YOU are not afraid. You think YOU are afraid. ~Shantimayi~
"...เสียงขลุ่ยเล็กๆริมทาง..."

เสียงขลุ่ยเล็กๆริมทาง
ริมถนนระหว่างสถานี BTS อโศก และพร้อมพงษ์

กับคำอวยพรยอดนิยมคำนี้ ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทำให้เราหวั่นไหวสะเทือนใจได้ขนาดนี้มาก่อน

บ่ายวันหนึ่งบนถนนสุขุมวิท ถนนที่จอแจที่สุดในเมืองหลวง ฉันเห็นใครคนหนึ่งจากหางตา แน่นอนว่าฉันไม่รู้จักเขา ข้อมูลที่ฉันประมวลได้จากการมองผ่านเพียงแวบเดียวนั้นคือ เขาคงจะมีฟุตบาทเป็นเตียงนอน ท้องฟ้าเป็นผ้าห่ม ควันจากท่อไอเสียเป็นพัดลม และเสียงรถราเป็นนาฬิกาปลุก และเคหสถานของเขาในขณะนี้ก็คือ บันได้ปูกระเบื้องหน้าร้านขายเฟอร์นิเจอร์หรูหรา ตรงหน้าเขามีขันสีแดงรอเศษสตางค์วางอยู่ ภาพที่เห็นไม่ได้มีอะไรควรค่าแก่การสนใจ

เขากำลังนั่งเป่าขลุ่ย

ริมถนนอึกทึกวุ่นวายอย่างที่มันเป็น รถแมล์แผดเสียงแตรสนั่น เพื่อหยุดรถแท็กซี่ที่กำลังจะเลี้ยวออกมาจากซอย มอร์เตอไซค์เร่งเครื่องบิดผ่านรถเมล์คันนั้นไป รถไฟฟ้าดังกึงกังอยู่ด้านบน โดยไม่ได้ใส่ใจกับการจราจรที่วุ่นวายข้างล่าง ผู้คนบนรถเมล์บ้างหลับบ้างพูดคุย ส่วนที่เดินบนท้องถนนนั่นเล่า ถ้าไม่รีบเร่งปานพายุ ก็ใส่หูฟังอยู่ในโลกส่วนตัวของใครของมัน

แล้วใคร...จะฟังเสียงขลุ่ย

คนบางคน ใช่เพียงแต่จะไม่มีที่จะซุกหัวนอน แม้แต่พื้นที่ในอากาศก็ยังแทบจะไม่เหลือไว้ให้เสียงขลุ่ยเล็กๆของเขาได้มีโอกาสเบียดแทรกขึ้นมาได้เลย แวบหนึ่ง ฉันนึกถึงสถานที่บางแห่งในโลก ซึ่งมีที่ทางไว้ให้การแสดงง่ายๆของนักดนตรีเปิดหมวกเหล่านี้ ที่ที่เสียงเพลงของเขาจะมีคนมายืนฟังมัน ได้รับการยอมรับ ได้รับเสียงปรบมือ และได้รับสตางค์ที่คนฟังตั้งใจหยิบยื่นให้ ไม่ใช่เพียงล้วงหาเศษเหรียญในกระเป๋าแล้วส่งให้โดยไม่ทันจะหยุดยืนฟังด้วยซ้ำ

นักดนตรีข้างทาง กับขอทานข้างถนน สำหรับสังคมนี้แล้ว มันเหมือนกันไปเสียหมด

...

ฉันนึกถึงผู้ชายอีกคน เขาเป็นอดีตบรรณาธิการนิตยสารถึงสามฉบับ คือ ชีวจิต, Love and Share, และ All ครั้งหนึ่ง ในวันที่เขาไม่มีเงินเลย เขาก็ไปเป็นนักดนตรีเปิดหมวก “ผมอยากจะทำอะไรสักอย่างที่ยืนยันว่าผมยังมีชีวิตอยู่...ผมตั้งใจจะขายเสียงเพลงจากความสามารถ ไม่ใช่ขายภาพขอทาน” (ธนาคม พจนาพิทักษ์; ปลาที่บินได้)

