happy memories
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2558
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
5 มีนาคม 2558
 
All Blogs
 
เสพงานศิลป์ ๑๙๓





ภาพจากเวบ deviantart.com





"ฉันได้จากโลกนี้ไปแล้วโดยไม่เสียใจ

เพราะฉันได้อุทิศชีวิตของฉันให้กับ

บางสิ่งที่เป็นประโยชน์

ในฐานะเป็นผู้รับใช้ที่ต่ำต้อย

ในงานศิลปของฉัน

ชีวิตนั้นสั้น....แต่ศิลปะยืนยาว


ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี





Romance - Yuhki Kuramoto










'สัฏฐีพระวัสสา สยามบรมราชกุมารี' ถ่ายทอด ๖o พระอัจฉริยภาพพระเทพฯ



ในโอกาสที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเจริญพระชนมายุ ๖o พรรษา วันที่ ๒ เม.ย. ๒๕๕๘ ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ในฐานะองค์อุปถัมภ์ภิกาวัดปทุมวนารามฯ ที่ได้รับพระราชูปถัมภ์จากพระองค์ในทุกด้าน คณะสงฆ์วัดปทุมวนารามฯ สำนักงานเขตปทุมวัน พร้อมด้วยประชาชน ผนึกกำลังจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ "สัฏฐีพระวัสสา สยามบรมราชกุมารี" ที่วัดปทุมวนารามฯ ในวันที่ ๒ เม.ย.นี้


งานสำคัญนี้ชักชวนคนไทยร่วมกันเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนา สวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ถวายพระพรชัยมงคลที่มณฑลพิธีเขตพุทธาวาส ขณะที่รอบกำแพงแก้วพระอุโบสถจะเนรมิตเป็นพื้นที่แสดงนิทรรศการ "ดั่งดวงแก้ว ส่องสว่าง ทางสายงาม ๖o พระอัจฉริยภาพสมเด็จพระเทพฯ แบบอย่างชีวิตที่เก่ง ดี มีสุข" เผยแพร่พระอัจฉริยภาพของพระองค์ผู้ทรงเป็นที่รัก และเปิดโอกาสให้ตามรอยพระยุคลบาท ออกแบบนิทรรศการโดย วิศรุต สิบประสิทธิ์ ดีไซเนอร์ชื่อดัง จัดแสดงเป็นเวลา ๑ เดือนเต็ม


พระเทพญาณวิศิษฎ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสและเลขานุการวัดปทุมวนารามฯ กล่าวว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ มีพระมหากรุณาธิคุณต่อวัดปทุมวนารามฯ และวังสระปทุมในเขตปทุมวัน เป็นที่ประทับของพระองค์ในปัจจุบัน มีพระราชปณิธานตั้งพระทัยมั่นจะพัฒนาชุมชน วัด โรงเรียนให้ดีที่สุด ด้วยเหตุนี้ จึงจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ๖o พรรษา ชื่องาน "สัฏฐีพระวัสสา สยามบรมราชกุมารี" ในภาษาบาลี หมายถึง "๖o พรรษา สมเด็จพระเทพฯ"


โครงการหลัก ได้แก่ โครงการเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนา สวดมนต์หมู่ทำนองสรภัญญะ ถวายเป็นพระราชกุศล ทุกวันที่ ๒ ของทุกเดือนถึงเดือน ธ.ค. ๒๕๕๘ ที่พระวิหารหลวงวัดปทุมวนารามฯ เวลา ๑๗.oo น. โครงการจัดทำสื่อเฉลิมพระเกียรติ มีบทเพลงเฉลิมพระเกียรติ "นารีรัตนา" นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ และโครงการสร้างวัดเฉลิมพระเกียรติ วัดปทุมรังษีวัฒนาราม เมืองเฮสติงส์ ประเทศนิวซีแลนด์ ภายใต้การดูแลวัดปทุมฯ กิจกรรมทั้งหมดจะช่วยเผยแผ่หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา


สำหรับรูปแบบงานเรียบง่าย แต่สมพระเกียรติ สำหรับปีแห่งการเฉลิมพระเกียรตินี้
ศิลปินและจิตอาสาในโครงการปทุมมามหาสิกขาลัยได้จัดทำของที่ระลึกดี ๆ เป็นหนังสือสวดมนต์ฉบับคำแปล และซีดีอัลบั้มชุดนารีรัตนาที่ได้รวบรวมบทสรภัญญะสำคัญที่มีในประเทศ อาทิ องค์ใดพระสัมพุทธ, ธรรมะคือคุณากร, สงฆ์ใดสาวกศาสดา, ปางเมื่อพระองค์ปะระมะพุทธ ฯลฯ นำมาประพันธ์เป็นเพลงสรภัญญะให้เข้ากับยุคสมัย มอบให้ผู้ร่วมกิจกรรมซึ่งจัดขึ้นวันที่ ๒ เม.ย.นี้


ปาน-ธนพร แวกประยูร ศิลปินจิตอาสา กล่าวว่า ศิลปินและจิตอาสาในโครงการร่วมจัดทำซีดีสวดมนต์ทำนองสรภัญญะ โดยรวบรวมไว้เป็นสมบัติแผ่นดิน ถือเป็นงานมาสเตอร์พีซ และเป็นสื่อให้กับสถานศึกษาให้นักเรียนได้ใช้สวดมนต์บ่มเพาะคุณธรรมจริยธรรมในใจ ปีนี้ได้จัดทำเพลงนารีรัตนาเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ


"ทรงเป็นเจ้าฟ้าที่มีอัจฉริยภาพหลายด้าน โดยเฉพาะดนตรีไทย และมีพระราชกรณียกิจส่งเสริมพระพุทธศาสนา เป็นต้นแบบของผู้ใฝ่การเรียนรู้ด้านศาสนา ศิลปวัฒนธรรม บทเพลงนี้สะท้อนพระจริยวัตรงดงาม ทั้งยังได้แรงบันดาลใจมาจากบทพระราชนิพนธ์ "ตามรอยพ่อ" ของพระองค์ท่านด้วย วันงาน ๒ เม.ย. ขอชวนคนไทยร่วมร้องเพลงนี้จากหัวใจถวายสมเด็จพระเทพฯ" ปาน-ธนพรกล่าวในท้าย


ด้าน ตูมตาม เดอะสตาร์-ยุทธนา เปื้องกลาง กล่าวว่า อยากชวนคนไทยร่วมงาน "สัฏฐีพระวัสสา สยามบรมราชกุมารี" มาร่วมกันสวดมนต์ถวายพระพรสมเด็จพระเทพฯ ตนก็ยินดีได้ร่วมโครงการนี้ ทำประโยชน์เพื่อส่งเสริมความเจริญของศาสนา และดึงคนรุ่นใหม่ให้สนใจพระพุทธศาสนา เข้าวัด ไหว้พระ สวดมนต์มากยิ่งขึ้น ส่วนอัลบั้มชุดนารีรัตนา นอกจากติดต่อขอรับได้ ยังร่วมบูชาชุดละ ๑๔๙ บาท รายได้นำมาทำนุบำรุงศาสนา


ในวันงาน ๒ เมษายน ยังมีกิจกรรมการแสดงเทิดพระเกียรติมากมาย มีกลุ่มศิลปินจากต่างค่ายร่วมถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพของพระองค์ผ่านบทเพลงพระราชนิพนธ์ต่าง ๆ ด้านเขตปทุมวันที่ตั้งของทั้งวังสระปทุมและวัดปทุมวนารามฯ สิทธิชัย ท้วมสกนธ์ ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า จะมีการออกร้านขายสินค้าในโครงการพระราชดำริ ออกร้าน "ของดีศรีปทุมวัน" และเปิดเวทีการแสดงดนตรีไทย นาฏศิลป์ของนักเรียนโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร เพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทย เป็นบรรยากาศแห่งความสุขและศรัทธาที่จะเกิดขึ้นในพระอารามหลวงกลางเมือง.



