RIP...ท่านทูตวีรชัย พลาศรัย
ภาพจาก pinterest.com
พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี
นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดี ประดับไว้ในโลกา
|
เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม ที่ผ่านมาประเทศไทยสูญเสียข้าราชการคนสำคัญยิ่งไปคือ ท่านทูตวีรชัย พลาศรัย ที่จริง ไม่ได้รู้จักท่านลึกซึ้งเท่าไหร่ ทราบแต่ผลงานเด่น ๆ ที่ทำทำไว้ เช่น เป็นหัวหน้าคณะต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารการชี้แจงต่อศาลโลกกรณีคดีปราสาทพระวิหาร ทั้งที่เป็นงานที่ยากลำบากแต่ท่านก็ต่อสู้จนสำเร็จลงด้วยดีโดยรักษาประโยชน์ของชาติไว้ได้มากที่สุด และยังเป็นหัวหน้าคณะเจรจาการแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) อีกด้วย สองวันก่อนอ่านเจอบทความไว้อาลัยของท่านทูตนริศโรจน์ เฟื่องระบิล (เอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา (ข้อมูลจาก gphone.prd.go.th) ไว้ใน เพจ Fuangrabil Narisroj อ่านแล้วยิ่งประทับใจและเสียดายมากที่ท่านทูตวีรชัยจากไปก่อนวัยอันควร
RIP...ดร.วีรชัย พลาศรัย ต.อ.๓๘ เอกอัครราชทูตวิสามัญ ผู้มีอำนาจเต็มประจำสหรัฐอเมริกา เสียชีวิตลงอย่างสงบเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๖ มีนาคม ๒๕๖๒ เวลา ๐๐.๔๓ น. ณ กรุงวอชิงตัน ตรงกับ ๑๑.๔๓ น. ตามเวลาประเทศไทย บล็อกเกอร์ไฮกุกราบคารวะคุณงามความดี ความเสียสละทำงานเพื่อชาติของท่าน ขอดวงวิญญาณท่านไปสู่สุขคติในสัมปรายภพ และขอแสดงความเสียใจต่อ ครอบครัวพลาศรัย ด้วยค่ะ
ภาพจาก thansettakij.com
เมื่อคืนนอนไม่ค่อยหลับ จิตวนเวียนนึกถึงแต่เรื่องที่ ท่านทูตวีรชัย พลาศรัย จากไปก่อนเวลาอันควร เสียดายฝีมือความรู้ความสามารถของท่านมาก ๆ
ตอนก่อนผมเกษียณ เราอยู่ในไลน์กลุ่มผู้บริหารของ กต.ด้วยกัน ผมยังจำคำพูดและข้อความต่าง ๆ ที่เราส่งไลน์คุยกันทั้งในไลน์กลุ่มและไลน์ส่วนตัวได้ไม่เคยลืม
ในไลน์กลุ่มท่านทูตแสบมักจะเข้ามา support ไอเดียต่างๆที่ผมเสนอในไลน์กลุ่ม ที่ท่านคิดเห็นเหมือนผมที่แนะนำ กต. ในแง่การบริหารจัดการข้อมูลบางอย่างเพื่อเป็นประโยชน์แก่สมาชิก
ในไลน์ส่วนตัวท่านทูตแสบเข้ามาคุยกับผมเรื่องไวน์ Malbec ของอาร์เจนตินา (ท่านทูตแสบชอบดื่มไวน์) ก็เคยสัญญากันว่าถ้ามีโอกาสจะหิ้วไวน์ Malbec ไปให้ท่าน
