Webblog : Futbol Review ท่องไปในดินแดนมหัศจรรย์ที่เรียกว่า...ฟุตบอล
Group Blog
 
 
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
11 เมษายน 2558
 
All Blogs
 
นิทานรองเท้า

ไทยพรีเมียร์ลีก 2015
เชียงราย ยูไนเต็ด 0-1 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
3 เม.ย.58
ยูไนเต็ด สเตเดียม


“พี่ไม่เห็นบอกก่อนล่วงหน้าเลยว่าจะไปเที่ยว วางแพลนนานละหรอ”

ไลน์ของหญิงสาวที่ผมกำลัง “ดู ๆ กันอยู่” เด้งขึ้นมาช่วงหัวค่ำวันพฤหัสบดี...โดยวันรุ่งขึ้นผมจะบินไปเชียงราย เพื่อเชียร์ขุนพล “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดทำศึกกับ “กว่างโซ้ง” เชียงราย ยูไนเต็ด ในเกมที่เจ้าบ้านใจดี เลื่อนแม็ทช์ขึ้นมาเตะเป็น “ไฟร์เดย์ ไนท์” (^-’)b เพื่อให้เด็ก ๆ ของคุณเนวินได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้น ก่อนเปิดบ้านทำศึกระดับเอเชีย นัดสำคัญกับกัมบะ โอซาก้า

ความคิดว่าจะไปเชียงรายครั้งนี้เกิดขึ้นมาในหัวของผมกะทันหัน สักสัปดาห์ก่อนเท่านั้นเอง ^^! และมา “เอาละ ไปแน่ ๆ!” ก็วันอังคารที่ผมให้น้องสาวจองไฟลท์บินให้นั่นแหละ

จากนั้น ผมก็รีบบอกเธอเป็นคนแรกเลยนะ ^-’




จุดหมายปลายทางของทริปนี้คือเชียงราย


จะว่าไป...นี่คือแม็ทช์ที่ผมจะได้ดูบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดถึงขอบสนามครั้งแรกในรอบ 2 ปีเลย คือ...ฤดูกาลก่อน ผมไม่ได้แวะเวียนไปเลยสักครั้งง่ะ ^^! อาศัยดูหน้าจอทีวีเป็นหลัก

ในขณะที่ 2 ฤดูกาลก่อนซึ่งยักษ์ใหญ่แห่งอีสานใต้ฟาดซะ 4 แชมป์นั้น (^.^)/ ผมไปเกาะขอบสนามใน “เกมรับถ้วย” ถึง 3 หน ถ้วย ก, ไทยพรีเมียร์ ลีกและโตโยต้า ลีก คัพ

ปีที่แล้วก็เลยได้เสื้อบุรีรัมย์มาแค่ตัวเดียวเท่านั้นเอง เป็นเสื้อสีขาว เบอร์ 4 ปักชื่อชัปปุยส์ (ก่อนที่มิดฟิลด์แชมป์เยาวชนโลกจะโยกสู่สุพรรณบุรีแบบยืมตัวตอนกลางฤดูกาล (>_<)) ซึ่งผมซื้อตอนไปดูนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลเยาวชน โค้กคัพ ที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดชนะสุพรรณบุรีไป (ส่วนปีนี้ “ปราสาทสายฟ้า จูเนียร์” พลาดท่าเสียแชมป์ให้คู่ปรับอย่างเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด)

จะว่าไปวันนั้นกะช็อปเสื้อสีกรมท่าติดเบอร์ 5 ปักชื่อโรเชลาอีกตัวด้วยซ้ำ แต่ไซส์ที่ผมต้องการดันไม่มีพอดี ไม่คิดหรอกว่ามันจะส่งเอฟเฟคร้ายแรงขนาดนี้! (>_<)

เอฟเฟคอาราย...

ก็ฤดูกาลนี้ดาบิด โรเชลาไม่มีชื่อในศึกไทยพรีเมียร์ ลีกรวมทั้งเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีกน่ะเสะ ไม่รู้ว่าสโมสรจะทำชื่อของเค้า (เพื่อติดลงบนเสื้อ) มาขายผมหรือเปล่า?




เสื้อติดชื่อชาริล ชัปปุยส์ที่ได้มาเมื่อครั้งชมเกมนัดชิงโค้กคัพเมื่อปีก่อน


ดาบิด โรเชลาย้ายสู่ทีมอีสานใต้เมื่อฤดูกาลก่อนเพื่อทดแทนการจากไปของออสมาร์ อิบันเญซ ด้วยความที่เป็นนักเตะสเปน ชาติที่ผมชื่นชอบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็เลยแอบกรี๊ดกร๊าดหมอนี่เป็นพิเศษ ยิ่งได้มาดูคลิปที่นักเตะบุรีรัมย์ต้องโชว์สเต็ปแดนซ์บนเวที (รู้สึกจะงานปีใหม่ แล้วก็รู้สึกว่าเป็นเพลง “แน่นอก” นะ ถ้าจำไม่ผิด) ก็ยิ่งรู้สึกชอบเข้าไปหญ่าย ^O^

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดออกสตาร์ทฤดูกาลก่อนด้วยการฟาดแชมป์ที่ 5 และ 6 ติดต่อกัน (ไม่นับถ้วยเยาวชนอย่างโค้กคัพนะ) ทั้งถ้วย ก และโตโยต้า พรีเมียร์คัพ (^-^)V จนผู้สันทัดกรณีพร้อมใจกันฟันธงว่า

“พวกเพ่ก็เอาถ้วยไทยพรีเมียร์ ลีกไปอีกปีก็แล้วกัน!”