ข้อมูลและพระฉายาลักษณ์จาก
ryt9.com
photoontour.com














คอนเสิร์ต 'ไหมไทย สิรินธร' เพลงต่อชีวิตผู้ป่วยด้อยโอกาส



ศิริราชมูลนิธิ และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ร่วมกับ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เตรียมจัดงานคอนเสิร์ตการกุศล “ไหมไทย สิรินธร” เพื่อหารายได้สมทบทุนช่วยเหลือผู้ป่วยด้อยโอกาสที่มีค่าใช้จ่ายสูง เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงในการรักษา เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานศิริราชมูลนิธิ ในโอกาสเฉลิมพระชนมพรรษาครบ ๖o พรรษา โดยได้จัดงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ณ ชั้น ๒ ห้องประชุมจุฬาภรณ์ ตึกสยามินทร์ โรงพยาบาลศิริราช ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา





(ซ้าย) วรรณรส ทรรทรานนท์, ศ.คลินิกเกียรติคุณ นพ.เหลือพร ปุณณกันต์, ศุภรดา ชินวัฒนา



บรรยากาศภายในงานแถลงข่าวคับคั่งไปด้วยแขกผู้มีเกียรติใจบุญมากมาย นำโดย สุริยน ศรีอรทัยกุล, สุรสา สืบสมาน, Mr. Sven Philip Sorensen (มร.ฟิลลิป โซเรนเซ่น),ดร.อภิชาติ อินทรวิศิษฐ์, ดร.อนุชา ทีรคานนท์, ดร.อรุณี ตั้งคารวคุณ, ธารธร อักษรานุวัตร, สมคิด รุจีปกรณ์, วรรณรส ทรรทรานนท์, ศุภรดา ชินวัฒนา และเบญจวรรณ เบอร์แมน เป็นต้น พร้อมเพลิดเพลินกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินศิลปาธร “ดนู ฮันตระกูล” ด้านนักร้องรุ่นใหญ่ สุรสีห์ อิทธิกุล ครวญเพลง หยาดเพ็ชร และนักร้องสาวเสียงน้ำผึ้ง ธีรนัยน์ ณหนองคาย ขอโชว์เสียงหวาน ๆ กับเพลง “ฉันจะฝันถึงเธอ” อีกด้วย





สุรสีห์ อิทธิกุล, ดร.อนุชา ทีรคานนท์, ดนู ฮันตระกูล, ภญ. ดร.อรุณี ตั้งคารวคุณ



ศาสตราจารย์คลินิกเกียรติคุณ นายแพทย์เหลือพร ปุณณกันต์ กรรมการผู้จัดการ ศิริราชมูลนิธิ เปิดเผยว่า คอนเสิร์ตการกุศล “ไหมไทย สิรินธร” จะมีขึ้นในวันที่ ๒๘-๒๙ มีนาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.oo น. ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นหนึ่งในกิจกรรมภายใต้ “โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ๖o พรรษา การรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาสที่มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เทคโนโลยีสูง ปีพ.ศ.๒๕๕๗-๒๕๕๘” จัดขึ้นเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในฐานะองค์ประธานศิริราชมูลนิธิ และเพื่อหารายได้สมทบทุนเข้าโครงการดังกล่าว





ธีรนัยน์ ณ หนองคาย



ทั้งนี้ ความพิเศษของคอนเสิร์ตอยู่ที่การนำพระบรมราโชวาทมาเรียงร้อยให้เข้ากับบทเพลง โดยศิลปินศิลปาธรชั้นครู “ดนู ฮันตระกูล” เป็นผู้เรียบเรียง และผ่านการบรรเลงดนตรีจากวงไหมไทย ออเคสตร้า นอกจากนี้ ยังมีศิลปินชื่อดัง ได้แก่ สุรสีห์ อิทธิกุล, จิรพรรณ อังศวานนท์, กิตตินันท์ ชินสำราญ (กิต The Voice), ธีรนัยน์ ณ หนองคาย, สิริพงศ์ แพทย์วงษ์ และคณะนักร้องประสานเสียง เดอะ เรโซแนนซ์ ร่วมถ่ายทอดบทเพลงอันทรงคุณค่า อาทิ เพลง ในน้ำมีปลาในนามีข้าว, ป่าอยู่กับน้ำ, หยาดเพชร และลูกข้าวนึ่ง เป็นต้น โดยรายได้จากการขายบัตรทั้งหมดจะสมทบทุนในโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ๖o พรรษา การรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาสที่มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เทคโนโลยีสูง ปีพ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๘





สุริยน ศรีอรทัยกุล และ สุรสา สืบสมาน



ด้าน ผู้ช่วยศาสตรจารย์นายแพทย์วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช และประธานกรรมการฝ่ายพิจารณาผู้ป่วย กล่าวว่า โครงการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ๖o พรรษา การรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาสที่มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เทคโนโลยีสูง ปีพ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๘ เพื่อให้การรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาสฯ ได้ดำเนินการตั้งแต่วันที่ ๒ เมษายน ๒๕๕๗ ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระราชสมภพของพระองค์ท่าน โดยทางโรงพยาบาลศิริราชได้ตั้งคณะกรรมการฝ่ายพิจารณาผู้ป่วยของโครงการขึ้นมาเพื่อพิจารณาคัดเลือกผู้ป่วยที่เหมาะสมเข้าร่วมโครงการ ซึ่งหลังจากเปิดโครงการมาจนถึงปัจจุบันได้มีผู้ป่วยด้อยโอกาสเข้าร่วมโครงการแล้วประมาณ ๑๑๒ ราย ใช้เงินรักษาทั้งสิ้นกว่า ๑๕ ล้านบาท ซึ่งล้วนเป็นกลุ่มโรคที่มีค่ารักษาสูงและใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูงในการรักษาโรค อาทิ เคสของเด็กอายุ ๕ ขวบ ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวต้องรับการรักษาด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูก โดยใช้งบรักษากว่า ๔ ล้านบาท เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีโรคอื่นๆ ที่ต้องใช้เทคโนโลยีสูงในการรักษา เช่น การผ่าตัดใส่ข้อเข่าเทียมด้วยหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด, การผ่าตัดลิ้นหัวใจด้วยสายสวน, การผ่าตัดฝังประสาทหูเทียม เป็นต้น





สุรสีห์ อิทธิกุล



ทั้งนี้ ประชาชนสามารถร่วมบริจาคสมทบทุนได้ที่ ศิริราชมูลนิธิ ตึกมหิดลบำเพ็ญ ชั้น ๑ โรงพยาบาลศิริราช ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา ๗.๓o-๑๗.๓o น. วันหยุดราชการ วันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา ๘.๓o-๑๖.๓o น. หรือบริจาคผ่านบัญชี ชื่อบัญชี “ศิริราชมูลนิธิ ๖o พรรษา สยามบรมราชกุมารี” ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารทหารไทย, ธนาคารธนชาต, ธนาคารออมสิน สาขาศิริราช, ธนาคารกรุงเทพ สาขาโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์, ธนาคารกรุงไทย สาขาเซ็นทรัลปิ่นเกล้า และ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาอรุณอมรินทร์ หรือ สั่งจ่ายเป็นเช็คหรือธนาณัติในนามศิริราชมูลนิธิ ๒ ถนนวังหลัง บางกอกน้อย กรุงเทพฯ ๑o๗oo


ร่วมสัมผัสเพลงรักอันทรงคุณค่าจากศิลปินชั้นครูและศิลปินวัยรุ่นยอดนิยม ในคอนเสิร์ตกุศล “ไหมไทย สิรินธร” หนึ่งในกิจกรรมภายใต้โครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ๖o พรรษา การรักษาผู้ป่วยด้อยโอกาสที่มีค่าใช้จ่ายสูงและใช้เทคโนโลยีสูง ปีพ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๘ ในระหว่างวันที่ ๒๘-๒๙ มีนาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.oo น. ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซื้อบัตรได้ที่ ไทยทิคเก็ต เมเจอร์ ทุกสาขา หรือ thaiticketmajor.com หรือโทร. o๒-๒๖๒-๓๔๕๖ บัตรราคา ๕oo, ๘oo, ๑,ooo, ๑,๕oo และ ๒,ooo บาท



ภาพและข้อมูลจาก
naewna.com














จดหมายจากโรม



นิทรรศการ “จดหมายจากโรม” นี้เกิดขึ้นจากความร่วมมือกันของทุกฝ่ายที่อยากเห็นรอยยิ้ม และทำให้น้าแพทมีความสุขมากที่สุด ชาวสมาคมศิษย์เก่าคณะจิตรกรรมฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร รวมทั้งฮอฟ อาร์ต เรสซิเดนซี่ ร่วมแรงร่วมใจทำงานออกมาให้ดีที่สุด และในวันนี้สมควรจะเป็นวันที่ทุกคนจะได้ทราบถึงความสามารถในการวาดเส้นของน้าแพ็ท


แต่ก็เป็นที่น่าเสียใจ....น้าแพ็ทได้จากเราไปเสียก่อน


นิทรรศการ “จดหมายจากโรมนี้” นี้ยังคงเดินหน้า ขอทำตามสัญญาที่ได้ให้ไว้กับน้าแพ็ทผู้เป็นที่รัก

ขอเชิญทุกท่านมาเป็นเกียรติในงานนิทรรศการนี้ที่จะจัดขึ้น ครั้งแรก ครั้งเดียว และครั้งสุดท้ายของน้าแพ็ท ศิริสวัสดิ์ พันธุมสุด กำหนดเปิดงาน ๓ มีนาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๘.๓o น. ณ ฮอฟ อาร์ต เรสซิเดนท์ซี่ ชั้น ๒











































ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุค HOF ART Residency Bangkok
artnmeal.com














นิทรรศการภาพเขียน โดยครูชลิต นาคพะวัน



โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์และบางกอกคอนเวนชันเซ็นเตอร์เซ็นทรัลเวิลด์ ขอเชิญชมงานแสดงนิทรรศการศิลปะภาพเขียนศิลปินตัวน้อยแห่งบ้านครูชลิต นาคพะวัน (ชลิตอาร์ตโปรเจ็คแอนด์แกลเลอรี่) ณ บริเวณสกายล็อบบี้ ชั้น ๒๓ ของโรงแรมฯ ตั้งแต่ ๒๓ กุมภาพันธ์ จนถึงวันที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๘ ระหว่างเวลา ๑o.oo น. ถึง ๒o.oo น. โดยรายได้จากการจำหน่ายภาพส่วนหนึ่งจะร่วมสบทบทุนให้กับ “มูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์”


