<<< a_somjai a_somjai's blog === อ่านเขียนบล็อก อ่านเขียนโลก <<<== a_somjai อ่านเขียนบล็อก a_somjai a_somjai's blog
Group Blog
 
All Blogs
 
Lao study: จาก“ขี่เก๋งอย่าลืมเกวียน” เมืองไทย ถึง “อย่าลืมเมืองลาว”

ก่อนอื่นขอถามว่า
ใครไม่เคยได้ยินเพลงลูกทุ่งอมตะ
ที่ขับร้องโดย “พี่เป้า สายัณฑ์ สัญญา” เพลงนี้บ้าง?
"ลานเทสะเทือน" - สายัณห์ สัญญา
รัองว่า........


เสียงลมพัดตึง เคล้าคลึง ยอดตอง
คิดถึงเนื้อทอง สาวลั่นทม เจ้าจากลานเท
ผมนั่งรถท่อง พอทั่วกรุงเทพ ก็ดีถมเถ
เพราะว่ากรุงเทพลานเท นั่งเรือด่วนเที่ยว เดี๋ยวเดียวก็ถึง

เขียวเอ๋ยขาวเอย แล่นเลย ทุกลำ
มิมีโฉมงาม สาวแก้มนวล พี่สุดคะนึง
พ่อแม่ร้องไห้ ทมไม่คืนทุ่ง ป้าลุงถามถึง
หรือเพื่อนกรุงเทพคอยดึง ผู้คนคงทึ่ง สาวทุ่งลานเท

* จากวันเป็นเดือน จากเดือนเคลื่อนไปเป็นปี
ลั่นทมไม่มาซักที พวกพ้องน้องพี่ ทุกคนสนเท่
รถเก๋ง เพลงหวาน ตึกรามโอฬาร สวรรค์ทั้งเพ
สาธุ เจ้าแม่ลานเท อย่าให้ลั่นทม อุ้มท้องคืนทุ่ง

** เสียงเรือโครมครืน ทุกคืนพี่ตรม
คิดถึงลั่นทม โฉมบังอร โอ้หล่อนเพลินกรุง
เราทุ่มรักเก้อ เราเซ่อยอมก้ม ลั่นทมเขาสูง
ถึงกล้าไปเทียบคนกรุง พี่นอนสะดุ้ง เหมือนทุ่งสะเทือน

(ซ้ำ *,**)


หากยากฟังเสียงเพลงที่ว่านี้ในบ้านเพื่อนbloggangของเรา ลองคลิกไปที่ --> บล็อกแก๊งของคุณ nutthed นี้เอง

หรือจะฟังเสียงที่ชัดเจนกว่าและมองเห็นใบหน้าประดับเครางามของ พี่เป้า-สายัณฑ์ สัญญา ด้วย ก็ลองคลิกเข้าไปที่ --> บล็อกของคุณ piss_it ที่ OknationBlog ก็แล้วกันครับ



ที่ขึ้นต้นเกลิ่นเพลงนำมาอย่างนี้ ก็เพราะอยากจะคุยกันว่า
เพลง "ลานเทสะเทือน" นี้ เป็นตัวอย่างของ สุดยอดเพลง "เล่นคำ" ได้ยอดเยี่ยมเพลงหนึ่งของวงการลูกทุ่งไทย
หรือใครจะขัดคอ? (5 5 5)

แล้วผู้ที่แต่งเพลงนี้ ก็เป็นคนเดียวกันกับผู้ที่แต่งคำร้องและทำนองเพลงยอดนิยมตลอดกาล ชื่อว่า “ขี่เก๋งอย่าลืมเกวียน” นั้นเอง

ชื่อของท่านผู้ประพันธ์เพลง ลานเทสะเทือน และ ขี่เก๋งอย่าลืมเกวียน คือ วัฒนา พรอนันต์

เพลง ขี่เก๋งอย่าลืมเกวียนนี้ จากการสืบค้นบนกูเกิ้ล ณ วันที่ 27 พฤศจิกายน 2550 เวลา 10 นาฬิกา ผลการค้นหา พบเว็บหน้าภาษาไทยถึง 10,100 รายการที่มีคำว่า ขี่เก๋งอย่าลืมเกวียน

ตามไปดูตามเว็บต่าง ๆ เท่าที่เจ้าของบล็อกนี้ มีเวลาทำได้ พบว่า มีนักร้องไทย(ชาย)จำนวนมาก ได้นำเอาเพลงนี้ไป่ขับร้องกันทั้งออกอัลบั้มและรวมถึงการแสดงสด ตัวอย่างเช่น ภูมินทร์ อินทรพันธ์, สันติ ดวงสว่าง, ธงไชย แมคอินไตย์ (เบิร์ด), จักรพรรณ์ อาบครบุรี (ก๊อต), ไท ธนาวุฒิ, สามารถ ทองขาว, และนักร้องวงสติงอื่น ๆ เป็นต้น.