แต่ “ปราสาทสายฟ้า” ออกสตาร์ทฤดูกาลก่อนไม่แจ่ม เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีกที่คุณเนวินวาดหวังจะเป็น “ท็อปไฟว์” ของเอเชียให้ได้ก็ดันมาไถลตกรอบแรกอีก

หลายสิ่งหลายอย่างล้วนประเดประดังเข้ามา -*-

หลายคนชี้เป้าว่าดาบิด โรเชลาดีนะ แต่ยังแทนออสมาร์ไม่ได้! (>_<)

นั่นเป็นเหตุที่ทำให้อันเดรส ตูนเญซต้องย้ายก้นใหญ่ ๆ จากยุโรปมายังเมืองภูเขาไฟแห่งอีสาน!

แล้วพอปีนี้ โควต้านักเตะต่างชาติในไทยพรีเมียร์ลีกลดเหลือ 5 คน ทีมงานบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดก็เลยเลือกนักเตะแนวรับไว้แค่คนเดียว ซึ่งคนนั้นคือตูนเญซ ไม่ใช่โรเชลา!

“แน่นอน...ผมย่อมไม่มีความสุขที่ไม่ได้ลงสนาม แต่ตอนนี้ผมยังเป็นนักเตะของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดอยู่และยังไม่คิดย้ายไปไหน ก็หวังนะว่าจะกลับมามีชื่อในเลกสอง” อดีตปราการหลังเดปอร์ติโบ ลา กอรุนญาสัมภาษณ์กับโกลดอทคอม “ปีที่แล้วผมได้ลงสนามทุกเกม แต่ปีนี้กลับต้องถูกตัดชื่อ...แต่นี่แหละชีวิต นี่แหละคือฟุตบอล ผมเข้าใจมันดี"

ใช่...นี่แหละชีวิต เวลาเปลี่ยน สถานการณ์เปลี่ยน บางสิ่งชะตาเป็นผู้นำมา บางสิ่งเราก็เดินเข้าไปหามันเอง




ดาบิด โรเชลา ปราการหลังตกอับชาวสเปน...นี่แหละชีวิต
Credit ภาพ : buriramunited.co.th


สองปีก่อนตอนเขียนรีวิวเกมถ้วย ก (ที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดชนะเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด) (จากสองประตูของดาวยิงชิเลโนอย่างรามเซส บุสโตส) (แล้วตอนนี้ชะตานำพาเค้าไปอยู่ไหนกันนะ) (ชะตาหรืออะไรนะ) (แล้วจะวงเล็บไปอีกนานมั้ยเนี่ย!) :-p

รีวิวที่ผมคิดรูปแบบเองว่ามันเป็น “ดอคคิว รอมคอม” (ดอคคิวเมนทารี + โรแมนติกคอมเมดี้) ฉบับนั้นยังเล่าเรื่องราวการเลิกรากับ “ยัยดั๊กกี้” อยู่เลย รีวิวฉบับนี้ (ซึ่งผ่านมา 2 ปี) กลับมีสาวคนใหม่เข้ามาหล่อเลี้ยงหัวใจของผมให้ชุ่มฉ่ำซะแล้ว

ก็คนที่ไลน์มาถามผมว่า “พี่ไม่เห็นบอกก่อนล่วงหน้าเลยว่าจะไปเที่ยว วางแพลนนานละหรอ” นั่นแหละ ^-^

ความจริงก่อนหน้านั้นเราคุยกันเรื่อง “รองเท้า” ครับ ไม่รู้ว่าเธอวกมาคุยเรื่องผมไปเที่ยวเชียงรายคนเดียวแบบเพิ่งมาบอกได้ยังไงเหมือนกัน?

คือผมซื้อรองเท้าให้เธอคู่นึงเพราะไปงานเซลส์งานนึงมา เป็นแบรนด์ที่บริษัทเธอจัดงานอีเวนท์ให้บ่อย ๆ ก็เลยคิดว่าเธอต้องมีไว้ใส่ออกงานพวกนี้

“ให้เป็นของขวัญวันเกิดละกัน” ผมบอก

“เอาเป็นฝากซื้อดีกว่าค่ะ หนูถือ...ให้รองเท้าเป็นของขวัญ รองเท้ามันเดินได้ เดี๋ยวจะพาเดินจากกัน...” เธอแย้ง

แต่เธอก็ยังไม่ได้จ่ายตังค์ผม จนก่อนผมไปเชียงราย 1 วันถึงไลน์มาบอกว่า

เธอ “ต้องรีบจ่ายตังค์คืนให้พี่แล้ว รู้สึกช่วงนี้มีเรื่องบั่นทอนความสุขเยอะ”

ผม “คืนพี่ก็ได้นะ ถ้ามันสบายใจขึ้น”

เธอ “คืนตังค์ไง...เราไม่ควรซื้อรองเท้าให้กันนะ จะเดินหนีกัน ถ้าฝากซื้อหรือซื้อต่อก็ไม่เป็นไร”




บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดเริงร่ากับถ้วย ก เมื่อ 2 ปีก่อน


อ่านแล้วผมคิดไปถึงรองเท้า “เสือ” สุดฮิตที่ยัยดั๊กกี้เคยซื้อให้ผม ปรกติเธอไม่ใช่คนโรแมนติกอะไรมาก แต่โน้ตที่เธอแนบมาพร้อมรองเท้าคู่นั้นทำเอาผมน้ำตาซึม T_T