นิทรรศการฯ ครั้งนี้ นำเสนอผลงานภาพเขียนของเด็ก ๆ แห่งบ้านครูชลิต ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยโลกแห่งจินตนาการไร้ขอบเขตของเด็ก ๆ ซึ่งปัจจุบันมีพื้นที่ให้กับเด็ก ๆ ได้แสดงผลงานน้อยมาก ทางโรงแรมฯ จึงเล็งเห็นถึงความสำคัญของศิลปะสำหรับเด็ก โดยริเริ่มนำผลงานของเด็ก ๆ เหล่านี้ออกมาแสดงสู่สายตาสาธารณชนเป็นครั้งแรกในรอบ ๑๘ ปีของบ้านครูชลิต
ผู้สนใจสามารถเลือกซื้อผลงานหรือเข้าชมได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่โทร. o๒-๑oo-๑๒๓๔ ต่อ ๖๗๕๓-๕๖











ภาพและข้อมูลจาก
เฟซบุค Travel plus magazine














ผสานวัฒนธรรมไทย-ดัชท์ริมปิงตาก



การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะในเรื่องของดนตรีที่คนทั่วโลกเข้าถึงกันได้โดยง่าย การท่องเที่ยวสำนักงานตากจึงร่วมมือกับเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ จัดงานดนตรีแจ๊สเพื่อสานต่อความสัมพันธ์ที่ดีของทั้งสองประเทศ และเพื่อให้คนในจังหวัดตากและจังหวัดใกล้เคียงรวมถึงนักท่องเที่ยวซึบซับดนตรีในแนวนี้ให้กว้างขวางขึ้น ซึ่งจัดงานแถลงข่าวไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่จังหวัดตาก


ธมลวรรณ เรืองขจร ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) สำนักงานตาก เปิดเผยว่า ททท.สำนักงานตาก กำหนดจัดดนตรีแจ๊สชื่อดังจากเมืองอัมสเตอร์ดัม ประเทศเน เธอร์แลนด์ ชื่อวง “เดอะ บิ๊กเกิ้ลส์ บิ๊กแบนด์” ขึ้นบริเวณสวนสาธารณะริมปิง อ.เมือง จ.ตาก ตั้งแต่เวลา ๑๗.๓o-๒๒.oo น.วันเสาร์ที่ ๗ มีนาคมนี้ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่อย่างเต็มที่ สำหรับการจัดกิจกรรมดังกล่าวนี้ที่ จ.ตาก ถือเป็นปีแรกแห่งการเริ่มต้นในการจัดกิจกรรมด้านการตลาด ของ ททท.สำนักงานตาก จึงมิได้มุ่งเน้นในเรื่องปริมาณของผู้ร่วมงาน แต่จะเน้นในเรื่องการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างสีสันด้านการท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้ เนื่องจาก จ.ตาก มีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูงทั้งด้านประวัติ ศาสตร์ โบราณสถาน ธรรมชาติและวิถีชุมชนอยู่มากมาย


"คณะดนตรีแจ๊สดังกล่าวประกอบด้วยผู้เล่นจำนวน ๒๑ คน มี แอดรี แบรท เป็นวาทยากร เพลงที่นำมาแสดงส่วนใหญ่จะเป็นสไตล์แจ๊ส ป็อป ที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีการอัญเชิญเพลงพระราชนิพนธ์ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาบรรเลงผสมผสานไปด้วย ซึ่งสามารถสร้างบรรยากาศการฟังที่ดีได้เนื่องจากอุณหภูมิอากาศริม ปิงในยามเย็นช่วงนี้อบอุ่นสบาย ๆ นอกจากนี้ยังมีการนำเยาวชนในพื้นที่ขึ้นร้องเพลงร่วมกับวง บิ๊กเกิ้ลส์ บิ๊กแบนด์ และการแสดงศิลปะวัฒนธรรมพื้นบ้านเชิดหุ่นกระบอกของโรงเรียนพลูหลวงวิทยา กับมีการจัดจักรยานเพื่อการท่องเที่ยวภายใต้โครงการล้อลิ่ว แล่นลม ชมตาก ของ ททท.สำนักงานตาก และยังส่งเสริมกาดแลงที่จำลองวัฒนธรรมพื้นบ้าน ที่นำเอาสินค้าพื้นบ้านอาหารพื้นเมืองมาจำหน่ายอีกด้วย" ผอ.ททท.ตากแจงรายละเอียด


พร้อมกันนี้ยังกล่าวปิดท้ายด้วยว่า การจัดกิจกรรมครั้งนี้เปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมฟรี ส่วนนักดนตรีแจ๊สทั้งหมดนั้นขณะนี้ได้ออนทัวร์ไปยัง จ.นครพนม และ จ.เลย เพื่อเปิดการแสดงริมฝั่งโขงตั้งแต่วันที่ ๒๗ กพ.พร้อมทำกิจกรรมจิตอาสาให้กับเด็กไทย โดยหลังการแสดงที่ จ.ตาก แล้ว ทั้งคณะจะร่วมกันทำฝายถวายในหลวง ที่บริเวณตอนล่างของเขื่อนภูมิพล อีกทั้งมีกำหนดที่จะเดินทางไปบรรเลงต่อที่กรุงเทพมหานคร กาญจนบุรี และหัวหินเป็นแห่งสุดท้ายก่อนเดิน



ภาพและข้อมูลจาก
komchadluek.net














Ahh Art!



PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ขอเชิญชมนิทรรศการ “เอ๊ะ อาร์ต!” การแสดงผลงานศิลปกรรมของคณาจารย์จากโครงการจัดตั้งภาควิชาสื่อผสม คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร


นิทรรศการ : “เอ๊ะ อาร์ต!”
ศิลปิน : คณาจารย์จากโครงการจัดตั้งภาควิชาสื่อผสม คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร
วันที่ : ๙ -๒๗ มีนาคม ๒๕๕๘
สถานที่ : PSG Art Gallery คณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ : o๒-๒๒๑-o๘๒o







ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com














SYNONYM ความเหมือนที่แตกต่าง



นิทรรศการนี้เกิดจากการรวมกลุ่มของนักศึกษา ระดับปริญญาโท ภาควิชาประยุกตศิลปศึกษา คณะมัณฑนศิลป์ และศิลปินอิสระ รวมทั้งสิ้นจำนวน ๑๔ คน เพื่อนำเสนอผลงานหลากหลายรูปแบบ ที่ผ่านการศึกษาและประยุกต์ ทั้งความ คิด รูปแบบที่มีลักษณะเฉพาะตัวซึ่งผลงานของศิลปินแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน ทั้งรูปแบบและเทคนิค ต่างมุมมอง ต่างองค์ประกอบ ต่างเรื่องราว และแนวความคิดอีกด้วย แต่ในความแตกต่างเหล่านี้ ระยะเวลาได้บ่มเพาะสิ่งที่เหมือนกันไว้ นั่นคือ ความหมั่นเพียร ที่จะฝึกฝน ความฝัน และความงาม หัวใจแห่งการสร้างสรรค์งานศิลปะ จนกลายเป็นความแตกต่างมี ความเหมือน หรือความเหมือนที่แตกต่างนั่นเอง


พิธีเปิดนิทรรศการในวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๕๘ เวลา ๑๗.oo น. ณ หอศิลป์และการออกแบบคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ


นิทรรศการ : SYNONYM ความเหมือนที่แตกต่าง
ศิลปิน : กลุ่มนักศึกษาปริญญาโท ภาควิชาประยุกตศิลปศึกษา คณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร และศิลปินอิสระ รวม ๑๔ คน
วันที่ : ๒๖ มีนาคม – ๒ เมษายน ๒๕๕๘
เวลา : ๑o.oo – ๑๘.oo น. (เว้นวันอาทิตย์ และ วันหยุดนักขัตฤกษ์)
สถานที่ : หอศิลป์และการออกแบบคณะมัณฑนศิลป์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วังท่าพระ
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมประธานโครงการ : o๘๖-๙๙๖-๒๔๗๘
FB PAGE : Synonym























































ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com














Jean-Baptiste Gaubert



จากการแสดงวาพภาพสดเมื่อวันที่ ๒๗ มกราคมที่ผ่านมา ขอเชิญชมนิทรรศการงานวาดภาพของฌ็องน์-บัพติสต์ โกแบรต์ ที่สมาคมฝรั่งเศสดื่มด่ำไปกับดนตรีและสีสัน


ภาพวาดของฌ็องน์-บัพติสต์ โกแบรต์คือการนำห้วงขณะทางดนตรีที่ได้ยินมาถ่ายทอดเป็นภาพ เป็นอารมณ์ความรู้สึกที่ประทับบนพื้นผิวตามการพลิ้วไหวของเสียงและการไหลลื่นของสี ภาพที่วาดเผยให้เราเห็นถึงอิสรภาพในการถ่ายทอดสีสันออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า “แบบสด” จนเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา สี สัญลักษณ์ เส้น และคำหลุดออกมาพร้อมกับการวาดและสะบัดสีลงบนผืนผ้าใบ ภาพวาดนี้จึงกลายเป็นสิ่งที่เราอาจเรียกได้ว่าการวาดภาพระดับทุติยภูมิ กล่าวคือ การวาดภาพทับภาพวาดครั้งแล้วครั้งเล่า!


