~ อิสระอยู่ที่ใจ...ฝันให้ไกล...ไปให้ถึง ~
|
|||||||||||||||
เจ้าสัวเป็นแผลเนื้อหลุดใกล้รักแร้ตรงขาหน้าด้านขวา (รักษา 13 ต.ค. - 6 พ.ย. 2565) เพราะความซนเป็นลิงของแมวเรา เลยเกิดเรื่องขึ้นจนได้ ...(ขออภัยหากรูปมีความน่ากลัว หวาดเสียว หรือมีภาพไม่เหมาะสม)... แต่อยากลงบันทึกไว้เป็นความทรงจำ เกริ่นก่อนว่าเหตุเกิดวันไหนไม่รู้ เพราะเรากับน้องแมวอยู่คนละบ้าน เราไปหาน้องแมวและทำความสะอาดบ้านล่าสุดเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2565 และไปอีกครั้งวันที่ 13 ตุลาคม 2565 ตอนปล่อยเจ้าสัวออกมาเดินเล่นหน้าบ้านคุณสามีเห็นว่าเหมือนมีอะไรห้อยตรงขาหน้าของเจ้าสัว เลยไปจับนึกว่าสก๊อปเทปติดเศษผ้า ปรากฎว่า...เนื้อลูกหลุดห้อยออกมาเลยจ้า ไม่รู้ว่าซนอีท่าไหน คงปีนหรือกระโดดไปโดนตะปูหรือตะแกรงเหล็กเกี่ยวเนื้อหลุด(ตอนแรกนึกว่าลูกๆ กัดกัน พอเดินสำรวจแต่ละตัวทุกตัวก็ปกติดี มีแต่เจ้าสัวนี้แหละที่มีแผล) นี่ขนาดเลี้ยงแบบระบบปิดให้อยู่แต่ในบ้านนะ อยู่มา 10 ปี ไม่เคยกระโดดไปโดนอะไร ไม่รู้วันนั้นคึกอะไรมา เดือดร้อนทาสแมวอย่างเราต้องพาไปหาหมอ เพราะเห็นสภาพแผลแล้วไม่กล้าทำแผลเอง จะแค่ใส่ยาให้ก็กลัวแผลติดเชื้อ เพราะเจ้าสัวพยายามเลียแผลตลอด คงเจ็บน่าดู รักษาวันที่ 1 : 13 ตุลาคม 2565 พอเห็นสภาพแผลหมอจับโกนขนก่อนเลย  แผลสีชมพูสดเห็นเนื้อเลย  หมอบอกว่าน่าจะเป็นแผลมาหลายวันเนื้อ/หนังดำๆ คือเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว ต้องใส่ยารักษาแผลแล้วค่อยๆ เล็มเนื้อสีดำๆ ออกให้หมด ไม่สามารถเย็บแผลได้เพราะมันมีเนื้อส่วนที่ตายแล้ว  ก็ต้องทำแผล ใส่ยากันไป หมอบอกว่าต้องให้กินยาฆ่าเชื้อด้วย เราไม่อยากป้อนยาแบบเม็ด เลยถามหมอว่ามียาแบบฉีดไหม หมอแจ้งว่ามี แต่ราคาจะสูงกว่ายากินแบบเม็ด  ตอนนี้ รพ. เปิดให้ทำบัตรสมาชิก เรารีบทำไว้ก่อนเลย เผื่อจะลดราคาลงได้บ้าง  วันที่ 13 ตุลาคม 2565 จ่ายไป 1,654 บาท - มีฉีดยาฆ่าเชื้อ 1 เข็ม อยู่ได้ 14 วัน ราคาเข็มละ 1,001 บาท / มีตัดเล็บ  รักษาวันที่ 2 : 14 ตุลาคม 2565 หมอนัดทำแผลทุกวัน เผื่อมาใส่ยาและเล็มหนัง/เนื้อที่ตายออก  ตอนแกะผ้าพันแผลลูกตาโตมา คงจะเจ็บ ฮ่าๆๆ  หมอบอกว่าวันนี้จะตัดเนื้อ/หนังที่เนื้อเยื่อตายแล้วออกให้หมด  วันที่ 14 ตุลาคม 2565 จ่ายไป 469 บาท - มีฉีดยาแก้อักเสบ 1 เข็ม ราคาเข็มละ 160 บาท / ให้หมอเช็ดหูแมวด้วย  โฉมหน้าเจ้าสัวจอมแสบเบอร์ 1 ของบ้านค่ะ พันแผลแล้วก็ยังพยายามที่จะเอี้ยวตัวมาเลียแผล  