แต่ต่างคนย่อมต่างคิด ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าฉันคนนี้ เขาก้มหน้าก้มตาเป่าขลุ่ยไปเรื่อย ดูไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับความว่างเปล่ารอบๆตัว ก็ไม่แน่ เขาอาจไม่ได้เป่าขลุ่ยเพื่อให้ใครมาฟัง อาจจะเป็นตัวเขาเองที่อยากฟัง เพราะเป็นไปได้ว่าสิ่งที่เขามีเหลืออยู่นั้น ก็แค่เสียงเพลงที่ช่วยให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างมีความหมาย ไม่ใช่เศษสตางค์เล็กน้อยในขันนั่นหรอกที่จูงใจให้เขาอยากมีชีวิตแบบนี้

เสียงขลุ่ยเบาๆที่แว่วมา ไม่ได้เกิดจากการเล่นไปแค่พอให้มีเสียงเพื่อแลกเศษตังค์เท่านั้น ขลุ่ยที่เล่นเป็นเพลง มีเสน่ห์อยู่ในเนื้อเสียงอันเหงาๆอยู่แล้ว แม้จะอยู่ท่ามกลางเสียงอึกทึกครึกโครมของสิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการเสพดนตรีสักเท่าไหร่นัก แต่ฉันก็เพลิดเพลินไปกับเพลงแผ่วเบาที่ลอยมากระทบหูฉันได้

...

ฉันคงยืนคิดอะไรอยู่นานทีเดียว ใบหน้าที่ซ่อนใต้หมวกซอมซ่อใบนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมามอง ฉันถูกจ้องจนชาวาบไปทั้งตัว นึกกลัวใบหน้าปุปะและสายตานั้นอย่างไม่มีเหตุผล ได้แต่ละล่ำละลักบอกอยู่ในใจว่า ...ฉันมาดีนะ ไม่ได้มาร้าย...

แต่แล้วอึดใจต่อมา เหมือนฟ้าสว่างขึ้นมาทันที เมื่อฉันเห็นรอยยิ้มปรากฎขึ้นบนใบหน้านั้น มันเป็นรอยยิ้มที่เปลี่ยนใบหน้าอันน่ากลัวของเขาให้กลายเป็นใบหน้าของคนธรรมดาที่มีชีวิตจิตใจ มีความรู้สึก และมีความสามารถที่จะพูดคุยสื่อสารกับใครๆได้ และไม่ได้แตกต่างอะไรจากฉันเลย

และท่ามกลางรอยยิ้มของชายที่ดูเหมือนว่าจะยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับความโชคดีเสมอนั้น โลกก็ดูสวยงามขึ้นมาอีกหลายร้อยเท่า เมื่อเขาพูดประโยคที่ฉันไม่คาดคิดว่าจะได้ยินจากเขาว่า

“ขอให้น้องโชคดีนะครับ”

แค่เพียงมีที่ทาง, ฉันคิด
ไม่ใช่ที่ทางในทางกายภาพ แต่ที่ทางในความคิดของฉันต่างหากที่มันคับแคบตีบตัน

วูบนั้น ฉันถึงได้กลัว



Create Date : 21 มิถุนายน 2551
Last Update : 22 มิถุนายน 2551 11:43:42 น. 10 comments
Counter : 1021 Pageviews.

 
อ่านแล้วรู้สึกสะเทือนใจ
กับความรู้สึกบางอย่าง...
แต่ก็แฝงถึงความอบอุ่น
อยู่ลึกๆเหมือนกันนะ


โดย: สุดท้ายก็ชื่อนี้ วันที่: 21 มิถุนายน 2551 เวลา:3:28:38 น.  

 
เสียงขลุ่ยเล็ก ๆ แต่ก็กังวาลในใจของคนเป่าและคนตั้งใจคนบางคนนะครับ

เขียนได้ดีจัง


โดย: พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง วันที่: 21 มิถุนายน 2551 เวลา:3:53:09 น.  

 


โดย: IndyMania วันที่: 21 มิถุนายน 2551 เวลา:7:41:54 น.  

 
แวะมาอีกที...
ขาหักหายไวๆนะครับ


โดย: สุดท้ายก็ชื่อนี้ วันที่: 21 มิถุนายน 2551 เวลา:8:01:35 น.  

 
อ่านแล้วจินตนาการเห็นภาพเชียวค่ะ
นักดนตรีข้างทาง กับขอทานข้างถนน สำหรับสังคมนี้แล้ว มันเหมือนกันไปเสียหมด
แค่รอยยิ้มและคำพูดบางคำก็ทำให้โลกสวยงามได้นะคะ


โดย: พูษรี วันที่: 21 มิถุนายน 2551 เวลา:14:30:20 น.  