วาดสัญลักษณ์และร่างลายเส้น

ศิลปินชาวมาร์กเซยผู้นี้สร้างสรรค์ผลงานมาแล้วมากมาย เช่น การแสดง Head Case ในงานเทศกาล La Fiesta des Suds ที่เมืองมาร์กเซย การแสดง Mystery Nation หรือแม้แต่การแสดง Sept Péchés Capitaux ที่เมืองนีซ เมื่อ ค.ศ. ๒o๑o ในปีเดียวกันนั้น ฌ็องน์-บัพติสต์ได้รับเชิญจากสมาคมฝรั่งเศสที่เมืองมุมไบ(บอมเบย์)ให้ไปร่วมงานเทศกาล Festival French Touch เขาได้ไปร่วมงานเทศกาล Festival Contre Courant ที่เมืองอาวิญงน์ โดยได้ฝากฝีมือไว้กับการวาดภาพโปสเตอร์ และยังได้เคยแสดงร่วมกับคณะ Ballet d’Europe (ในงาน Mouv’ Art ที่เมืองมาร์กเซย) ต่อมาใน ค.ศ. ๒o๑๓ ฌ็องน์-บัพติสต์ได้รับเชิญให้ไปร่วมงานของ P’tit M ภายใต้กรอบงานมาร์กเซย เมืองหลวงทางวัฒนธรรมแห่งยุโรป


นิทรรศการ : ภาพวาดของ ฌ็องน์-บัพติสต์ โกแบรต์
วันที่ : ๕-๒๘ มีนาคม ๒๕๕๘
เวลา : ๑๙.๓o น.
สถานที่ : แกลเลอรี่ของสมาคมฝรั่งเศสกรุงเทพ (เข้าชมฟรี)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : o๒-๖๗o-๔๒๒๒
อีเมล : chanika.chaiwanchana@afthailande.org
เว็บไซต์ : //www.gaubert-jb.com



ภาพและข้อมูลจาก
artbangkok.com












น้อง ป.๑ ถ่ายภาพกับผลงานพี่ชาย



Art Learning เพิ่มวิตามิน C และ E ให้เด็กๆประถม สาธิตจุฬาฯ



ทะเลสีดำ ไม่มีแสงไฟ
มองไม่เห็นทาง... เธอกลัวหรือไม่
ได้ยินเสียงเธอ จะกลัวอะไร
จับมือฉันไว้ ฉันก็อบอุ่นหัวใจ


เสียงเพลง “ทะเลสีดำ” ที่เคยได้รับความนิยมและเราเคยคุ้นหูในฐานะเพลงประกอบละครอยู่ระยะหนึ่ง ถูกขับร้อง คลอเสียงกีตาร์ ให้ฟังกันสด ๆ โดย ต้า Paradox และเด็กหญิงชายวัยที่กำลังศึกษาอยู่ในระดับประถมศึกษาหลายคน


นอกจากจะสร้างความสุขให้กับผู้ที่ได้รับฟัง และอดยิ้มไปด้วยไม่ได้กับภาพปรากฎอยู่ตรงหน้า ซึ่งเป็นภาพที่เด็ก ๆ ได้ใช้เวลาแห่งความสุขร่วมกันกับนักร้อง, นักดนตรีของวงที่มีชื่อเสียงวงหนึ่งของไทย และยังมีสถานภาพเป็นครูสอนศิลปะ ศิษย์เก่าของโรงเรียน รุ่นพี่ของเด็กๆด้วย ทันทีที่เพลงจบลง ผู้ปกครองหลายคนที่ยืนชมและเชียร์อยู่ใกล้ๆ จึงอดไม่ได้ที่จะตะโกนออกไปหน้าเวทีว่า “เอาอีก เอาอีก”


คือบรรยากาศส่วนหนึ่งของพิธีปิด โครงการเสริมศักยภาพทางด้านศิลปะ (Art Learning) ปีการศึกษา ๒๕๕๗ และมอบสัมฤทธิบัตรแก่นักเรียนในโครงการ ที่ผ่านมาเมื่อวันจันทร์นี้ ณ ชั้น ๔ อาคารบริหารและปฏิบัติการ โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม


ซึ่งมีผู้บริหารโรงเรียน ศิลปินที่ถูกเชิญมาเป็นวิทยากรในโครงการฯ หัวหน้าโครงการฯ อาจารย์ ผู้ปกครอง และนักเรียนหลายร้อยคนมาร่วมงาน ท่ามกลางการจัดแสดงผลงานศิลปะของนักเรียน อันเป็นผลมาจากการได้เข้าร่วมโครงการตลอดปีการศึกษาที่ผ่านมา










เรียนรู้ศิลปะ แค่ในชั้นเรียนคงไม่พอ



สมใจ จงรักวิทย์ อาจารย์สอนศิลปะ และประธานโครงการเสริมศักยภาพทางด้านศิลปะ (Art Learning) บอกเล่าว่า โครงการฯ ได้เริ่มต้นขึ้นเล็กๆ เมื่อประมาณปี ๒๕๕๔ โดยการคัดเลือก นักเรียน จำนวน ๑๕ คน ซึ่งเรียนศิลปะกับตน และมองว่ามีแววทางด้านศิลปะ มาเรียนรู้ศิลปะเพิ่มเติม นอกเหนือจากการเรียนในชั้นเรียน ซึ่งมองว่ายังไม่เพียงพอ


“ตอนนั้นเรากำลังจะเตรียมงานศิลปะของนักเรียน เพื่อไปแสดงที่หอศิลป์ และได้คุยกับผู้ปกครองของนักเรียน คุณแม่ท่านหนึ่งได้ถามว่า อาจารย์ไม่เปิดสอนพิเศษศิลปะบ้างหรือคะ ซึ่งดิฉันก็เคยคิดอยู่แหมือนกัน แต่ยังไม่มีเวลา แต่คิดมากกว่านั้นคือ เราน่าจะพัฒนาเด็กในกลุ่มที่เขามีความสนใจศิลปะจริง ๆ ให้เขาได้มีโอกาสเรียนรู้ศิลปะ ในขั้นที่สูงขึ้นไป เพื่อกระตุ้นให้เขาอยากรู้อยากลอง เพราะการเรียนศิลปะ ในเวลาเรียนปกติ มันยังไม่พอ เขาน่าจะได้เรียนรู้เพิ่มเติมหลังเลิกเรียน อะไรประมาณนี้


แรกเริ่มดิฉันคัดเลือกเด็ก ป.๔ กับ ป.๖ ที่ตัวเองมีหน้าที่สอน มาเรียนรู้ก่อน โดยคัดจากคะแนนสัมฤทธิ์ผลการเรียน และความสนใจเกี่ยวกับศิลปะของพวกเขา ซึ่งมีอาจารย์ท่านอื่น ๆ ร่วมประเมินด้วย แล้วจัดกิจกรรมการเรียนรู้ศิลปะให้แตกต่างจากที่เรียนในชั้นเรียน มีวัสดุอุปกรณ์และเทคนิคในการสร้างสรรค์ผลงานมาให้เด็ก ๆ เลือกใช้มากขึ้น และเพิ่มความเข้มข้นของการทำงานศิลปะให้มากขึ้น


ช่วงแรก ๆ เราก็สอนกันเองก่อน หลังจากนั้น ประมาณปี ๕๕-๕๖ ก็เชิญวิทยากร ซึ่งเป็นอาจารย์และศิลปิน ผู้มีความรู้ในด้านเทคนิคการทำงานศิลปะในขั้นสูง หมุนเวียนมาช่วยสอน และปรับการสอนให้เหมาะกับเด็ก ๆ”










ศิลปะเด็กประถม แต่ระดมวิทยากรมืออาชีพ



จากนักเรียนจำนวน ๑๕ คน ในระยะเริ่มต้น ปัจจุบัน มีนักเรียนที่สนใจและผู้ปกครองยินดีให้เข้าร่วมโครงการฯ มากถึง ๑๕o คน โดยเป็นนักเรียนตั้งแต่ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๒ -๖ ซึ่งบางคนนั้นเข้าร่วมโครงการมาตั้งยังเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๒ กระทั่งเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ก็ยังเข้าร่วมโครงการอยู่ เพราะนอกจากนักเรียนจะได้เรียนรู้ศิลปะหลากหลายวัสดุและเทคนิคเพิ่มเติม ในช่วงหลังเลิกเรียน กับวิทยากรหลายท่าน ยังได้มีโอกาสไปวาดภาพนอกสถานที่ และชมผลงานศิลปะตามหอศิลป์ต่าง ๆ โดยมีวิทยากรที่มีความรู้เป็นผู้นำชม ตัวอย่างวิทยากร ๖ ท่าน ที่ถูกเชิญมาเป็นวิทยากรของโครงการในปีการศึกษา ๒๕๕๗ ได้แก่


