กันยายน 2559

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
ท้องที่สอง: 4 เดือนแรก กับอาการภูมิแพ้..






 ไม่ได้อัพบล็อกเสียนาน ห้าชาติกว่าๆทีเดียวค่ะ หลังจากย้ายมาอยู่ต่างประเทศ ชีวิตก็เปลี่ยนไปเยอะ ไม่ว่าจะเป็น โรคซึมเศร้า (ที่อันที่จริงเริ่มเป็นตั้งแต่ก่อนย้ายมา และมาเป็นหนักเอาช่วงแรกที่นี่ค่ะ) สังคม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม อาหารการกิน  จากที่อยู่เมืองไทยเที่ยวกลางคืนนับครั้งได้เลย พอมาอยู่ที่นี่ ซึมเศร้าถามหา บอกเลยว่าจำไม่ได้ว่าทิ้งลูกไปดริงก์กับเพื่อนสาวกี่หน  เหล้ายาปลาปิ้งจากเมื่อก่อนไม่เคยทาน มาอยู่นี่ หัดหมดทุกอย่างค่ะ แต่บุญญาบารมีส่ง ไม่ติดเหล้า เพราะรู้ตัวว่าเป็นโรคซึมเศร้าเสียก่อน ทุกอย่างเลยกลับสู่ภาวะปกติ

เคยตั้งใจว่าจะมีลูกแค่คนเดียวค่ะ เพราะอยากทุ่มเทให้เค้าที่สุด แต่ก็มีเหตุให้ใจอ่อน เมื่อเจ้าตัวดีอยากมีน้อง เอาตุ๊กตามาวาง ห่มผ้าห่มให้ อ่านนิทานให้ตุ๊กตาฟัง... อะนะ ก็เลยปล่อยบ้างคุมบ้าง ตามแต่ mood จะส่ง

เคยตรวจเจอว่าท้องแล้วหนหนึ่งค่ะ แต่สุดท้ายก็หลุด ไม่แน่ใจว่าท้องจริงหรือเปล่า จนกระทั่ง ผ่านไปนานทีเดียว นานจน ค่าซื้อที่ตรวจครรภ์นี่  คงถอยรถได้คันนึงแล้วล่ะ ฮ่าๆ

ต่อมา ฝันค่ะ ฝันว่าเราและสามี ไปรับแม่เราเอง จากสนามบิน เขาขนของมาอยู่ด้วย กระเป๋าใบใหญ่เชียว   สำหรับคนที่อ่านบล็อกอื่นๆของเรานะคะ แม่เราเป็นมะเร็ง และเสียไปประมาณ 7 ปีกว่าแล้วค่ะ เราฝันเห็นแม่มาอยู่ด้วยแบบนี้ ใจนึงก็คิดว่าไม่มีอะไร ก็เป็นจิตไร้สำนึกล่ะเนาะ  แต่อีกใจนึงก็อยากจะเชื่อเหลือเกิน ว่าแม่จะมาอยู่ด้วยจริงๆ

ครั้งนี้มั่นใจว่าท้องแน่นอนค่ะ และไม่น่าจะหลุดง่ายๆด้วย ไม่ใช่เพราะฝันนะคะ เพราะมูกไข่ตกต่างหาก ท้องแรกก็มั่นใจล้าน%เพราะมีมูกพอดี  ตอนที่ตรวจเจอครั้งนี้เป็นทริปกลับบ้านค่ะ คือ ไปตรวจเจอที่เมืองไทย ว่าท้องสองแล้วจ้า  ก็ระวังมากๆ แต่ก็ประคบประหงมได้ไม่เท่าท้องแรกเนาะ เพราะต้องอุ้มลูกคนโตอีก (ห้าขวบครึ่งแล้วนะ ยังต้องอุ้มอีกเหรอ 555)

บินจากเมืองไทยมา ตั้งใจจะทำบุญครบรอบวันตายให้แม่ค่ะ เราบินมา 3 สัปดาห์ ส่วนสามีและลูกสาว บินตามมาทีหลัง ง่ายๆคือ เราจะมีเวลาจัดการธุระส่วนตัวของเราเอง 1 สัปดาห์ค่ะ หลังจากนั้นสามีและลูกสาวจะบินมาสมทบ แต่เจ้ากรรม ลงเครื่องมาปุ๊บ ตัวร้อนจี๋เลยค่ะ ยังไม่เท่าไร พอนอนคืนเดียว เช้ามาลุกไม่ขึ้นเลย อย่าว่าแต่ไปทำบุญให้แม่ที่วัดเลยค่ะ แค่ลุกมาทานข้าวก็ไม่ไหวแล้ว พ่อเราก็โทรตามให้ไปหาหมอ  น้ากับน้องเลยลากไปโรงพยาบาล  แน่นอนค่ะ ไข้สูง 40 องศา ใช่ค่ะ อ่านไม่ผิด 40 องศา  ปรากฏว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์โหดร้ายด้วย 