“รองเท้ามันไม่มีทางที่จะมีข้างเดียวหรอกนะ ยังงัยซะก้อต้องอยู่เป็นคู่ ถึงแม้จะเดินเป๋ไปบ้าง ก้อต้องกลับมาอยู่เป็นคู่ของมันอยู่ดี”

แล้วไหนล่ะ?...ที่บอกว่าอยู่กันเป็นคู่ T_T

หรือเคล็ดที่น้อง (ผู้เข้ามาดามหัวใจให้ผม) ถือนั้น...จะเป็นเรื่องจริง...” เราไม่ควรซื้อรองเท้าให้กันนะ จะเดินหนีกัน”

หรือบางทีมันก็แค่โชคชะตาฟ้ากำหนด

หรือไม่แน่อาจจะเป็นเพราะความพยายามของคนสองคนไม่มากพอ เลยมิอาจคู่กัน

นี่แหละชีวิต




ยูไนเต็ด สเตเดียม สนามเหย้าของเชียงราย ยูไนเต็ด


สำหรับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดกับถ้วยแชมป์ไทยพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลที่แล้วนั้น ต้องบอกว่าเกือบจะไม่ได้กลับมาคู่กันซะแล้ว...สตาร์ทฤดูกาลแบบเฉื่อยชา, สปีดเก็บแต้มจนขึ้นนำ, สะดุดจนกลายเป็นทิ้งโอกาสไปทางฝั่งชลบุรี

สุดท้ายไม่รู้ว่าเป็นเคล็ดหรือโชคชะตา (ที่ชลบุรีไปพลาดที่ชัยนาท) ก็แล้วแต่ แต่ที่แน่ ๆ ขุนพล “เซราะกราว” ทั้งปวงนั่นแหละที่ไม่ละความพยายามก็เลยกลับมาเป็นแชมป์ได้สำเร็จ (^-’)b

ภารกิจสู่แชมป์สมัยที่ 4 ของ “ปราสาทสายฟ้า” ในฤดูกาลนี้ (นับเฉพาะบุรีรัมย์ ไม่รวมการไฟฟ้าฯ) เริ่มด้วยการไล่โละดาวเตะเก๋า ๆ อย่างการ์เมโล กอนซาเลซ, ฮาเบียร์ ปาติญโญ ไปจนถึงประทุม ชูทอง (ชาริล ชัปปุยส์ ขวัญใจผมกระเด็นไปก่อนแล้ว) ท่ามกลางคำถามต่าง ๆ มากมาย

แต่สุดท้ายพอฤดูกาลเปิดฉากขึ้นจริง พวกเขาก็แสดงให้เห็นถึงฟอร์มอันไฉไล โดยเฉพาะผลงานระดับมาสเตอร์พีซในระดับเอเชีย จนผู้สันทัดกรณี (อีกแล้ว!) ทั้งหลายยกพวกเขาให้เป็น “เต็งหนึ่ง” ของไทยพรีเมียร์ ลีกปีนี้

แต่ “เต็งหนึ่ง” ทีมนี้ก็ยังไม่เคยขึ้นจ่าฝูงเลยนะตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา ทีมพลาดท่าเสียแต้ม (จากการเสมอ) ง่ายไปหน่อย ทั้งเกมเยือนสุพรรณบุรีหรือเปิดบ้านรับชลบุรีก็ตาม - -"




กองเชียร์ "เซราะกราว" ผู้ภักดี


เครื่องแอร์ เอเชียพาผมมาถึงเชียงรายเกือบบ่ายโมง ด้วยความที่ยังไม่มีตั๋วชมเกมนี้ แล้วนี่ก็เป็นเกมที่ทีม “ระดับเอเชีย” มาเยือนซะด้วย เกรงว่าจะหาตั๋วลำบาก ผมก็เลยบึ่งไปสนามบอลก่อนเลย

“สนามบอล...เริ่มต้น 200 บาทนะ” แท็กซี่แบบเหมาจ่ายบอก

เฮ้ย! ผมอ่านเจอมาว่าสนามบอลมันใกล้สนามบินเลยนะ 200 นี่ก็เกินไป๊ - -"

โชคดีที่เขายังมีน้ำใจ พอเห็นผมไม่โอก็เลยกระซิบบอกผมว่า “ถ้าจะขึ้นแบบมิเตอร์ก็เดินออกไปหน่อย”

ผมเดินมาตรงที่จอดแท็กซี่ มิเตอร์ พอคนคุมคิวรู้ว่าผมจะไปไหนก็บอกว่า “เดินไปเลย อยู่ตรงนี้เอง ไม่ต้องเรียกแท็กซี่หรอก”

ผมมองตามมือเขาก็เห็นเสาไฟแบบสนามบอลอยู่ไม่ไกลจริง ๆ ก็เลยเดิน!

