Bloggang.com : haiku : เสพงานศิลป์ ๒๔๘

เสพงานศิลป์ ๒๔๘

ภาพจากเวบ deviantart.com


	"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ บางสิ่งที่เป็นประโยชน์ ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย ในงานศิลปของฉัน ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

Romance - Yuhki Kuramoto

ตามรอยพระยุคลบาทพระมหาธีรราชประพาสเมืองพระร่วง

กรมศิลปากร กระทรวงวัฒนธรรม โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง และมูลนิธิเพชรรัตนสุวัทนา ขอเชิญชมนิทรรศการพิเศษและร่วมการสัมมนา“ตามรอยพระยุคลบาทพระมหาธีรราชประพาสเมืองพระร่วง”เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว วาระครบ ๑๐๙ ปี เสด็จฯ ประพาสหัวเมืองเหนือ โดยจะมีพิธีเปิดในวันศุกร์ที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๙ เวลา๐๘.๓๐ - ๑๖.๓๐ น. ณ ห้องประชุมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง จังหวัดสุโขทัย

การสัมมนา “ตามรอยพระยุคลบาทพระมหาธีรราชประพาสเมืองพระร่วง”กำหนดจัดขึ้นในวันที่ ๑๘ มีนาคม ๒๕๕๙ ประกอบด้วยปาฐกถาพิเศษโดยศาสตราจารย์พิเศษ ธงทอง จันทรางศุ และการบรรยายหัวข้อต่างๆ อาทิ เรื่อง “สุโขทัยกับรัฐประศาสโนบาย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว” โดยผู้ช่วยศาตราจารย์ ดร.ชัชพล ไชยพร รองคณะบดี คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เรื่อง “ค้นหาอดีตที่หายไปจากภาพเก่า” โดยพระมหาปกรณ์ กิตฺติธโร ปธ. ๙ วัดชนะสงครามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ และเรื่อง “อดีต-ปัจจุบันของโบราณสถานในเมืองพระร่วง” โดยศาสตราจารย์ดร.ศักดิ์ชัย สายสิงห์ ภาควิชาประวัติศาสตร์ศิลปะ คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร

ในส่วนนิทรรศการเป็นการนำเสนอภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งดำรงพระราชอิสริยยศเป็น สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ สยามมกุฎราชกุมาร ในคราวเสด็จฯ ประพาสสุโขทัย ศรีสัชนาลัย กำแพงเพชร และพิษณุโลก เมื่อพ.ศ. ๒๔๕๐ (ร.ศ. ๑๒๖) โดยเปรียบเทียบกับภาพสถานที่นั้น ๆ ในปัจจุบันอันสะท้อนให้เห็นความสนพระราชหฤทัยในวิชาโบราณคดีและเรื่องราวประวัติศาสตร์ โปรดที่จะเสด็จฯ พื้นที่แหล่งโบราณคดีสำคัญในคราวเสด็จประพาสหัวเมืองเหนือ โดยเฉพาะแหล่งโบราณคดีเมืองเก่าสุโขทัย แหล่งเตาสังคโลกที่เมืองสวรรคโลกเก่า (ศรีสัชนาลัย) ซึ่งเป็นที่มาของพระบรมราโชบายในการศึกษาและอนุรักษ์แหล่งโบราณคดี โบราณวัตถุในฐานะมรดกวัฒนธรรมของชาติในเวลาต่อมา

ขอเชิญชวนประชาชนและผู้สนใจเข้าชมนิทรรศการได้ทุกวัน ตั้งแต่ ๑๘ มีนาคม – ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๙ เวลา ๐๙.๐๐ - ๑๖.๐๐ น. ณ อาคารนิทรรศการพิเศษพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ รามคำแหง สอบถามเพิ่มเติมเพิ่มได้ที่ โทร. ๐ ๕๕๖๙ ๗๓๖๗

ภาพและข้อมูลจาก
finearts.go.th

แสตมป์ฉลองครบรอบ ๑oo ปี พระที่นั่งอนันตสมาคม

เนื่องในโอกาสครบรอบ ๑oo ปี พระที่นั่งอนันตสมาคม พระที่นั่งองค์สำคัญของประวัติศาสตร์ไทย บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด (ปณท) ร่วมกับสถาบันสิริกิติ์ เปิดตัวตราไปรษณียากรที่ระลึก ๑oo ปี พระที่นั่งอนันตสมาคม โดยได้รับเกียรติจาก รัตนาวุธ วัชโรทัย ที่ปรึกษาฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สำนักพระราชวัง เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยท่านผู้หญิงสุภรภ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต รองราชเลขาธิการใน สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, ม.ล.อรจิตรา สนิทวงศ์ และมี อ.เผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมไทย พาคณะสื่อมวลชนเยี่ยมชมภายในและภายนอกพระที่นั่งอนันตสมาคม พร้อมบอกเล่าเกร็ดความรู้ทางประวัติศาสตร์และศิลปะสถาปัตยกรรมขององค์พระที่นั่งที่น่าสนใจเมื่อวานนี้

สมร เทิดธรรมพิบูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า เนื่องในโอกาสรอบ ๑oo ปี พระที่นั่งอนันตสมาคม ในปี ๒๕๕๙ และเฉลิมฉลองและเผยแพร่ความงดงามของสถาปัตยกรรมอันทรงคุณค่าสู่สายตาประชาชนทั่วโลก ปณท.จึงได้จัดทำไปรษณีย์ชุดนี้ โดยได้รับการอนุเคราะห์ภาพพระที่นั่งอนันตสมาคมจากสถาบันสิริกิติ์ เพื่อเป็นภาพต้นแบบแสตมป์ โดย ปณท.ให้ความสำคัญในทุก ๆ รายละเอียด โดยเฉพาะสีของหลังคาทองแดงซึ่งเกิดจากสนิมสีเขียว ต้องเป็นโทนสีที่ใกล้เคียงกับภาพต้นแบบมากที่สุด อีกทั้งใช้เทคนิคพิเศษพิมพ์สปอตยูวีบริเวณองค์พระที่นั่งเพื่อสร้างความโดดเด่น โดยจำหน่ายวันนี้เป็นวันแรกพร้อมกันทั่วประเทศ ในราคาดวงละ ๕ บาท และซองวันแรกจำหน่าย ๑๔ บาท โดยจะผลิตทั้งหมด ๕ แสนดวง

รัตนาวุธ วัชโรทัย กล่าวว่า เดือนมกราคมที่ผ่านมา พระที่นั่งอนันตสมาคมครบ ๑oo ปี อยากเผยแพร่ให้ประชาชนรับรู้ความงดงามของสถาปัตยกรรมและประวัติศาสตร์ทรงคุณค่า เมื่อไปรษณีย์ไทยและสถาบันสิริกิติ์ติดต่อจัดทำแสตมป์ที่ระลึก ๑oo ปี ก็ให้ความร่วมมือเต็มที่ ปัจจุบันพระที่นั่งอนันตสมาคมเป็นพิพิธภัณฑ์ถาวร มีผู้เข้าชม ๑o,ooo คนต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ สำนักพระราชวังพร้อมบริการนักท่องเที่ยวเพื่อให้ทุกคนได้ชื่นชมพระบารมีพระมหากษัตริย์ผ่านพระที่นั่ง ขณะเดียวกันพยายามรักษาสมบัติของแผ่นดินให้ยาวนานต่อไป

