space
space
space
 
มกราคม 2561
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
space
space
26 มกราคม 2561
space
space
space

Harbin -- Changbai Mountain (West) Part 5【长白山第一漂流】



Trip Changbai Mountain (长白山)11-17 Jan 2018

การเดินทาง : Harbin --> Jilin --> Songjianghe --> Changbai Mountain --> Jilin --> Harbin
全程          : 哈尔滨 --> 吉林 --> 松江河 --> 长白山 
--> 吉林 --> 哈尔滨

ต่อจาก Part 4 :  Harbin -- Changbai Mountain (West) Part 4【长白山西坡】


:  กลับมาถึงอาคารใหญ่(จุดซื้อตั๋ว) .. พี่แท๊กซี่ก็มาหาเรา พร้อมพา 2 นทท.ชาวจีนมาด้วยสองคนนี้เขาขอติดรถที่เราเหมามากลับเข้าเมืองด้วย.. 

**  จังหวะนั้น ถ้าใครไม่ได้เหมารถมานะ บอกเลยว่า “ รถขากลับจะหายากมาก ” เพราะสองคนนี้มาจากเมือง Songjianghe(松江河)เหมือนกันกับเรา.. แต่ไม่รู้ขามา มายังไง แต่ขากลับไม่มีรถกลับซะงั้น .. พี่แท๊กซี่มาถามเรากับเพื่อนว่าเราจะโอเคมั๊ยเราก็ว่า เออได้ๆๆๆ ไม่มีปัญหา ช่วยๆกันไป ..

พอจะขึ้นรถ สองคนนั้นเขารู้ว่า แผนเราคือจะไปแวะล่องแก่งกันก่อนก็เปลี่ยนใจยังไม่กลับเข้าเมือง .. ขอไปล่องแก่งกับพวกเราด้วย ได้เลยยยยย ไปกันเยอะๆสนุกดี (เราแอบดีใจ มีเพื่อนล่องแก่งเพิ่ม 5555) ..

长白山松花江第一漂流 (The First Rafting of Songhua River) .. คนที่นี่บอกว่า จุดนี้เป็นต้นน้ำของแม่น้ำซงฮวา ที่ไหลลงมาจากภูเขาฉางไป๋ .. เป็นธารน้ำอุ่น ที่เมื่อถึงหน้าหนาวก็จะไม่จับตัวเป็นน้ำแข็ง ..ในลำน้ำจะมีอุณหภูมิอยู่ที่ -2 ถึง -3 องศาเซลเซียส .. แบบเดียวกับที่เราไปเห็นที่ 魔界 (โหม๋วเจี้ย).. ในฤดูอื่นๆ จะเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวให้มาทำกิจกรรมล่องแก่งกันและคึกคักมากๆด้วย ต่างกับวันที่เรามาจริงๆ .. ทั้งลำน้ำมีกัน 4 คนพร้อมด้วยคุณลุงอีก 1 ท่าน ที่เป็นคนนำพวกเราเที่ยวและดูแลช่วยเหลือพวกเราทั้ง 4 ชีวิต ..


ค่าบัตรสำหรับการล่องแก่ง.. อยู่ที่คนละ 268 Yuan .. ถือว่าราคาค่อนข้างแพงเลยทีเดียว .. แต่เพื่อการได้สัมผัสประสบการณ์แปลกใหม่ในชีวิต.. พวกเราก็ยินดีควักจ่ายกันอย่างรวดเร็ว (เพราะขืนชักช้า ฟ้ามืดพอดี) .. จ่ายเงินค่าบัตรกันแล้วทีนี้ก็ต้องเร่งทำเวลากันหน่อย .. ขณะนั้นเวลาบ่ายสองกว่าแล้วอีกไม่นานฟ้าก็จะเริ่มมืด !(ไม่มีบัตรอะไรให้ด้วย .. แค่จ่ายตัง ! เเล้วก็ไปแต่งตัวเลย)