สำหรับการนำเสนอในรูป music VDO นั้น อยากจะพาไปดูชม ฟัง “ขี่เก๋งอย่าลืมเกวียน” version ของ จักรพรรณ์ อาบครบุรี (ก๊อต) กัน เพราะเห็นมี(บนโลกอินเตอร์เน็ต)อยู่ม้วนเดียวนี้แหละ อิ อิ ...เรียนเชิญไปชมกันเลยครับ



ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=4qfYCPQ0Q-8
Added: June 20, 2007 by PI3141593


เพลง: ขี่เก๋งอย่าลืมเกวียน
คำร้อง/ทำนอง: วัฒนา พรอนันต์
ขับร้อง: จักรพรรณ์ อาบครบุรี
อัลบั้ม: หัวแก้วหัวแหวน (ชุดที่ ๓)

เนื้อเพลง:

เห็นดาวเคียงเดือน เหมือนเตือนความจำ
โอ้ใจพี่ช้ำ น้ำตามันตกใน
เพราะนางลืมคำ ไม่จำใส่ใจ แม่นางฝันใฝ่ เป็นดารา
ทิ้งรวงทอง น้องลืมนา ลืมคำที่สาบาน

โถใจนวลปราง ทิ้งบางลืมควาย
ถ้านางโชคร้าย หลงไปในหมู่พราน
ครั้นมัวลืมองค์ ก็คงแหลกราญ ต้องโดนเขาปั่น มานอนซม
แม้เจอชายหมายลวงชม อาจตรมจนถึงตาย

* ขี่ เก๋งอย่าลืมเกวียนบ้านนอก
ระวังนะจ๊ะบางกอก จะหลอกพานางเร่ขาย
ไนท์คลับในบาร์ โรงน้ำชาแมงดามากมาย
ล้วนแต่ปีกเงิน ปีกทอง และ ปีกลาย
กว่าจะรู้ตัวก็สาย ไม่พ้นให้ควายต้องเลียน้ำตา

** เหลียวมองดูควาย โถใครดั่งมัน
เมื่อยามดื้อรั้น โถมันยังห่วงนา
น้องควรมองเงา ซิเราเผ่ากา
ไม่ควรหนีป่า จงคืนดอน
หนีเมืองกรุง ซะบังอร วิงวอนด้วยหวังดี

ดนตรี (ซ้ำ *, **)





ความดี เด่น ดังของเพลงนี้ ไม่ได้หยุดยู่แค่ภายในเมืองไทย หรือนิยมร้อง ฟัง เต้น ชม กันในหมู่คนพูดภาษาไทยเท่านั้นดอกครับท่าน
แต่ทว่า “ต้นแบบเพลงขี่เก๋งอย่าลืมเกวียน” โด่งดังไปถึงเมืองลาวเลยเด้อ จะบอกให้ …

กลุ่มบล็อก Lao study วันนี้ a_somjai’s blog ขอเสนอว่านี้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดจากผลการแลกเปลี่ยนส่งถ่ายวัฒนธรรมในยุค Digital Age ระหว่างคนในบ้านเมืองที่พูดภาษาตระกูลเดียวกัน ที่ควรนำมาบันทึกไว้ศึกษากันต่อไปได้เลยทีเดียวเชียว

สรุปสั้น ๆ ได้ความตามหัวเรื่องเลยครับ ---
จาก “ขี่เก๋งอย่าลืมเกวียน” เมืองไทย ถึง “อย่าลืมเมืองลาว”

ขอเรียนว่า การนำเพลงทั้งสองมาลงไว้นี้ ไม่ได้มีเจตนาให้เกิดเป็นเรื่องความขัดแย้งด้านลิขสิทธิ์ทางปัญญา (อันมีจิตใจคับแคบ แบบวัฒนธรรมนักธุรกิจฝรั่ง) แต่ประการใด