ภายหลังการเปิดตัวแสตมป์ "อ.แพน" เผ่าทอง ทองเจือ กล่าวว่า พระที่นั่งอนันตสมาคม รัชกาลที่ ๕ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้วางศิลาฤกษ์ปี ๒๔๕๑ หลังเสด็จประพาสยุโรปครั้งที่ ๒ แต่ไม่ทันได้ทอดพระเนตรความงดงาม ก็เสด็จสวรรคตปี ๒๔๕๓ จนพระที่นั่งองค์นี้มาเสร็จสมบูรณ์ในรัชกาลที่ ๖ ปี ๒๔๕๘ รวมระยะเวลาก่อสร้างนานถึง ๘ ปี พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างพระที่นั่งองค์นี้จำนวน ๑๕ ล้านบาท ถือเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์นอกเหนือจากพระบรมมหาราชวัง เป็นสุดยอดสถาปัตยกรรมที่รัชกาลที่ ๕ ทรงทิ้งไว้เป็นมรดกให้ลูกหลานเชิดหน้าชูตา โดยพระที่นั่งแห่งนี้เป็นสถาปัตยกรรมหินอ่อนทั้งองค์แห่งเดียวของไทย และเป็นอาคารสองชั้นขนาดใหญ่ ทรงตั้งพระทัยให้เป็นท้องพระโรงพระราชวังดุสิต เพื่อเสด็จออกมหาสมาคมรับพระสหายและพระราชอาคันตุกะต่างประเทศ ปัจจุบันพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะเสด็จออกมหาสมาคม ณ สีหบัญชร พระที่นั่งอนันตสมาคม ในพระราชพิธีประจำปีและโอกาสพิเศษต่างๆ

"ในโอกาสครบ ๑oo ปี พระที่นั่งอนันตสมาคมในปีนี้ คนไทยควรมีแสตมป์เป็นที่ระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณรัชกาลที่ ๕ หากไม่มีพระองค์ คงไม่มีสถาปัตยกรรมสวยงามประดับกรุงรัตนโกสินทร์ มีนักท่องเที่ยวเข้าชมวันละกว่าหนึ่งหมื่นคน" อาจารย์เผ่าทองกล่าว

ความมหัศจรรย์ของพระที่นั่ง ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์เผยว่า พระที่นั่งหินอ่อนองค์นี้หนักหลายหมื่นตัน ต้องสร้างบนที่นาราษฎรเป็นดินอ่อนอาจจมเหมือนหอเอนปิซา มารีโอ ตามัญโญ สถาปนิกชาวอิตาลีผู้ออกแบบพระที่นั่งอนันตสมาคมจึงก่อสร้างโดยไม่ได้ตอกเสาเข็มลงดิน แต่ใต้ถุนพระที่นั่งเป็นบ่อน้ำขนาดใหญ่กั้นเป็นล็อกเพื่อเก็บกักน้ำ ช่วยประคองให้องค์พระที่นั่งงดงาม ปัจจุบันต้องควบคุมระดับไม่ให้สูงหรือต่ำเกินไป อีกความงดงาม คือ ภาพจิตรกรรมฝาผนังศิลปะสมัยใหม่บนโดมของพระที่นั่งเขียนโดยกินี ศิลปินชาวอิตาลีเลื่องชื่อ วาดเรื่องราวพระราชกรณียกิจ ร.๑-ร.๖ เป็นภาพเขียนบนผนังปูนเปียก เทคนิคโรมันโบราณ กาลเวลาผ่านมา ๑oo ปี ภาพยังสมบูรณ์ ไม่ลอกล่อน และไม่ต้องบูรณะซ่อมแซมแต่อย่างใด ปัจจุบัน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้สถาบันสิริกิติ์ สวนจิตรลดา มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ใช้เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลป์แผ่นดิน เพื่อจัดแสดงหัตถศิลป์ชั้นเลิศแห่งภูมิปัญญาของชาติไทย ที่รังสรรค์โดยศิลปาชีพ สถาบันสิริกิติ์.

รัตนาวุธ วัชโรทัย, ท่านผู้หญิงสุภรภ์เพ็ญ หลวงเทพนิมิต, สมร เทิดธรรมพิบูล, อ.เผ่าทอง ทองเจือ

ภาพและข้อมูลจาก
ryt9.com
thairath.co.th

งานเสวนาวิชาการเรื่อง พิพิธภัณฑ์ไทยในศตวรรษที่ ๒๑
“ทิศทางพิพิธภัณฑ์ยุคใหม่ควรเป็นอย่างไร?”

เนื่องในวันที่ ๒ เมษายน เป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี และเป็นวันครบรอบ ๓๑ ปีของการก่อตั้งวันอนุรักษ์มรดกไทย พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ หนึ่งในสถานที่ที่จัดเก็บและจัดแสดงงานศิลปหัตถกรรมของชาติ จึงได้จัดกิจกรรมเนื่องในวันอนุรักษ์มรดกไทย เพื่อเฉลิมพระเกียรติแด่ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะที่ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างใหญ่หลวงในด้านงานศิลปวัฒนธรรมของชาติ กอปรกับทรงเป็นองค์ประธานที่ปรึกษาพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ และพระราชทานแนวทางการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ตลอดมา

พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ขอเชิญชวนบุคคลทั่วไปเข้าร่วมงานเสวนาวิชาการเรื่อง พิพิธภัณฑ์ไทยในศตวรรษที่ ๒๑ “ทิศทางพิพิธภัณฑ์ยุคใหม่ควรเป็นอย่างไร?” เพื่อเป็นเวทีเสวนาหาแนวทางการพัฒนารูปแบบการนำเสนอของพิพิธภัณฑ์ให้มีความทันสมัยและทันเหตุการณ์โลกปัจจุบัน รวมทั้งเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนแนวคิดด้านการบริหารจัดการพิพิธภัณฑ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จากประสบการณ์ของนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการทรัพยากรทางวัฒนธรรมและด้านการออกแบบพิพิธภัณฑ์ เพื่อเป็นการสร้างความตระหนักรู้และเกิดแนวทางในการพัฒนาพิพิธภัณฑ์ให้มีความเหมาะสม ทันสมัย สอดคล้องกับวิถีสังคมในยุคศตวรรษที่ ๒๑ แต่ยังคงไว้ซึ่งการแสดงออกถึงคุณค่าของมรดกทางวัฒนธรรมได้อย่างสมบูรณ์

กิจกรรมไม่มีค่าใช้จ่าย
ระยะเวลา: วันพฤหัสบดี ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๐.๐๐ – ๑๒.๐๐ น.
สถานที่: ห้องประชุม พิพิธภัณฑ์ผ้า ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
จำนวนผู้เข้าร่วมกิจกรรม: ๖๐ คน
ติดต่อสำรองที่นั่ง:
๑. โทร ๐-๒๒๒๕-๙๔๒๐, ๐-๒๒๒๕-๙๔๓๐ ต่อ ๐ หรือ ๒๔๕ ได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา ๙.๐๐ - ๑๗.๐๐ น.
๒. ข้อความทางเฟซบุ๊ก //www.facebook.com/qsmtthailand

ภาพและข้อมูลจาก
FB พิพิธภัณฑ์ผ้าฯ

ออมศิลป์ถิ่นไทย

ธนาคารออมสิน ขอเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ในการส่งเสริมสนับสนุนงานศิลปะประเภทจิตรกรรมให้ผู้ที่รักในศิลปะ ได้มีเวทีแสดงความสามารถด้วยการจัดประกวดวาดภาพ ในหัวข้อ “ออมศิลป์ถิ่นไทย” เพื่อร่วมออมทรัพย์สินอันทรงคุณค่าแห่งแผ่นดิน ผ่านการรังสรรค์งานศิลป์ด้านจิตรกรรม โดยมีศิลปินแห่งชาติและผู้ทรงคุณวุฒิร่วมเป็นคณะกรรมการพิจารณาคัดเลือกและตัดสินผลงานเพื่อให้การจัดประกวดมีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับ

คุณสมบัติของผู้ส่งงาน
ต้องมีสัญชาติไทยและสร้างสรรค์ผลงานด้วยความคิดของตัวเอง
การประกวดแบ่งเป็น ๒ ประเภท
๑. ประเภทเยาวชน อายุ ๗-๑๕ ปีบริบูรณ์ ส่งผลงานขนาดไม่เกิน ๖o x ๘๔ เซ็นติเมตร
๒. ประเภทบุคคลทั่วไป ส่งผลงานขนาดไม่เกิน ๑๕o x ๑๘o เซ็นติเมตร สามารถส่งผลงานเข้าประกวดคนละไม่เกิน ๒ ภาพ

กำหนดส่งผลงาน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ มิถุนายนถึงวันเสาร์ที่ ๑๘ มิถุนายน ๒๕๕๙ ตั้งแต่เวลา ๙.oo-๑๖.oo น.
ณ สถาบันวิชาการ TOT 174 ถ.งามวงศ์วาน ซ.งามวงศ์วาน ๑๗ อ.เมือง จ.นนทบุรี ๑๑ooo
โทร o-๒๖๖๓-๓๒๒๖ ต่อ ๘๕-๘๖
ตัดสินผลการประกวด วันอาทิตย์ที่ ๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๙

ดาวน์โหลดรายละเอียดได้ที่นี่

ภาพและข้อมูลจาก
gsbgen.com

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป เปิดอบรมศิลปะภาคฤดูร้อน ครั้งที่ ๓๕ (๒๕๕๙)

พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป เปิดอบรมศิลปะภาคฤดูร้อน ครั้งที่ ๓๕ ประจำปี ๒๕๕๙ ระหว่างวันที่ ๒๐ เมษายน - ๑ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ทุกวันพุธ - อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์, วันอังคาร) เปิดรับสมัครตั้งแต่วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ - ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ โทร. ๐ ๒๒๘๑ ๒๒๒๔ (วันพุธ - วันอาทิตย์)

กรมศิลปากร โดยพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป จัดอบรมศิลปะแก่เด็ก เยาวชน และผู้สนใจใน ๓ หลักสูตร ได้แก่ วาดการ์ตูน สีน้ำ และลายเส้น ดังนี้

วาดการ์ตูน เรียนพื้นฐานการวาดการ์ตูน โดยฝึกการสังเกตและนำเอาลักษณะเด่นของสิ่งที่จะวาดมาสร้างสรรค์เพื่อเสริมสร้างและต่อยอดจินตนาการ แบ่งเป็นระดับ ป.๑ – ป.๓ และระดับ ป.๔ – ป.๖

สีน้ำ เรียนพื้นฐานการวาดภาพสีน้ำ ตั้งแต่การผสมสี การวางโครงร่างของภาพ โดยสอดแทรกการลงสีด้วยเทคนิคต่าง ๆ เช่น การระบายสีเปียกบนเปียก เปียกบนแห้ง การระบายเคลือบ ฯลฯ แบ่งเป็นระดับ ป.๔– ป.๖ และระดับ ม.๑ – บุคคลทั่วไป

ลายเส้น ระดับ ม.๑ – บุคคลทั่วไป เรียนพื้นฐานการวาดภาพลายเส้นแบบต่าง ๆ และการให้น้ำหนักจากหุ่นนิ่งรูปทรงต่าง ๆ

ผู้สนใจสมัครเข้าร่วมอบรมศิลปะภาคฤดูร้อน ครั้งที่ ๓๕ ประจำปี ๒๕๕๙ ได้ตั้งแต่วันที่ ๓ กุมภาพันธ์ – ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ค่าลงทะเบียนคนละ ๑,๗๐๐ บาท ต่อหลักสูตร (รวมอุปกรณ์ที่ใช้ในการอบรมแล้ว) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ หอศิลป ถนนเจ้าฟ้า (เชิงสะพานพระปิ่นเกล้า) แขวงชนะสงคราม เขตพระนคร กรุงเทพฯ ๑๐๒๐๐

ภาพและข้อมูลจาก
finearts.go.th

ประมูลผลงาน ๑๒ ศิลปินดัง ระดมทุนให้ Art-for-All

ธนาคารยูโอบี จำกัด (มหาชน) ร่วมกับบริษัท กล่องดินสอ จำกัด จัดแสดงนิทรรศการและประมูลภาพวาดในโครงการกรุณาสัมผัส หรือ ‘Please Touch’ ระหว่างวันที่ ๑๕-๒๔ มีนาคม ๒๕๕๙ ณ โถงชั้น ๑ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เพื่อส่งเสริมให้เด็กผู้ที่มีปัญหาทางสายตาได้เข้าถึงและพัฒนาศักยภาพทางศิลปะ ภายในงานนิทรรศการจะมีการจัดแสดงผลภาพวาดของ ๑๒ ศิลปิน และภาพวาดจากเด็กผู้พิการทางสายตาที่สร้างขึ้นจากเครื่องมือพิเศษที่ช่วยให้เด็ก ๆ ใช้ประสาทสัมผัสถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดและจินตนาการผ่านเส้นไหมพรมลงบน velcroboard

กิจกรรมไฮไลท์ที่สำคัญของงาน คือการจัดประมูลผลงานศิลปะที่สร้างสรรค์บน velcroboard โดย ๑๒ ศิลปินดัง อาทิศิลปินแห่งชาติ ศ.เกียรติคุณอิทธิพล ตั้งโฉลก จิตรกรผู้ได้รับรางวัลทุนเกียรติยศ ‘ศิลป์ พีระศรี’-ผศ.วุฒิกร คงคา ศิลปินหญิงร่วมสมัย-ศ.กัญญา เจริญศุภกุล นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง-ชัย ราชวัตร นักวาดภาพประกอบชื่อดัง/ วิศุทธ์ พรนิมิต/คิ้วต่ำ และมุนิน การประมูลจะมีขึ้นในวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๔.๓o – ๑๗.๓o น. รายได้ที่ได้รับจากการประมูลทั้งหมดโดยไม่หักค่าใช้จ่ายจะนำไปบริจาคให้กับมูลนิธิศิลปะเพื่อมวลมนุษย์ (Art for All) เพื่อส่งเสริมทำกิจกรรมด้านศิลปะให้กับเยาวชน

โครงการ กรุณาสัมผัส ดำเนินการด้วยแนวคิด Grow in the Dark เพื่อสะท้อนเรื่องราวการเติบโตและความรู้สึกของเด็กที่มีปัญหาด้านการมองเห็น ผ่านหัวข้อต่างๆไม่ว่าจะเป็น How you grew up ที่บอกเล่าถึงการใช้ชีวิตท่ามกลางความมืดมิด How you feel in the dark ซึ่งบรรยายเกี่ยวกับความรู้สึกต่าง ๆ และ What makes you happy สำหรับการอธิบายถึงสิ่งที่ทำให้พวกเขามีความสุขเด็ก ๆ ที่มีปัญหาทางสายตาจะได้รับโอกาสชื่นชมผลงานของศิลปินผู้มีชื่อเสียงที่นำมาจัดแสดงผ่านทางการสัมผัส และผู้ชมทั่วไปจะได้ลองชื่นชมศิลปะผ่านประสบการณ์ของเด็ก ๆผู้มีปัญหาทางสายตาโดยการปิดตา