ลุงพาพวกเราเข้ามาในห้องแต่งตัว.. พอทุกคนได้เห็นชุดที่เราต้องใส่ “ ถึงกับออกอาการขำลั่นห้อง ” กันเลยทีเดียว ฮ่าๆๆๆๆๆ .. คือชุดจะเป็นแบบชุดรวด .. เป็นชุดที่ตั้งแต่ส่วนคอลงมาถึงเท้าเป็นชุดกันน้ำทั้งหมด ไม่มีส่วนไหนแยกกันเลย รวดเดียวจบทั้งชุด ดูๆไปเหมือนเราเป็นชาวประมงเลยนะคือเจ๋งอ่ะเกิดมาไม่เคยใส่อะไรแบบนี้ ฮ่าๆๆ .. 


** อันดับแรก .. เราต้องถอดรองเท้าที่เราใส่มาออก ..เค้าจะให้เราใส่ถุงเท้า(แบบอุ่นๆ) แล้วก็เริ่มขั้นตอนสวมชุดหมี ชุดนี้จะใส่ทับชุดกันหนาวที่เราใส่มาเลย.. แต่เคสของเรา คือเสื้อขนเป็ดเราตัวหนามาก .. แล้วเราใส่เสื้อฟรีซไว้ข้างในอยู่แล้ว.. เราเลยเอาขนเป็ดออกเลยจ้า เหลือแต่ฟรีซตัวเดียวข้างใน .. ลองจอนอะไรไม่ได้ใส่อยู่แล้วโดยปกติ (แต่คนอื่นอย่าเลียนแบบเรานะ เรามันอยู่มานาน จนหนังหนาไปแล้ว ฮ่าๆ .. คนอื่นๆก็ใส่เสื้อผ้าปกติที่เขาใส่ๆมากันนั่นแหละแค่สวมชุดกันน้ำนี้ทับเข้าไปก็พอ) .. 

** ถุงมือถ้าเป็นไปได้ .. ให้เหลือแบบที่ไม่หนามากไว้ (แต่ถ้าบางมากไปก็อาจจะมือเเข็งได้เลยนะ .. เพราะจังหวะนั้นมันหนาวมากกกกก เเละต้องอยู่แบบนั้นเกือบชั่วโมง หนีไปไหนก็ไม่ได้) .. เพราะไม่งั้นพอใส่ชุดกันน้ำนี้แล้ว จะขยับมือ ทำอะไรไม่สะดวกเลย ..เหมือนเป็นง่อยเลย เราก็เหลือถุงมือฟรีซไว้อันเดียว เพราะเราอยากถ่ายรูป .. จังหวะที่แต่งตัวกันนั้น.. พี่แท๊กซี่ก็มาช่วยพวกเราด้วย ใจดีมากมาย ..อะไรที่เราจะไม่พกไปฝากพี่แกไว้ที่รถได้เลย .. เพื่อนเรานี่ทิ้งมือถือไว้ให้พี่แท๊กซี่เลยให้เขาถ่ายรูปให้ .. เพราะตอนนี้มือพวกเราเป็นง่อยไปแล้ว ฮ่าๆๆๆๆๆ ..

ใส่ชุดทับเรียบร้อยลุงเค้าจะมาช่วยรูดซิปให้ .. เดินเป็นนกเพนกวินเลยแต่ละคน เดินไปขำกันไปสนุกดีอ่า .. รองเท้าก็เป็นแบบรองเท้าบู้ทนั่นแหละ ถุงมือก็เป็นถุงมือยางนั่นล่ะ .. แค่ไม่มีส่วนใดแยกจากกันให้น้ำมันซึมเข้าได้ .. และช่วงที่เราไปลุงบอกว่าน้ำมันตื้นมาก.. อาจจะล่องไม่มันส์เท่าไหร่ แต่ก็ดีที่ไม่ต้องมาใส่เสื้อชูชีพ ให้มันรัดติ้วอึดอัดกันเข้าไปอีก .. แต่งตัวเสร็จอย่างรวดเร็ว ..นั่งรถตู้โขยกเขยกไปจุดที่จะต้องเริ่มล่องแก่งกันราวๆ 10 นาที ..