ก็ไม่รู้ว่าคิดผิดมั้ยเพราะพอออกจากรั้วสนามบิน ก็ดันเจอกำแพงก่อสร้าง (มารู้จากคนท้องถิ่นทีหลังว่าเขาจะสร้างอุโมงค์ลอดใต้ถนน ซึ่งจะเป็นแห่งแรกของจ.เชียงรายเลย) มันไม่สามารถดิ่งตรงไปสนามบอลได้อย่างที่ผมมโน แล้วนี่...จะเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวาดีล่ะ - -"




ข้างหลังเขตก่อสร้างนั่น...ยูไนเต็ด สเตเดียม


ตัดไวมาเป็นตอนที่ผมถึงสนามแล้วก็แล้วกัน

ด้านนอก บริเวณใต้อัฒจันทร์ เค้าแบ่งเป็นบล็อก ๆ สำหรับร้านขายของกินต่าง ๆ ดูน่ารักดีเพราะเป็นการสร้างงาน สร้างเงินให้คนในท้องที่ได้ด้วย (^-’)b

ผมเดินไปยังบล็อกขายตั๋วและตัดสินใจซื้อตั๋วแบบ 80 บาทซึ่งเป็นตั๋วแบบ “Festival Seat” คือไม่ระบุที่นั่ง จากนั้นก็เดินเชียงราย ยูไนเต็ด เมกะ สโตร์ต่อเพื่อซื้อเสื้อแข่งเป็นที่ระลึกสักตัวนึง

ง้างมาแต่บ้านแล้วว่าจะซื้อเสื้อทีมเยือนสีฟ้า-ขาวเพราะมันเหมือนชุดแข่งทีมชาติอาร์เจนตินา (ทีมโปรดของผม เช่นเดียวกับสเปนและเม็กซิโก) คุณฟลุค ธีรยุทธ บัญหนองสา นักพากย์ของทรูวิชันส์ยังพากย์แซวเมื่อวันเปิดฤดูกาลที่ออกไปเยือนบีอีซี เทโรเลยว่า

“อย่าคิดว่าเป็นทีมชาติอาร์เจนตินาหรือว่าทีมมาลากาในลา ลีกานะครับ”

ไม่รู้สิ ผมชอบเสื้อที่มีติดเบอร์และชื่อนักบอลในทีมด้วย ผมว่ามันดู “อิน ๆ” มากกว่าเสื้อเปล่า ๆ นะ เชียงราย ยูไนเต็ดนี่ผมชอบเฟร์นานโด เฟร์เรยรา กองหลังผมยาว หมายเลข 40 ที่สุดละ

“มีเบอร์และชื่อติดเสื้อด้วยรึป่าวครับ?” ผมถาม

“มีค่ะ แต่ไม่ได้วันนี้นะคะ” พนักงานในช็อปตอบ

“พรุ่งนี้ได้ไหม?” ผมพยายามต่อรอง ก็แค่ขากลับที่ต้องมาสนามบินอยู่แล้ว ก็แวะสนามบอลซะหน่อย

“อาจจะต้องบ่ายสอง บ่ายสามเลยค่ะ เรามีคนทำคนเดียวจริง ๆ และคิวก็เยอะมาก” พนักงานคนเดิมว่า

ผมขึ้นเครื่องรอบบ่ายโมง...สุดท้ายก็เลยจำต้องซื้อแค่เสื้อเปล่ามา -*-

น่าเสียดายจริง ๆ ผมว่าการติดเบอร์ ติดชื่อมันไม่ได้ยุ่งยากอะไร (มั้งนะ) เท่าที่ผมเคยผ่านตามากับเมกะ สโตร์ของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดหรือแม้กระทั่งช็อปของทีมเล็ก ๆ อย่างสมุทรสงครามก็ล้วนได้ของกันเดี๋ยวนั้นทั้งนั้นเลย ส่วนช็อปของบางกอก เอฟซีนั้น ติดครึ่งแรก มารับของช่วงพักครึ่งได้




บรรยากาศในเชียงราย ยูไนเต็ด เมกะ สโตร์


ได้ตั๋ว ได้เสื้อ ผมก็เลยข้ามถนนไปกินข้าวที่ร้าน “ข้างแกงหน้าสนาม” แก้หิวซะหน่อย กินเสร็จก็เห็นผู้ชายคนหนึ่งในเสื้อเชียงราย ยูไนเต็ดสีฟ้า-ขาวเดินเข้ามาสั่งข้าว พอโฟกัสหน้าได้ชัด ๆ ก็เป๊ะเลย

“อาทิตย์ ธนูศร” อดีตผู้รักษาประตูเชียงราย ยูไนเต็ดและรุ่นพี่โรงเรียนของผมนั่นเอง ก็เลยหยุดแวะพูดคุยสารทุกข์สุขดิบซะหน่อย

“ตอนนี้พี่ก็ดูอคาเดมีของเชียงรายอยู่ ไล่ตั้งแต่รุ่น 12, 14, 16 ปีเลย ส่วน 18 ปี เราส่งไปเล่นให้น่าน ในลีกภูมิภาค” พี่ตี้สาธยาย แล้วไปไงมาไงไม่รู้มาคุยถึงเสื้อทีมเยือนซะได้

“จะว่าไป พี่ว่ามันดูไม่ใช่นะ สีฟ้า-ขาวมันไม่บอกความเป็นเชียงราย ยูไนเต็ด” อาทิตย์ให้ความเห็น

“ได้แรงบันดาลใจมากจากทีมชาติอาร์เจนตินามั้งพี่” ผมวิแคระ

“เหรอ?...เอ๊ แต่รู้สึกว่าท่านประธานจะเชียร์บราซิลนะ” อดีตผู้รักษาประตูจอมหนึบว่า

ไม่แน่...ปีหน้าเสื้อทีมเยือนอาจจะสีเหลือง! (อันนี้ผมมั่ว! ^^!)




