1 2 3 4 5 6
7 8 9 10 11 12 13
14 15 16 17 18 19 20
21 22 23 24 25 26 27
28 29 30
Our Luang Prabang Trip (part 4) : Mekong River, Ban Xang Hai and Tham Ting
29 กรกฎาคม - 1 สิงหาคม 2551 หลวงพระบาง ประเทศลาว ตอนแรกนึกว่า ไปหลวงพระบางมาไม่น่าจะเขียนบล็อกได้หลายตอน...แต่เขียนเท่าไหร่รูปก็ไม่หมดเสียทีนะคะ เพราะแม่เอื้อยถ่ายมาเยอะมาก แปลกใจตัวเองเหมือนกัน ที่เมืองเล็กๆแค่นี้ จะมีความน่ารัก น่าสนใจ ให้อยากถ่ายรูปได้มากมายขนาดนี้ *** ความเดิมจากตอนก่อน... พอเราเดินชมวัดเชียงทองเสร็จแล้ว เราก็เดินลงบันไดลงมาที่ถนนเลียบโขง ตรงหน้าวัดจะมีบันไดลงท่าน้ำค่ะ พิณกับรูปปั้นสิงห์ขาว(หรือตัวอะไรก็ไม่อาจทราบได้???) ตรงบันไดลงท่าน้ำ ป่าป๊าลงไปรอริมน้ำแล้ว เรือของเรามาแล้วค่ะ....ตอนก่อนที่เราจะเดินขึ้นไปวัด พี่คนขับเรือเข้ามาเสนอตัวว่าจะพาไปเที่ยวถ้ำติ่ง หมู่บ้านช่างไห หมู่บ้านทำกระดาษสา และจะไปทานข้าวที่หนึ่ง ในราคา 1500 บาท เราต่อลงมาได้เหลือ 1300 บาท ซึ่งก็ว่ายังแพงอยู่นะเนี่ย พอคุยกับพี่คนเรือเสร็จ ก็มีอีกคนเดินเข้ามาทันทีบอกว่า "ไปรถก็ได้นะครับ ผมเอา 1000 เดียว" ....และมีหยอดท้ายให้เรากลัวเล่นๆ ว่า "เมื่อไม่กี่วันก่อน มีฝรั่งพายเรือคายักไปจมน้ำตายนะพี่ ไปรถปลอดภัยกว่า" แต่ในที่สุด เราตัดสินใจไปเรือกันค่ะ เพราะชอบนั่งเรือมากกว่ารถ และพี่คนขับเรือแอบมากระซิบบอกว่า "เราไปริมๆแม่น้ำครับ ไม่ได้ไปตรงกลาง ผมขับทุกวันไม่เป็นไรหรอกพี่ ฝรั่งเค้าคายักไปกลางแม่น้ำ ติดไม้เข้า เค้าไม่รู้" ไม่รู้จะเชื่อใครแต่....ไปก็ไป(ฟะ) เรือมาแล้วคร๊าบบบบบบบ มีเสื้อชูชีพเรียบร้อย..แม่ค่อยโล่งใจ เรือลำใหญ่นั่งสบายพอสมควร แต่แล้ว พี่ก็บอกว่า ต้องไปเปลี่ยนเรือเล็กเพราะตอนนี้ยังไม่ใช่คิวผม .......อ้าวววววววววววววววจอดเทียบเปลี่ยนเป็นเรือลำที่จอดตรงนั้น เหลือลำแค่นี้ เยๆ ออกเดินทางแล้ว... น้ำมันหมด...ขอจอดเติมหน่อยครับ ปั้มน้ำมันริมตลิ่งแม่น้ำโขง ไปต่อได้แล้วในที่สุดค่ะ....เราก็นั่งชมวิวทิวทัศน์ สองฝั่งแม่น้ำไปเรื่อยๆ เด็กๆ เล่นน้ำ กระโดดน้ำกันน่าสนุก มาเล่นด้วยกัน บ่? หน้าตาพี่ก้าร์อยากลงไปว่ายกับเค้าสุดๆ นั่งต่อไปเรื่อยๆ ฝนก็เริ่มตกลงมาค่ะ.... จากรูปบนจะเห็นว่า ต้องแก้เชือกที่มัดผ้าใบกันฝนให้ลงมา....เราค่อยๆแก้มัดเชือกแล้วคลี่ๆ ผ้าใบ ปรากฎว่า มี ตะขาบ ตัวยาวคืบนึงได้ วิ่งปรู๊ด ออกมาตรงด้านพี่ก้าร์ค่ะ....