Group Blog
All Blog
|
ประสบการณ์ติดโควิดของพี่เปี๊ยก ระหว่างวันที่ 4-19 มกราคม 2566 การที่เราติดโควิด ส่งผลให้คุณสามีติดเชื้อโควิดด้วย แต่เขาแสดงอาการช้ากว่าเรา (เพราะเมื่อวันที่ 1 มกราคม 2566 ยังไปไหว้พระและกินข้าวด้วยกันอยู่เลย อยู่ด้วยกันตลอดเวลา จะไม่ติดได้ไง เราก็ไอแค่กๆ ทั้งวัน กลางคืนยังนอนห้องเดียวกัน พอเช้ามาเรารู้ว่าติดเราก็รีบแยกจาน แยกแก้วน้ำ และให้คุณสามีลงไปนอนข้างล่าง และเราอยู่ชั้นบนของบ้านตลอด แต่อย่างว่านะ เชื้อมันคงฟักตัวอยู่ กว่าคุณสามีจะแสดงอาการก็คืนวันที่ 4 มกราคม 2566 เขามีอาการไอแห้งๆ แบบเรา ไอ้เราก็เอะใจแล้ว เสียงไอแบบนี้ แน่นอนชัวร์ เรายังตะโกนถามเลย ว่าติดเชื้อแล้วเหรอ แต่พี่เขาก็ยังบอกว่าไม่เป็นอะไร วันรุ่งขึ้นยังไปทำงานต่อ พอเย็นกลับถึงบ้านพี่เขาบอกว่าตัวรุมๆ มีไข้ และวันนั้นตอนอยู่ที่ทำงานไอเป็นบางครั้ง วันที่ 2-4 มกราคม 2566 - ตรวจ ATK ไม่พบเชื้อ / คืนวันที่ 4 มกราคม ตอนกลางคืนมีอาการไอแห้งๆ 3-4 ครั้ง วันที่ 5 มกราคม 2566 - ตอนเช้ามีน้ำมูกใสๆ ไหล ระหว่างวันตัวรุมๆ มีไข้ ไอแห้งๆ ตอนเย็นตรวจ ATK พบว่าติดโควิด กินยาขับเสมหะแบบเม็ดฟู่ กินวันละ 2 ครั้ง ก่อนอาหารเช้า และก่อนนอน หลอดละ 180 บาท มี 10 เม็ด (เสียเงินซื้อเอง) เช้าวันที่ 6 มกราคม 2566 พากันไปโรงพยาบาลเพื่อขอใบรับรองแพทย์ มาใช้ประกอบการลาป่วย ผู้ติดเชื้อโควิดเยอะนะ เกือบ 10 คนได้ บางคนถึงกับห่มผ้าห่มมาหาหมอเลยทีเดียว วันที่เราไปก็มีคนมารักษา 10 กว่าคน แสดงว่าทุกวันจะมีคนติดเชื้อโควิดเยอะพอสมควร นี่ยังไม่นับคนติดเชื้อโควิดที่ไม่ยอมมาโรงพยาบาลเพื่อรักษาตัวอีกไม่รู้เท่าไร หมอจ่ายยามา 5 ชนิด 1.ยาแก้แพ้ เม็ดสีขาว 2.ยาแก้ไอ เม็ดสีเขียว 3.ยาอมมะแว้ง 4.ยาขับเสมหะ /แก้ไอ แผงสีน้ำตาล 5.ยาลดไข้ ยาอมมะแว้ง ยาลดไข้ ยาแก้แพ้ กินวันละ 1 ครั้ง 1 เม็ด หลังอาหารเช้า ยาแก้ไอ กินวันละ 3 ครั้ง ครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า / กลางวัน / เย็น ยาละลายเสมหะ/แก้ไอ กินวันละ 3 ครั้ง หลังอาหารเช้า / กลางวัน / เย็น ค่ายาทั้งหมด 136 บาท ของคุณสามีหมอไม่ได้จ่ายยาต้านไวรัสให้ เราไปถาม หมอบอกว่าดูตามอาการผู้ป่วย อายุ น้ำหนัก และเพศ ระหว่างวันที่ 5-7 มกราคม 2566 เราเลยให้คุณสามีกินยาฟ้าทลายโจรร่วมด้วย มื้อละ 3 เม็ด หลังอาหารวันละ 3 ครั้ง หลังอาหารเช้า / กลางวัน / เย็น (แต่ไม่อยากให้กินเยอะ เพราะช่วงที่เราติดเชื้อ เราก็ให้คุณสามีกินยาฟ้าทลายโจรด้วย กลัวกินมากเกินส่งผลเสียต่อตับ)อาการติดโควิดของคุณสามีไม่มีอาการอะไรมาก นอกจากมีน้ำมูก และเสมหะ ใสๆ กับไอนิดหน่อย อาการไข้ขึ้น ตัวร้อนรุมๆ เป็น 2 วัน ก็หาย เสียงไม่อู้อี้ เสียงไม่ขึ้นจมูก ดูเหมือนคนไม่ติดโควิดว่างั้น แข็งแรงดี อาการปกติมาก วันที่ 10 มกราคม 2566 รักษาตัวจนครบวัน 5 วัน ตอนเย็นลองตรวจ ATK ยังพบว่าขึ้น 2 ขีดเต็มๆ ไม่มีจางเลย งงมาก แต่คุณสามีไม่มีอาการผิดปกติไรเลย อาการไอก็ไม่มี