พี่ตี้ อาทิตย์ ธนูศร อดีตผู้รักษาประตูจอมหนึบของเชียงราย ยูไนเต็ดและสวนกุหลาบ


คุยกันสักพัก ผมก็ขอลาและเดินทางไปเช็คอินยังโรงแรมที่โทรจองไว้ ซึ่งผมเลือกพักที่โรงแรมเดอฮัก แถวเด่นห้า โดยห้องแบบ Superior นั้น ช่วงโปรโมชันราคาแค่ 880 บาทเท่านั้น แถมอาหารเช้า

ก็รู้สึกประทับใจหลายอย่างนะ พนักงานเอาใจใส่ ดูแลดี เรียกชื่อจริงผมด้วยความนอบน้อม โดยมีคำว่า “คุณ” นำหน้าทุกครั้ง จนผมต้องคิดในใจว่า “ไม่ต้องทักกันทุกครั้งก็ด้ายยยยยยย”

ส่วนห้องหับก็สะอาดสะอ้าน กว้างขวางดี ผมเล่าให้น้องที่ถือเคล็ดเรื่องรองเท้าฟัง เธอบอก “ห้องกว้าง ๆ ไว้ให้พี่เล่นไพ่ไง!”

นอน ๆ ดูทีวีสักพักก็ได้เวลาไปสนาม ตลอดเส้นทางเห็นชาวเชียงรายในชุดเสื้อสีส้มบิดมอเตอร์ไซค์อยู่แทบตลอดเหมือนกัน บ้างก็มาเดี่ยว บ้างก็มีสาวซ้อนท้ายมาด้วย ทุกคนพร้อมไปส่งใจให้กว่างโซ้ง...ทีมรักของพวกเขา




บรรยากาศบริเวณล็อบบี้โรงแรมเดอฮัก


หน้าสนามมีบูธสปอนเซอร์มากมาย วันนี้มีเปิดตัวดีแทคที่มีโปรโมชันร่วมกับสโมสรด้วย

ส่วนโตโยต้ามีตุ๊กตาหมีน่ารัก ๆ แจก กติกาก็ง่ายมาก แค่ไปถ่ายรูปตัวเองคู่กับรถยาริส แล้วก็โพสต์ลงเฟซบุ๊คหรือไอจี แฮชแท็กอะไรเกี่ยวกับโตโยต้าซะอย่าง แค่นี้เอง

แต่เหมือนบุญมีแต่กรรมบัง โทรศัพท์ของผมสัญญาณเน็ตอ่อนมาก แค่จะเช็คเฟซบุ๊คเพื่อดูรายชื่อทั้งสองทีมยังโหลดแทบไม่ได้เลย อัพรูปถ่ายจะไปเหลือเรอะ! -*-

ในขณะที่แกสบี้ เจลแต่งผมก็แจกอยู่นั่นแหละ เจลแบบทดลองใช้เป็นซอง แจกแบบไม่ดูหัวของผมเลยว่าต้องใช้มั้ย 555

เก็บเกี่ยวบรรยากาศหน้าสนาม พลางซื้อลูกชิ้นกินไปด้วย สักพัก ผมก็เดินเข้าสนาม ก็ว่าจะนั่งใกล้ ๆ กับกลุ่มกองเชียร์ “เซราะกราว” เหมือนกันนะ แต่ด้วยความเข้าใจผิดและขี้เกียจเดินย้อนกลับมา สุดท้ายก็เลยอยู่กันคนละฝั่ง ท่ามกลางแฟน ๆ กว่างโซ้งทั้งหลาย




ตั๋วเข้าชมเกมนี้


นักเตะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดออกมาวอร์มอัพกันก่อน จากนั้นเจ้าบ้านก็เดินตามออกมา นำมาโดยพิชิตพงษ์ เฉยฉิว กัปตันทีม

11 ตัวแรกของเชียงราย ยูไนเต็ดมาในระบบ 4-2-3-1 มีอินทรัตน์ อภิญญากุลเป็นผู้รักษาประตู แผงหลังไล่จากขวามาซ้ายมีเฟร์นานโด เฟร์เรยรา, มุราคามิ คาซูกิ, เกียรติประวุฒิ สายแววและกฤษฎี ประกอบของ

แดนกลางคุมทัพโดยกัปตันทีม พิชิตพงษ์ เฉยฉิว โดยมียุทธจักร ก้อนจันทร์คอยเป็นผึ้งงาน

แนวรุกมีเรนานติญโญคอยทำเกม ส่วนด้านข้างจี๊ดจ๊าดด้วยโชคลาภ นิลแสงทางขวาและรุ่งรัฐ ภูมิจันทึกทางด้านซ้าย

ศูนย์หน้าตัวเป้าใช้บริการของเรนาน มาร์เกซ

การก้าวขึ้นมาคุมทีมอย่างเต็มตัวของธีระศักดิ์ โพธิ์อ้นเมื่อฤดูกาลก่อนต้องบอกว่าเป็น “ปรากฏการณ์” ได้เหมือนกัน แม้จะเป็นโค้ชหน้าใหม่ แต่ “โค้ชโจ” กลับนำทีมจบเลขตัวเดียวแถวบน (ไม่ใช่หวย!) แบบสวย ๆ ได้

แต่ปีนี้ หลังจากเปิดฤดูกาลได้ดีด้วยการบุกไปแบ่งแต้มบีอีซี เทโรได้ กว่างโซ้งตัวนี้ก็ดูเซื่อง ๆ จนจมอยู่ท้ายตาราง ณ ขณะนี้

“สภาพทีมตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรนะ” โค้ชโจให้สัมภาษณ์กับโกลดอทคอม “เป้าหมายแรกในนัดนี้คือต้องไม่แพ้ แต่ลึก ๆ การได้เล่นในบ้านก็มอง 3 แต้มเหมือนกัน อยากให้มันเป็นจุดเปลี่ยนของทีมเพราะถ้าเราชนะบุรีรัมย์ได้ ก็ไม่ต้องไปกลัวใครแล้ว แต่มันคงไม่ง่ายหรอก ก็นี่คือบุรีรัมย์น่ะ อย่างไรก็ตาม เกมนี้เราจะไม่เน้นรับแน่นอน!”