ภาพที่จัดแสดงในงานทั้งหมดถูกสร้างสรรค์ด้วยอุปกรณ์ “เล่นเส้น” ซึ่งออกแบบโดย บริษัท กล่องดินสอ จำกัด เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีปัญหาทางสายตาสายตาได้สัมผัสถึงความงามของศิลปะผ่านการวาดภาพ ธนาคารยูโอบี (ไทย) ขอเชิญผู้สนใจเข้าร่วมประมูลผลงานในวันที่ ๑๕ มีนาคม หรือเยี่ยมชมนิทรรศการ ซึ่งจะมีจนถึงวันที่ ๒๔ มีนาคม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณศุภรินทร์ โพธิโสภณ ฝ่ายบริหารสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ธนาคารยูโอบี โทรศัพท์ o-๒๓๔๓-๔๙๖๔

ภาพและข้อมูลจาก
matichon.co.th

นิทรรศการทุนสร้างสรรค์ศิลปกรรมศิลป์ พีระศรีครั้งที่ ๑๕

มหาวิทยาลัยศิลปากรเชิญชม "นิทรรศการทุนสร้างสรรค์ศิลปกรรมศิลป์ พีระศรีครั้งที่ ๑๕" ผลงานของศิลปินทั้ง ๗ ในนิทรรศการถัดไปของหอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร กับ "นิทรรศการทุนสร้างสรรค์ศิลปกรรมศิลป์ พีระศรีครั้งที่ ๑๕" ผลงานของศิลปินทั้ง ๗ ที่ได้รับคัดเลือกทุนสร้างสรรค์ผลงานศิลปกรรมตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา จะมาจัดแสดงให้ชมกัน!
พิธีเปิดนิทรรศการ อังคารที่ ๑๕ มีนาคมนี้ ๑๘.oo น. ณ หอศิลป์มหาวิทยาลัยศิลปากร และกิจกรรมศิลปินเสวนาพูดคุยถึงกระบวนการทำงานของศิลปินทั้ง ๗ ในเวลา ๑๖.oo น.

ศิลปิน :
คงศักดิ์ กุลกลางดอน
ธวัชชัย พันธุ์สวัสดิ์
ธีรศักดิ์ ทองนุ้ยพราหมณ์
นริศรา เพียรวิมังสา
วรรณลพ มีมาก
ศินิต แซ่เจี่ย
อัจจิมา เจริญจิต ตนานนท์

นิทรรศการจัดแสดงถึง ๙ เมษายนนี้ - จันทร์ถึงศุกร์ ตั้งแต่ ๙.oo-๑๙.oo น. และ เสาร์ ๙.oo-๑๖.oo น.

ภาพและข้อมูลจาก
FB ART CENTRE, SILPAKORN UNIVERSITY

๖๙ ภาพเขียน กว่าครึ่งศตวรรษ

มูลนิธิธารศิลป์รักษ์จิตรกร ได้จัดแสดงภาพผลงานของ อาจารย์แนบ โสตถิพันธุ์ ภายใต้ชื่อ "๖๙ ภาพเขียน กว่าครึ่งศตวรรษ" โดยมี ท่านผู้หญิงภรณี มหานนท์ รองราชเลขานุการในพระองค์สมเด็จพระบรมราชินีนาถ เป็นประธานเปิดงาน

ผลงานที่นำมาจัดแสดงในครั้งนี้ นับว่าพิเศษสุด เป็นภาพที่ไม่เคยจัดแสดงที่ไหนมาก่อน มีทั้งในส่วนของภาพเก่าสะสม ที่หาดูได้ยาก และภาพร่วมสมัยซึ่งบอกเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยวตลอดช่วงอายุ ๗๗ ปีของ อาจารย์แนบ โสตถิพันธุ จิตรกรชั้นแนวหน้าของเมืองไทย

การจัดงานครั้งนี้ นอกจากเป็นการคืนกำไรสู่สังคม ยังช่วยจัดหารายได้สมทบทุนเป็นค่ารักษาพยาบาลช่วยเหลือศิลปินในยามเจ็บป่วย โดยผู้ที่สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ ได้ตั้งแต่วันนี้ถึง วันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๙ ที่ห้องจัดแสดงภาพมูลนิธิธารศิลป์รักษ์จิตรกร สุขุมวิท ๓๙

ภาพและข้อมูลจาก
ch7.com
thairath.co.th

กลุ่ม 'จิตรกรไทย' รื้อฟื้นเทคนิคสีฝุ่น

"จิตรกรไทย" เป็นศิลปินอีกหนึ่งกลุ่มที่ทุ่มแรงกายแรงใจสืบสานศิลปวัฒนธรรมของชาติ ย้อนไปเมื่อ ๓o ปีที่แล้ว กลุ่มจิตรกรไทยเกิดขึ้นจากการรวมตัวของศิลปินอาสาสมัครที่ได้ไปร่วมเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังที่วัดพุทธปทีป ณ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ

หลังกลับมาทำงานศิลปะในไทยระยะหนึ่ง กลุ่มจิตรกรไทยชักชวนกันจัดแสดงนิทรรศการกลุ่มครั้งแรกเมื่อปี ๒๕๓๙ เพื่อส่งเสริมให้เกิดการชื่นชมงานศิลปะให้กับคนไทย ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาได้จัดกิจกรรมตามสถานที่ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเสวนา อบรม และนิทรรศการ

ล่าสุด ๓๒ ศิลปินกลุ่มจิตรกรไทยประเดิมปี ๒๕๕๙ กับนิทรรศ การใหญ่ "จริยศิลป์ วิศิษฏศิลปิน สยามบรมราชกุมารี" รวบรวมผลงานจิตรกรรมเกือบ ๑oo ชิ้น ที่ร้อยเรียงเรื่องราวแสดงออกถึงความจงรักภักดีและเผยแพร่พระเกียรติคุณของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงได้รับการทูลเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา "วิศิษฏศิลปิน" ด้วยทรงเป็นเลิศทางศิลปะและมีคุณูปการต่องานศิลปะและวัฒนธรรมของชาติยิ่งนัก

ในวันเปิดนิทรรศการซึ่งจัดขึ้นที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มีปัญญา วิจินธนสาร ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (จิตรกรรม) ในฐานะประธานกลุ่มจิตรกรไทย เป็นหัวเรือใหญ่ร่วมกับเหล่าศิลปิน อาทิ ทวี รัชนีกร, ผ่อง เซ่งกิ่ง, โชคชัย ตักโพธิ์, สมภพ บุตราช, เริงศักดิ์ บุณยวาณิชย์กุล, เนติกร ชินโย ฯลฯ โชว์ผลงานให้ได้ชมกัน งานนี้ บุญชัย เบญจรงคกุล เป็นประธานเปิดงาน

อาจารย์ปัญญากล่าวว่า งานจิตรกรรมที่นำมาจัดแสดงครั้งนี้เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวตระหนักถึงพระปรีชาสามารถในด้านศิลปวัฒน ธรรม และพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่ทรงสนับสนุนงานด้านวัฒนธรรมของชาติเสมอมา ผลงานที่จัดแสดงประกอบด้วยภาพเขียนเทคนิคสีฝุ่นไทยและภาพเขียนเทคนิคอื่น ๆ ตามความถนัดของศิลปินแต่ละคน