** ตั้งเเต่จุดแต่งตัว ไปจนถึงจุดเริ่มล่องแก่ง .. ไม่มีรูปเลย มือเป็นง่อยไปแล้ว ฮ่าๆๆ หนาวมากกกกด้วย T_T

** เกือบลืมเล่า ว่าเราน่ะ ดันทะลึ่งเอากล้องใหญ่ลงไปด้วยฮ่าๆๆๆๆๆๆ .. เชิญชมภาพความหายนะของกล้อง T_T .. จริงๆเค้าบอกว่าไม่ต้องเอาอะไรลงไปล่องแก่งกล้อง มือถือ ไม่ต้องเอาลงไปเลย เราก็เลยบอกเขาไปว่า “ อ่าว มาแล้วไม่ต้องเก็บภาพอะไรเลยเหรอมาทำไมอ่างั้น ” เค้าเลยบอก “ เออ แล้วแต่เมิงแล้วกัน กุเตือนแล้ว ” ฮ่าๆๆๆๆๆๆ(กลับขึ้นฝั่งมา ตบหัวตัวเองเป็นการลงโทษไปสามที 555) .. แต่ก็พอเก็บภาพบรรยากาศกลับมาได้บ้าง.. เก็บไว้เป็นที่ระลึก ^^


ถึงจุดที่ต้องเดินเท้าเข้าไปในป่าประมาณ 5 นาที .. เห็นเรือยางนอนจมกองหิมะ หูยยยย ... เคยล่องแก่งในไทยมาหลายที่(แบบไม่หนักมาก).. ที่นี่จะเป็นไงนะ .. อะดีนาลีนสูบฉีดจนอุ่นเลยตอนนั้น .. แล้วทุกคนก็ต้องเกาะเชือกโรยตัว(แต่เรานั่งแล้วเอาก้นสไลด์ลงไปริมตลิ่งเลยจ้ะ 55 แล้วทุกคนก็ทำตามกรูกันหมด).. แป๊บเดียวลงมาถึงริมตลิ่งละ


:  ลงเรือยาง .. ลำละ 2 คน .. ทั้งหมด 3 ลำ .. ไม้พาย คือ ท่อนไม้ แล้วก็เริ่มล่องๆๆๆไป.. ระยะทางทั้งหมด ราวๆ 6 km. ใช้เวลาล่องทั้งหมดประมาณ 1 ชั่วโมง ..




ระหว่างที่ล่องแก่งน้ำนิ่งเป็นช่วงๆ .. บางช่วงแคบถึงแคบมาก .. เรียกได้ว่าต้องตั้งลำเรือกันโกลาหลเลยก่อนที่เรือจะผ่านช่องแคบเรือติดช่องแคบกันหลายรอบ ..เพราะน้ำตื้นด้วยแหละ (แต่ถ้าน้ำเยอะนะ .. กล้องเราต้องอาการหนักกว่านี้แน่นอน) ..



:  วิวสองข้างทางช่างแปลกตา .. สวยในแบบป่า ที่สองข้างทางเต็มไปด้วยน้ำแข็งและหิมะ ..อากาศจากที่ไม่หนาวมากในตอนที่ลงน้ำใหม่ๆ (เพราะยังตื่นเต้นอยู่ อะดรีนาลีนสูบฉีดดี) .. เเต่พอโดนน้ำกระเซ็นมาโดน ตามหน้าตา ผม หมวก รวมถึงกล้องที่ห้อยคออยู่นั้น .. น้ำที่กระเซ็นมา เริ่มจับตัวเป็นน้ำแข็งเรือยางยังจับตัวเป็นน้ำแข็งเลย !!.. ทีนี้เเหละจ้า .. หนาวแบบสุดบรรยายยยย