เราก็กังวลนะคะ ว่าถ้าท้อง ลูกจะเป็นยังไง แต่คุณหมอบอกว่า ไม่เป็นไร ยาที่ให้ปลอดภัยกับสตรีมีครรภ์และเด็กในท้อง

นอนซมอยู่อีก 1-2 วันค่ะ ก็หาย ทามิฟลูที่คุณหมอจ่ายมา เลิศมากค่ะ  ไข้หายแล้ว...สามีกับลูกมาถึง...... ค่ะ นี่เราบินล่วงหน้ามาทำไมคะ? มานอนป่วย? โธ่ ไร้สาระจริงๆเลย ทำบุญก็ไม่ได้ไป ไปบวช ก็ไม่ได้ไป ไม่ได้ไปไหนเลยค่ะ คือ นอนซม จนสามีพาลูกตามมาถึง

เจอกันได้สองวัน เราก็พาลูกสาวไปเที่ยวเกาะล้านกับเพื่อนเราค่ะ พี่ๆถามว่าจะดื่ม Lกฮ มั้ย ตัวเราไม่แน่ใจเลยบอกไปตรงๆค่ะว่า

"หนูสงสัยว่าจะท้องนะคะ ไม่แน่ใจ ถ้าท้องก็ขอบายไปก่อนแล้วกันเนอะ"

พี่กบก็เลยถามว่า
"ตรวจเลยมั้ย ประจำเดือนครบรอบรึยัง"

"ครบรอบวันนี้พอดีเลยค่ะ"

"อ้าว ก็ตรวจไปเลยสิ ตื่นเต้นๆ"

แน่นอนค่ะ ตรวจแล้วก็ขึ้นสองขีด

เราตกใจมากค่ะ บอกเลย เพราะเตรียมใจมาแล้วว่าอาจจะไม่ท้องนะ เนื่องจากผิดหวังมาก็หลายหน แต่พอขึ้นสองขีดจางๆ เราไม่รู้จะทำไงจริงๆ ก็บอกออกมาเลยว่า หนูท้องแย้ววววว

พี่สา คว้าที่ตรวจครรภ์ไป ถ่ายรูป ส่งให้เพื่อนทันทีค่ะ
"สาท้องแล้วววววว"

คือ อำเพื่อน ด้วยฉี่เรา...นี่ถ้าไม่ใช่พี่สา ทำไม่ได้นะเนี่ย 555555

เราก็เลยส่งรูปนั้นไปให้สามีดูค่ะ
"ตัวเอง เค้าท้องแล้วนะ"

สามีพิมพ์กลับมาว่า
"Are you joking?"

เวลาผ่านไป กลับกทม.มาเจอสามี เราเลยถามว่า จะไปหาหมอเลยมั้ย
สามีตัวดี หันมามองหน้า
"Are you serious?"

อ้าว ก็พูดตั้งหลายรอบ นี่น้ำเสียงเราเหมือนล้อเล่นมั้ย 55555

เค้าบอกว่า ก็ในรูปเป็นมือคนอื่น (โอเค ให้อภัยค่ะ จำมือเมียตัวเองได้)
เราก็เลยเล่าให้ฟังว่า พี่เค้าเอาไปถ่ายรูป เราเลยขอรูปมาส่งให้ แน่นอนว่า สามีเลยพาไปหาหมอ ให้หมอช่วยตรวจเลือดให้ตามประสงค์ของแม่นาง

มีท่านผู้อ่านคนไหนจะเดาว่าหมอบอกไม่ท้องบ้างไหมคะ 55555 ค่ะ หมอบอกว่าเราท้องแย้วววววว

พี่เขยถามว่า รู้สึกยังไง ท้องอีกแล้ว ตอบอย่างมั่นใจค่ะ ว่าเฉยๆ ไม่ตื่นเต้นเหมือนท้องแรก  แต่ก็นะ พอเอาเข้าจริง ความตื่นเต้น มันเพิ่มขึ้นตามระยะเวลาที่ตั้งท้องค่ะ  ยิ่งท้องแก่ ยิ่งอยากเจอหน้าไวๆ