"ปีนี้กลุ่มศิลปินเห็นตรงกันหันกลับมาฟื้นฟูเทคนิคการเขียนภาพด้วยสีฝุ่นแบบโบราณ เห็นว่าทุกวันนี้ศิลปินใช้เทคนิคนี้น้อยมาก สีฝุ่นทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด ส่วนเรื่องการแสดงออกและสาระของงาน ศิลปินสร้างสรรค์กันโดยอิสระ การร่วมกันทำงานครั้งนี้จึงต่างจากที่เคยทำมา เราแสดงงานครั้งนี้รื้อฟื้นอดีตกลับมาใหม่จากเทคนิคสีฝุ่น" ประธานกลุ่มจิตรกรไทยเผย

ด้านอาจารย์ผ่อง เซ่งกิ่ง ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตรกรรมไทย หัวเรี่ยวหัวแรงกลุ่มจิตรกรไทย กล่าวว่า เทคนิคการเขียนภาพด้วยสีฝุ่นแบบโบราณมีหลักฐานปรากฏที่วัดเจดีย์เจ็ดแถว อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย อายุไม่ต่ำกว่า ๗oo ปี จากนั้นมาปรากฏชัด พบงานจิตรกรรมสีฝุ่นจีนและไทยอยู่ล้อมรอบเครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่กรุวัดราชบูรณะ จ.อยุธยา แล้วยังมีงานจิตรกรรมภายในอุโบสถ วัดไชโย จ.อ่างทอง ที่สามารถศึกษาเป็นแบบอย่างได้ ทุกวันนี้ตัวเองได้พาจิตรกรไทยรุ่นใหม่ ๆ ไปเยี่ยมชม ไปรับแรงบันดาลใจ ปัจจุบันศิลปินให้ความสำคัญจิตรกรรมแนวนี้น้อยลง รวมถึงขาดแคลนอาจารย์ผู้สอน มีจำนวนนับนิ้วได้เลย รวมถึงมีขั้นตอนซับซ้อนและยุ่งยาก เนื่องจากต้องใช้วัสดุจากธรรมชาติล้วน ๆ ต่างจากสีวิทยาศาสตร์ทุกวันนี้ ตัวเองร่วมแสดงงาน ๖ ชิ้น เป็นเทคนิคสีฝุ่นบนพื้นดินสอพอง กาวเมล็ดมะขาม นอกจากสอนศิลปะไทย ตนทุ่มเทเผยแพร่องค์ความรู้จิตรกรรมไทยโบราณเทคนิคนี้ อีกบทบาทเป็นหัวหน้าชุมชนบ้านช่าง สถาบันอาศรมศิลป์ด้วย

"เสน่ห์ของสีฝุ่นเป็นภาพที่ดูแล้วสบายตา นิ่มนวล ดูได้นาน ไม่มีเบื่อ กลับไปดูผลงานอีกครั้งก็ให้ความรู้สึกตื่นเต้น กลุ่มจิตรกรไทยพยายามรักษาเทคนิคโบราณนี้ สนองพระราชดำริ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงห่วงใยศิลปวัฒนธรรมไทย ท่านเคยเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรภาพจิตรกรรมสีฝุ่นที่ จ.สมุทรสงคราม ทรงทดลองเขียนเทคนิคนี้ ถ้าท่านได้เห็นสิ่งที่ศิลปินจิตรกรไทยทำในวันนี้น่าจะทรงปลื้มพระทัยที่มีคนช่วยรักษาไม่ให้สูญหาย และฟื้นฟูศิลปะไทยไว้ได้" อาจารย์ผ่องกล่าว

ทั้งนี้ ในระหว่างนิทรรศการจัดให้มีกิจกรรม เวิร์กช็อป "การวาดภาพสีฝุ่นบนพื้นดินสอพอง กาวเมล็ดมะขาว" ที่นับวันจะหายากมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้สนใจได้มาเรียนรู้การเขียนภาพเทคนิคดังกล่าว แบ่งกิจกรรมออกเป็น ๒ ครั้ง คือ วันเสาร์ที่ ๑๙ มี.ค. ๒๕๕๙ และวันที่ ๒๖ มี.ค. ๒๕๕๙ ตั้งแต่เวลา ๑o.oo-๑๕.oo น. รับจำนวนจำกัดครั้งละ ๓o ท่าน โดยเสียค่าใช้จ่ายท่านละ ๒๕o บาทต่อครั้ง ส่วนนิทรรศการ "จริยศิลป์ วิศิษฏศิลปิน สยามบรมราชกุมารี" จัดแสดงตั้งแต่วันที่ ๑๔ มี.ค.-๑๒ เม.ย. ที่หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ก่อนจะสัญจรไปจัดแสดงทั่วทุกภาคของไทยตลอดปีนี้.

ภาพและข้อมูลจาก
ryt9.com
tungngurn.wordpress.com

เทศกาลศิลปะแห่งกรุงเทพฯ ครั้งที่ ๑

สำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย กระทรวงวัฒนธรรม ขอเชิญเที่ยวงาน The 1st Bangkok Art Festival (ฺฺBAF) เทศกาลศิลปะแห่งกรุงเทพฯ ในทุกวันเสาร์ และวันอาทิตย์ ระหว่างวันที่ ๑๙ มีนาคม - วันอาทิตย์ที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๖.oo - ๒o.oo น. ณ บริเวณหน้าหอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน (ยกเว้นช่วงเทศกาลสงกรานต์ วันที่ ๑๖ -๑๗ เมษายน ๒๕๕๙) เชิญชมการแสดงร่วมสมัย - การแสดงอาเซียน การแสดง Street Show ฟังดนตรีร่วมสมัย - ดนตรีอาเซียน การสาธิตงานศิลปะร่วมสมัย Art Market จำหน่ายและเลือซื้อผลงานทางศิลปะและงานดีไซน์ต่าง ๆ งาน D.I.Y. นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารอร่อยติดล้อ Food Truck ให้เลือกชิมกันด้วย

ทั้งนี้ เทศกาลศิลปะแห่งกรุงเทพ (BAF) มีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยให้แก่เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป เป็นแหล่งเรียนรู้งานศิลปะที่เข้าถึงผู้ชมทุกกลุ่มเป้าหมาย สร้างค่านิยม ความภาคภูมิใจ จิตสำนึกที่ดีงามทางศิลปะและวัฒนธรรม โดยนำทุนทางวัฒนธรรมมาพัฒนาสินค้าและบริการทางวัฒนธรรมเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ การสนับสนุนให้ศิลปินและเครือข่ายได้มีพื้นที่ในการจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัย สาธิต เผยแพร่ แลกเปลี่ยนความรู้ และเปิดพื้นที่ให้ศิลปินและผู้สนใจจัดแสดงและจำหน่ายผลงานศิลปะร่วมสมัย เพื่อให้ศิลปินมีรายได้ ส่งเสริมให้ใช้มิติทางวัฒนธรรมสร้างรายได้เชื่อมโยงการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเป็นโอกาสให้ศิลปินในทุก ๆ แขนงได้รวมตัวกัน ก่อเกิดพลังขับเคลื่อน ต่อยอด ส่งเสริมผลงานในระดับอาเซียน และนานาชาติ ต่อไปด้วย ทั้งนี้ สามารถติดตามข่าวสารเพิ่มเติมทาง facebook : Bangkok Art Festival

ภาพและข้อมูลจาก
FB หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน

นิทรรศการจิตรกรรมสีน้ำ

333 แกลอรี่ จัดแสดงนิทรรศการจิตรกรรมสีน้ำ ในโอกาสฉลองครบรอบ ๒๓๔ ปีกรุงรัตนโกสินทร์ โดย 333 แกลเลอรี่ รวบรวมผลงานจิตรกรรมสีน้ำของศิลปินไทยและศิลปินรับเชิญจากต่างประเทศ เช่น อิตาลี อเมริกา เนปาล เวียดนาม มาเลเซีย ลาว สิงคโปร์ เมียนมาร์ จำนวน ๒๓๔ ผลงาน นำมาจัดแสดงร่วมกัน เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ ๒๓๔ ปีของกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางศิลปวัฒนธรรม และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิด เทคนิควิธีการสีน้ำ การเรียนรู้ภูมิปัญญาทางศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน

จัดระหว่างวันที่ ๒- ๓o เมษายน ๒๕๕๙ ณ 333 แกลอรี่ ชั้น ๑ อาคาร เคแอนด์วาย เลขที่ ๑๖ ถนนสุรศักดิ์ บางรักกรุงเทพมหานคร333 แกลอรี่ จัดแสดงนิทรรศการจิตรกรรมสีน้ำ ในโอกาสฉลองครบรอบ ๒๓๔ ปีกรุงรัตนโกสินทร์ โดย 333 แกลเลอรี่ รวบรวมผลงานจิตรกรรมสีน้ำของศิลปินไทยและศิลปินรับเชิญจากต่างประเทศ เช่น อิตาลี อเมริกา เนปาล เวียดนาม มาเลเซีย ลาว สิงคโปร์ เมียนมาร์ จำนวน ๒๓๔ ผลงาน นำมาจัดแสดงร่วมกัน เพื่อเป็นการร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ ๒๓๔ ปีของกรุงรัตนโกสินทร์ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพทางศิลปวัฒนธรรม และส่งเสริมการแลกเปลี่ยนความคิด เทคนิควิธีการสีน้ำ การเรียนรู้ภูมิปัญญาทางศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย เพื่อรองรับประชาคมอาเซียน

จัดระหว่างวันที่ ๒- ๓o เมษายน ๒๕๕๙ ณ 333 แกลอรี่ ชั้น ๑ อาคาร เคแอนด์วาย เลขที่ ๑๖ ถนนสุรศักดิ์ บางรักกรุงเทพมหานคร

ภาพและข้อมูลจาก
FB 33 Gallery

นิทรรศการจิตรกรรมร่วมสมัย “It’s me.”

ศิลปิน : สุริยะ ฉายะเจริญ ( https://www.facebook.com/suriya.chaya )
( https://www.facebook.com/Suriya.Chaya.art/ )
ภัณฑารักษ์ : วรรณพร ฉิมบรรจง ( https://www.facebook.com/peacesai?fref=ts )
( https://www.facebook.com/rebelartspace/?pnref=lhc )
( https://www.facebook.com/Sai.Wannaphon/?pnref=lhc )
พิธีเปิด : วันเสาร์ที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๕๙ เวลา ๑๙.oo น. เป็นต้นไป
จัดแสดง : ตั้งแต่วันที่ ๑-๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙
ทุกวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) ตั้งแต่เวลา ๑o.oo น. - ๒๑.oo น.
สถานที่ : ART CAFÉ by Brown Sugar ชั้น ๑ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
ติดต่อ : o๘๑-๖๖๖-๘๓๘๓, o๙o-๙๘๖-๙๙๓๗

แนวคิดนิทรรศการ:

นิทรรศการนำเสนอผลงานจิตรกรรมร่วมสมัยโดยมีแนวคิดที่ว่า งานจิตรกรรมเป็นเสมือนเป็นการบันทึกผ่านภาษาของภาพที่ผสมผสานระหว่างความเป็นจริงและจินตนาการ จิตรกรรมเป็นภาพแทนความรู้สึกและความคิดของจิตรกร เพราะฉันนั้น เมื่อใดก็ตามที่ดูงานจิตรกรรม เมื่อนั้นเราย่อมเห็นจิตวิญญาณของจิตรกร ผลงานจิตรกรรมคือภาพแทนที่ถูกผลิตขึ้นภายใต้กรอบคิดแบบสุนทรียศาสตร์ โดยในมิติของการสื่อสาร งานจิตรกรรมเป็นทั้งตัวสื่อและตัวสารที่มีความสำคัญบริบทของวัฒนธรรมทางสายตาที่จะนำไปสู่กระบวนการสื่อความหมายด้วยรหัสเชิงสุนทรียะในสังคมร่วมสมัย

ภาพและข้อมูลจาก
jumpsuri.blogspot.com

THE RESPECTABLES

ห้องสมุด นีลเซน เฮส์ (Neilson Hays Library) ห้องสมุดเก่าแก่ บนถนนสุรวงศ์ ซึ่งตั้งอยู่ภายตัวอาคารรูปทรงแบบ Neo Classic อายุกว่าร้อยปี ที่ได้รับการออกแบบโดยสถาปนิกชาวอิตาเลียน Mr.Mario Tamagno และ Mr.Giovanni Gerreo

ปัจจุบันนอกจากจะเป็นห้องสมุด บริเวณห้องโถงเล็กๆกลางห้องสมุดที่มีลักษณะเป็นโดม ยังเปิดเป็น โรทันดา แกลเลอรี่ พื้นที่แสดงผลงานศิลปะ ของศิลปินไทยและนานาชาติที่หมุนเวียนกันนำมาผลงานมาจัดแสดง รวมถึง การ์เด้น แกลเลอรี่ ผนังภายใน Cafe’ ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าห้องสมุด

ผลงานศิลปะล่าสุดที่มีมาจัดแสดงให้ชมคือภาพวาดด้วยสีอะคริลิคชุด THE RESPECTABLES ผลงานของศิลปินชาวอังกฤษ ริชาร์ด มีด

เป็นภาพวาดที่ต้องการถ่ายทอดชีวิตผู้คนต่าง ๆ ในสถานการณ์อันหลากหลาย ทั้งผู้คนที่ศิลปินคิดว่าน่านับถือและผู้คนที่คิดว่าตัวเองน่านับถือ โดยภาพวาดแต่ละภาพจะมีคำอธิบายสั้น ๆ ที่จะบอกเล่าเรื่องราวของภาพและเหตุผลที่ศิลปินสนใจต่อสถานการณ์ ณ ขณะนั้น

ริชาร์ด มีด เกิดที่ประเทศอังกฤษ วาดภาพเกี่ยวกับกรุงเทพฯ และกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มานานกว่า ๓๕ ปี นอกจากนี้ยังเคยเป็นอาจารย์และนักวิจัยในหลายประเทศ เคยออกแบบฉากละคร เขียนนวนิยาย บทละคร และตําราหลายเล่ม เคยรู้จักกับพรรคการเมืองหลายพรรคและลงสมัครเมื่อ พ.ศ. ๒๕๔o

ด้านการแสดงผลงานศิลปะ ก่อนหน้านี้เคยจัดนิทรรศการแสดงเดี่ยวผลงานมาแล้ว ๒ ครั้ง ที่ Rupa Gallery ในมาเลเซีย และ RMA institute ในกรุงเทพฯ

ปัจจุบัน ริชาร์ด มีด พํานักอยู่ที่ กรุงเทพฯ หลังจากที่แต่งงานกับ กุลลดา เกษบุญชู มีด อดีตรองศาสตราจารย์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมีลูกชายด้วยกัน ๑ คนคือ ภรณ มีด ผู้ก่อตั้งโรงเรียนสอนศิลปะ ภรณ สคูล ออฟ อาร์ท ในกรุงเทพฯ

สามารถเข้าไปเยี่ยมชมผลงานของ ริชาร์ด มีด เพิ่มเติมได้ที่ //www.richard-mead.com/

ขณะที่นิทรรศการ THE RESPECTABLES โดย ริชาร์ด มีด จัดแสดงระหว่างวันนี้ - ๒๘ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ณ โรทันดา แกลเลอรี่ และ การ์เด้น แกลเลอรี่ ห้องสมุด นีลเซน เฮส์ ถ.สุรวงศ์

ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th

“มานะ มานี ปิติ ชูใจ” โดย “อ.รัชนี ศรีไพรวรรณ”
ความทรงจำสีไม่จาง ของอดีตนักเรียนประถมจำนวนมาก

ยังประทับอยู่ในความทรงจำ ทั้งผลงานและเจ้าของผลงาน ด้วยเหตุนี้ วันนี้ (๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙) ซึ่งถือเป็นวันคล้ายวันเกิดของ รัชนี ศรีไพรวรรณ ผู้เขียน “มานะ มานี ปิติ ชูใจ” ที่เคยใช้เป็นแบบเรียนวิชาภาษาไทย ในโรงเรียนระดับประถมศึกษาทั่วประเทศ ตามหลักสูตรประถมศึกษา พ.ศ. ๒๕๒๑ - ๒๕๓๗ (ต่อมาแบบเรียนภาษาไทยชุดนี้ ได้ถูกยกเลิกใช้ในการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๗)

ความเคลื่อนไหวในโลกสังคมออนไลน์ และข่าวสารของแต่ละสำนักข่าว จึงพร้อมใจกันนำเสนอเรื่องราวของ อาจารย์ ข้าราชการบำนาญ อดีตศึกษานิเทศก์ระดับ ๘ สาขาวิชาภาษาไทย ระดับชั้นประถมและมัธยมศึกษา ผู้จากโลกนี้ไปเมื่อวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ซึ่งหากยังมีชีวิตอยู่ ปีนี้จะเป็นปีที่อาจารย์รัชนีมีอายุ ๘๕ ปี

ไม่เว้นแม้แต่ Google ที่ร่วมรำลึกวันเกิดปี ๘๕ ปี อาจารย์รัชนี ด้วยภาพดูเดิล (ภาพที่วาดลงบนโลโก้ของกูเกิล) หน้าเว็บ ซึ่งเป็นภาพ “เด็กชายมานะและเด็กหญิงมานี รักเผ่าไทย”

จึงทำให้บรรดาภาพวาดของตัวละครต่าง ๆ ที่เคยอยู่ในบทเรียน “มานะ มานี ปิติ ชูใจ” และวันนี้อาจกลายเป็นความทรงจำสีจางสำหรับอดีตนักเรียนประถมจำนวนมากผู้เคยมีโอกาสร่ำเรียนภาษาไทยและอ่านออกเขียนได้ผ่านบทเรียนที่อาจารย์รัชนี เป็นผู้แต่ง ผุดขึ้นมาเด่นชัดในหัวอีกครั้ง

และต้องไม่ลืมด้วยว่า ศิลปิน ๓ ท่าน ในฐานะ ผู้วาดภาพประกอบ ผู้มีส่วนทำให้ “มานะ มานี ปิติ ชูใจ” ชุดแบบเรียนภาษาไทย ระดับประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ รวม ๑๒ เล่ม ของอาจารย์รัชนี สวยงามในความทรงจำของหลายๆคน ได้แก่ เตรียม ชาชุมพร นักเขียนการ์ตูนและนิยายภาพ จากชัยพฤกษ์การ์ตูน, ปฐม พัวพิมล และ โอม รัชเวทย์ ซึ่งท่านสุดท้ายนี้ ล่าสุดผลงานเรื่อง “ทศชาติชาดก พระเนมิราช พระมโหสถ และพระภูริทัต” พิมพ์โดย สำนักพิมพ์อมรินทร์คอมมิกส์ เพิ่งถูกประกาศให้ได้รับ รางวัลหนังสือดีเด่น ประจำปี ๒๕๕๙ ประเภทหนังสือการ์ตูน และนิยายภาพ โดย กระทรวงศึกษาธิการ

อาจารย์รัชนี ศรีไพรวรรณ เกิดเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ ที่อำเภอโกสุมพิสัย จังหวัดมหาสารคาม สำเร็จการศึกษาระดับประถม จากโรงเรียนประชาบาล ‘พินิจราษฎรบำรุง’ อำเภอยางตลาด จังหวัดกาฬสินธุ์ และมัธยมศึกษาจากโรงเรียนสตรีอนุกูลนารี อำเภอกาฬสินธุ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ (ปัจจุบันโรงเรียนทั้งสองแห่ง อยู่ในเขตจังหวัดกาฬสินธุ์) ต่อมาสำเร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษา จากโรงเรียนฝึกหัดครูสวนสุนันทาวิทยาลัย (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา), โรงเรียนฝึกหัดครูมัธยมวังจันทรเกษม (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม) และ วิทยาลัยวิชาการศึกษาประสานมิตร (ปัจจุบันคือ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ)

อาจารย์รัชนีเป็นนักเขียนเจ้าของรางวัลนราธิป ประจำ ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ มีผลงานเขียนหนังสือ ประกอบการสอนวิชาภาษาไทยเรื่อง “กระต่ายน้อยและฝนหลวง” และ “มานะ มานี ปิติ ชูใจ” ซึ่งนอกจากจะเป็นแบบเรียนที่มีคุณค่าและอยู่ในความทรงจำแล้ว ทาง ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมไทย TLCC เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ยังได้ขออนุญาตกระทรวงศึกษาธิการไทย นำไปใช้เป็น หนังสือเรียนสอนภาษาไทยให้แก่ชาวไทยและชาวต่างชาติ ตั้งแต่ปี พ.ศ. ๒๕๒๔ จนถึงปัจจุบัน

รวมถึงมีผลงานวรรณกรรมเยาวชนเรื่อง “ทางช้างเผือก” และ "เรื่องชื่นใจ" ร่วมกับ สำนักพิมพ์ในเครือนิตยสาร a day นอกจากนี้ รายการ “ภาษาไทยใครว่ายาก” เคยเชิญอาจารย์รัชนีเป็นวิทยากร โดยออกอากาศทางโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เมื่อวันที่ ๑o มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖

ด้านชีวิตส่วนตัว อาจารย์รัชนีสมรสกับ มงคล ศรีไพวรรณ มีบุตรชายและบุตรสาว ๒ คน คือ พงษ์ธร ศรีไพรวรรณ และ พรพรรณ ศรีไพรวรรณ

อาจารย์รัชนีถึงแก่กรรม ด้วยโรคหลอดเลือดอุดตัน เมื่อเวลา ๒๑.๓๘ น. ของวันที่ ๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๗ ที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ สิริอายุได้ ๘๔ ปี โดยเมื่อครั้งยังมีชีวิต อาจารย์รัชนีแสดงความประสงค์ขอบริจาคร่างกาย สำหรับการศึกษาของคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล

ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th

นิทรรศการ "ทีละเล็กทีน้อย"

ทรัพย์มณี ปัจจุบันทำงานเป็นสถาปนิกชุมชน ควบคู่ไปกับการวาดภาพเป็นงานอดิเรก โดยใช้เทคนิคสีน้ำเป็นหลัก ผลงานส่วนใหญ่ได้มาจากความสนุกในการทดลองเทคนิคสีน้ำ จนพบรูปแบบใหม่ ๆ เกิดผลงานสร้างสรรค์ในรูปแบบที่แตกต่าง.