น้ำมูกไม่มี คุณสามีไออยู่แค่ 3 วัน ก็หาย (ไอ้เรานี้ไอแค่กๆ อยู่ 2 อาทิตย์กว่าจะหาย) เช้าวันที่ 11 มกราคม 2566 คุณสามีก็ไปทำงาน เพราะใบรับรองให้หยุดงานได้แค่ 5 วัน เราก็ไปหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ตว่าหากกักตัวครบ 5 -10 วัน แล้ว ตรวจ ATK ผลยังขึ้น 2 ขีด แต่ไม่มีอาการผิดปกติ ก็ให้ออกไปใช้ชีวิตตามปกติได้ แต่ให้ใส่แมสเช่นเดิม ผลที่ขึ้น 2 ขีดอาจเป็นซากเชื้อของไวรัสที่ตกค้างอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย ในร่างกายเรา บางคนต้องใช้เวลาถึง 3 เดือนกว่าผลตรวจ ATK จะเหลือขีดเดียว กว่าร่างกายจะขับซากเชื้อออกไปจากร่างได้หมด (เราก็เชื้อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง) ช่วงนี้เราก็ยังแยกภาชนะใส่อาหาร และแยกกันนอนอยู่ วันที่ 13 มกราคม 2566 ตรวจ ATK ผลก็ยังขึ้น 2 ขีดอยู่ แต่ขีดที่ปรากฏตรงตัว T เริ่มบางลง อาการของคุณสามีก็ปกติทั่วไป ยังไปวิ่งออกกำลังกาย เช้า- เย็นได้สบายๆ ไม่มีอาการเหนื่อย หอบ วันที่ 14 มกราคม 2566 ตอนเย็นแวะไปร้านขายยาเจ้าเดิม เพื่อไปสอบถามอาการว่าทำไมกักตัวครบแล้ว ผลตรวจ ATK ยังคงขึ้น 2 ขีด เภสัชถามว่ากินยาฟ้าทลายโจรหรือไม่ กินยี่ห้ออะไร กินครบโดสหรือเปล่า เราก็บอกว่ากินของอ้วยอันโอสถ เภสัชบอกว่าตัวยาน่าจะไม่ถึงเลยทำให้มีเชื้อตกค้างอยู่ ให้เอายี่ห้อวิรูโน่ 60 ของเมก้า วีแคร์ไปกิน 5 วัน เพราะใน 1 แคปซูล มีสารแอนโดรกราโฟไลด์ 60 มิลลิกรัม กิน 1 เม็ด หลังอาหารเช้า / กลางวัน /เย็น วันละ 3 ครั้ง วันที่ 19 มกราคม 2566 กินยาฟ้าทะลายโจรยี่ห้อวิรูโน่ 60 ครบทุกเม็ด ตอนเย็นตรวจ ATK ไม่พบการติดเชื้อ เย้ๆ สรุปว่าคุณสามีใช้เวลารักษาตัวอยู่ 15 วัน กว่าที่ผลตรวจ ATK จะเหลือ 1 ขีด สรุปอาการติดโควิดของพี่เปี๊ยก วันที่ 4 มกราคม 2566 เช้าตรวจโควิดยังไม่ติด กลางคืนมีอาการไอแห้งๆ วันที่ 5 มกราคม 2566 ตอนเช้ามีน้ำมูกใสๆ ไหลออกมาจากจมูก / ระหว่างวันมีอาการไอแห้งๆ และมีไข้ 17.30 น. ตอนเย็นตัวรุมๆมีไข้ /ตรวจ ATK ผลคือติดโควิด 19.30 น. ทานอาหารเย็น/ทานฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด 20.00 น. กินยาต้านไวรัส 4 เม็ด (เราเอายาต้านไวรัสของเราแบ่งให้สามีทานกันไว้ก่อน) 20.30 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด ** กลางคืนมีไอบ้างเป็นช่วงๆ เจ้าตัวบอกนอนหลับสนิท ** วันที่ 6 มกราคม 2566 7.00 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด 7.30 น. หลังกินอาหารเช้า กินยาแก้ไอ 1 เม็ด และฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด 8.00 น. กินยาต้านไวรัส 4 เม็ด ไปหาหมอที่โรงพยาบาลเพื่อขอใบรับรองแพทย์ 11.00 น. ทานอาหารกลางวัน เริ่มกินยาที่โรงพยาบาลให้มา กินยาแก้ไอ 1 เม็ด ยาขับเสมหะ 1 เม็ด และกินฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด 18.00 น. หลังอาหารเย็น กินฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด กินยาแก้ไอ 1 เม็ด ยาขับเสมหะ 1 เม็ด 20.30 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ ** ไอแค๊กๆ เป็นบางช่วงเกือบทั้งวัน ไม่มีไข้ตัวไม่ร้อน น้ำมูกไม่ค่อยไหล เสียงไม่แหบ อาการเหมือนคนปกติจมูกยังรับกลิ่นได้ดี ลิ้นยังรับรสได้ดี ตอนกลางคืนไอเป็นบางครั้ง ** วันที่ 7 มกราคม 2566 8.30 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด 9.00 น. หลังอาหารเช้า กินยาแก้ไอ 1 เม็ด ยาขับเสมหะ 1 เม็ด ยาแก้แพ้ 1 เม็ด และฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด 13.30 น. กินอาหารกลางวัน กินยาแก้ไอ 1 เม็ด ยาละลายเสมหะ 1 เม็ด และฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด ระหว่างวันมีไอเป็นบางช่วง / เจริญอาหารกินอิ่มนอนหลับตามปกติ / เสียงไม่อู้อี้ / ไม่มีไข้ตัวไม่ร้อน ตอนเย็นหยุดกินยาฟ้าทลายโจร เพราะช่วงวันที่ 2-3 ก็กินไปบางแล้ว 18.00 น. กินอาหารเย็น กินยาละลายเสมหะ 1 เม็ด กินยาแก้ไอ 1 เม็ด 20.00 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด และไทลินอล 2 เม็ด ** กลางคืนตอนนอนไอน้อยมากแทบจะไม่มีเสียงไอ ** วันที่ 8 มกราคม 2566 ผลตรวจ atk ยังขึ้น 2 ขีดจางๆ 8.00 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด 8.30 น. หลังกินข้าวเช้า กินยาแก้ไอ 1 เม็ด ยาขับเสมหะ 1 เม็ด และยาแก้แพ้ 1 เม็ด ไม่มีไข้ตัวไม่ร้อนอาการปกติไอไม่ค่อยมี วันที่ 9 มกราคม 2566 7.00 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด 10.00 น. หลังกินข้าวเช้า กินยาแก้ไอ 1 เม็ด กับยาขับเสมหะ 1เม็ด 14.00 น. หลังกินข้าวกลางวัน กินยาแก้ไอ 1 เม็ด กับยาขับเสมหะ 1เม็ด 18.00 น. หลังกินอาหารเย็น กินยาแก้ไอ 1 เม็ด กับยาขับเสมหะ 1เม็ด 20.30 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด ** มีไอนิดหน่อย กินอะไรไม่อร่อย ลิ้นรับรสได้ไม่ดี ** วันที่ 10 มกราคม 2566 เช้า ผลตรวจ ATK ยังขึ้น 2 ขีด 9.00 น. เช้ามีน้ำมูกใสๆ นิดนึง ก่อนอาหารเช้ากินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด 10.00 น. หลังกินอาหารเช้า กินยาแก้แพ้ 1 เม็ด กินยาขับเสมหะ 1 กินฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด 14.00 น. หลังกินอาหารเที่ยง กินยาแก้ไอ 1 เม็ด ยาละลายเสมหะ 1 เม็ดฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด 18.00 น. หลังกินอาหารเย็น กินยาละลายเสมหะ 1 เม็ด และฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด 19.30 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด วันที่ 11 มกราคม 2566 6.30 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด ระหว่างวันไม่ได้กินยาอะไร 18.00 น. หลังอาหารเย็น กินฟ้าทะลายโจร 3 เม็ด 19.30 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด 21.00 น. กินยาแก้แพ้ 1 เม็ด เพราะมีอาการน้ำมูกไหล วันที่ 12 มกราคม 2566 6.30 