นอกจากนี้ท่านทูตแสบชอบเรื่องที่ผมจัดงานเพื่อรำลึกพระเกียรติคุณของพระองค์เจ้าพีระพงศ์ภาณุเดช (เจ้าดาราทอง) ที่กรุงบัวโนสไอเรส อาร์เจนตินา เมื่อวันที่ ๔ กย. ๒๐๑๗ แล้วผมได้เชิญ หม่อมชลิตา อดีตชายาชาวอาร์เจนตินาของพระองค์พีระ (ปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่ อายุ ๙๖ ปี) มาร่วมงาน
โดยผมได้เชิญพี่ดำรง พุฒตาล แห่งนิตยสารคู่สร้างคู่สมมาร่วมรายการ พร้อมกับนักประวัติศาสตร์ด้านกีฬาแข่งรถของอาร์เจนตินามาช่วยกันเล่าเรื่องราวสมัยที่พระองค์พีระ เป็นตัวแทนประเทศไทยมาแข่งรถ Formula 1 ที่อาร์เจนตินาเป็นเจ้าภาพจัดครั้งแรก (ถือเป็นการจัดครั้งแรกนอกทวีปยุโรปในปี ๑๙๔๗) จนได้พบรักกับหม่อมชลิตา และได้อภิเษกสมรสกันต่อมา ให้ผู้มาร่วมงานซึ่งมีทั้งคณะทูตานุทูต บุคคลทั่วไปในวงการและสื่ออาร์เจนตินา ได้รับทราบ จนกลายเป็นกระแสความสนใจอย่างแพร่หลาย
ท่านทูตแสบชอบและสนใจเรื่องนี้มาก จนผมต้องไปขอให้พี่ดำรงช่วยจัดหนังสือคู่สร้างคู่สมที่ลงภาพและเรื่องราวละเอียดของพระองค์พีระ กับ หม่อมชลิตา จำนวน๑๒ เล่ม ส่งทางถุงเมล์การทูตไปให้ท่านทูตแสบอ่านที่วอชิงตัน
ท่านทูตแสบได้รับก็ชอบใจใหญ่ ส่งไลน์มาขอบคุณทั้งผมและพี่ดำรง พุฒตาล
เวลาผ่านไปเร็วเหลือเกิน ใจหายทุกครั้งที่นึกว่าท่านทูตแสบจากเราไปแล้ว
ภาพต่าง ๆ ยังอยู่ในความทรงจำที่ดีเสมอ
ภาพจาก khaosod.co.th
ผมรู้จัก ทูตวีรชัย หรือที่เพื่อน ๆ เรียกท่านว่า แสบ โดยเราเข้ามาเป็นนักเรียน รร.เตรียมอุดมศึกษา พญาไท รุ่นที่ ๓๘ แผนกศิลป์ฝรั่งเศส รุ่นเดียวกัน
ทูตแสบอยู่ห้องคิง ส่วนผมอยู่ห้องบ๊วย ทูตแสบมาจาก รร.สาธิตจุฬา และเป็นเพื่อนกับน้องสาวผม (ลูกพี่ลูกน้อง ซึ่งเสียชีวิตแล้ว) ส่วนผมมาจาก รร.อัสสัมชัญ บางรัก
ตอนช่วงเรียนที่เรือนเทา เตรียมอุดม ก็รู้จักกัน เห็นหน้ากัน แต่ไม่ถึงกับสนิท แต่ก็ทำกิจกรรมด้วยกันบ่อย ๆ
ภริยาทูตแสบชื่อ Elizabeth เป็นลูกครึ่งไทย-สวิส สวยมาก เป็นนักเรียนเตรียมอุดมรุ่นเดียวกัน และเท่าที่เพื่อน ๆ รู้ Elizabeth ตอนเรียนไม่ค่อยถูกกับทูตแสบ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใด ในที่สุดทูตแสบก็พิชิตใจ Elizabeth มาได้ในที่สุด
ช่วงเข้ามหาวิทยาลัยเราก็แยกย้ายกัน ผมไปเข้าคณะรัฐศาสตร์ มธ. ส่วนทูตแสบสอบเข้านิติ จุฬาฯ และได้ทุนเล่าเรียนหลวงไปเรียนต่อด้านกฏหมายที่ฝรั่งเศสจนจบ ดอกเตอร์ En Droit