เพราะการนำมาเขียนนี้ ก็เพื่อบอกว่า การเผยแผ่-ขยายอออกไปของวัฒนธรรมชาวบ้านอย่างไทย ๆ ลาว ๆ น้อง ๆ พี่ ๆ ในลักษณะแลกเปลี่ยนผลิตซ้ำแบบและความหมายระหว่างกันนั้น หากเป็นไปในทางที่ดี โดยไม่ได้มุ่งผลประโยชน์ทางธุรกิจมากจนเกินไปแล้ว ก็นับว่าเป็นเรื่องดี อย่างเพลง - จำปาเมืองลาว หรือ ดวงจำปา ที่เมืองไทยก็มีนักร้องไทยนำมาร้องและบันทึกเสียงกัน, และการฟ้อนเพลง- ลาวดวงเดือน อันถือเป้นมรดกวัฒนธรรมร่วมกันของประชาชนสองภาษานี้ก็ว่าได้ ดังที่ได้เขียนถึงไปแล้ว เมื่อสองตอนที่ผ่านมาเป็นต้น

ใช่ ไม่ใช่ พี่น้อง (อ้า... นี่ไม่ได้แซวใครนะครับ ..ท่านนักการเมืองทั้งหลาย)

เอาเป็นว่า...เพื่อประชันกับ โชว์ของคุณก๊อต (จักรพรรณ์) ที่นำเสนอไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ....ขอพาไปดูชมโชว์ของคุณ นาลิน นักร้องหญิงลาว สักหน่อยก็แล้วกัน

เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา ไปกันเลยครับ
(คำว่า "เพื่อไม่เป็นการเสียเวลา" นี้ ..เป็นสำนวนของพิธีกรดำเนินรายการ ที่ไม่รู้จะพูดอะไรดี 5 5 5)



VDO ชุด อย่าลืมเมืองลาว


ที่มา: https://www.youtube.com/watch?v=SXpsqB92elw
(ต้องคลิก Link ที่อ้างอิงนี้ตามเข้าไปดูเองนะครับ เพราะว่า …Embedding disabled by request)

ชื่อเพลง: อย่าลืมเมืองลาว
นักร้อง: นาลิน
ผู้แต่ง: อ.จ. สอ บวระพัน



เนื้อร้อง:
(ถอดตามอักษรวิ่งและยึดตามเสียวร้อง เป็นภาษาไทย)

ไปอยู่ต่างแดน ไปอยู่ต่างถิ่น
อย่าลืมว่าถิ่นดินลาวที่เกิดกาย
อย่าลืมไปเลยว่าเคยอาศัย
อย่ามัวฝันใฝ่ หลงลืมไล
หลงลืมลาวหลงท้องนา ลืมควายที่เขาเล


อาเมริกา ฝรั่งต่างแดน
ได้มีสุขแสน เที่ยวบาร์แที่ยวคาเฟ
ดื่มเบียร์* เย็นเย็น เต้นรำฮาเฮ
กับสาวฝรั่งเท่* อาเมริกัน
สาวเมืองลาว สาวเวียงจันทร์
โอ้อ่าว* คะนิง*แด

มีสุขอย่าลืมไลบ้านเกิด
อย่าลืมถิ่นที่บ้านเกิด
บ้านเกิดนะพ่อดอกแค
เที่ยวคลับเที่ยวบาร์
จ่ายดอลล่าร์ให้คิดฮอดแค่*
ปลาแดกถ้วยเก่า แจ่วบอง อั่ว* ดอกแค
จงคิด จงคิดฮอดแด่….
เสียงแคนแลนแตร ข้าวเหนี่ยวบ้านเฮา

อย่าลืมไปเลย อย่าลืมหน้าเคย
บ่อน* เจ้าไปเชยไปชมแต่ยังเยาว์
พระธาตุภูศรี พระธาตุเมืองเก่า วัดภูของ เฮา
คิดถึงแด่ ธาตุหลวง เฮา วัดเจ้าแม่ศรีเมือง ที่เวียงจันทร์



หมายเหตุของ a_somjai :

* ดื่มเบียร์ คำว่า ดื่ม ภาษาลาวเดิม หมายว่า ก้าวไป, ทำให้มากขึ้น อย่างคนอีสานเดิมเว้าว่า "อย่าดื่ม..เข้าไป/เข้ามา" หมายว่า "อย่าล้ำเส้น...เข้าไป/เข้ามา" หรือ "อย่าล้ำเกินเข้าไปในเขตของ...อีกฝ่าย" เป็นต้น ไม่ทราบว่าจริง ๆ แล้วทางเมืองลาวปัจจุบันใช้เว้า/พูดเช่นเดียวกับภาษาเมืองไทยปัจจุบันนี้ว่า ดื่ม หมายว่า กินของเหลว ไปแล้วหรืออย่างไร?

