You'll Never Walk Alone

<<
กันยายน 2568
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
22 กันยายน 2568
 

ถนนสายนี้มีตะพาบ ประจำหลักกิโลเมตรที่ 385 : ปีศาจประจำตัว



ตะพาบรอบนี้โจทย์เป็นของน้องปริ๊นซ์ จันทราน็อคเทิร์น ปีศาจประจำตัว ผมว่าทุกคนต้องมีปีศาจอยู่ในตัวทุกคนอยู่แล้ว ของผมก็มี แต่ผมขอเล่าเกี่ยวกับประสพการณ์การวิ่งมาราธอนของผมดีกว่า น่าจะเกี่ยวกับตะพาบรอบนี้เหมือนกันครับ 



อย่างที่ผมเคยมาเล่าให้ฟังแล้วในบล็อกก่อน ๆ สาเหตุที่ผมหันมาออกกำลังกายอย่างหนัก ทั้งวิ่ง ปั่นจักรยาน เล่นแบดมินตัน เพราะผมไปตรวจสุขภาพแล้วผลเลือดสูงหมดทุกค่าเลย ทั้งความดัน ไขมัน ตับ ไต หมอก็เลยแนะนำว่าให้มาออกกำลังกายเดินไวหรือวิ่งก็ได้ ในกรมฯ ผม มีสถานที่กว้างขวางมาก ๆ  มีที่ให้ออกกำลังกายเยอะเลยครับ ผมก็เลยไปซื้อรองเท้าวิ่ง เริ่มออกมาวิ่ง ไม่ใช่ซิตอนแรกเดินก่อน แล้วเปลี่ยนเป็นเดินสลับกับวิ่ง แล้วก็เริ่มมาวิ่ง เริ่มออกวิ่งตามงานต่าง ๆ 



ผมเริ่มสมัครงานวิ่ง ขั้นแรกเริ่มตั้งแต่ 5K, 10K, 21K และก็ 42K สามระยะแรกไม่มีปัญหาเลยครับ พอระยะ 42K หรือที่เค้าเรียกว่า ฟูลมาราธอน ผมเริ่มกล้า ๆ กลัว ๆ ละ กว่าจะไปวิ่งมาราธอนได้ ผมใช้เวลาวิ่ง 21K อยู่ปีนึง จนผมได้ยินคำกล่าวจากสนามหนึงว่า การวิ่งมาราธอนอยู่ที่ใจล้วน ๆ และมีคนแค่ 1% เท่านั้นที่วิ่งมาราธอนจบ มันท้าทายผมมาก ๆ ในการที่จะวิ่งมาราธอนของผม



ผมผ่านการวิ่งมาธอนมา 8 สนามแล้ว ผมไม่ใช่คนเก่งอะไรหรอก อาศัยซ้อมเยอะ มีลูกบ้า ลูกอึด เค้าบอกว่าระยะมาราธอน 10 กม. สุดท้ายสำคัญที่สุด กม.ที่ 32 กม.ที่ 35 เหมือนมี ปีศาจอยู่ในตัวเรา ที่จะคอยบอกว่า วิ่งทำไม นอนอยู่ที่บ้านดีกว่า เลิกวิ่งเสียเถอะ เราต้องต่อสู้กับสภาพจิตใจของตัวเองล้วน ๆ เลย ยิ่ง 5 กม. สุดท้าย ผมว่าทุกย่างก้าวมีความหมายมาก ๆ  ชนะอะไรก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าชนะใจตนเองครับ



Create Date : 22 กันยายน 2568
Last Update : 22 กันยายน 2568 10:41:11 น. 17 comments
Counter : 436 Pageviews.  
(โหวต blog นี้) 

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณฟ้าใสวันใหม่, คุณโฮมสเตย์ริมน้ำ, คุณกะว่าก๋า, คุณดาวริมทะเล, คุณปัญญา Dh, คุณnonnoiGiwGiw, คุณmcayenne94, คุณหอมกร, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณปรศุราม, คุณtoor36, คุณChow Tu Tu, คุณmariabamboo, คุณจันทราน็อคเทิร์น, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณทองกาญจนา, คุณอุ้มสี

 
 
 
 
ถนนสายนี้มีตะพาบ ...
ภาพประกอบเข้ากับหัวเรื่องเลยค่ะ ขาดแต่ "ตะพาบ" 555

นอกจากมีวินัยแล้ว ต้องอาศัยซ้อมเยอะ มีลูกบ้า ลูกอึด ด้วยนะคะ
ปีศาจประจำตัวต้องทะเลาะตบตีกันทุกวัน โดยมากเรามักยอม ๆ กันไปค่ะ 555

 
 

โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 22 กันยายน 2568 เวลา:11:23:30 น.  

