YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
ในม่านขาว ... หลังหน้าต่างใส

หน้าต่างใสถูกย้อมเป็นสีขาว
ม่านทึบผืนใหญ่พรูพรายอยู่ภายนอก
เพลงฝนบรรเลงครึกโครม
ครืนครืนคำรามจากต้นฝน
ใบไม้ฉ่ำน้ำ หยาดน้ำฉ่ำหญ้า

สายลมปะทะประตูเบาๆ
เหมือนเพื่อนเรียกร้องทักทาย
เชิญชวนมาวิ่งเล่น
มาเถอะ ข้างนอกสดชื่นยิ่งกว่าสดชื่น
สะอาดยิ่งกว่าสะอาด

สายลมเย้ายวนแกมเว้าวอน
สายฝนเย้ยมาผ่านหยดน้ำ
ที่ไหลผ่านหน้าต่าง
มัวนั่งจับเจ่าอยู่ทำไม
ทำชีวิตหล่นหายไปไหนหรือ

ไปเถอะ ไปเล่นน้ำฝน
ระริกระรี้ กระโจนลงโคลน
แหวกว่ายในสายลมแรง
เงยหน้าอ้าปาก รับหยดน้ำ
ชุ่มหวาน ใสสะอาด

ไปเถอะ ไปเต้นรำในม่านน้ำ
เสียงเพลงเร้าลึกครึกครืน
โครมคะนองสนุกสนาน
เอ่ยปากตะโกนหัวเราะลั่น
ผสานเสียงชีวิตเป็นดนตรี

ไปสิไป เอ่ยปากพยักหน้ารับคำ
พลัน, เพราะเงียบยิ่งกว่าเงียบ
เสียงหัวกระทบขอบโต๊ะจึงกังวาน
แล้วหน้าต่างสีขาว ก็เลือนหายไปในความเงียบ
ที่กลบเสียงฝนกระทบหลังคา

ยินเพียงเสียงนาฬิกาเดินตามจังหวะ
เห็นเพียงในม่านขาว หลังหน้าต่างใส
ไร้สนามหญ้าเปียก
ไร้รอยยิ้มของหยดน้ำ
มีเพียงหมู่ตึกขมุกขมัวจางๆ


(ในห้องสอบ )


Create Date : 21 กรกฎาคม 2552
Last Update : 21 กรกฎาคม 2552 19:11:22 น. 10 comments
Counter : 864 Pageviews.

 
แวะมาอ่านบทกวีเพราะๆ ค่ะ

ความหมายดีจังเลยค่ะ


โดย: คีตอักษรา วันที่: 21 กรกฎาคม 2552 เวลา:19:30:04 น.  

 
กลอนบทนี้มีข้อสรุปอย่างไร และมีการอ้างเหตุผล (argument) อะไรบ้าง อย่าลืมประเมินความถูกต้องและความสมเหตุสมผลด้วย :D


โดย: F IP: 161.200.2.68 วันที่: 21 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:19:48 น.  

 

ชอบจังค่ะ
แวะมาอ่านในวันเกิด


โดย: อุ้มสี วันที่: 21 กรกฎาคม 2552 เวลา:20:42:32 น.  

 
ชอบคำว่า "เต้นรำในม่านน้ำ"

แต่แอบงงนิดหน่อยว่า
ครูเสี้ยวไปหลับฝันในห้องสอบจริงเหรอครับ 55555
















โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 22 กรกฎาคม 2552 เวลา:6:10:28 น.  

 
สงสัยจะงงกับชื่อตัวละครนะครับ 555
ผมเขียนเอง
ยังจำไม่ได้สักชื่อเลยครับ 55555


ราฟาเอลอ่านแล้วต้องงงนะครับ
ถ้าไม่งงไม่ใช่ราฟาเอล
เป็นความตั้งใจของผมเลย

เพราะผมคิดว่า
ช่วงขณะที่เรางุนงงหรือไม่รู้ที่สุดเนี่ย
"การหยั่งรู้" มันจะเกิดขึ้นครับ




โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:09:39 น.  