นิทรรศการ "ทีละเล็กทีละน้อย" เกิดจากความสงสัย อยากเข้าใจธรรมชาติรอบตัว เรื่องราวต่าง ๆ ที่สังเกตเห็น มีรูปแบบซับซ้อนน่าค้นหา ถูกเก็บสะสมไว้ภายในทีละเล็กทีละน้อย มาเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ ผลงานทั้งหมดได้แสดงออกถึงความรู้สึกหลากหลาย ทั้งประทับใจ ลึกลับ น่าค้นหา เสมือนธรรมชาตินำพาเราเข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง จนเกิดจินตนาการไปไกลกว่าสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า

ภาพและข้อมูลจาก
portfolios.net

นิทรรศการภาพถ่าย 'ระบำตันตรา'

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (๕ มีนาคม ๒๕๕๙) มีงานนิทรรศการภาพที่น่าสนใจสำหรับชาวสตรีทอีกแล้ว นั่นคืองาน Danse Macabre หรือชื่อภาษาไทยที่ชื่อว่า “ระบำตันตรา” นิทรรศการภาพถ่ายจากกาฐมาณฑุ (Kathmandu) ประเทศเนปาล งานแสดงภาพเดี่ยวครั้งที่ ๒ ของ ผ้าป่าน สิริมา ไชยปรีชาวิทย์

พวกเรา สยาม.มนุษย์.สตรีท ได้แวะไปเยี่ยมชมงานเปิดนิทรรศการ เลยได้สัมภาษณ์ผ้าป่านเกี่ยวกับงานครั้งนี้ด้วย

ผ้าป่าน : งานชื่อ Danse Macabre เป็นภาษาฝรั่งเศสค่ะ ในเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษมันคือ Dance of death หรือ ระบำแห่งความตายค่ะ

จริงๆแล้วครั้งนี้ มันเป็นการทำงานร่วมกันระหว่างป่านกับแกลอรี่มากกว่า คือปกติแล้วเวลาป่านทำงาน Group exhibition หรือ Solo exhibition ป่านจะทำงานคนเดียว แต่ว่าครั้งนี้มันเป็นส่วนผสมของทั้งสองฝั่ง ระหว่างป่านกับแกลอรี่ ( คัดมันดู โฟโต้ แกลอรี่ ) แกลอรี่ที่ว่าก็คือ คุณอามานิต (มานิต ศรีวานิชภูมิ ช่างภาพ) แล้วก็อาอิ๋ง (สมานรัชฎ์ กาญจนะวณิชย์) ที่เรามาดูรูปด้วยกันแล้วก็คุยกันว่าความรู้สึกตอนที่ถ่ายรูปเป็นยังไง เราเห็นอะไร มีมุมมองอะไร

จุดนึงพออาอิ๋งเห็นรูปผ้าป่านแล้วก็มีคำนี้ (Danse Macabre) ผุดขึ้นมา เค้ารู้สึกว่ามันมีคำว่า “ระบำแห่งความตาย” อยู่ในงาน มันไม่ใช่แค่ความดาร์คหรือว่าความตายอย่างเดียว คือจริง ๆคำนี้ตีความได้ว่า ทุกคนต้องตาย แล้วพอทุกคนต้องตาย ก็อยากให้ทุกคน enjoy กับช่วงเวลาที่มีชีวิตอยู่ จะเป็นในลักษณะนั้น

ภาพมันก็จะออกมาเป็นสองฝั่ง แล้วนี่ก็เป็นครั้งแรกที่แสดงภาพสีเนอะ ภาพสีมันก็จะดูสนุกสนาน แต่ในขณะเดียวกันมันก็จะมีภาพที่มันดูหลอน ดูน่ากลัว ประมาณนั้น

SSN : ถ่ายภาพสีเป็นยังไงบ้าง?

ผ้าป่าน : จริง ๆ เราถ่ายภาพสีอยู่แล้ว แล้วค่อยมาทำเป็นขาวดำทีหลัง แต่ครั้งนี้มันพิเศษเพราะว่าเราไม่สามารถปฏิเสธเนปาลได้จริง ๆ เพราะว่ามันเป็นเมืองที่สนุกสนานด้วยสีสัน เราก็เลยเล่าเรื่องของเมืองนี้ออกมาในรูปแบบของสี เพราะว่าบางภาพที่เราถ่าย เราจับต้องความเป็นสีสันของมันได้ก่อนเป็นอย่างแรก เราก็เลยไม่อยากทรยศตรงนั้น แต่เราก็ยังรักความเป็นขาวดำ ส่วนภาพสีเราก็ได้รับฟีดแบคที่ดีนะ หลายคนก็รู้สึกเซอไพรส์ เค้าก็ชอบภาพสีที่เราทำ แต่ใจเราก็ยังรักในความเป็นขาวดำอยู่

ระบำตันตรา
นิทรรศการภาพถ่ายโดย ผ้าป่าน – สิริมา ไชยปรีชาวิทย์

๕ มีนาคม – ๓o เมษายน ๒๕๕๙
(เปิดนิทรรศการ เสาร์ที่ ๕ มี.ค. เวลา ๑๘.๓o – ๒๑.oo น.)

เปิดให้เข้าชมทุกวันอังคาร – เสาร์ ที่ คัดมันดู โฟโต้ แกลอรี่ สีลม กรุงเทพ (แกลอรี่ปิดเฉพาะวันอาทิตย์ – จันทร์) เข้าชมได้ฟรี ตั้งแต่เวลา ๑๑.oo – ๑๘.oo น.

ภาพและข้อมูลจาก
siamstreetnerds.com

จินตนาการ ความรัก เด็กผมเปีย

โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ ขอเชิญชมงานแสดงนิทรรศการศิลปะ “จินตนาการ ความรัก เด็กผมเปีย” จาก ๓ ศิลปินต่างแขนง ผู้มากไปด้วยความสามารถทั้งด้านวาดเขียน ประติมากรรมและเซรามิก โดยออฟ สมิธ, ไกรวิทย์ โพธิกุล และเปี่ยมจันทร์ บุญไตร ณ สกายล็อบบี้ ชั้น ๒๓ ของโรงแรมฯ ตั้งแต่ ๒๓ มีนาคม จนถึงวันที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๕๙ ระหว่างเวลา ๑o.oo น. ถึง ๒o.oo น. โดยรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายงานศิลปะร่วมสมทบทุนให้แก่ “มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก (ครูหยุย)” เพื่อเด็กด้อยโอกาสทางสังคม

นิทรรศการฯครั้งนี้ นำเสนอเรื่องราวของศิลปิน ๓ ท่าน โดยผลงานของออฟ สมิธ นำเสนอภาพวาดคาร์แรคเตอร์สุนัขแทนตัวศิลปินเอง ภาพผู้หญิงแทนคนรัก เป็นการสร้างจินตนาการของตนเองและคนรัก ในโลกแห่งจินตนาการอันกว้างไกล

งานของไกรวิทย์ โพธิกุล เป็นงานเซรามิกที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากตัวศิลปินและลูก ผลงานการปั้นสร้างสรรค์ออกมาในรูปแบบสัตว์ชนิดต่าง ๆ อาทิ แกะ และแมว

งานของเปี่ยมจันทร์ บุญไตร คืองานประติมากรรมที่สร้างคาร์แรคเตอร์เด็กผู้หญิงผมเปียแทนตัวศิลปินเอง ที่แฝงไปด้วยความยิ่งใหญ่และความกวนแสบ

ผู้สนใจสามารถเข้าชมนิทรรศการ และเลือกซื้อผลงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทร. o๒-๑oo-๑๒๓๔ ต่อ ๖๗๕๓-๕๖

ภาพและข้อมูลจาก
matichon.co.th

บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ

บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor

Create Date : 20 มีนาคม 2559

Last Update : 20 มีนาคม 2559 22:19:17 น.

0 comments

Counter : 3065 Pageviews.