ป่าป๊าก็ได้แต่มองเพราะไม่รู้จักว่าตัวอะไร จนแม่เอื้อย (ที่กำลังช็อกพูดไม่ออก) ตะโกนบอกไปเป็นภาษาไทยว่า "มันกัดๆๆๆๆๆ" ป่าป๊าเลยเอาหมวก ฟาดตะขาบตกน้ำไปค่ะ ตอนคลี่ผ้าใบกันฝนอีกด้าน...แม่เอื้อยเครียดมากค่ะ กลัวว่าถ้าคราวนี้เป็นงูเลี้อยออกมาจะทำอย่างไร...แต่โชคดีที่ไม่มีตัวอะไรออกมาให้ตกใจค่ะ กลัวจริงๆนะเนี่ย*** เวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง....พวกเรานั่งเรือจนเริ่มเมื่อยก้นและหิวข้าวแล้ว เลยเริ่มงอแงกับคนขับเรือ เค้าเลยบอกว่า งั้นแวะหมู่บ้านหน้าก็แล้วกัน ที่หมู่บ้านนี้มีร้านก๋วยเตี๋ยวอยู่ร้านนึง เราเลยแวะหมู่บ้านนี้ก่อนที่จะไปเที่ยวถ้ำค่ะหมู่บ้านซ่างไห หมู่บ้านซ่างไห (ช่างไห ภาษาไทย) เป็นหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงในด้านการทำเหล้าพื้นเมืองด้วยวิธีแบบดั้งเดิม...แต่ตอนนี้เราหิวข้าวมากเลยไม่หยุดดูการทำเหล้าค่ะ บริเวณหมู่บ้าน ถามชาวบ้านว่า ร้านเฝอ อยู่ที่ไหน เค้าบอกให้น้องเสื้อสีส้ม ที่ชื่อน้อย พาไป ตามน้อยไปเล้ย.... ถึงแล้วค่ะ ร้านก๋วยเตี๋ยวของเรา ใช้ฟืนต้มน้ำซุปค่ะ "ลวกถั่วงอกนานๆนะคะ" แม่เอื้อยคอยกำกับ แอ่นแอนแอ๊นนนนนนนนน...น่าทานมั้ยคะ ก๋วยเตี๋ยวใส่ "ชิ้นหมู" มองๆ ดูก่อน แต่ด้วยความหิวก็กินแต่โดยดีไม่มีบ่น.... มีอะไรก็ต้องทานนะลูก เป็นลูกแม่เอื้อยห้ามเรื่องมาก.... ((((จริงๆแล้ว ตอนแรกพอเห็นร้านก๋วยเตี๋ยว แม่เอื้อยก็ใจไม่ดีเหมือนกันค่ะ แต่ดูดีๆ เห็นว่าน้ำเดือดๆ และหมูลวก กับเครื่องปรุง ใส่ภาชนะสะอาดมีฝาปิดทุกใบ เลยเบาใจขึ้นค่ะ ...... ))))อร่อยมากๆ ครับ ก๋วยเตี๋ยวหมู อร่อยมากค่ะ เค้าจะมีผักมาให้ใส่ด้วย แต่แม่เอื้อยยังไม่เก่งเลยไม่กล้าใส่ แค่บีบมะนาว และใส่พริกผัดของเค้า อร่อยจริงๆ ของผู้ใหญ่ ชามละ 10000 กีบ (40บาท) ของเด็ก 8000 กีบ....จะว่าไปราคาพอๆ กับที่เมืองไทยเลยนะคะ พี่ออสการ์บอกว่า ไม่เคยทานก๋วยเตี๋ยวที่ไหนอร่อยเท่าที่นี่เลยค่ะ ทานเสร็จแล้ว น้องพิณ กับน้องน้อย ก็แลกเปลี่ยนสินค้า(ซื้อของ) กันทันทีแม่ค้ายิ้มหวานน่ารัก กินอิ่ม ช็อปปิ้งเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินไปดูการกลั่นเหล้ากันค่ะพี่ก้าร์ กับ แผนผังกรรมวิธีการผลิต อันนี้ของจริง เหล้าของที่นี่ ทำจากทั้งข้าวเหนียวดำและข้าวเหนียวขาว โดยมีแบบแอลกอฮอล์ไม่สูงมาก หน้าตาคล้ายๆ กระแช่ บ้านเรา และแบบกลั่นจนได้แอลกอฮอล์ในระดับสูงขึ้น มีลักษณะใส ใส่ขวดขายแบบนั้น และมีทั้งนำมากรอกขวดที่มี งู นานาชนิดด้วยค่ะ ถามชาวบ้านเขาว่างูก็จับเอาแถวๆนี้แหล่ะ พี่ออสการ์อยากได้มาก แต่แม่เอื้อยห้ามไว้เพราะไม่คิดว่าจะผ่าน ตม ยุโรป นะคะ...