การเดินทางของเวลาครั้งนี้วิ่งมาถึง
วันเสาร์ที่ 4 พฤศจิกายน 2560 แล้วหล่ะ
ลมแรง ๆ กระฉากแต่ละครั้งเล่นเอาต้น
มะม่วงสั่นไหวไปเลยทีเดียว วันนี้ฉัน
ไม่ได้ยินเสียงไก่ขันในตอนเช้าเลย
มันไม่ได้ขี้เกียจหรอก เพียงแต่ฉัน
ต่างหากที่ตื่นสาย ตามสั่งคือเมนูอาหาร
เช้าที่คิดไว้ในหัว กระเพราหมูกรอบ
แต่ก็ต้องพลาดไปเพราะร้านอาหาร
ตามสั่งใกล้บ้านปิดอยู่ ฉันเดินทาง
ไปตามถนนแล้วก็เจอร้านอาหารข้างทาง
ฉันเคยมากินที่นี่แล้วหล่ะ ประมาณสี่
ครั้ง ฉันสั่งข้าวขาหมู เน้นเนื้อ ราคา
ก็ไม่แพง เสียเงินให้กับอาหารเช้าไป
สี่สิบบาท สัปรดสี่สิบบาท และกาแฟ
เนสเย็นอีกยี่สิบห้าบาท ตอนเช้าก็
อิ่มเลยหล่ะ นาฬิกาข้อมือของฉัน
สายมันขาดเลยทำให้ฉันอยากจะได้
นาฬิกาข้อมือเรือนใหม่ มันขาดมาได้
สองถึงสามเดือนแล้วหล่ะ ฉันก็เลยต้อง
กลับมาสวมใส่ Casio เรือนแรกที่ฉันซื้อ
เอาไว้ให้กับตัวเอง แต่ใส่ ๆ แล้วฉันก็
ไม่ค่อยมั่นใจแฮะ รู้สึกอาย ๆ ยังไงไม่รู้ซิ
นี่อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ฉันอยากจะได้
นาฬิกาเรือนใหม่ แต่ก็คิดเอาไว้เฉย ๆ น่ะ
ลอยกระทงเมื่อคืน ลืมใส่เงินคงไม่เป็นอะไร
หรอกมั่ง เทียนก็จุดติดแล้วมันก็ดับเนื่องจาก
ลมแรงเลยจุดแค่ธูปแล้วก็ปล่อยมันลอย
ตามน้ำไป ฉันลอยมันไปแล้วก็หันหลัง
ให้กับมันทันที ฉันไม่ได้มองดูดวงจันทร์
ในคืนนั้นหรอกน่ะ มันคงจะเต็มดวงอยู่
ฉันกำลังระบายความเหงาอยู่ ด้วยการเขียน
ไดอารี่ผ่านตรงนี้ มันก็ช่วยฉันได้เยอะน่ะ
บางทีฉันอาจจะอยากมีใครสักคนจริง ๆ ขึ้น
มาก็ได้ แต่มันก็ไม่ได้แปลกอะไร ความเหงา
นี่มันทรมานเหมือนกันแฮะ แต่ยังไงซะก็ต้อง
อยู่ให้ได้ด้วยการหาอะไรทำ แต่วิธีนี้ฉันชอบ
สุดคืนการเข้ามาในหลุมบล๊อคหลบภัย เขียน
อะไรก็ตามที่ฉันอยากจะเขียน แล้วก็ปล่อยมัน
ออกมาพร้อมกับตัวอักษร เอ้อ... เมื่อกี้อยาก
ได้นาฬิกาใช่ไหมหล่ะ ออกไปเดินดู สำรวจ
ดูดีกว่า อาจจะเจอเรือนที่ถูกใจในวันนี้ก็ได้น่ะ
กลับมาแล้วเปลี่ยนใจและ ไม่ออกไปไหนดีกว่า
กาแฟที่ซื้อไว้เมื่อเช้าเข้มมาก วางมันไว้
สักพักน้ำแข็งละลาย รสชาติมันก็จางลงน่ะ
มันก็เลยมาอร่อยตอนน้ำแข็งละลายนี่หล่ะ