 
ขอบคุณมากครับที่แวะเข้าไป comment ที่บล็อก Violent Valley

ขออนุญาตเข้ามาตอบโจทย์ที่เขียนเอาไว้ใน entry ของผม
คำว่า “เรายังไม่แน่ใจว่า Has anyone healed this world?”
ถ้าจะตอบก็คงจะยาว และเกรงว่าจะไม่ชอบให้ใครเข้ามาเขียนร่ายอะไรยาวเหยียด (เอาแบบย่นย่อก็แล้วกันนะครับ)

ในประเทศไทยน่าจะมีอย่างน้อย 40 เครือข่ายองค์กรครอบครัวและคณะทำงานด้านเด็ก
แต่พวกเขาทำงานโดยสุจริตใจ หรือทำเป็นอาชีพเพื่อเอาเงินเดือนมาเลี้ยงครอบครัวไปวันๆหรือไม่?
ผมตอบไม่ได้ เพราะผมยังดูถูกพวกเขาอยู่หลายองค์กร ว่าหากินกับเด็กหรือไม่? (ขอโทษที่ไม่สุภาพ)
หลายคนชอบพูดว่า ไม่เห็นมีใครห่วงใยเด็กตาดำๆในโลกนี้เลย
ก็ต้องบอกว่า คุณนั้นแหละที่ไม่เคยห่วงใยพวกเขา
มีคนเป็นล้านๆคนที่เขาคอยช่วยเหลือกันอยู่
อย่าไปยึดติดกับการทำบุญด้วยการจ่ายเงินนะครับ
เราแค่ช่วยเขาเผยแพร่องค์กรของพวกเขา
เราแค่เตือนให้คนรักกัน ไม่แบ่งแยก ไม่แบ่งสี
ทำเท่าที่เราอยากทำ ไม่ต้องโชว์เอาหน้าปลาดิบที่ไหนหรอกครับ

ในประเทศไทย...มีหลายองค์กรที่ทำงาน(และบางแห่งก็เป็นที่เชื่อถือได้ว่าตั้งใจ)เพื่อช่วยเด็กจริงๆ
เช่น
- มูลนิธิเครือข่ายครอบครัว //www.familynetwork.or.th/ โทร.02 954 2346
- มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) //www.iamchild.org/ โทร.02 433 6292
- มูลนิธิเด็ก //www.ffc.or.th/index.php โทร.02 814 1481-7
- มูลนิธิดวงประทีป //www.dpf.or.th/ โทร.02 671 4045-8
- มูลนิธิสร้างสรรค์เด็ก //www.fblcthai.org/ โทร.02 574 1381
นอกจากนี้ก็ยังมีหน่วยงานที่น่าเข้าไปศึกษา เช่น มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ มูลนิธิเด็กอ่อนในสลัมฯ มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก
มูลนิธิกระจกเงา, สนง.ส่งเสริมและพิทักษ์เด็ก ... ฯลฯ

ถ้ามีจิตเมตตาเด็กในส่วนที่อยู่นอกประเทศ ก็อาจจะติดต่อได้ที่
UNICEF //www.unicef.org/
สำหรับยูนิเซฟ เป็นหน่วยงานของสหประชาชาติ เน้นการช่วยเหลือเด็กและแม่เป็นหลัก
ปัจจุบันทูตยูนิเซฟของไทยมี 3 ท่าน คือ คุณอานันท์ ปันยารชุน, เคน-ธีรเดช วงศ์พัวพันธ์ และ แอน ทองประสม

และผมคงจะข้ามชื่อนี้ไปไม่ได้
Heal The World Foundation //healtheworld.us/members/htwf
สิ่งที่ดีๆที่สวยงามซึ่งไมเคิล แจ็คสันได้ทิ้งเอาไว้ให้คนรุ่นต่อไป




โดย: zoomzero วันที่: 22 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:02:35 น.  

 
สวัสดีครับ

ขอบคุณครับสำหรับถ้อยคำแสดงความยินดีที่บล็อก

ด้วยมิตรภาพ


โดย: พ่อพเยีย วันที่: 23 กรกฎาคม 2552 เวลา:0:25:19 น.  

 
เพิ่งได้อ่านกลอน "สิงห์ดำ" ครับครูเสี้ยว












โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 23 กรกฎาคม 2552 เวลา:7:24:34 น.  

 
ขอแสดงความเสียใจด้วยนะครับครูเสี้ยว



โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กรกฎาคม 2552 เวลา:8:31:59 น.  

