตุที่ใช้ชื่อนี้เพราะเป็นความใฝ่ฝันว่า สักวันจะใช้ชีวิตแบบ กิน ๆ เที่ยว ๆ ไงคะ ^.< แต่คงไม่ถึงกับเดินไม่ไหวแล้วค่อยเที่ยวหรอกนะคะ 555++หลาย ๆ คนถามว่าทำไมเจ๊หลีไม่เขียน Blog บ่อย ๆ เหตุผลคือเจ๊หลีติดงานประจำที่ทำอยู่ค่ะ ทำงานจันทร์-เสาร์ กว่าจะได้บล็อก ๆ หนึ่งเจ๊หลีก็ต้องทำขนมไปด้วย ถ่ายรูปไปด้วย มือก็เปื้อนกลัวกล้องพังก็กลัว กลัวขนมไม่ได้ที่ก็กลัวลำบากมากนะคะ เพื่อน ๆ ลองหลับตานึกภาพดูก็ได้... แต่เจ๊หลีก็เลือกที่จะทำค่ะ เก็บไว้ให้ตัวเองได้ดูว่าผ่านมาเราทำอะไรไว้บ้าง เรื่องการอัพ Blog เจ๊หลีทำเพราะชอบถ่ายรูป โดยเฉพาะชอบลองสูตร ไม่ได้หมายความว่า ทำขนมหรืออาหารเก่งหรอกนะคะเพื่อน ๆ ลองทำลองดู แล้วนำมาแชร์กันใน Blog ถูกผิดยังไงช่วยแนะนำได้ค่ะพักเหนื่อยก็เข้า Blog.... Blog เป็นพื้นที่เล็ก ๆ ที่แสดงความเป็นตัวตนของเจ๊หลี ..ทุกรายละเอียดเจ๊หลีทำด้วยความตั้งใจ และใส่ใจ หาก Blog นี้ทำประโยชน์ให้ใครได้แม้เพียงคนเดียว...เจ๊หลีก็ยินดียิ่งแล้วนะคะ อยากให้ทุกคนทราบว่า เจ๊หลี.ปลื้มมากมาย ^0^ สำหรับทุก comment ที่น่ารักและอีกหลาย ๆ กำลังใจค่ะ
ขอบคุณนะคะเจ๊หลี