* เท่ คนร้องออกเสียงพาไปเป็น เช่

* โอ้อ่าว มาจากคำปากว่า โอ้ โอ่ โอ =เสียงดัง, เปิดเผย หรือ โอ่ ที่เป็นคำขั้นต้นคำขับลำหรือเซิ้ง ดังนั้น คนที่สามารถ โอ โอ่ โอ้ ได้จึงนับถือว่าเป็นผู้รู้หรือผู้เก่งกล้าในการพูดการแสดงออก เรียกว่าเว้าได้ไอดังให้คนอื่นเชื่อฟังได้ เป็นผู้นำ เป็นต้นเสียง อย่างว่า ผู้เฒ่าผู้โอ่ เป็นต้น (แม้ในอีกความหมายหนึ่ง โอ่ จะแปลว่า เก่านานจนกลิ่นเหม็นเปรียว เช่นหน่อไม้ดอง ผักดองจนโอ่ เป็นต้น แต่ก็ยังหมายถึง ความเก๋า อยู่ดี),และส่วนคำว่า อ่าว เป็นคำสร้อยต่อท้าย คงหมายถึง อ่าว ลึก กว้าง และยาว ๆ ออกไปในทะเลมหาสมุทร จึงรวมถึงการเป็นคนใจใหญ่ใจกว้าง ถ้าในทางลบก็ว่า หน้าใหญ่ใจโต นั้นแหละ สำหรับในที่นี้คงใช้ให้หมายความอย่างคำเมืองเหนือทางเมืองไทยว่า "เข้าเลิกเข้าเดิก" (ออกเสียงสั้นว่า เลิอก เดิอก หรือ เลอกะ เดอกะ)...เข้าลึก เข้าดึก เข้าป่า เข้าดง เข้ารกเข้าพง(ไพร) หลงระเริงไปกับอารมณ์สนุกสนานจนลืมคิง/ลืมตัว ลึมกลับบ้านช่องอย่างนี้เป็นต้น.

* คะนิง, คะนึง, คำนึง

* แด่ เป็นคำพูด/เว้าต่อท้ายประโยคหมายถึง ด้วย, นะ, ด้วยนะ

* อั่ว คืออาหารที่คนอีสานและคนภาคกลาง โดยทั่วไป ในปัจจุบันนี้ เข้าใจกันว่า หรือเลยเรียกตามไทยภาคกลางที่คงเรียกตามการยัดเครื่องเนื้อสัตว์ลงไปในไส้อย่างอาหารฝรั่งว่า “ไส้กรอก” หรือ “ไส้กรอกอีสาน” นั้นเอง, แต่ความจริงแล้ว แต่เดิมมาคนพูดภาษาลาวเรียกว่า “อั่ว” (ไม่ทราบว่าบางท้องถิ่นยังใช้อยู่หรือไม่), อั่ว เป็นชื่ออาหารคาวชนิดหนึ่ง ที่เอาเครื่องปรุงยัดเข้าไปในปลอกถุงส่วนใหญ่ใช้ไส้สัตว์ อ้อ..แล้วเครื่องที่ปรุงใส่ลงไปนั้นก็เป็นพวกเนื้อหนังของสัตว์ชนิดนั้นเสียด้วย แล้วเลยเรียกชื่ออาหารตามปลอกถุงไส้สัตว์ชนิดนั้น เช่น อั่วหมู, อั่วงัว หรือเรียกอั่วชิ้น อั่วเนื้อ และหากยัดเครื่องปรุงเข้าท้องกบ เรียก อั่วกบ แต่ในเนื้อร้องเพลงนี้ มีคำว่า อั่ว ต่อท้ายด้วยคำว่า ดอกแค ผู้เขียนจึงไม่ค่อยแน่ใจว่าจะมีอาหารที่ปรุงเครื่องยัดเข้าไปในอะไรที่เกี่ยวข้องกับดอกแคด้วยหรือไม่ แต่น่าจะเป็นคนละชนิดไม่เกี่ยวข้องกัน. อนึ่ง คำ อั่ว หรือ ไส้อั่ว นี้ ทางเมืองเหนือ ล้านนา แถวเมืองเชียงใหม่ ลำพูล เชียงราย ลำปาง พะเยา แพร่ น่าน เป็นต้น ยังทำอาหารชนิดนี้เป็นหลักอยู่ และใช้คำ “อั่ว, ไส้อั่ว” อย่างนี้เรียกกันอยู่ แต่ เครื่องปรุงผสมเนื้อ ไขมัน เอ็น หนัง นั้นต่างกันกับตำหรับหรือสูตรของทางอีสาน ไม่ทราบว่า “อั่ว” เมืองลาว มีตำหรับเหมือนหรือแตกต่างออกไปอย่างไรบ้างหรือไม่?