รองศาสตราจารย์สัญญา วงศ์อร่าม จากภาควิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้มีความรู้ในด้านลายไทย จิตรกรรมไทยและประติมากรรมไทย วัยกว่า ๗o ปี และยังเป็นประติมากรที่มีชื่อเสียงในด้านการปั้นครุฑที่ใช่เป็นสัญลักษณ์ของอาคารสำคัญๆของทางราชการหลายแห่ง ซึ่ง รศ.สัญญา ได้นำกิจกรรมศิลปะไทยมาสอนนักเรียน เช่น การลอกลายไทยแบบโบราณ การเขียนลายไทยด้วยพู่กันหนวดหนู การลงรักปิดทอง เป็นต้น ทำให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ทางด้านศิลปะ และเห็นคุณค่าความสำคัญของศิลปะไทยที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์และสืบทอดไว้


“ท่านอาจารย์สัญญา มาสอน ไม่น่าเชื่อว่าเด็กให้ความสนใจมาก ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น จดจำได้ และพูดถึง”


รองศาสตราจารย์สมโภชน์ ทองแดง จากภาควิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านจิตรกรรมไทย เป็นผู้สอนวิชาวาดเส้น และวาดเส้นขั้นสูง วิชาจิตรกรรมและจิตรกรรมขั้นสูง วิชาศิลปะวิจารณ์ทั้งในระดับปริญญาบัณฑิตและมหาบัณฑิต โดย รศ. สมโภชน์ได้มาสอนนักเรียนเกี่ยวกับการเขียนภาพด้วยสีอะคริลิคบนผ้าใบและการเขียนภาพด้วยสีชอล์คฝุ่น


ผู้ช่วยศาสตราจารย์อภิชาต พลประเสริฐ จากภาควิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านจิตรกรรมและภาพพิมพ์ เป็นผู้สอนวิชาภาพพิมพ์สำหรับครูและวิชาเกี่ยวกับศิลปะอื่นๆทั้งทฤษฎีและปฏิบัติในระดับปริญญาตรี,โท และเอกในหลักสูตรไทยและนานาชาติ ผศ.ดร.อภิชาติ ได้มาสอนนักเรียนเกี่ยวกับการพิมพ์ภาพ และการวาดภาพตามแนวทางศิลปิน


อาจารย์ศุภวัฒน์ หิรัญธนวิวัฒน์ จากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้สอนวิชาสถาปัตยกรรมไทย มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการเขียนภาพด้วยสีน้ำ ทั้งภาพทิวทัศน์ และภาพบุคคล รวมทั้งการสอนสีน้ำสำหรับเด็ก อ.ศุภวัฒน์ ได้มาสอนนักเรียนเรื่องการวาดภาพสีน้ำ


อาจารย์ปกรณ์ กล่อมเกลี้ยง ภัณฑารักษ์ที่มีชื่อเสียงในด้านการบรรยายและนำชมงานศิลปะ ซึ่งได้นำนักเรียนในโครงการฯนำชมงานศิลปะและบรรยายเกี่ยวกับงานศิลปะให้นักเรียนได้ชมและฟังอย่างสนุกสนานเพลิดเพลิน เกิดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับงานศิลปะและสามารถพัฒนาการรับรู้ในด้านสุนทรียะได้เป็นอย่างดี


และอาจารย์อิทธิพงศ์ กฤดากร ณ อยุธยา หรือ ต้า แห่งวงดนตรี Paradox นักร้อง, นักดนตรี ซึ่งเป็นศิษย์เก่าสาธิตจุฬาฯ จบการศึกษาจากภาควิชาศิลปศึกษา คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยและเคยเป็นอาจารย์ที่สาธิตจุฬาฯหลายปี ซึ่งได้มาสอนศิลปะให้กับนักเรียนในโครงการฯ ให้มีความสุข สนุกสนาน เพลิดเพลิน ด้วยการบูรณาการและผสมผสานศิลปะและดนตรีเข้าด้วยกัน










สนับสนุนศิษย์เก่าโดดเด่น เป็นต้นแบบ



“ตัวต้าเองเรียนศิลปะมา และปัจจุบันก็ยังวาดรูปค่ะ งานศิลปะอยู่ในตัวเขาอยู่แล้ว และเขาทำงานเพลงเหมือนทำงานศิลปะ เขาไม่ถึงกับเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านศิลปศึกษา แต่ตัวเขาเองมีศิลปะอยู่ในตัวเอง การเชิญเขามา สวนหนึ่งเราต้องการให้เค้าได้เป็นต้นแบบของนักเรียน และตอนเด็ก ๆ เขาได้รางวัลทางศิลปะเป็นประจำ ทั้งจากกระทรวงและนานาชาติ เราอยากให้เห็นว่าตัวตนของต้าเป็นศิลปะ เขาทำดนตรี แต่พื้นฐานเขามีศิลปะ แล้วตอนเขามาสอนศิลปะเขาทำได้อย่างดีนะคะ เขาคิดหัวข้อที่เด็ก ๆ ชอบ น่าสนใจ มีการเพิ่มเติมเรื่องของเพลงเข้ามา เด็ก ๆ ก็ผ่อนคลาย เป็นครั้งแรกที่ต้ามาสอน”


อาจารย์สมใจ ผู้บอกว่าเคยเป็นอาจารย์ของต้า นับตั้งแต่ที่นักร้องหนุ่มยังเรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕ ด้วย กล่าวเพิ่มเติม และบอกด้วยว่าโครงการในปีการศึกษาต่อไป อาจารย์ต้าก็ยังจะถูกเชิญมาเป็นวิทยากรของโครงการ ขณะที่อาจารย์ต้าก็ได้บอกกับนักเรียนและผู้ปกครองในวันปิดโครงการฯ ด้วยว่า


“ศิลปะอยู่ทุกที่ น้องๆสามารถเอาศิลปะไปใช้กับอย่างอื่นก็ได้ โครงการศิลปะฯ ในปีนี้ แม้จะจบไปแล้ว แต่เราก็ยังสามารถวาดภาพได้ วาดอะไรก็ได้ อย่างทุกวันนี้พี่ต้าก็ยังวาดภาพอยู่ วาดไปเรื่อย ๆ แล้วอยากฝากผู้ปกครองด้วยว่า ให้เก็บภาพของเด็ก ๆ ไว้ให้ดี เพราะในอนาคตจะเป็นภาพที่มีคุณค่ามาก ๆ”










Art Learning เพิ่มวิตามิน C และ E



ตลอดมาแนวทางการเรียนรู้ศิลปะของของนักเรียนในโครงการเสริมศักยภาพทางด้านศิลปะ (Art Learning) ไม่ได้มุ่งเน้นเรื่องการแข่งขัน แต่ได้มุ่งเน้นการพัฒนาด้านการสร้างสรรค์และอารมณ์ ซึ่งตรงกับสิ่งที่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ทินกร บัวพูล รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร โรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม กล่าวว่า เป็นโครงการที่ช่วยเติมวิตามิน C และ E ให้กับนักเรียน นั่นคือ Creative และ Emotion และที่ผ่านมาผลงานของนักเรียนเคยถูกนำไปจัดแสดงเป็นนิทรรศการทั้งที่หอศิลป์จามจุรีและหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร


“เราไม่ได้เน้นเรื่องการแข่งขัน แต่หวังว่า ความชื่นชม หรือการแสดงความยินดีที่นักเรียนได้รับจากผู้อื่นจะทำให้เด็ก ๆ พัฒนาตัวเอง ในด้านความมั่นใจ อารมณ์ สังคม เราเน้นว่าเรียนรู้แล้วมีความรัก มีความสุข สนุกสนาน รวมทั้งพาไปชมหอศิลป์ และวาดภาพนอกสถานที่ เช่น ไปวาดภาพที่ริมแม่น้ำ วาดภาพในวัด เพราะต้องการให้เขาซึมซับ บรรยากาศ สภาพแวดล้อม ก่อนจะลงมือทำงานศิลปะ”


และไม่เพียงแต่นักเรียนจะได้รับประโยชน์จากการเข้าร่วมโครงการฯ แม้แต่อาจารย์ที่ร่วมทำโครงการฯ ก็พลอยได้รับประสบการณ์ใหม่ๆเพื่อนำไปปรับใช้กับการเรียนการสอนศิลปะของตัวเองต่อไป


“นอกจากทำให้เด็กได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ ครูเองได้ประสบการณ์การสอนใหม่ ๆ หรือบางทีก็ได้รับจากวิทยากรที่เชิญมาด้วย เพราะสมัยที่ยังไม่ได้ทำโครงการฯ เราไม่เคยได้นำเด็กไปดูงานที่หอศิลป์ แต่พอได้ทำ เราจึงคิดว่า ต่อไปนี้เราต้องหาโอกาสพาเด็กไปดูนะ มันมีหลายอย่างที่เพิ่มเติมเข้ามา รู้สึกว่าการสอนศิลปะมันสมบูรณ์ขึ้น จากปกติที่สอนแค่ขั้นพื้นฐาน แต่พอมีโครงการฯ ขึ้นมา เรารู้สึกว่าเราให้เด็กได้รอบด้าน ให้เด็กได้เต็มที่”





รศ.สุพร ชัยเดชสุริยะ
ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม
มอบช่อดอกไม้ให้ศิษย์เก่า ต้า Paradox