รักษาวันที่ 3 : 15 ตุลาคม 2565 ช่วงนี้หมอนัดทำแผลทุกวัน  ก่อนทำแผลทุกครั้ง เราจะขออนุญาตหมอถ่ายรูปแผลลูกทุกครั้งเพื่อสังเกตว่าแผลขนาดเท่าไหน เล็กลงบ้างหรือไม่ สำหรับเรามองดูแล้วบาดแผลก็ยังน่ากลัวอยู่ดี แต่หมอบอกว่าดีนะ เนื้อสีชมพูออกแดงแสดงว่ากำลังสร้างเนื้อเยื่อใหม่  วันที่ 15 ตุลาคม 2565 จ่ายไป 305 บาท - ทำแผลใส่ยาอย่างเดียว หมอนัดอีกทีวันที่ 17 ตุลาคม 2565   รักษาวันที่ 4 : 17 ตุลาคม 2565 หมอเปลี่ยนมานัดวันเว้นวัน  แผลไม่มีหดเข้าหากันเลย นับวันยิ่งแดง  วันที่ 17 ตุลาคม 2565 จ่ายไป 262 บาท - ทำแผลใส่ยาอย่างเดียว หมอนัดอีกทีวันที่ 19 ตุลาคม 2565  รักษาวันที่ 5 : 19 ตุลาคม 2565 จ่ายไป 262 บาท ทำแผลใส่ยาอย่างเดียว หมอนัดอีกทีวันที่ 21 ตุลาคม 2565  รักษาวันที่ 6 : 21 ตุลาคม 2565  รักษามา 8 วันแล้ว ไม่มีทีท่าว่าแผลจะแห้ง เหมือนวันนี้แผลดูหดแคบลงมานิดนึง หมอบอกว่าแผลจะหายช้าเพราะเป็นส่วนขาหน้า แถวใกล้รักแร้ที่แมวจะต้องเดินเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา แนะนำไม่ให้เดินเยอะ ไม่ให้กระโดด ใส่กรงขังได้ยิ่งดี  วันที่ 21 ตุลาคม 2565 จ่ายไป 262 บาท - ทำแผลใส่ยาอย่างเดียว หมอนัดอีกทีวันที่ 23 ตุลาคม 2565  รักษาวันที่ 7 : 23 ตุลาคม 2565    วันที่ 23 ตุลาคม 2565 จ่ายไป 262 บาท - ทำแผลใส่ยาอย่างเดียว หมอนัดอีกทีวันที่ 26 ตุลาคม 2565 เปลี่ยนมาเป็น 3 วัน ดูแผลที  รักษาวันที่ 8 : 26 ตุลาคม 2565  จากรูปแผลเริ่มชิดหดเข้ามามากขึ้น  แต่..หมอบอกว่าผิวหนังบริเวณรอบๆ ที่ติดผ้าก๊อซเริ่มอักเสบ เพราะผิวหนังมีสีแดง เนื่องจากปิดผ้าก๊อซไว้นาน และวันนี้หมอจะทำการเย็บแผลให้  สภาพหลังหมอเย็บแผล หมอบอกว่าเดี๋ยวมาลุ้นอีกที ว่าเนื้อจะสมานติดกันหรือไม่ เราก็ถามว่าทำไมไม่เย็บตั้งแต่รักษาแรกๆ หมอบอกว่ามันมีเนื้อตาย ต้องรักษาแผลให้เนื้อเยื่อมันทำงานสร้างผิวหนังขึ้นมาใหม่ก่อน เผื่อบางทีเกิดการติดเชื้อ ถ้าเย็บไปเลยเนื้ออาจไม่สมาน ทำให้แผลไม่ติดกันและเกิดการอักเสบได้   วันที่ 26 ตุลาคม 2565 จ่ายไป 1,261 บาท - มีการเย็บแผล อีก 2 วัน หมอนัดมาดูแผลที่เย็บ  ตั้งแต่เริ่มรักษาแผลเราก็ไม่เคยใส่คอลล่าหรือขังลูกไว้ในกรงนะ เพราะมันไม่เคยโดนขัง เดี๋ยวเวลาคนไม่อยู่จะร้องบ้านแตก เผื่อคนละแวกบ้านอาจได้ยินเสียงเดี๋ยวจะมาร้องเรียนได้ เวลาเราไม่อยู่นางก็ไม่ซนนะ นั่งๆ นอนๆ ทั้งวัน แต่...