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด ระหว่างวันไม่ได้กินยาอะไร 19.30 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด ** กลางคืนมีอาการไอนิดๆ /ต้องอมยาอมแก้เจ็บคอ ** วันที่ 13 มกราคม 2566 6.30 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด ระหว่างวันไม่ได้กินยาอะไร 17.30 น. วิ่งลู่ออกกำลังกาย 30 นาที ไม่มีอาการเหนื่อยหอบ 19.00 น. กินอาหารเย็น 19.40 น. กินยาละลายเสมหะเม็ดฟู่ 1 เม็ด ** ตอนเย็นตรวจ atk ยังขึ้น 2 ขีด ** วันที่ 14 มกราคม 2566 ตอนเช้ากับกลางวันไม่ได้กินยาอะไร ** ไปหาหมอร้านมะกอกเภสัช เพื่อสอบถามเรื่องครวจ atk แล้วยังขึ้น 2 ขีด เภสัชบอกให้กินฟ้าทะลายโจรสกัดแบบเข้มข้นต่ออีก 5 วัน ** 19.30 น. หลังอาหารเย็น กินฟ้าทะลายโจรยี่ห้อวิรูโน่ 60 มก. 1 เม็ด ของร้านมะกอกเภสัช กลางคืนไม่มีอาการไอ วันที่ 15 มกราคม 2566 กินฟ้าทะลายโจรยี่ห้อวิรูโน่ 60 มก. 1 เม็ด ของร้านมะกอกเภสัช หลังอาหาร 3 มื้อ เช้า /กลางวัน /เย็น อาการทุกอย่างปกติ กลางคืนมีอาการไอ 2-3 ครั้ง เหมือนมีเสมหะในลำคอ วันที่ 16 มกราคม 2566 กินฟ้าทะลายโจรยี่ห้อวิรูโน่ 60 มก. 1 เม็ด ของร้านมะกอกเภสัช หลังอาหาร 3 มื้อ เช้า /กลางวัน /เย็น อาการทุกอย่างปกติ/วิ่งออกกำลังกายเช้า-เย็นได้ตามปกติ วันที่ 17 มกราคม 2566 กินฟ้าทะลายโจรยี่ห้อวิรูโน่ 60 มก. 1 เม็ด ของร้านมะกอกเภสัช หลังอาหาร 3 มื้อ เช้า /กลางวัน /เย็น อาการทุกอย่างปกติ/วิ่งออกกำลังกายเช้า-เย็นได้ตามปกติ วันที่ 18 มกราคม 2566 กินฟ้าทะลายโจรยี่ห้อวิรูโน่ 60 มก. 1 เม็ด ของร้านมะกอกเภสัช หลังอาหาร 3 มื้อ เช้า /กลางวัน /เย็น อาการทุกอย่างปกติ/วิ่งออกกำลังกายเช้า-เย็นได้ตามปกติ วันที่ 19 มกราคม 2566 กินฟ้าทะลายโจรยี่ห้อวิรูโน่ 60 มก. 1 เม็ด ของร้านมะกอกเภสัช หลังอาหาร 2 มื้อ เช้า /กลางวัน เซ็ทสุดท้าย ตอนเย็นตรวจ ATK ไม่พบการติดเชื้อ อาการลองโควิดที่เป็น 1. มีน้ำมูกใสๆ 2. มีเสมหะใสๆ เหนียวนิดๆ บริเวณลำคอ
ยินดีด้วยนะคะที่ไม่เป็นไรมาก
เข้ามาอ่านว่าใครชื่อเปี๊ยกค่ะ โดย: หอมกร วันที่: 23 มกราคม 2566 เวลา:15:19:38 น.
ขอบคุณที่แบ่งปันประสบการณ์ครับ
ขอให้หายป่วยเป็นปกติด้วยครับ โดย: ปัญญา Dh วันที่: 23 มกราคม 2566 เวลา:15:57:06 น.
เพิ่งกลับจากเที่ยวมา ตอนนี้เหมือนคนไม่กลับโควิดแล้ว
ยังไงยังงั้นเลยค่ะ แมสก็ไม่ค่อยใส่กัน มือก็ไม่ล้าง ชิลกันมากเลยค่ะ โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 23 มกราคม 2566 เวลา:17:49:13 น.
|
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?] จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey. Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว https://www.facebook.com/EmmyJourney Blog : https://emilia0412.bloggang.com ** ขอสงวนสิทธิ์ *** ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล๊อก | ||||
เก็บรายละเอียดได้ดี เป็นประโยชน์มากค่ะ