:  เรือเริ่มทะยานลงแก่ง ที่ทั้งกว้างและสายน้ำแรง .. คุณพระ กล้องกรู โครม ...สาดมาเต็มๆเลยจ้า พลังคลื่นน้ำ 5555 ไม่รู้จะเอากล้องหลบไปที่ไหนเลย ..บังคับเรือก็ไม่ได้ เพราะมือเป็นง่อยอยู่ ฮ่าๆๆ เพื่อนเรายิ่งหนัก พายเรือไม่ค่อยเป็น แถมชุดที่นางใส่ นางบอกว่าถุงมือที่ใส่ไว้ด้านในมันใหญ่ยัดถุงมือยางของชุดยังไม่เข้า .. มือจะหยิบจับอะไรก็ไม่ถนัดเลย .. อยู่ในสภาวะดูแลตัวเองยังลำบากกล้องเราเปียกโชกเลย.. น้ำแข็งเริ่มเกาะตัวเป็นชั้นๆหนาขึ้นๆๆ .. ได้แต่มองแล้วบอกกับกล้องว่า “ อดทนไว้นะลูก”

:  ด้วยความที่การล่องแก่งในทริปนี้ .. เป็นเพียงแค่การล่องแบบชิลๆ !! ไม่ได้ถึงขั้นต้องกระโจนแก่ง แบบล่องเเก่งบ้านเรา .. ไม้พายยังไม่มีเลย ! มีแค่ท่อนไม้บ้องเดียวเท่านั้นทั้งลำเรือ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ .. คือเรียกได้ว่า ได้แต่ร้องเพลง " ปล่อยให้ไหลไปปปปปปป " ทำไรไม่ได้มากกว่านั้น ฮ่าๆๆๆ .. คุณลุงต้องคอยมาช่วยพวกเราทั้งสองลำ ในการดันเราออกจากน้ำเเข็งริมตลิ่ง เพราะเรือมักจะเข้าไปติด !! 



ล่องมาจนสุดทาง.. พี่แท๊กซี่มาตั้งกล้องรอละ .. เลยได้รูปตอนใกล้ขึ้นฝั่งมาหลายรูปอยู่ ..ทันทีที่ทุกคนได้เห็นกล้องเรา .. หัวเราะกันใหญ่เลย แล้วก็บอกว่า.. เป็นงัยล่ะ บอกแล้วอย่าเอาลง .. แงๆๆๆๆ



กลับเข้าห้องแต่งตัว.. ถอดชุดชาวประมงออก .. ขึ้นรถกลับที่พักจ้า .. วันนี้สนุกสนานมาก ชอบๆๆๆๆ ..กลับถึงที่พัก รีบถอดแบต ถอดเมมออก .. เอาผ้าขนหนูมาห่อกล้องไว้ .. ตั้งทิ้งไว้ในอุณหภูมิห้องรอให้นางละลายเอง .. ใช้ไฟที่ส่องบนหัวนอนส่องให้ความอบอุ่นนางอีกแรง .. ทุกคนก็ลุ้นกันว่าอาการนางจะดีขึ้นมั้ย.. รุ่งเช้ามา อาการของนางก็เป็นปกติ เปิดติด ใช้งานได้ เย้

วันนี้พอกลับถึงที่พัก.. หิวโซอีกเช่นเคย .. รีบสั่ง 外卖(อาหารเดลิเวอรี่)มากินที่โฮสเทล ..กินจัดเต็มเช่นทุกวัน 55  ..ที่สำคัญที่จะขาดไม่ได้เลย คือ “ กิมจิ (辣白菜) ”เราไปซื้อมาจากร้านขายของชำเล็กๆ หลังโฮสเทล .. มันเป็นกิมจิที่อร่อยมากกกกกเลยนะ.. เจ้าของโฮสเทลบอก ภูเขาฉางไป๋อยู่ใกล้ชายแดนเกาหลีเหนือ ..บางพื้นที่จะมีชาวเกาหลีอาศัยอยู่ เราก็เลยได้กินอาหารเกาหลี(เหนือ) รสชาติต้นตำรับ.. เราซื้อกลับมาฮาร์บินด้วย 2 กก. (ตอนกลับมาดันลืมเอามาจากโฮสเทล เพราะแช่ไว้ในตู้เย็น.. เลยต้องขอให้เจ้าของโฮสเทล เป็นธุระส่งไปรษณีย์มาให้เราที่ฮาร์บิน ..ขอบคุณมากๆ)