ผมได้เจอทูตแสบอีกครั้งก็ตอนที่ผมทำงานและเรียนที่ สถาบันการทูตสเปน ตอนนั้นคุณพ่อคุณแม่ผมได้บินจากเมืองไทยเพื่อมาเยี่ยมและพำนักกับผมที่สเปน
มีอยู่ช่วงนึงคุณพ่อผมได้เปรยว่ามาถึงสเปนแล้ว อยากขึ้นไปเที่ยวปารีสไปดูบรรยากาศเก่าๆอีกครั้ง เนื่องจากคุณพ่อผมท่านเคยเป็นรองผู้ช่วยทูตทหารเรือประจำฝรั่งเศส ช่วงปี ๒๔๙๙-๒๕๐๑ ท่านบอกผมว่าจะพาผมไปดูแฟลตที่ครอบครัวเราเคยอาศัย และที่แฟลตนี้เองคือจุดที่ผมได้ ปฏิสนธิ ขึ้นมา
ผมก็ได้จัดแจงพาคุณพ่อ คุณแม่ผม นั่งรถไฟจากกรุงมาดริดไปที่กรุงปารีส เราได้ไปที่สถานทูตไทยที่กรุงปารีสก่อน และที่นั่นเองผมได้เจอทูตแสบอีกครั้ง ตอนนั้นทูตแสบกำลังเรียนใกล้จบแล้ว และมาช่วยงานที่สอท.ปารีส
ผมได้เล่าให้ทูตแสบฟังเรื่องที่คุณพ่อผมอยากไปดูบ้านเก่าของพวกเรา (ซึ่งเราจำที่อยู่ได้คร่าว ๆ แต่ไม่แน่ใจว่าตัวตึกยังอยู่หรือเปล่า) และด้วยความเก่งภาษาฝรั่งเศสของทูตแสบ ในที่สุดท่านทูตแสบก็ค้นจนเจอบ้านเก่าของเราและทูตแสบก็ได้พาผมและคุณพ่อคุณแม่ไปดูบ้านที่ครอบครัวเราเคยอาศัย ซึ่งทำให้คุณพ่อผมดีใจและซึ้งใจทูตแสบมากที่ช่วยค้นจนเจอ
จากนั้นเราก็ไม่ได้เจอกันอีกพอสมควร เพราะเวลาที่ออกไปประจำการมันสวนทางกัน ผมเฝ้าดูการเจริญเติบโตในหน้าที่การงานของท่านทูตแสบด้วยความชื่นชม เพราะเป็นคนที่แม่นเรื่องกฏหมายระหว่างประเทศมาก รวมทั้งพูดภาษาฝรั่งเศสเก่งมาก
ภาพจาก thansettakij.com
จนกระทั่งผมได้ออกมาประจำการที่สถานทูตไทย ณ นครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว ตอนนี้ท่านทูตแสบเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฏหมาย ท่านมีหน้าที่ดูแลเรื่องการเจรจาปักปันเขตแดนกับฝ่ายลาว ทำให้ทูตแสบต้องมาประชุมที่เวียงจันทน์หลายครั้ง
ความที่ท่านทูตแสบแม่นเรื่อง กม.ระหว่างประเทศ และเก่งภาษาฝรั่งเศส จึงมีเรื่องเล่าขานกันว่าในการเจรจากับฝ่ายลาวนั้น เป็นอะไรที่ทรหดอดทนที่สุด ต่างฝ่ายต่างงัดเอาวิชากฏหมายมาอ้างอิง แม้กระทั่งการตีความในภาษาฝรั่งเศส จนในที่สุดฝ่ายลาวเองก็ซูฮกในความเก่งของทูตแสบ
ไอ้ผมเองไม่ได้มีส่วนในการเจรจาโดยตรง แต่ทูตแสบเมื่อเจรจาความเมืองเสร็จก็จะขอให้ผมหาไวน์ฝรั่งเศสดี ๆ ขนมปังครัวซองท์หรือบาแกตต์อร่อย ๆ แฮม ชีส มะกอกดอง เตรียมไว้ในห้องพักที่ รร. เวลาท่านทูตอ่านเอกสารต่าง ๆ จะได้มีอะไรทำให้สมองแล่น