 
 
 
อ่านประสบการณ์การวิ่งของคุณแฟรงค์
แล้วนึกถึงการวิ่งของนิ้วกลมครับ
คือ มันจะมีเสียงที่คอยถามเราว่า
พอเถอะ ทำไปทำไม
ถ้าเราเอาชนะมันได้
ก็วิ่งต่อได้
ก้าวข้ามใจตัวเองได้

อันนี้ยกย่องทั้งคุณแฟรงค์และคุณนิ้วกลมเลยครับ

ผมดูครึ่งเดียว
คิดว่าแมนฯซิน่าจะชนะ
ทีไ่หนได้ออกเสมอ
เป็นผลดีต่อหงส์แดงครับ 555

ส่วนแมนฯยูชนะเชลซี
ก็เป็นผลดีกับหงส์แดงเช่นกัน

 
 

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กันยายน 2568 เวลา:14:11:17 น.  

 
 
 
มาอ่านคุณแฟรงค์ ดีใจที่ได้ยินเสียงพูดในใจด้วย
เวลาที่จิตใจสงบเราจะได้ยินเสียงนี้ ในคนที่ปฏิบัติธรรม
เขาเริ่มจากทำจิตใจให้สงบ เมื่อสงบแล้วสิ่งหนึ่งคือจะเห็นจิตใจตนเอง
เสียงที่พูดในใจนี่ก็เช่นกัน ภาษาพระ เรียก สังขาร
เป็นหนึ่งในขันธ์ห้าของร่างกาย มันปรุงแต่ง พูดพากษ์อยู่ในใจ
การปฏิบัติก็แค่รู้ว่า มันเกิดขึ้นเอง และดับไปเอง
คำพูดบงการต่างๆในใจ ให้เราทำดีทำชั่ว
มันแค่พูดไปเองและดับไปเอง ตามนิสัยอนุสัยเก่าที่เราเคยทำซ้ำๆ
แต่เราจะไม่ยอมทำตามมันไปด้วยกิเลส
คุณแฟรงค์ ได้พบเห็นมันง่ายๆจากการวิ่ง สุดยอด
ให้ตั้งใจดูว่า มันจะเกิดขึ้นและหยุดไปเอง ถ้าเราไม่ไปสนใจ
รับฟัง ไต่ต่อกับมัน แต่ถ้าเราไปให้ความสนใจมันอาจพาเราไปไหนต่อไหนได้ค่ะ
 
 

โดย: mcayenne94 วันที่: 22 กันยายน 2568 เวลา:18:02:55 น.  

 
 
 
เสริมอีกนิด "ข้ามผู้รู้" อย่างหนึ่งก็คือ การข้ามเสียงบงการในใจนี่เอง
มันคือ ผู้รู้ ที่จริงคือ ผู้หลง หรือผู้ยังไม่รู้ ที่คอยให้เราทำตาม
แต่ที่คุณแฟรงค์เห็นมันได้ เพราะขณะนั้น เกิดสมาธิจิตตั้งมั่น
ไม่ซัดส่าย ว่อกแว่กไปที่อย่างอื่น
จึงได้เห็นตัวนี้ ในคนทีปฏิบัติธรรม
หลายคน ทำมาหลายปี อาจไม่สามารถเห็นตัวนี้ได้เลย
 
 

โดย: mcayenne94 วันที่: 22 กันยายน 2568 เวลา:18:07:20 น.  

 
 
 
วิ่งต่อไปตามใจปรารถนาเลยคุณแฟรงก์

 
 

โดย: หอมกร วันที่: 22 กันยายน 2568 เวลา:18:19:25 น.  

 
 
 
จริงๆก็ยังมีนัดที่ยากๆอยู่อีกหลายนัดเลยนะครับ
เพียงแต่ว่าพอชนะติดกัน 5 นัดแบบนี้
ผมว่ากำลังใจก็มาเต็มเลยล่ะครับ

 
 

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 กันยายน 2568 เวลา:19:36:10 น.  

 
 
 
ผมยังไม่เคยลงงานวิ่งอะไรเลยครับ ทุกวันนี้ลุกวิ่งยังไม่ค่อยจะไหวเลย เมื่อก่อนตี 5 สบายๆ เดี่ยวนี้ 6 โมงกว่าจะลุกได้ แต่ลุกได้ก็วิ่งได้ครับ
 
 

โดย: คุณต่อ (toor36 ) วันที่: 22 กันยายน 2568 เวลา:23:45:30 น.  

 
 
 
มันเพิ่มเท่าสันถ้าไม่ฝึกมาดีๆ น่าจะไม่ไหว หรือไหวแต่ขาอาจสั่นไปหลายวันเนื่องจากใช้กำลังมากเกินไป
 
 

โดย: โลกคู่ขนาน (สมาชิกหมายเลข 7115969 ) วันที่: 23 กันยายน 2568 เวลา:0:11:21 น.  

 
 
 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณแฟรงค์

 
 

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กันยายน 2568 เวลา:4:49:01 น.  

 
 
 
อรุณสวัสดิ์ ขอให้สุขภาพดีนะคะ
 
 

โดย: Chow Tu Tu วันที่: 23 กันยายน 2568 เวลา:7:44:37 น.  