เสียงสะท้อนจากนักเรียนและผู้ปกครอง



ด.ช.ชัยธรภัทร์ ศุภเกียรติบัญชร หรือ น้องเบสบอล นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๕/๕ เจ้าของรอยยิ้มฟันกระต่าย นอกจากอวดภาพวาดนกของตัวเองให้ชม ยังบอกถึงความสนุกที่ได้จากการเข้าร่วมโครงการฯ


“ได้เรียนรู้เรื่องการวาดภาพสิ่งต่าง ๆ ที่แตกต่างไปจากปกติที่เคยวาด เพราะก่อนหน้านี้ ผมวาดแต่ภาพการ์ตูน แต่โครงการฯ นี้ พาไปวาดภาพธรรมชาติ ตัวอย่างเช่นภาพนกภาพนี้ และพาออกไปวาดนอกสถานที่”


ขณะที่ ด.ช.นัทพล โกมลารชุน หรือ น้องกาโม่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔/๗ บอกว่าชอบกิจกรรมพาดูงานศิลปะตามหอศิลป์ต่าง ๆ มากที่สุด


“เพราะได้ชมงานศิลปะและ มีวิทยากรบรรยายให้ความรู้ เช่นตอนที่ไปชมศิลปะที่ MOCA และ BACC”


นอกจากนี้ในวันปิดโครงการฯน้องกาโม่ยังวาดภาพมามอบเป็นของขวัญให้ครูต้าด้วย เมื่อถามว่าได้รับแรงบันดาลใจมาจากอะไร เด็กชายตอบว่า


“ผมวาดภาพพี่ต้า เป็นหุ่นยนต์เพราะผมชอบวาดภาพหุ่นยนต์และเวลาไปออกงานตามที่ต่าง ๆ ผมชอบรับจ้างวาดภาพรูปคนให้เป็นหุ่นยนต์”


ด้าน ศุภณัฐ โกมลารชุน คุณพ่อของน้องกาโม่ บอกด้วยว่า เวลานี้น้องกาโม่ยังมีหน้าเพจ facebook เพื่อนำเสนอผลงานชื่อ Gamo Gallery และเร็ว ๆ นี้น้องจะไปนั่งเปิดหมวกวาดภาพให้กับผู้สนใจที่ ตลาดนัดศิลปะ ทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ที่หอศิลป์ร่วมสมัยราชดำเนิน หลังจากที่ก่อนหน้านี้เคยไปเปิดหมวกวาดภาพในงาน ตลาดนัดดำเนินสนุก ของโรงเรียน และงาน Thai Animator การที่สนับสนุนให้ลูกชายได้เข้าร่วมโครงการฯ คุณพ่อบอกว่า เนื่องจากตลอดมาเห็นว่าลูกชายชอบวาดภาพจึงอยากส่งเสริม และไม่เคยคาดหวัง


“ผมไม่เคยคาดหวังกับลูกเลย แค่อยากให้ศิลปะเป็นเครื่องมือผลักดันให้เขามีความคิดสร้างสรรค์ กล้าที่จะแสดงออก ไม่ได้คาดหวังให้เขาวาดภาพได้สวย เหมือนที่อาจารย์บางท่านพูดว่า เด็กพวกนี้ขาด วิตามิน C และ E แต่วันหนึ่งเขาอยากจะเอาดีด้านนี้ อยากเป็นศิลปินก็แล้วแต่เขา


เขาเข้าโครงการฯ ตั้งแต่ ป.๒ สิ่งที่เขาได้คือ ได้พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ได้เรียนรู้เพิ่มเติม เรื่องผลงานของศิลปินทั้งระดับชาติและระดับโลก ตัวอย่างงานของ Van Goh เป็นต้น และอาจารย์ยังพาไปดูงานในพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ผมก็เลยมองว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี แพทย์หญิงโสฬพัทธ์ เหรัญชโรจน์ ผู้ปกครองของ ด.ญ.สุพิชญาณ์ เหรัญชโรจน์ หรือ น้องพริม นักเรียนชั้นประถมศึกษาปี ๔/๒ เป็นผู้ปกครองอีกคนหนึ่งที่สนับสนุนให้ลูกเข้าร่วมโครงการ


“ยอมรับว่า ตนเองไม่ได้ส่งเสริมเขามาตั้งแต่แรก จนเขาได้รับรางวัลชนะเลิศด้านการระบายสี ตอนอยู่อนุบาล แล้วพอมาทดสอบกับอาจารย์สมใจ ตอนเขาเรียน ป.๑ เพื่อเข้าโครงการฯ ตอน ป.๒ เราก็เลยเริ่มส่งเสริมเขาอย่างจริงจัง และหมอคิดว่า ศิลปะเป็นสิ่งที่ทำให้คนมี EQ ที่ดี แล้วจะเป็นสิ่งที่ติดตัวเขาไปตลอดชีวิต อีกทั้งถูกใจที่กิจกรรมของโครงการฯ มีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมวาดภาพสีน้ำ วาดภาพสถาปัตยกรรม ฯลฯ ทำให้เขาพัฒนาความรู้ทางศิลปะได้เร็วมาก”


ดังนั้นคุณหมอจึงยินดีที่จะจัดสรรเวลาเพื่อให้ลูกได้ทำกิจกรรมเต็มที่ “เช่นถ้ามีกิจกรรมที่ต้องทัศนศึกษากับทางโครงการฯ เราพยายามที่จะสนับสนุนเขามาก ๆ เพราะเราไม่มีโอกาสที่จะให้กับเขาด้วยตัวเราเองได้ เป็นกิจกรรมที่หาได้ยากมากที่เราจะทำเอง โดยสิ่งที่หมอมองว่าลูกได้รับประโยชน์มากที่สุดจากการเข้าร่วมโครงการฯและการวางแผนเพื่อเป็นการส่งเสริมคือ


“ความรักในศิลปะ เขาได้รับสิ่งนี้มากที่สุด และยังพัฒนาต่อยอดด้วยตัวเองไปเรียนรู้สิ่งอื่นได้เร็วมาก ตัวอย่างเช่น เวลาเห็นคนถักโครเชต์ หรือนิตตติ้ง ความรักและอยากเรียนรู้ศิลปะที่ต่อยอดไปเรื่อย ๆ ของเขาฝังแน่นเลยค่ะตอนนี้ อยากให้เขาเข้าโครงการไปเรื่อย ๆ เขาอาจจะเรียนเป็นวิชาชีพในอนาคตก็ได้ แต่ว่าก็แล้วแต่เขา อย่างไรก็ตามทุกวันนี้หมอพอใจ เพราะเขานำศิลปะมาใช้ในชีวิตประจำวันเยอะมาก เช่น เวลาทำการบ้าน วิชาอะไรก็ตาม เขาวาดรูปได้สวยมาก วาดเป็นนิทานได้เลย และสามารถวาดภาพเพื่อสื่อความในใจของเขาออกมาได้เร็วมาก และตอนนี้หมอกำลังฝึกให้เขาทำ Mind Map เพราะคนที่วาดรูปเก่งจะทำ Mind Map ได้สนุกมาก”


ด้านน้องพริม บอกเล่าว่า ชอบกิจกรรมตอนออกไปสเก็ตซ์ภาพเรือนพระรถราชา ซึ่งเป็นเรือนไทยในจุฬาฯ มากที่สุด ซึ่งคุณแม่เสริมว่า


“เขาจะตื่นเต้นมาก เวลาที่ขับรถผ่าน และยังเล่าถึงอยู่บ่อย ๆ ว่าตรงนี้เคยมาสเกตซ์ภาพนะ ตอนแรกเขาคิดว่ายาก แต่พออาจารย์มาช่วยแนะนิดนึง เขาดูตื่นเต้นขึ้นมากเลยค่ะที่ได้ทำ”


อย่างไรก็ตามสิ่งที่น้องพริมถนัดและชอบวาดมากที่สุดคือ การวาดการ์ตูน โดยเฉพาะวาดภาพคุ้กกี้รัน “เพราะรายละเอียดน้อย” เด็กหญิงบอก และได้แนะนำเพื่อน ๆ ที่อยากสนุกกับการวาดภาพเหมือนตนว่า


“วาดอะไรก็ได้ที่ตัวเองชอบ ค่อย ๆ ฝึกวาดไปเรื่อย ๆ”





สมใจ จงรักวิทย์ อาจารย์สอนศิลปะ และประธานโครงการเสริมศักยภาพทางด้านศิลปะ (Art Learning)






ผลักดัน กิจกรรมศิลปะเด็ก เชื่อมสัมพันธ์อาเซียน



ในฐานะผู้บริหารโรงเรียน รศ.สุพร ชัยเดชสุริยะ ผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายประถม กล่าวถึงผลที่น่าพอใจ และแนวทางในการสนับโครงการฯ ว่า