บางครั้งท่านก็ให้ผมพาไปร้านอาหารฝรั่งเศสชื่อดังในเวียงจันทน์ ไปนั่งคุยรำลึกความหลัง และคุยรำลึกถึงน้องสาวผม ที่เป็นเพื่อนท่านทูตแสบที่ สาธิตจุฬา ซึ่งได้เสียชีวิตไปก่อนหน้านี้
เราต่างเติบโตในหน้าที่การงานไปตามเส้นทางของแต่ละคน ช่วงที่ท่านทูตแสบประจำที่กรุงเฮก เนเธอร์แลนด์ มีกรณีเขาพระวิหารที่ท่านทูตแสบได้แสดงฝีมือให้พวกเราคนไทยทุกคนประจักษ์ในฝีมือมาแล้ว
จากกรุงเฮก ท่านทูตแสบก็ย้ายไปที่ UN นครนิวยอร์ค และย้ายไปกรุงวอชิงตันในที่สุด
ท่านทูตแสบถือเป็นเพชรน้ำเอก ของวงการทูตไทยที่ต่างชาติยังยอมรับในฝีมือ นอกจากท่านเก่งในเรื่องวิชาการแล้ว ท่านยังมีความสามารถในเรื่องดนตรีด้วย โดยท่านรวบรวมเอาทูตประเทศต่าง ๆ ที่ประจำ UN มาตั้งเป็นวงดนตรี โดยบางคนเล่นดนตรี บางคนเป็นนักร้อง นับเป็นวงดนตรีกิตติมศักดิ์ที่ได้รับเกียรติให้ขึ้นแสดงบนเวทีใน UN มาแล้ว (คลิปยังหาชมได้ใน youtube)
วันนี้ได้ทราบข่าวท่านทูตแสบจากพวกเราไปแล้ว เสียใจมากที่สุดที่ประเทศไทยเราเสียบุคคลากรที่ทำคุณประโยชน์ ปิดทองหลังพระ ช่วยรักษาผลประโยชน์ให้กับประเทศเราไปอย่างน่าเสียดาย RIP ครับท่านทูตแสบ ตอนนี้ท่านคงไปฟอร์มทีมตั้งวงดนตรีอยู่ข้างบนแล้ว ไม่ต้องเหนื่อยอีกต่อไป ขอให้ท่านมีความสุขบนนั้นมาก ๆ นะครับ
ด้วยความอาลัยและรำลึกถึงเสมอ
ภาพจาก khaosod.co.th และ voathai.com
คัดลอกข้อความบางตอนจาก Deepnews วันที่ ๑๖ มีค ๖๒ ที่เพจทีนิวส์นำมาเผยแพร่ เพื่อเตือนความทรงจำว่า ข้าราชการดี ๆ อย่าง ท่านทูตวีรชัย พลาศรัย เคยโดนพิษการเมืองกลั่นแกล้งอย่างไร !?
หลังจากนั้นไม่ถึงเดือนดี ครม.ของนายกฯ สมัคร สุนทรเวช ก็สั่งย้ายท่านจากตำแหน่งอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ไปเป็น เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง เมื่อวันที่ ๖ พ.ค. ๒๕๕๑ เนื่องจากคุณนพดล ปัทมะ รมต.ต่างประเทศในขณะนั้น ได้นำแถลงการณ์ร่วมไทย-กัมพูชา ให้ข้าราชการ ก.ต่างประเทศ พิจารณา แต่ ดร.วีรชัยย ส่งบันทึกช่วยจำคัดค้านเรื่องดังกล่าว ซึ่งคุณนพดลมีความคิดต่างแนวทาง ไม่เห็นด้วย จึงเสนอ ครม. เพื่อลงมติพิจารณาให้ ดร.วีรชัย พ้นจากตำแหน่ง ทำให้คุณวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัด ก.ต่างประเทศ ในขณะนั้น ได้ทักท้วง แต่คุณนพดลยืนยันว่าไม่สามารถร่วมงานกับอธิบดีที่มีความคิดเช่นนี้ได้ !