วันที่ 16 Jan : Songjianghe(松江河)

วันนี้เป็นวัน free day .. ไม่มีแพลน นอนตื่นสาย สบายๆ .. จิบกาแฟ นั่งเล่นกีตาร์เล่นกับหมาที่โฮสเทล (ชื่อถังเป่า) .. บ่ายโมงนัดกับ Hassan ว่าจะออกไปซื้อตั๋วรถกลับจี๋หลินกัน.. จากโฮสเทลไปท่ารถ เจ้าของโฮสเทลบอก “ ถ้าอยากเดินเล่น ก็เดินไปได้นะ ประมาณ 20 นาทีถึง” เรากับเพื่อนก็คุยกัน .. เดินก็เดิน โอ้โหหหหห ..โค ตะ ระ ไกลเลยยย ฮ่าๆๆๆ .. ดีที่อากาศไม่หนาว ..

ตั๋วรถ Songjianghe(松江河)--> Jilin(吉林)..มีเที่ยวเดียว เวลา 07:05 .. ตั๋วราคา 91 Yuan (แบบไม่เอาประกัน).. ซื้อตั๋วเสร็จ เดินออกมาฝั่งตรงข้ามท่ารถ จะมีป้ายรถเมล์ .. รอขึ้นสาย กลับเข้าเมือง(เห็นมีอยู่สายเดียวที่วิ่งหลักๆในเมืองนี้) .. ขาตอนเดินมาแอบเห็นร้านขายเบเกอรี่& กาแฟสดอยุ่ร้านนึง .. ชื่อร้านว่า " 香菲浓 : เซียงเฟยหนง "




:  ขากลับนั่งรถเมล์ไปลงใกล้ๆร้านนั้น .. นั่งแช่จัดกาแฟไปคนละแก้วพร้อมขนม (ไม่ได้กินหวานมาหลายวัน) ซื้อกลับไปเป็นเสบียงตอนอยู่บนรถในวันพรุ่งนี้ด้วย .. กาแฟที่ร้านนี้ราคาถูกมากเมื่อเทียบกับฮาร์บิน (แก้วละ 10 Y เอง .. ฮาร์บินตกแก้วละ 23 Y) ..ขนมปังอะไรก็รสชาติดี .. ค่าครองชีพที่นี่ไม่แพงเลย

** ขอบคุณ Hassan .. ที่ไปร่วมผจญภัยทุลักทุเลด้วยกันมา .. และดูเเลเราเป็นอย่างดี **
很感谢 Hassan,我的阿拉伯朋友,陪我去玩儿了好几天。


** สรุปค่าใช้จ่าย ::

1.ค่าเดินทาง :
– High Speed Train Harbin -> Jilin  =141 Y/คน
– Bus  Jilin -> Songjianghe               =   92 Y/คน
– Taxi One Day Trip  Songjianghe --> 魔界(โหม๋วเจี้ย) -->ภูเขาฉางไป๋ฝั่งเหนือ (长白山北坡)=   100 Y/คน
– Taxi One Day Trip  Songjianghe --> ภูเขาฉางไป๋ฝั่งตะวันตก(长白山西坡)=  75 Y/คน
– Bus  Songjianghe ->  Jilin              =   91 Y/คน
– High Speed Train Jilin -> Harbin  =141 Y/คน
                                                 Total   640  Yuan

2. ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว:
– Ticket 魔界(โหม๋วเจี้ย)                   =   90 Y/คน
– Ticket ภูเขาฉางไป๋ฝั่งเหนือ (长白山北坡)=   147.5 Y/คน
– Snowmobile ภูเขาฉางไป๋ฝั่งเหนือ (长白山北坡)=   50 Y/คน
– Ticket ภูเขาฉางไป๋ฝั่งตะวันตก (长白山西坡)=   147.5 Y/คน
– Snowmobile ภูเขาฉางไป๋ฝั่งตะวันตก (长白山西坡)=   135 Y/คน
– Ticket 漂流(ล่องแก่ง)                    =   268 Y/คน
                                                 Total   838  Yuan
3. ค่าที่พัก :
– Hostel 长白山尚国际青年旅舍 54 Y* 4 nights     =   216  Y/คน
                                                 Total   216  Yuan


** รวมค่าใช้จ่ายทั้งหมด1,694  Yuan  (ไม่รวมค่าอาหาร , เครื่องดื่ม และค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆ)



เรื่องราวในฮาร์บิน : Harbin [ตู้เย็นแลนด์]




Create Date : 26 มกราคม 2561
Last Update : 26 มกราคม 2561 23:04:56 น. 1 comments
Counter : 2935 Pageviews.

 
ตามคุณออยมาจากเฟซ (ที่จะไป volga ต้นธันวา) กำลังวางแพลนจะไปฉางไป๋ค่ะ ขอบคุณมากค่า :))


โดย: Oops! IP: 27.145.108.45 วันที่: 21 ตุลาคม 2561 เวลา:4:12:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 
space

IsnowBeer
Location :
Heilongjiang, Harbin China

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]




- เราเป็นอดีตนักศึกษาไทยในฮาร์บินค่ะ【2013-2018】
- เรียนหลักสูตรภาษาจีน@Harbin Engineering University (4 เทอม) ด้วยทุนทรัพย์ส่วนตัว【2013-2015】
- หลังจากเรียนภาษาไปได้ 2 ปี เลยขอทุนการศึกษาของมณฑลเฮยหลงเจียง เพื่อศึกษาต่อระดับป.โท@Heilongjiang University เรียนคณะการจัดการการท่องเที่ยว【2015-2018】
- หลังจากจบป.โท ได้ Work Permit & Visa ทำงานที่บริษัทแห่งหนึ่งในฮาร์บิน (ทำที่ฮาร์บินประมาณครึ่งปีได้ เเล้วกลับมาทำต่อที่ไทยแบบ WFH)
- ระหว่างใช้ชีวิตอยู่ฮาร์บินก็มีไปทำ Part-time บ้าง / ช่วยเพื่อนๆ คนจีนบ้าง / หลักๆ เน้นท่องเที่ยวพร้อมศึกษาเรียนรู้ไปในตัว

ด้วยความรักและหลงใหลในเมืองนี้เอามากๆ..อีกทั้ง ฮาร์บินยังเปรียบเสมือนบ้านหลังที่สอง .. ที่ทำให้เรามีเพื่อนฝูง, ครูบาอาจารย์, ผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ, รวมถึงเจ้านายเเละเพื่อนร่วมงานที่เราเคารพรัก เป็นจำนวนที่ไม่น้อยกว่าที่เรามีในเมืองไทยเลย !!!

บล็อคนี้กำลังอยู่ในช่วงกลับมาเขียนเรียงร้อยเรื่องราวใหม่อีกครั้ง (หลังจากหยุดเขียนไปนาน)
เพื่อที่จะแบ่งปันประสบการณ์ชีวิต เเละประสบการณ์ท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ค่ะ..

ปัจจุบันเราใช้ชีวิตอยู่เมืองไทย เเต่ก่อนหน้าโควิด ก็ไปๆ มาๆ ไทย-ฮาร์บิน รวมถึงเมืองอื่นๆในจีนด้วยบางโอกาส .. เเต่ฮาร์บินยังคงเป็นบ้านหลังที่สองของเราเสมอ

ต้องการติดต่อเป็นการส่วนตัว รบกวนแอ๊ด :
Wechat ID : Oil_Angkhana

space
space
[Add IsnowBeer's blog to your web]
space
space
space
space
space