เลยถูกลูกชายสุดที่รัก งอนใส่เลย ส่วนคนนี้ ชิมทุกชนิด ยกเว้นแบบที่มีงู *** ถ้ำติ่ง อิ่มหนำสำราญแล้ว ฝนก็หยุดตกพอดี เราก็นั่งเรือเดินทางต่อไป "ถ้ำติ่ง" ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 30 นาที จากหมู่บ้าน พอไปถึง คนเรือบอกว่า ท่าเต็มเข้าไม่ได้ แล้วก็หันหัวเรือมาเทียบบันไดตรงนี้ให้แทนค่ะ..เรือจอดปุ๊บ ก็วิ่งขึ้นไปกันเลย ระหว่างทางเดินไปถ้ำมีเด็กผู้ชายตัวจิ๋วคนหนึ่ง พยายามขายนกปล่อยให้เรา...ตื้อมาก แต่ไม่น่ารำคาญเพราะเด็กหน้าตาน่ารักมาก อ้อนวอนอยู่นานเหมือนกัน และน้องพิณก็อยากได้ แต่แม่เอื้อยว่าแพงก็ต่อราคาไปมา....ระหว่างนั้นมีผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาช่วยเด็กคนนั้น แม่เอื้อยก็นึกว่าเป็นแม่เด็ก ก็เลยโอเค ซื้อนกหนึ่งตัวให้พิณ ส่งเงินให้ผู้หญิงคนนั้น แล้วเดินไป..... เด็กคนนั้น ร้องไห้จ้าค่ะ....แม่เอื้อยตกใจถามว่า "ร้องทำไม? ก็ซื้อแล้วให้ตังส์แม่เราไปแล้วนี่" เจ้าหนูคนนั้นตอบเสียงสะอื้นมาว่า "ฮือๆๆๆ คนละเจ้า ฮือๆ ไม่ใช่แม่ ฮือๆๆๆ" แม่เอื้อยได้แต่ อ้าว...แต่ก็บอกไปว่า นกตัวเดียวก็พอแล้วนะ ขอโทษทีนะลูก.....แต่ในใจแม่เอื้อยนี่จ๋อยสนิท พิณกับนกปล่อยในกรงไม้ไผ่ พ่อกับลูกชายปีนขึ้นไปแล้ว ประวัติของถ้ำ...อ่านภาษาลาวออกกันมั้ยคะ?...... ถ้ำติ่งเป็นถ้ำบนหน้าผาริมแม่น้ำโขง มีหินงอกหินย้อยอยู่ในถ้ำ เลยทำให้มีชื่อว่า "ถ้ำติ่ง" ...ภายในถ้ำมีพระพุทธรูปใหญ่น้อยมากมายเป็นพันๆรูปประดิษฐานอยู่ในถ้ำ ไม่มีใครทราบว่าพระพุทธรูปองค์ที่เก่าที่สุดนั้นมาอยู่ที่ถ้ำนี้ตั้งแต่เมื่อใด....คนลาวนิยมนำพระพุทธรูปมาไว้ที่ถ้ำนี้เป็นการทำบุญ และในเทศการสงกรานต์ ชาวหลวงพระบางก็นิยมนั่งเรือมาสรงน้ำพระกันที่ถ้ำติ่งแห่งนี้ค่ะงดงาม ดูถ้ำเสร็จ..เราก็เดินย้อนกลับไปที่เรือที่จอดรออยู่ค่ะพี่ออสการ์ แหงนมองน้ำหยดจากรากไม้ข้างบน พิณขอพักขา สองนาทีนะคะ ขากลับเดินย้อนทางเดิม แม่เอื้อยเดินผ่านเด็กๆ ขายนก ด้วยหัวใจหนักอึ้ง...หันไปเจอ เด็กน้อยคนนั้น ยังสะอึกสะอื้นอยู่เลย โดยมียายปลอบไปมา "บ่ เป็นหยังนะลูก เปิ้นเค้า บ่ ซื้อแล้ว บ่ เป็นหยัง" .....โอย ช่างบีบหัวใจเราจริงๆ แม่เอื้อยเลยกวักมือเรียกมาบอกว่า "มานี่ มาถ่ายรูปกับพี่พิณก่อน แล้วจะให้ตังส์ แต่ไม่เอานกนะ" ......