เรื่องนี้ มีคนวิจารณ์กันว่า ความกล้าหาญในการแสดงความเห็นต่างกับนักการเมืองในการรักษาผลประโยชน์ของแผ่นดินไทย ทำให้คนดี ๆ มีความสามารถและรักแผ่นดินไทยเต็มเปี่ยมต้องโดนย้ายไปนั่งแขวนในตำแหน่งทูตประจำ ก.ต่างประเทศ เฉย ๆ !
การโยกย้ายคนอย่างนี้มันเหมือนกับการเมืองกลั่นแกล้ง กีดขวางไม่ให้คนที่ปกป้องผลประโยชน์ของชาติมีโอกาสได้ทำหน้าที่เพื่อรักษาแผ่นดินไทย !
คุณวีระศักดิ์ ฟูตระกูล ปลัด ก.ต่างประเทศ ในขณะนั้น ได้เขียนจดหมายเปิดผนึกด้วยลายมือเมื่อ ๗ พ.ค. ๒๕๕๑ ระบุตอนหนึ่งว่า
"มีความภูมิใจที่ราชอาณาจักรไทยมีนักการทูตที่เก่งกาจ ท่านอธิบดีวีรชัย ซึ่งทำหน้าที่อย่างดีเลิศในการปกป้องผืนแผ่นดินไทยและผลประโยชน์ของชาติ...ขอให้ข้าราชการทุกท่านของกรมสนธิสัญญาฯ ยึดถือ ท่านอธิบดีวีรชัย เป็นบุคคลตัวอย่างที่ได้ปฏิบัติหน้าที่รับใช้ชาติอย่างสุดความสามารถ และรักษาเกียรติยศของชาติ ของกระทรวงการต่างประเทศ และของตนอย่างสมศักดิ์ศรีของข้าราชการของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว" !!!
ภาพจาก khaosod.co.th และ tv.bectero.com
แต่หลังเกิดการเผชิญหน้าระหว่างทหารไทย-กัมพูชา ดร.วีรชัย ก็มีโอกาสเข้าร่วมคณะเจรจาปัญหาพื้นที่ทับซ้อนบริเวณปราสาทพระวิหารอยู่หลายครั้ง จนนำไปสู่การลดกำลังทหาร และจัดประชุมคณะกรรมการเขตแดนร่วม (เจบีซี)
ด้วยความสามารถของท่าน ทำให้มีการย้าย ดร.วีรชัย จากเอกอัครราชทูตประจำกระทรวง กลับมาเป็นอธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย เช่นเดิม เมื่อวันที่ ๕ ส.ค. ๒๕๕๑ ในปลายสมัยนายกฯ สมัคร สุนทรเวช ตามคำเสนอของ คุณเตช บุนนาค รมว.ต่างประเทศคนใหม่ในขณะนั้น
ทำให้ ดร.วีรชัย มีโอกาสทำหน้าที่สำคัญยิ่งให้ประเทศชาติ ด้วยการเดินหน้าเจรจาและเข้าร่วมประชุมเพื่อลดความตึงเครียดแนวชายแดนไทย-กัมพูชาหลายครั้ง ท่ามกลางเหตุปะทะกันระหว่างทหารไทย และกัมพูชา
ต่อมาในสมัยนายกฯ อภิสิทธิ์ ครม.มีมติย้าย ดร.วีรชัย ไปเตรียมสู้คดีกับกัมพูชาที่ศาลโลก โดยให้ไปเป็นเอกอัครราชทูตไทยประจำเนเธอร์แลนด์ซึ่งเป็นที่ตั้งของศาลโลก เพื่อให้ ดร.วีรชัย มีเวลาเตรียมการร่วมกับทีมงานวางแผนเพื่อต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารได้อย่างเต็มที่
วันนี้ท่านบอกว่า ผมไม่เคยพูดว่าเราชนะแน่ และผมจะตอบสามคำเท่านั้น คือ สู้เต็มที่ !!!