พิชิตพงษ์ เฉยฉิวนำเพื่อน ๆ วอร์มอัพ


ส่วนทีมเยือนมาในระบบเก่งที่คุ้นตา 3-5-2 ตัวผู้เล่นก็คุ้นตาเพราะถ้าผมจำไม่ผิด 11 ตัวแรกในฤดูกาลนี้แทบไม่เคยเปลี่ยนเลย มาเปลี่ยนเอานัดนี้ตำแหน่งนึงตรงวิงแบ็กขวา ที่ส่งอนาวิน จูจีนลงมาแทนนฤบดินทร์ วีรวัฒโนดมที่กรำศึกกับทีมชาติชุดยู 23 มา ส่วนวิงแบ็กซ้ายเป็นธีราทร บุญมาทัน ในขณะที่สามกองหลังเป็นชิติพัทธ์ แทนกลาง, อันเดรส ตูนเญซและกรวิทย์ นามวิเศษ โดยมีศิวลักษณ์ เทศสูงเนินเป็นผู้รักษาประตู

แดนกลางมี “โอ๊ปป้าโก” โก ซุลกิกับสุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีมคอยกำกับเกมรับ มีประกิต ดีพร้อมเป็นเพลย์เมกเกอร์

ส่วนคู่หน้ายังใช้คู่บราซิลเลียนอันตรายเหมือนเดิม จิลแบร์โต มาเซนากับดิโอโก หลุยส์ ซานโต




ส่วนนี่คือการวอร์มอัพของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด


ปราสาทสายฟ้าที่ในลีกยังดูเก็บแต้มไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วยมาก เปิดเกมลุยก่อนเลยตั้งแต่นาทีแรกจากทางซ้าย แต่ทำอะไรไม่ได้ ส่วนกองเชียร์เจ้าบ้านได้ระงมตั้งแต่ต้นเกม

“ไม่ล้ำเหรอ กรรมการ!”

เชียงรายทำในสิ่งที่โค้ชโจบอกก่อนเกม “เราจะไม่เน้นเกมรับแน่นอน!” โดยจังหวะถัดมา อาศัยผู้เล่นที่ฮ็อตที่สุด ณ นาทีนี้อย่างรุ่งรัฐกระชากไปทางซ้าย แต่พอเปิดเข้ามา ศูนย์หน้าของทีมกลับเข้าชาร์จไม่ทัน

ผ่านไป 10 นาที “แชมป์เก่า” เริ่มครองเกมได้ ในขณะที่เจ้าบ้านต้องหันมาใช้เกมโต้กลับ ซึ่งมีเรนาน มาร์เกซกับรุ่งรัฐเป็นอาวุธเด็ด

นาทีที่ 12 บุรีรัมย์ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายสำเร็จ สุเชาว์ไหลออกทางขวาให้อนาวินเติมแล้วเปิดให้ดาวยิงชาวแซมบ้าเข้าฮอร์ส แต่เป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อนแล้ว




สุเชาว์ นุชนุ่ม ปีนี้กลับมาเปล่งประกายในตำแหน่งมิดฟิลด์ตัวกลาง (ที่ยืนต่ำ ๆ)


เชียงราย ยูไนเต็ดก็มีโอกาสเด็ด ๆ เหมือนกันแต่รุ่งรัฐกับเรนานติญโญจบไม่ลง

เห็นรุ่งรัฐเล่นกับตาก็ต้องยอมรับว่าไม่แปลกใจเลยที่ “ซิโก้” เกียริตศักดิ์ เสนาเมืองเรียกเข้าไปติดทีมชาติ เร็ว คล่อง กล้าเล่น ถ้าจะมีอะไรต้องปรับก็น่าจะเป็นจังหวะจบเท่านั้นเอง

เกมมีการปะทะกันประปราย และพอสุเชาว์โดนเสียบล้มไปกองกลางสนาม กองเชียร์เซราะกราวรีบส่งเสียงบอกกรรมการทันที “ใบเหลือง ๆ ๆ”

กรรมการเฉย

แต่กองเชียร์เจ้าบ้านข้างหลังผมไม่เฉย แกสวนทันควัน “ไม่มี!”