* [* อั่ว updated: 31 ตุลาคม 2551 วันนี้เวลาประมาณ บ่าย 2 โมง 45 นาทีถึงก่อนเข้าบ่ายสามโมง ได้ดูรายการสารคดีประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยรายการหนึ่งทางโทรทัศน์ช่อง 5 มีการแนะนำร้านอาหารชื่อดังของจังหวัดนครพนมชื่อ ร้าน River Beach อาหารมีชื่อเสียงเด่นดังของร้านนี้คืออาหารอีสาน/ลาวเดิม ในหลายรายการนั้น มีอาหารแนะนำเกี่ยวกับ อั่ว ชื่อว่า อั่วกบ และ อั่วดอกแค ด้วย, เป็นอันว่าคำร้องว่า อั่วดอกแค ในเพลงนี้ มีจริง เข้าใจว่าเป็นการยัดเครื่องเข้าไปในดอกแค ...วันหน้าหากเจ้าของบล็อกนี้ผ่านไปริมฝั่งน้ำโขงบริเวณเมืองนครพนม จะหาโอกาสแวะไปรับประทานครับ]

ใส้กรอกอีสาน (ปัจจุบันบางคนเรียกว่า ไส้กรอกเปรี้ยว)


อั่ง หรือ ไส้อั่ว ไส้กรอกเมืองเหนือ (มีรสเผ็ดเล็กน้อยและมีกลิ่นเครื่องเทศ)


หม่ำ หรือ ไส้กรอกอีสาน ชนิดที่ทำจากน้ำตับหมู หรือ ตับวัว ผสมกับเนื้อสัตว์นั้น
(ภาพนี้เป็น หม่ำ เมืองลาว ถ่ายภาพโดย/by L-i-n-e )



* บ่อน คำนี้ ก็คือคำที่คำลาวอีสานใช้ทั่วไปนั้นแหละ หมายถึง สถานที่, แหล่ง (ทางไทยกลาง เหลือใช้แต่ทางลบ เหมือนกับคำว่า ซ่อง ..ได้แก่คำว่า บ่อนไก่ บ่อนการพนัน ซ่องโสเภณี ซ่องโจร เป็นต้น)





posted by a_somjai on Tuesday , November 27, 2007 @ 1:49 PM.

LAO STUDY

- ร้องเพลงและฟ้อนรำชุด จำปาเมืองลาว หรือ ดวงจำปา
( 22-11-2007 / 22 พฤศจิกายน 2550)
- ฟ้อนลาวดวงเดือน เมืองไทย-เมืองลาว
(25-11-2007 / 25 พฤศจิกายน 2550)
- จาก“ขี่เก๋งอย่าลืมเกวียน” เมืองไทย ถึง “อย่าลืมเมืองลาว”
(27-11-2007 / 27 พฤศจิกายน 2550)


<<กลับหน้าหลัก Lao Study - ลาวศึกษา >>




Create Date : 27 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 31 ตุลาคม 2551 15:20:34 น. 3 comments
Counter : 2837 Pageviews.

 
รู้สึกดีใจเป็นอันมากที่มาเจอะเจอบล๊อกนี้
เพราะผมเองมีสายเลือดเป็นลาวอยู่ครึ่งหนึ่ง
และก็ภูมิใจในสายเลือดนี้ ถ้าไม่ตายเสียก่อน
คงจะได้ไปเที่ยวลาวอีกสักครั้ง

คิดฮอดเมืองลาวครับ
มีเวลาคุณสมใจก็ไปแวะเยี่ยมบล๊อกผมบ้างนะครับ
ผมจะเข้ามาอ่านให้ครบ


โดย: ลุงกฤช (ลุงกฤช ) วันที่: 12 ธันวาคม 2550 เวลา:19:08:49 น.  

 
อย่ากโหลดเพลง นาลิน เบ้าบ้าๆ ขอหน้อยครับ


โดย: von IP: 125.26.136.46 วันที่: 6 กรกฎาคม 2551 เวลา:21:35:52 น.  

 
ดีใจมากๆคะที่มาพบบล็อกนี้ น่าสนใจอย่างมากๆ ขอขอบคุณคุณเจ้าของบล็อกที่สร้างขึ้นมานะคะ อยากให้ชาวลาว ชาวอีสานมาอ่านจะได้รูและชื่นชมในความเป็นลาวอีสานคะ


โดย: UTH IP: 86.142.46.235 วันที่: 1 กันยายน 2551 เวลา:19:14:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

a_somjai
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ให้ทิปเจ้าของ Blog [?]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




Friends' blogs
[Add a_somjai's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.