 
บทบาทของคนบนโลกไม่เหมือนกัน เหมือนบนเวที นักแสดงนำ นักแสดงประกอบ เต้นท่าเดียวกัน จังหวะเดียวกัน เด่นต่างกัน แค่เขายืนอยู่ตรงไหนของสายตาเราก็เท่านั้น

หมายความว่า แล้วแต่เราจะสนใจ แต่บนเวทีนั่นเราถูกกำหนดให้สนใจ แต่ในเวทีดินที่เดินอยู่ทุกวี่วัน เราต้องกำหนดเอง

สายตาจะถูกทิ้งไปตรงไหนก็แล้วแต่เรา

ตัวประกอบ ขอทานคนนั้น หรือป้าขายขนมหวาน หรือลุงรับจ้างนั่งเฝ้าขยะ จะเด่นแค่ไหน ขึ้นอยู่กับสายตาเราเฝ้ามอง

แต่เชื่อไหม
ว่าเรามีไฟโฟล์โลว์ติดตามเราทุกคน! เด่นบ้างไม่เด่นบ้าง

มนุษย์ชินตากับแสงไฟ
มักไม่ค่อยตื่นเต้นกับแสงสว่าง
ยิ่งแสงน้อย ยิ่งไม่สนใจ
แต่กับบางคน ที่ที่แสงน้อยนั้น ช่างโรแมนติก ช่างน่าค้นหา นวลตา น่ามอง - มี่น่าจะเป็นคนประเภทนี้

คล้ายกัน
เรามักเจอส่วนที่โลกนี้มี
เหมือนคลำหลังไปเรื่อยแล้วเกิดเจอรอยแผลเป็น

สิ่งที่ได้ ไม่ไปหาหมอก็ยอมรับมัน
แล้วแต่อุดมการณ์แห่งการจัดการ

ขอทานที่สถานีรถไฟฟ้าหมอชิต
โปรยหัวกระดาษเปล่าที่เปื้อนเปรอะรอยปากกาน้ำเงินไว้ว่า
"ฉันมีค่าแค่ไหน"
เขาหลับอยู่ ไม่รู้หรอกว่าพี่ยืนอยู่ตรงนั้นหลายนาที

เสียงขลุ่ยของนักพเนจรคนนั้น
เบาบางจนคนริมทางไม่ได้ยิน

ปากกาน้ำเงินถูกๆ แท่งนั้น
ก็ธรรมดาเกินกว่าใครจะสนใจ

แต่ว่าไหม
บางครั้ง เพียงเสียงจิ้งจกร้อง
มันก็ก้องไปทั่วจักรวาล

แล้วแต่หูเราจะมอง


โดย: Dinner31 วันที่: 21 มิถุนายน 2551 เวลา:15:13:07 น.  

 

สวัสดีค่ะปอแวะมาขอบคุณ
พร้อมกาแฟถ้วยโตค่ะ

ขอดทษที่ยังไม่ได้แวะอ่าน
ติดไว้ก่อนนะคะ
วันนี้ สุขภาพยังไม่เอื้อเลยค่ะ งุงิ


โดย: Butterflyblog วันที่: 21 มิถุนายน 2551 เวลา:16:27:14 น.  

 
เขียนได้ดีครับ
อ่านแล้วได้คิด




โดย: ก๋า เก็กเสียง (กะว่าก๋า ) วันที่: 21 มิถุนายน 2551 เวลา:19:13:57 น.  

 
ใช่คนเดียวกับตรงข้ามสยามเซ็นเต้อปะ อันนั้นก็เพราะดี


โดย: ปุ๊กกู่ IP: 58.8.181.51 วันที่: 23 มิถุนายน 2551 เวลา:0:49:28 น.  

 
ดนตรีคือสิ่งที่ทำให้วณิพกแตกต่างกับขอทาน

และดนตรีก็เป็นสิ่งที่ทำให้จิตใจเราอ่อนโยนขึ้น


โดย: เพราะผมไม่มี Time Machine วันที่: 25 มิถุนายน 2551 เวลา:2:34:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

gluhp
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 16 คน [?]




Here...
I'm on the rooftop

Between...
pavement and stars.

Here's...
hardly no day
nor hardly no night

There're things...
half in shadow
and half way in light

It's where...
I gather my thoughts
and grow my dreams

which...
are scattered
all around

In my words,
my songs,
my dance.

คน นั่งจ้องชีวิต
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2551
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
21 มิถุนายน 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add gluhp's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.