ข้าราชการดี ๆ ใน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ท้อแท้ สิ้นหวัง จงอย่าขลาดกลัว อย่ายอมแพ้ต่อความชั่วร้ายที่กัดกร่อนบ้านเมืองเลย
เชื่อมั่นในความสุจริตและคุณความดีเถิด เพราะในที่สุดแล้ว คนดี ๆ ต้องมีที่ยืนได้อย่างงามสง่า เหมือนที่ ดร.วีรชัย พลาศรัย ได้อดทน อดกลั้น มุ่งมั่นในประโยชน์ของชาติ ได้แสดงให้เราเห็นบนเวทีโลกในวันนี้แล้ว !
ขออุทิศเพลงนี้แด่เพื่อนผมคนนึงที่ตลอดเวลาได้อุทิศทั้งกาย ใจ สมอง และวิญญาณเพื่อประเทศไทยที่รักของพวกเราตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรักษาเขตแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน กรณีเขาพระวิหาร เรื่องปลดล็อคเรื่องประมงจนสามารถลดชั้น Tier 3 ของ IUU ได้สำเร็จ
เพื่อนผมคนนี้ชื่อ ท่านทูตวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา
ขอให้ดวงวิญญาณของ ท่านทูตวีรชัย จงไปสู่สุคติในสัมปรายภพด้วยเทอญ
ภาพจาก nationtv.tv
นายวีรชัย พลาศรัย เกิดเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๐๓ เป็นที่รู้จักในฐานะหัวหน้าคณะต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารการชี้แจงต่อศาลโลกกรณีคดีปราสาทพระวิหาร สมรสกับนางอลิซเบธ พลาศรัย
ประวัติการศึกษา ระดับมัธยมศึกษา โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (รุ่น ๑๒) เคยเข้าศึกษาที่ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นระยะเวลาประมาณ ๓ เดือน ก่อนที่จะไปศึกษาต่อ ระดับปริญญาตรี และปริญญาโท มหาวิทยาลัยปารีส (นองแตร์) ระดับปริญญาเอก จากมหาวิทยาลัยซอร์บอนน์ ฝรั่งเศส ระดับประกาศนียบัตร หลักสูตรป้องกันราชอาณาจักรภาครัฐร่วมเอกชน
ประวัติการทำงานเลขานุการตรี กองแอฟริกา และกลุ่มอาหรับ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๗ รองอธิบดีกรมเศรษฐกิจ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ อธิบดีกรมเศรษฐกิจระหว่างประเทศ ๑๕ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๐ อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย ๒๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ เอกอัครราชทูตประจำกระทรวง (เจ้าหน้าที่การทูต ๑๐) สำนักงานปลัดกระทรวง ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑
อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย (นักบริหาร ๑๐) ๑๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ กรรมการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๒ เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มประจำราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ (กรุงเฮก) ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๘ เอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา.
ข้อมูลจาก thaipost.net thaipbs.or.th เพจ Fuangrabil Narisroj
ภาพจาก pinterest.com
บีจีจากคุณจอมแก่นแสนซน กรอบจากคุณ KungHangGerman
Free TextEditor
Create Date : 21 มีนาคม 2562 |
Last Update : 22 มีนาคม 2562 7:56:17 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1820 Pageviews. |
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณtoor36, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณกะว่าก๋า, คุณkae+aoe, คุณสาวไกด์ใจซื่อ, คุณสันตะวาใบข้าว, คุณThe Kop Civil, คุณmcayenne94, คุณก้นกะลา, คุณSweet_pills, คุณRinsa Yoyolive, คุณ**mp5**, คุณInsignia_Museum, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณสองแผ่นดิน, คุณnewyorknurse, คุณเรียวรุ้ง, คุณALDI, คุณSai Eeuu, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณหอมกร, คุณเกศสุริยง, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณอุ้มสี, คุณญามี่, คุณmariabamboo, คุณTui Laksi, คุณtuk-tuk@korat, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน, คุณJinnyTent |
|
|