พอเรากลับมาจากทำงาน จากแมวเรียบร้อยจะกลายเป็นอีลิงในทันที ชวนเล่นสารพัด ทั้งจ๊ะเอ๋ เล่นซ่อนแอบ เล่นวิ่งไล่จับ กระโดดขึ้นตู้ ขึ้นโต๊ะ โน้น นี่ นั่น หัวจะปวด อายุ 10 ปี แล้วยังเล่นเป็นเด็ก   นอนด้วยกันทุกคืน ไม่งั้นไม่ยอมนอน จะนั่งรอที่หน้าประตูห้องนอนตลอด จนกว่าจะเชิญเข้าห้อง  รักษาวันที่ 9 : 28 ตุลาคม 2565  เนื้อเริ่มชิดติดกันแต่ยังไม่มาก หมอบอกว่าแมวเราคงเดินหรือโดดมาก เพราะปมที่เย็บหลุดไป 1 ปม ผิวหนังที่อักเสบเพราะปิดผ้าก๊อซเริ่มดีขึ้น หายบวมแดง  วันที่ 28 ตุลาคม 2565 จ่ายไป 263 บาท - ใส่ยาพันปิดแผลต่อ หมอนัดอีก 5 วัน ให้มาดูแผล   กลางคืนนอนตีนชี้เด่ คงตึงแผลที่เย็บ หรือไม่ก็เจ็บ โถ..ลูก ฮ่าๆๆ  รักษาวันที่ 10 : 2 พฤศจิกายน 2565 ครบ 5 วัน พามาดูแผลที่เย็บไปว่าเนื้อจะสมานกันหรือไม่  เนื้อเชื่อมสมานติดกันดี มีแค่นิดเดียวไปใส่ยาเบตาดีนต่อเองได้ หมอเลยตัดไหมออกให้ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย (ตัดไหมเสร็จเสียงหมอดีใจมากบอกว่าหายสักทีนะลูก)  หมอบอกยังไม่ควรให้แมวเลียแผล ให้ใส่คอลล่าหรือเสื้อกันแมวเลีย เราเลยจับลูกใส่เสื้อไว้เลย เพราะใส่คอลล่าแล้วนางเดินไม่เป็น ชอบก้มหัวอยู่ตลอดเวลา *** รวมค่าใช้จ่ายที่รักษาเจ้าสัวทั้งหมด 5,000 บาท ***   วันที่ 6 พฤศจิกายน 2565 ผ่านไป 4 วัน ถอดเสื้อดูแผลกันหน่อยว่าเป็นยังไงบ้าง   ก็ดีขึ้นเยอะนะ  
ผูกพันด้วยใจค่ะ
 โดย: หอมกร
  วันที่: 25 พฤศจิกายน 2565 เวลา:13:25:50 น.ดูแลจนแมวแผลหายแล้ว ดีครับ
ขอบคุณเช่นกันครับ โดย: ปัญญา Dh
วันที่: 25 พฤศจิกายน 2565 เวลา:14:05:06 น. เจ้าสัวแผลแห้งแล้ว อย่าลืมตัวว่าเป็นน้องแมว ไม่ใช่เจ้าจ๋อ..อีก  โดย: เริงฤดีนะ
 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2565 เวลา:14:14:53 น.อดทนมากค่ะน้องเจ้าสัว
แผลแห้งแล้ว ขอให้หายสนิท แข็งแรงๆนะคะ โดย: Sweet_pills
 วันที่: 26 พฤศจิกายน 2565 เวลา:0:21:32 น. |
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?] จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey. Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว https://www.facebook.com/EmmyJourney Blog : https://emilia0412.bloggang.com ** ขอสงวนสิทธิ์ *** ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล๊อก Group Blog
All Blog
Friends Blog
| ||||||||||||||
| Pantip.com
| PantipMarket.com
| Pantown.com
| © 2004 BlogGang.com
allrights reserved.
|
|||||||||||||||