“จริง ๆ ทุกครั้ง ไม่ว่าจะมีโครงการเล็กหรือโครงการใหญ่เกิดขึ้น เราจะจัดให้มีการประเมินผลตลอด ซึ่งจะทำให้เราทราบว่า ต่อไปเราจะต้องปรับปรุงอะไรบ้าง โครงการนี้ก็เช่นกัน เรามีการประเมินผลโดยการแจกแบบสอบถามไปที่นักเรียนรวมถึงผู้ปกครองทุกคน ที่เข้าร่วมโครงการ จึงทำให้เราได้ทราบว่าเด็กๆมีการพัฒนาอย่างไรบ้าง เพราะเราจะได้นำมาปรับปรุงเรื่องการจะดำเนินการต่าง ๆ เพราะกิจกรรมในโครงการฯ เราต้องมีการนำเด็ก ๆ ไปทัศนศึกษาข้างนอกด้วย ต้องคอยคิดว่าผู้ปกครองจะลำบากไหม เด็ก ๆ จะชอบไหม ต้องให้กลับมาเล่าให้ฟัง ซึ่งโครงการนี้ผู้ปกครองประทับใจมากเลยค่ะ อยากให้มีต่อเนื่องไปทุกปี เพราะปัจจุบันการที่ผู้ปกครองจะไปทำกิจกรรมลักษณะนี้ด้วยตัวเอง พาไปนอกสถานที่ มีวิทยากรมีคอยให้ความรู้เด็ก ๆ โดยเฉพาะ ก็ยากอยู่


โครงการนี้จึงทำให้เกิดการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง อาจารย์ เด็ก ๆ และผู้ปกครอง เพราะบางกิจกรรมผู้ปกครองเด็กๆบางส่วนก็จะตามไปดูด้วย และคิดว่าต่อไปในอนาคต ถ้าเรามีความสัมพันธ์ในกลุ่มอาเซียนด้วยกันแล้ว โรงเรียนน่าจะมีการแลกเปลี่ยนศิลปวัฒนธรรม ผ่านกิจกรรมวาดภาพของเด็ก ๆ ไม่ใช่แลกเปลี่ยนในเรื่องของภาษาอย่างเดียว เพราะศิลปะเป็นภาษาสากล สามารถใช้สื่อสารกันได้ทั้งโลกอยู่แล้ว เราจึงน่าจะมีกิจกรรมแลกเปลี่ยน”


นอกจากนี้ รศ.สุพร เห็นว่า โครงการฯน่าจะมีส่วนส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนรู้ถึงการเป็นผู้ให้


“อยากให้เด็ก ๆ มองไปยังสังคม รู้จักการให้ อาจจะโดยการบริจาคภาพที่วาด ไปเพื่อกิจกรรมที่สามารถเปลี่ยนเป็นรายได้ไปช่วยเหลือสังคม เช่น นำไปมอบให้สภากาชาดไทย”


ถึงบรรทัดนี้คงจะพอเข้าใจแล้วว่า เหตุใด รองศาสตราจารย์สมโภชน์ หนึ่งในวิทยากร จึงกล่าวว่า อิจฉานักเรียนมาก ที่ได้มีโอกาส เพราะสมัยตนเป็นเด็ก ต้องฝึกวาดภาพด้วยแท่งถ่าน แต่นักเรียนในโครงการนี้ ได้รับการส่งเสริมและสนับสนุน อย่างมีบูรณาการ โดยหลายๆคนรอบตัวเด็ก ทั้งอาจารย์ วิทยากร และผู้ปกครอง


ทำความรู้จักโครงการ Art Learning เพิ่มเติมที่...Web Blog artlearning.satitchula.com และ Fanpage เฟซบุค artlearning.satitchula





ด.ช.นัทพล โกมลารชุน หรือ น้องกาโม่ และคุณพ่อ ถ่ายภาพร่วมกับอาจารย์ต้า















ด.ญ.สุพิชญาณ์ เหรัญชโรจน์ หรือ น้องพริม















ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














ชมงานอาร์ตเก๋ ๆ ของศิลปินดังจากฝรั่งเศส



แวะพักจากความวุ่นวายของเมืองกรุง มุ่งสู่ความสงบแห่งศิลปะที่ โกลเด้น ทอร์ทัส พื้นที่แสดงงานศิลปะที่ตั้งอยู่กลางเมืองอย่างสุขุมวิท ๔๙ ซึ่งตอนนี้กำลังมีการจัดแสดงงานศิลปะเก๋ ๆ ของศิลปินชาวฝรั่งเศส ไมเคิล เดลลอฟร์ ที่ถ่ายทอดการขับเคลื่อนของวิถีเมืองกรุงสะท้อนสู่งาานจิตรกรรมแบบอิสระ






โกลเด้น ทอร์ทัส พื้นที่แสดงงานศิลปะได้จัดแสดงชุดผลงานศิลปะของ ไมเคิล เดลลอฟร์ (Michaël Deloffre) ศิลปินชาวฝรั่งเศสคนดัง ที่สร้างชื่อผ่านการรังสรรค์ งานภาพวาดจิตรกรรมรวมถึงชิ้นงานประติมากรรมอันเป็นเอกลักษณ์ ที่นับเป็นผู้บุกเบิกในการเสริมสร้างความงามที่เป็นธรรมชาติให้มีความสง่างามและโดดเด่น ซึ่งเป็นการปูทางให้ "ธรรมชาติและความร่วมสมัย" ก้าวต่อและขับเคลื่อนไปอย่างงดงาม






ทุกวันนี้ผลงานของเขาถูกแสดงเป็นส่วนหนึ่งในงานนิทรรศการศิลปะต่าง ๆ กว่า ๑๕o นิทรรศการ ใน ๔o ประเทศทั่วโลก เป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงในระดับสากล ที่ผลงานเขาจะพบได้หลายแห่งอย่างที่มูลนิธิศิลปะร่วมสมัยแห่งชาติ (FNAC) ในปารีส, พิพิธภัณฑ์แฮมเบอร์เกอร์ บาห์นฮอฟ ในเบอร์ลิน, พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย (MCA) ในชิคาโก สถาบันศิลปะร่วมสมัย (ICA)ในฟิลาเดลเฟีย และพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย (CMAM) ในมอนทรีออล






โดยนิทรรศการครั้งนี้ได้จัดแสดงผลงานศิลปะที่ยอดเยี่ยมของเขา ภายใต้แนวคิดที่มีลักษณะสอดคล้องกับวิถีชีวิตในเมืองอย่างมหานครกรุงเทพ ซึ่งเป็นชิ้นงานที่ไม่เคยถูกจัดแสดงที่ไหนมาก่อน เป็นผลงานที่มีแนวคิดผ่านชิ้นงานอันสร้างสรรค์โดยการใช้สีดำ เผยให้เห็นการจัดองค์ประกอบพื้นที่ระหว่างแสงและเงา การเคลื่อนไหวแนวกว้างและแนวตรง เผยให้เห็นการเลือกใช้สีและวัสดุ รวมถึงแสดงให้เห็นถึงการสังเกตของเขา เกี่ยวกับวิวัฒนาการของความสัมพันธ์ทางสังคมของเราในโลกปัจจุบันกับการถือกำเนิดของเทคโนโลยีใหม่ ๆ ผลลัพธ์ของชิ้นงานของเขาจึงประกอบไปด้วยอารมณ์ที่แข็งแกร่ง และยังคงดึงเอาความรู้สึกที่อ่อนแอและแข็งแรงออกมาได้ในเวลาเดียวกัน ผลงานศิลปะของเขาอยู่เหนือสาระสำคัญที่มีต่อความสวยงาม แสดงให้เห็นความหลงใหลในสุนทรียภาพของศิลปะ ที่ความบริสุทธิ์ และเรียบง่าย ความงามที่มีมาแต่เดิม เป็นภาษาศิลปะอันเป็นสากล


โดยงานอาร์ตสวย ๆ เหล่านี้จะเปิดให้เข้าชมทุกวันตั้งแต่เวลา ๑o.oo - ๑๘.oo น. จนถึงวันวันอาทิตย์ที่ ๘ มีนาคม ๒๕๕๘ นี้เท่านั้น ที่โกลเด้น ทอร์ทัส สุขุมวิท ๔๙















ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














แวะสยามเซ็นเตอร์ ชมผลงาน “ฌอน ฟรีแมน”
สุดยอดผลงานศิลปะแห่งแฟชั่น “ไทโปกราฟี ดีไซน์”



สยามเซ็นเตอร์ The Ideaopolis สร้างปรากฏการณ์ครั้งยิ่งใหญ่สู่วงการแฟชั่นเมืองไทยอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในงาน “Siam Center Idea Avenue : Absolute Siam Fashion Capital” (สยามเซ็นเตอร์ ไอเดีย อเวนิว : แอ๊บโซลูท สยาม แฟชั่น แคปปิทอล) งานแฟชั่นอีเวนต์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี นำเสนอประสบการณ์แห่งแฟชั่นอย่างเต็มรูปแบบ!! ครั้งแรกในเมืองไทย!! ภายใต้คอนเซ็ปต์ Fashion Capital หรือ มหานครแห่งแฟชั่น พบกับสุดยอดผลงานศิลปะแห่งแฟชั่น ไทโปกราฟี ดีไซน์ สร้างสรรค์โดย ฌอน ฟรีแมน ศิลปินระดับโลกชาวอังกฤษ, Absolute Siam Collection และสุดยอดงานปาร์ตี้จากสองท็อปปาร์ตี้เมกเกอร์ชั้นนำของเมืองไทย โดยเปิดให้ชมฟรีระหว่างวันที่ ๒o กุมภาพันธ์ - ๑๕ มีนาคม ศกนี้ ณ สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์