รุ่งรัฐ...ดาวเด่นสุดฮ็อตของฝั่งเชียงราย ยูไนเต็ด


นาที 34 บุรีรัมย์ต้องเปลี่ยนตูนเญซ ปราการเหล็กเวเนฯออก แล้วส่งจักรพันธ์ แก้วพรมลงมาแทน โดยถอย “โอ๊ปป้าโก” ลงไปยืนเป็นปราการหลังตัวกลางแทน

“ตูนเญซไม่ได้เจ็บอะไร ที่เราเปลี่ยนเขาออกเพราะมีอาการล้าจากการแข่งขันทีมชาติและการเดินทางเท่านั้นเอง” อเลกซานเดอร์ กามา เฮดโค้ชปราสาทสายฟ้าแจงหลังเกม “ส่วนโกนั้น เขาสามารถเล่นตำแหน่งนี้ได้อยู่แล้ว เราเคยให้เขาลองเล่นตำแหน่งนี้ตอนซ้อมแล้ว”

แค่ล้า แต่ถูกเปลี่ยนตัวออกตั้งแต่ครึ่งแรกแบบนี้ ผมก็แอบกังวลเหมือนกันนะเพราะตูนเญซนี่แทบจะแบกแผงหลังทั้งแผงของทีมเลย แล้วโกล่ะ...ก็รับบทบาทนี้ได้อย่างสุดนิ่งเลยนะ เพียงแต่ตำแหน่งที่ดีที่สุดของดาวเตะชาวเกาหลีใต้คนนี้ ยังไงก็ต้องเป็นมิดฟิลด์!

นาที 39 จังหวะที่ประกิตมาโชว์ลวดลายตรงหน้าอัฒจันทร์ฝั่งที่ผมสิงสถิต กองเชียร์ละแวกผมก็แซวทันควัน

“ประกิต จ่ายแบบวันนั้นหน่อยนะ...วันที่เจอแคเมอรูนน่ะ 5555”




เกมนี้ "โอ๊ปป้าโก" ต้องโชว์สกิลความเป็นกองหลังเกือบชั่วโมง


ช่วงท้ายเกม จากจังหวะสวนเร็วของบุรีรัมย์สองครั้ง ทำเอาเชียงราย ยูไนเต็ดต้องรับไปถึงสองเหลือง ที่เจ็บจี๊ดคือดันเป็นคนเดียวกัน นั่นหมายถึงใบแดง ได้อาบน้ำก่อนน่ะสิ และที่แสบสันต์ยิ่งกว่าก็คือฟรีคิกครั้งที่สองมันคือประตูของทีมเยือน!

เฟร์นานโด เฟร์เรยราคือผู้โชคร้ายคนนั้น ซึ่งเป็นใครก็ต้องทำแหละ ไม่งั้นโอกาสเสียประตูมีสูงมาก

ฟรีคิกครั้งที่สอง “อุ้ม” ธีราทรรับหน้าที่เอง และก็บรรจงปั่นเข้าไปเสียบตาข่ายงดงาม

จบครึ่งแรก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดบุกมานำเชียงราย ยูไนเต็ด 1-0




เฟร์นานโด (40) ฟาวล์ตัดเกมติด ๆ กันแบบนี้ก็สองเหลืองสิ


ธีราทรและสุเชาว์ ประจำการเตรียมยิงฟรีคิก


เป็นธีราทรที่ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่าย


แล้วก็มาเฮฮากับเพื่อน ๆ


ครึ่งหลัง ธีระศักดิ์ยังไม่ได้เปลี่ยนใครลงมาเล่นแบ็กขวาที่หายไป แต่ถอยโชคลาภลงมายืนแทน

นาทีที่ 48 “แบงค์” ชิติพัทธ์ก็มาสังเวยใบเหลืองจากจังหวะดับเครื่องชนกองหน้าคู่แข่ง ทำเอาแฟน ๆ เจ้าบ้านโวย “ไม่เล่นบอลเลยนะ”

เล่นครึ่งหลังไปสัก 12 นาที โค้ชโจก็ตัดสินใจปรับเกม ส่งฉัตรชัย นาควิจิตรลงมาแทนโชคลาภ เรียกว่ายังสติลใช้นักเตะแนวรุก เร็ว ๆ รับบทวิงแบ็กขวาต่อไป

การเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนทำให้เกมของเจ้าบ้านตกเป็นรองอย่างชัดเจน แต่พวกเขาก็สวมหัวใจสิงห์สู้ไม่ถอยเหมือนกัน

บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดมีจังหวะยิงประตูที่สองหลายครั้ง แต่ก็ทำกันไม่เด็ดขาดเอง สกอร์ก็เลยยังตรึงที่ 0-1 สถานการณ์ยังชวนได้ลุ้นกันอยู่




เหลือ 10 คน แผงรับเจ้าบ้านก็ต้องทำงานหนักหน่อย


นาทีที่ 68 ประกิตมารับใบเหลืองเป็นคนต่อไป ก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกอีก 4 นาทีให้หลัง โดยส่งดาวเตะชาวอาหรับ ซูรัต ซุคฮาลงมาแทน...

มันใช่ม้ายยยยยย

สุรัตน์ สุขะต่างหาก! :-p

เชียงราย ยูไนเต็ดปรับเกมบ้าง ส่งณัทธภณ วรทญานันทน์ลงมาเดินเกมแทนเรนานติญโญในนาทีที่ 76 ก่อนที่จะส่งไพ่เด็ดใบสุดท้ายอีก 5 นาทีต่อมา สูตรเซอร์อเลกซ์ เฟอร์กูสันเป๊ะ ๆ ถอดหลัง-เติมหน้า ส่งอานนท์ สังสระน้อย อดีตดาวซัลโวสูงสุดไทยพรีเมียร์ ลีกลงมาแทนกฤษฎี ประกอบของ

เห็นโค้ชโจเปลี่ยนตัวเอา ๆ กามากลัวน้อยหน้า ก็เลยทำบ้าง ส่งสุรีย์ สุขะลงมาแทนอนาวินช่วงห้านาทีสุดท้าย และอยู่ในสนามได้สัก 3 นาทีก็สังเวยใบเหลือง สบายใจไป