 
ดีใจที่ไม่เคืองกัน
เพราะยังหนาวๆร้อนๆอยู่ว่าคุณจะคิดอย่างไรที่เข้ามา comment
บนโลกไซเบอร์เราไม่รู้หรอกว่าใครจะมาดี ใครจะมาร้าย ก็ขนาดเห็นหน้าเห็นตากันก็ยังทำกันได้ลงคอ
ผมว่าคุณมีความเป็นกวีในตัวสูงมาก
ภาษาที่คุณใช้ไม่ว่าจะเป็นกลอนหรือหัวข้อประเด็นต่างๆ ผมว่า A+ นะ
อย่าถ่อมตัวมากไปหน่อยเลย เดี๋ยวจะโดนผมข่มให้เด้อ

ถูกต้องแล้วครับ บรรทัดสุดท้ายนั้นแหละ คือ ข้อความสำคัญที่อยากบอกมากที่สุด
ขอโทษนะครับ อย่าหาว่าแส่มาสอนธรรมมะอะไรเลย
การที่เราบอกว่าเรายังไม่ได้ช่วยอะไรใครเลย
หรือการว่าตัวเองว่า ตัวเราเองยังจะเอาตัวเองไม่รอดเลย
ก็เป็นหนึ่งในหลายๆเรื่องที่ผมอยากจะเขียนไว้ใน bloggang (แต่ตอนนี้ยังร่างไม่เสร็จ 555)
MJ เขามีปรัชญาชีวิตฝากไว้ในเพลงหลายอย่าง ยิ่งมองหาก็ยิ่งเจอ
อย่างเช่น จะเห็นว่าเขาไม่ใช้คำว่า WAR ในเพลง เขาไม่ได้แต่เพลงด่าคนทำไม่ดี
ถ้าจะให้เข้าข้าง MJ ก็ต้องบอกว่า ผมว่าเขาให้อภัยคนทุกคนในโลก
แม้แต่คนที่ขนระเบิดไปหย่อนที่ฮิโรชิม่ากับนางาซากิ
หรือนักบินคามิกาเซ่ที่ถล่มเพิร์ลฮาเบอร์ซะเละเป็นแมงกะพรุนตุ๋น ฯ
และ MJ ไม่ได้พยายามเรียกร้องให้ใครบริจาคเงินเลย
เขาตั้งมูลนิธิแล้วก็พยายามหาเงินเอามาอุดหนุนเอง ก็คงมีบ้างที่ได้เงินบริจาคมาจากเพื่อนฝูงของเขาและประชาชนอื่นๆ
ในบทเพลงนี้ เขาแค่อยากให้คนเรารักกัน อยากให้สร้างความรักที่บริสุทธิ์ในพื้นที่เล็กๆในใจของเรา
ผมว่าเขาเจ๋ง(cool)ดีนะ แค่เรามีแต่ความรักให้กับทุกๆคนบนโลก แล้วจะมีใครคิดจะมาฆ่ากันอีกหละ
ไม่ต้องมาเสียเวลาเจรจา ไม่ต้องเอาการทูตหรือการเมืองมาเล่นเกมกัน
แค่คำว่า “รัก” คำเดียว ไม่ต้องลงทุน ไม่ต้องใช้งบประมาณของรัฐบาลเลย
เริ่มจากคนในครอบครัวไม่ทำร้ายกัน ไม่ทำร้ายร่างกายและจิตใจกัน
ว่ากันว่าคุณพ่อของ MJ นี่ แกชอบด่าว่าเขาตอนเด็กๆซะอ่วมเลย จริงเท็จแค่ไหนก็ไม่ทราบ
MJ คงอยากนับหนึ่งที่ตัวเราก่อน แล้วขยายเป็นระดับครอบครัว เพื่อนบ้าน ประเทศ ....
แล้วในที่สุดก็เป็นการ Heal the world ในแบบที่เขาฝันเอาไว้ได้จริงๆ

คุณเป็นคนแรกในโลกที่สัญญากับผมว่า (เอ๊ะ! หรือว่าเขียนลอยๆนะ หุหุ)
I wanna be one of the healers of the world.
ผมว่าผมซึ้งแล้วนะ
แต่ผมถ้า MJ เขารับรู้ เขาคงดีใจมากกว่าผม


โดย: zoomzero วันที่: 23 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:29:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2552
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
262728293031 
 
21 กรกฏาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.