ในฐานะศูนย์กลางแห่งงานสร้างสรรค์และแรงบันดาลใจอันไม่มีที่สิ้นสุด สยามเซ็นเตอร์เดินหน้าส่งเสริมและเผยแพร่งานศิลปะทุกแขนง ล่าสุด เนรมิตงาน “Siam Center Idea Avenue : Absolute Siam Fashion Capital” ซึ่งประกอบด้วย งาน “Absolute Siam Fashion Capital Installation Art” แสดงสุดยอดผลงานศิลปะผสมผสานแนวไทโปกราฟี (Typography) ซึ่งเป็นแขนงหนึ่งของงานศิลปะที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ โดยได้รับเกียรติจากนักออกแบบผู้โด่งดังจากประเทศอังกฤษ “ฌอน ฟรีแมน” (Sean Freeman) ร่วมโชว์สุดยอดผลงาน Collaboration เป็นครั้งแรกของเมืองไทย โดยจัดแสดงในรูปแบบประติมากรรมไทโปกราฟี สร้างสรรค์อาร์ตพีซตัวอักษร A-Z ด้วยเทคนิคอันเป็นแบบฉบับผสมผสานเข้ากับจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ของฌอน ฟรีแมน ตกแต่งลวดลายและสีสันบนแต่ละตัวอักษรให้มีลักษณะที่แตกต่างกัน โดยมีผลงานไฮไลต์คือการสร้างสรรค์เรียงอักษรเป็นคำว่า “ABSOLUTE SIAM” จัดวางอย่างงดงาม ณ บริเวณเอเทรียม ๑ ภายในสยามเซ็นเตอร์






ตามด้วยงานแฟชั่นอีเวนต์สุดครีเอตสมกับเป็นศูนย์กลางของแบรนด์ดีไซเนอร์ไทยชั้นนำ กับการเปิดตัวคอลเลกชันล่าสุด “Absolute Siam Fashion Show” โดยได้รับเกียรติจากกูรูในวงการแฟชั่นชื่อดัง นำโดย อารยา อินทรา และจิรัฐ ทรัพย์พิศาลกุล มาร่วมรังสรรค์โชว์สุดตระการตาที่คนรักแฟชั่นไม่ควรพลาด แอ๊บโซลูท สยามคอลเลกชันล่าสุดนี้ สยามเซ็นเตอร์จับมือแบรนด์ไทยดีไซเนอร์ชั้นแนวหน้ารวมกว่า ๔o แบรนด์ อาทิ Gin and Milk, Lala Love London, Playhound, Theatre, Wonder Anatomie, Bi-Chalai, DA+PP, FlynowIII, Painkiller, Q Design and Play, The Selected, Something Boudoir, Kloset, Rotsaniyom, 77th, The Wonder Room, Greyhound, และ Commit a Sin พร้อมใจกันออกแบบคอลเลกชันพิเศษ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Absolute Siam Collection ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษ วางจำหน่ายเฉพาะที่สาขาสยามเซ็นเตอร์เพียงที่เดียว ความพิเศษสุดของคอลเลกชันนี้ คือ การบริการปัก เพนต์ สกรีนตัวอักษรชื่อหรือข้อความลงบนเสื้อผ้า หรือแอกเซสซอรีได้แบบเฉพาะรายบุคคล โดยตัวอักษรทุกตัวที่นำมาตกแต่งนั้น คือ ผลงานการออกแบบสร้างสรรค์ของ ฌอน ฟรีแมน นักไทโปกราฟีระดับโลก จึงเป็นผลงานศิลปะผสมผสานแฟชั่นที่สวมใส่ได้จริง โดยแฟชั่นโชว์จะจัดขึ้นในวันที่ ๒o กุมภาพันธ์ ศกนี้ ณ บริเวณชั้น ๑ สยามเซ็นเตอร์






ปิดท้ายด้วยสุดยอดปาร์ตี้อีเวนต์แห่งปี จากสองท็อปปาร์ตี้เมกเกอร์ชื่อดังของเมืองไทย นำโดย ดู๊ด สวีท (Dude Sweet) และเทรเชอร์ (Trasher) ที่จะมาร่วมเนรมิตบรรยกาศปาร์ตี้สุดมันส์เต็มพื้นที่ชั้น ๓ สยามเซ็นเตอร์ งานนี้!! คนรักแฟชั่นนิสต้า และพลพรรค Siam DNA ตัวจริงไม่ควรพลาด !! จัดประชันปาร์ตี้ ๒ วันแบบจัดเต็ม ในวันที่ ๒o กุมภาพันธ์ และวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๘






พบกับสิ่งที่คุณไม่เคยพบ ที่สุดแห่งศูนย์รวมงานศิลป์ของเมืองไทยเพียงก้าวเข้าสู่สยามเซ็นเตอร์ จะได้รับประสบการณ์ใหม่ที่น่าตื่นเต้นรับรู้เทรนด์ที่ล้ำที่สุดจากทั่วโลก และได้รับแรงบันดาลใจใหม่ๆ ที่จะนำเสนอครอบคลุมให้กับคนทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ได้อย่างแท้จริง ณ สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์ หรือโทร. o-๒๖๕๘-๑ooo ต่อ ๒๒๖๕











































ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th














ของฝากจาก “เฮือนเฟื่องฟ้า”



“อยากให้มาดูตัวอย่างธรรมชาติที่ผมได้สัมผัสและยังหลงเหลืออยู่ทางภาคเหนือของไทย ที่นับวันจะถูกบุกรุกและทำลายโดยสังคมยุคใหม่ เช่น การขยับขยายของบ้านจัดสรร และความเจริญอื่นๆเข้าไปในพื้นที่ที่มีท้องทุ่ง บึงบัวฯลฯ แม้แต่บนดอย หรือบนภูเขา นักท่องเที่ยวไปเที่ยวเยอะขึ้น โดยที่ไม่ตั้งใจ ทำให้ธรรมชาติถูกทำลาย และผมอยากให้นิทรรศการนี้ กระตุ้นให้ผู้คนเห็นความสำคัญของธรรมชาติรอบตัว ไม่อยากให้ทำลาย ไม่ว่าจะเป็นภาคไหน พื้นที่ไหนก็ตาม"


เจ สุรเสน เจ้าของ หอศิลป์เฮือนเฟื่องฟ้า จ.เชียงใหม่ กล่าวถึงผลงานภาพเขียนของเขาที่ล่าสุดนำมาจัดแสดง ในนิทรรศการ "เสน่ห์ธรรมชาติ เสน่ห์ปทุมมา เสน่หาเวียงพิงค์"


วันนี้ -๑๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ ณ หอศิลป์จามจุรี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย


เจเป็นชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ จบการศึกษาจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ วิทยาลัยอาชีวศึกษามหาสารคาม ด้วยความหลงไหลในธรรมชาติทางภาคเหนือที่ได้ไปสัมผัส ทำให้เขาเลือกปักหลักใช้ชีวิตและทำงานศิลปะที่ จ.เชียงใหม่


"ผมไปอยู่ที่นั่น ๒o ปีแล้ว เพราะว่าภูมิประเทศสวยสดงดงามมาก ไปเห็นแล้วประทับใจ และไม่อยากไปไหนอีกเลย อยากอยู่เพื่อสร้างงานและชื่นชมความงามของธรรมชาติที่ยังหลงเหลืออยู่ แต่เวลานี้น่าเสียดายที่ธรรมชาติบางแห่งถูกนักท่องเที่ยวทำลาย อย่างดอกไม้เราไม่แค่ชื่นชม แต่เรายังเด็ดมันด้วย เช่น ดอกนางพญาเสือโคร่ง มีคนเด็ดกิ่งมาเสียบผมถ่ายรูป เวลาที่ได้เห็นผมรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งที่น่าเสียดายมาก"


ปัจจุบันเจยังคงรักที่จะสร้างสรรค์ผลงานเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของธรรมชาติ แม้จะมีใครว่าเป็นการทำงานเลียนแบบธรรมชาติ หรือทำงานแบบไม่ใช้สมองก็ไม่สนใจ แต่เขาเห็นว่าตนเองผู้สร้างสรรค์มีความรับผิดชอบต่อสังคม ต้องการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและความทรงจำที่ดีให้แก่ลูกหลานในอนาคต ได้รับรู้ว่าสิ่งที่เราเห็นในวันนี้อาจจะไม่มีให้เห็นในวันหน้าก็ได้


นอกจากนี้เขายังสร้าง หอศิลป์เฮือนเฟื่องฟ้า ที่ บ้านศาลาปางสัก ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ เพื่อเผยแพร่ผลงานศิลปะให้แก่เยาวชนและผู้สนใจ ได้เข้าชมและศึกษาเรียนรู้โดยไม่คิดมูลค่า



























ภาพและข้อมูลจาก
manager.co.th




บล็อกนี้อยู่ในหมวดศิลปะ



บีจีจากคุณเนยสีฟ้า ไลน์จากคุณญามี่ กรอบจากคุณ Hawaii_Havaii

Free TextEditor





Create Date : 05 มีนาคม 2558
Last Update : 5 มีนาคม 2558 22:13:46 น. 0 comments
Counter : 2044 Pageviews.

haiku
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 161 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add haiku's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.