อานนท์ สังสระน้อยเกือบจะเป็นโจ๊กเกอร์ให้เจ้าบ้านได้เหมือนกัน เมื่อได้จังหวะหลุดไปเผชิญหน้ากับศิวลักษณ์ แต่ยิงซะเบาโหวง หมดลุ้นเลย

หมดเวลา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดบุกมาเก็บสามแต้มสำคัญ ชนะเชียงราย ยูไนเต็ดไป 1-0




ประกิตกับเกมที่ไม่แจ่มมาก โดนใบเหลืองและถูกเปลี่ยนตัวออก


“เสียดายที่ไม่มีแต้มในนัดนี้ ก่อนเสียประตู เราสู้กับบุรีรัมย์ได้ดีมาก มีโอกาสจบสกอร์ด้วยทั้งจากรุ่งรัฐและเรนานติญโญ แต่ก็ทำไม่ได้” ธีระศักดิ์แถลงหลังเกม “จุดเปลี่ยนก็คือใบแดงท้ายครึ่งแรก แล้วก็เสียประตู ครึ่งหลังเราก็เลยเสียเปรียบ รวมทั้งต้องปรับวิธีเล่น ทำให้ยากที่จะกลับมา แต่ถ้ามองว่าเราเหลือ 10 คน แล้วเจอทีมที่มีมาตรฐานสูงอย่างบุรีรัมย์ แต่เราไม่เสียประตูที่สองนี่ แถมยังสู้ได้สนุกด้วย ก็คงต้องชื่นชมลูกทีมนะครับ”

ในขณะที่ทางฝั่งผู้ชนะ คุณเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรคอมเมนท์สั้น ๆ “เราไม่เคยชนะที่นี่เลย (เสมอ 3 แพ้ 1 ตลอด 4 ปีที่เชียงราย ยูไนเต็ดขึ้นมาสู่ลีกสูงสุด) 3 คะแนนที่ได้วันนี้ขอมอบให้แฟนบอล”

จากที่คาดหวังว่าจะให้นัดนี้เป็นจุดเปลี่ยนของทีม พอพ่ายแพ้ เชียงราย ยูไนเต็ดก็เลยยังหาจุดเปลี่ยนไม่ได้และจมอยู่ท้ายตารางต่อไป แต่ดูจากฟอร์มการเล่นแล้ว ถ้าทุกอย่างเป็นใจ “ปรากฎการณ์” ปีที่แล้วก็น่าจะกลับมาได้ไม่ยาก ความพยายามมีอยู่แล้ว...เหลือแค่โชคชะตาอีกนิดเท่านั้นเอง (^-’)b

กลับกัน...มันอาจจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนของบุรีรัมย์แทนซะก็ได้ ถึงจะยังไร้พ่าย แต่การหนักเสมอมากไปหน่อย ทีมก็เลยยังแขวนอยู่กลาง ๆ ตาราง พอมาชนะในสนามที่พวกเขาไม่เคยลิ้มรสแห่งชัยได้สำเร็จ นอกจากกำลังใจจะมาแล้ว แต้มสะสมยังพุ่งขึ้นไปติดหัวตาราง ได้ลุ้นแชมป์สมัยที่ 4 กันต่อไป




สู้ต่อไป...บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด


การขับรถเองไม่เป็น (ก็เลยไม่เช่ารถ) มีผลเสียคือต้องรอรถสาธารณะ ผมถามหลาย ๆ คน ต่างก็บอก (ไม่รู้แบบปัด ๆ รึป่าว 555) ว่ามีแท็กซี่ผ่านหน้าสนามบ้างน่ะ (เขาคงลืมอวยพรให้โชคดีด้วย) ผมก็เลยยืนรอแท็กซี่อยู่หน้าสนามนานพอควร แต่พอเห็นคนที่ทยอยกลับบ้าน ยังดูคึกคักอยู่หน้าสนามอยู่ ก็เลยยังไม่งัดไม้ตายมาใช้...โทรกลับโรงแรมให้เรียกแท็กซี่ให้หน่อย 555

แล้วโชคชะตาก็เข้าข้างจริง ๆ เมื่อมีแท็กซี่คันนึงวิ่งผ่านมา ผมรีบโบกทันควัน ^^

“อ๋อ! ผมก็มาดูบอลเหมือนกัน นี่รอให้รถทยอยออกกันเยอะ ๆ ก่อน ถึงค่อยออกนี่” โชเฟอร์แถลงไข

บางครั้งโชคชะตาก็เข้าข้างเรา

หลายเรื่องในชีวิตเป็นเรื่องของชะตา

หลายเรื่องในชีวิตเป็นเรื่องของการลงมือทำ

เคล็ดความเชื่อบางครั้งก็แค่ที่พึ่งทางใจ

ผมไม่แน่ใจว่า “นิทานรองเท้า” เรื่องใหม่ของผมจะจบลงแบบไหน แต่ผมสัญญาว่าจะรักษาความรักครั้งนี้ให้ดีที่สุด

และเชื่อว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก็จะทำทุกอย่างเพื่อรักษาแชมป์ (และความเกรียงไกร) ต่อไปอย่างดีที่สุดเช่นกัน




Create Date : 11 เมษายน 2558
Last Update : 11 เมษายน 2558 3:12:06 น. 0 comments
Counter : 968 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

baevi
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add baevi's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.