ได้ผล น้ำตาแห้งทันที เลยได้รูปที่แม่เอื้อยชอบที่สุดในทริปหลวงพระบางนี้ค่ะ เจ้าตัวน้อยหน้าพิณคือเด็กคนนั้นค่ะ เด็กคนอื่นคงได้ยินเลยวิ่งเข้ากล้องมาด้วย แต่แม่เอื้อยรีบคว้าน้องพิณหนีลงเรือไปเพราะไม่งั้นคงหมดหลายหมื่น(กีบ) นะคะ....... ขากลับ คนขับเรือให้พี่ก้าร์เป็นคนขับเรือกลับหลวงพระบาง และสอนวิธีหลบไม้กลางน้ำให้ด้วย ทำให้ทริปนี้ เด็กชายออสการ์ มีความสุขเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษค่ะโตขึ้นผมจะเป็นคนขับเรือที่หลวงพระบางครับ *** ** * จะเบื่อกันมั้ยนะ ....ถ้าจะบอกว่า ยังจะมีตอนที่ 5 ค่ะ
Create Date : 05 กันยายน 2551
Last Update : 7 กันยายน 2551 6:26:02 น.
16 comments
Counter : 3517 Pageviews.
โดย: มดจ้า IP: 124.120.38.128 วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:18:39:20 น.
โดย: แม่ลูกแฝด วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:19:31:40 น.
โดย: เด็กดอยหลงทาง IP: 124.121.28.254 วันที่: 8 กันยายน 2551 เวลา:19:43:45 น.
โดย: pim(พิม) วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:0:43:32 น.
โดย: แตง IP: 58.181.167.117 วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:12:26:55 น.
โดย: edelweiss วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:14:56:47 น.
โดย: Pebble IP: 58.8.108.180 วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:19:41:23 น.
โดย: aung IP: 62.82.184.206 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:21:19:08 น.
โดย: BFR วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:15:29:34 น.
โดย: edelweiss วันที่: 1 ตุลาคม 2551 เวลา:20:02:52 น.
โดย: nordcapp IP: 58.8.169.236 วันที่: 5 ตุลาคม 2551 เวลา:10:26:49 น.
โดย: ใหญ่ IP: 222.123.98.38 วันที่: 4 มกราคม 2552 เวลา:17:30:53 น.
โดย: nordcapp IP: 58.8.167.76 วันที่: 7 มกราคม 2552 เวลา:11:10:47 น.
สงวนลิขสิทธิ์ตามพรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามผู้ใดละเมิดไม่ว่าการลอกเลียนหรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อความใน Blog แห่งนี้ไปใช้ทั้งโดยเผยแพร่และโดยอ้างอิง โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จะถูกดำเนินคดีตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
( พี่ก้าร์กับแผนผังกรรมวิธีการผลิตหน้าหว๊านหวาน )
อึ๋ยกับขวดต่างๆ แถมรูปป่ะป๋า ชิมหม๊ด ยกเว้น ขวดที่มีงู ...ฮา
มีต่อใช่ไหมคะพี่ รอค่าา