 
 
 
ช่วงหลังผมสนใจข่าวสารน้อยลงมาก
ไม่ค่อยสนใจเรื่องของคนอื่น
ผมพบว่าตัวเองมีความสุข
และมีชีวิตสุขสงบมากๆเลยครับ

 
 

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 กันยายน 2568 เวลา:13:14:58 น.  

 
 
 
ชนะอะไรก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าชนะใจตนเอง

จริงค่ะคุณแฟร้งงงงงง แต่ 1% เนี่ยะ มันต้องเป็นสิ่ง
ที่เรารักและมีไฟกับมันนะ มันถึงจะไปได้ไว

ขอบคุณท่แวะไปส่งกำลังใจให้น้องเทาเทานะค้าาา

55555+ มีหนี้เนี่ยะ มันมีง่ายกันจริงๆ ปวดหัวตึบเบยยย
กร๊ากกกกก
 
 

โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 23 กันยายน 2568 เวลา:15:30:01 น.  

 
 
 
สวัสดีครับพี่แฟรงค์

จริงครับ ชนะอะไรก็ไม่เท่าชฯะใจตัวเอง
เอาจริงนะครับ ทุกการเริ่มต้น ยากเสมอ
อย่างวันแรกที่พี่แฟรงค์จะใช้ใจลุกขึ้นมาวิ่งออกกำลังกายทุกวันได้แบบนี้ จนวันนึงเป็นFinisher Marathon ได้
ใช่เลยครับ นี่มันใจล้วนๆ

ปีศาจอะไรก็ไม่น่ากลัวเท่า ปีศาจหมูกระทะ บุฟเฟ่ หรือวงสังสรรค์ ครับผม 55555
 
 

โดย: จันทราน็อคเทิร์น วันที่: 23 กันยายน 2568 เวลา:16:48:17 น.  

 
 
 
สวัสดี จ้ะ น้องแฟรงค์

การวิ่งมาราธอน อยู่ที่ความตั้งใจ ความอึด ความอดทนจริง ๆ
โดยเฉพาะ กิโลท้าย ซึ่งเป็นช่วงที่เราอ่อนล้ามาก เพราะวิ่งมานานแล้ว
ใกล้จะถึงเส้นชัย ตอนนี้ ปีศาจ ที่น่ากลัว คือ ความอ่อนล้า ไม่อยากวิ่ง
ต่อ ตอนนี้ ต้องมีกำลังใจ มีความอดทน และการตั้งจิตอย่างแรงกล้าที่
จะให้ถึงเส้นชัยตามความตั้งใจ เนาะ
โหวดหมวด ตะพาบ
 
 

โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 23 กันยายน 2568 เวลา:16:58:27 น.  

 
 
 
อีกอย่างที่สำคัญของการออกกำลังกาย คือ การเห็นทุกข์
ในชีวิตของคนที่มีความสุข เราแทบจะไม่เคยเห็นความทุกข์เลย

แต่คุณแฟรงค์ลองตั้งใจมอง เช่น เมื่อเหนื่อยจัดเฮือกสุดท้าย ขาแทบจะก้าวไม่ออกแล้ว ลองอยากวิ่งให้เร็วขึ้นอีกนิดดู จะพบว่าจะรู้สึกหนักขึ้นที่ในใจทันที ความรู้สึกหนักในใจนี่เอง คือทุกข์
แค่อยากวิ่งให้เร็วขึ้นอีกจะทุกข์อะไรนักหนา
การที่จิตเคลื่อนจากความสงบจิตตั้งมั่นแม้นิดหนึ่ง
ก็เป็นทุกข์ แต่คนส่วนใหญ่จิตไม่สงบตั้งมั่นพอจะเห็น
เพราะมัวแต่เพลินอยู่กับภายนอก ไม่ได้มองมาที่จิตใจของตนเอง
คุณแฟรงค์เห็นเสียงบงการในใจนั่น เก่งแล้ว
แล้วอย่าไปทำตามมัน อย่าไปสนใจมัน ทำตามความเหมาะสม
ทำตามที่สมควร การปฏิบัติธรรมก็มีแค่นี้แหละ
เฝ้ามองเสียงบงการของกิเลส แล้วไม่ทำตามมัน
ต่อไปจิตใจจะเจริญก้าวหน้าไปเองค่ะ
 
 

โดย: mcayenne94 วันที่: 23 กันยายน 2568 เวลา:19:20:52 น.  

 
 
 
อรุณสวัสดิ์ครับคุณแฟรงค์

 
 

โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 กันยายน 2568 เวลา:4:56:40 น.  

 
 
 
ตามมาอ่าน
 
 

โดย: อุ้มสี วันที่: 28 กันยายน 2568 เวลา:1:21:21 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

BlogGang Popular Award#21


 
The Kop Civil
 
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 26 คน [?]




Civil Engineer, RID.
[Add The Kop Civil's blog to your web]

MY VIP Friends


 
 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com