กลับจากเมืองไทยมา ก็ยังเป็นช่วงฤดูหนาวของที่นี่นะคะ  แพ้ท้องเล็กน้อย ช่วงแรกๆ คุณหมอยังไม่นัดบ่อยนักค่ะ คือตรวจครรภ์ตอนเดือนมีนาคม 2 หน  (ซักประวัติกับอัลตร้าซาวด์) แล้วนัดอีกที เดือน พฤษภาคมเลยค่ะ

ไตรมาสแรกโหดร้ายกับเรามาก เพราะเข้าช่วงใบไม้ผลิ จากที่ไม่เคยเป็น ก็มาบังเอิญเป็นค่ะ มันคือ "ภูมิแพ้เกสรดอกไม้" หายใจไม่ออก คัดจมูก น้ำมูกไหล เป็นหวัดบ้างบางที แต่หายใจไม่ได้เลยจริงๆค่ะ จนต้องไปหาคุณหมอขอยาแก้แพ้มาทาน

ยาแก้แพ้ก็ไม่ค่อยจะได้ผลค่ะ  มิดไวฟ์ที่ดูแลเราเลยบอกให้ใช้ยาหยอดจมูกสำหรับเบบี๋มาหยอดแทน โอโฮ หยอดปุ๊บ โล่งเหมือนไม่เคได้สัมผัสกับอากาศมาก่อนเลยค่ะ แต่ยาตัวนี้ใช้ติดต่อกันไม่ได้นาน สามวันเจ็ดวันก็ต้องหยุดแล้ว ไม่งั้นจมูกจะบวม

ทนกันไปค่ะ ขนาดว่าปิดหน้าต่างทุกบานไม่ให้เกสรเข้าบ้าน ก็ยังไม่หาย  อุดอู้อยูู่อย่างนั้นสองสามเดือนค่ะ จนกระทั่ง เช็ดตู้ เช็ดชั้น โอ้โฮ พระเจ้าช่วยกล้วยเน่า! เช็ดออกมา ไม่ดำนะคะ  ไม่มีสีฝุ่นเลย แต่เหลืองอ๋อยติดผ้าออกมาเลยค่ะ นี่เอง สาเหตุ มันคือเกสรดอกไม้ที่ปลิวเข้าบ้าน นี่เหลืองขนาดนี้เลย แปลว่าเยอะมากๆ มิน่าล่ะคะ ขนาดปิดบ้านก็ยังไม่ช่วย

ช่วงเวลาที่เกสรดอกไม้ปลิว ที่นี่นะคะ จะถึงขนาดที่ว่า รถเพิ่งจอดได้ไม่ถึงชั่วโมง จะมีผงสีขาวๆ หรือเทาๆ หรือเหลืองๆ ติดที่รถ หนามาก ราวกับว่าไม่ได้ทำความสะอาดมาก่อน สามีเราเคยไปล้างรถ ไม่ถึงชั่วโมงค่ะ ผงสีเหลืองจับจนเห็นชัดเลย เราเลยไม่แปลกใจ ว่าทำไมเราถึงเป็นหนักขนาดนี้

เมื่อเริ่มแพ้เอาตอนท้อง แน่นอนว่าก็ไม่มีวิธีแก้ไข นอกจากทน ทน ทน และทนเข้าไป  ยาแก้แพ้ ทานมากก็ไม่ดี แต่ไม่ใช้เลย ก็อาจทำให้ทารกในครรภ์ขาดO2 ได้ค่ะ  ทนอยู่แบบนั้น จนช่วงเวลาของฤดูใบไม้ผลิได้ผ่านพ้นไป... แล้วซัมเมอร์ ก็มาทักทาย....



Create Date : 25 กันยายน 2559
Last Update : 25 กันยายน 2559 21:33:55 น.
Counter : 1558 Pageviews.

3 comments
  
สวัสดีค่ะ พบบล็อกนี้โดยบังเอิญ เลยอ่าน อ่านแล้วก็รู้สึกว่าเขียนได้สนุกดี นะคะ ขออนุญาตแอดเป็นเพื่อนนะคะ จะได้เข้ามาอ่านได้สะดวก
โดย: ดอยสะเก็ด วันที่: 25 กันยายน 2559 เวลา:16:17:34 น.
  
ยินดีค่ะคุณดอยสะเก็ด ขอบคุณมากๆค่ะ ดีใจมากๆเลยที่ชอบ
โดย: elin วันที่: 25 กันยายน 2559 เวลา:21:22:59 น.
  
อยากเป็นเพื่อนค่ะ
โดย: หนูเล็ก IP: 115.87.174.73 วันที่: 22 พฤศจิกายน 2559 เวลา:16:51:30 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

elin
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



New Comments