กันยายน 2561

 
 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
23
24
25
26
27
29
30
 
 
การกลับมาเขียนบล็อคครั้งแรกในรอบสามปีที่มาเป็นนักเรียนในอเมริกา


เกริ่น
นี่เป็นการกลับมาลองเขียนบล็อคเป็นครั้งแรกในรอบสามปีที่มาอยู่อเมริกาตามหัวข้อ
เราเลิกเขียนบล็อคหลังจากที่มาเรียนต่อที่อเมริกาในปี 2015 
ขณะนี้ก็ยังเป็นนักเรียนอยู่ (เรียนไม่จบสักที 555) 
ในระหว่างสามปีที่หายไปก็มีหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลง
หลักๆ คร่าวๆ คือเราย้ายมหาวิทยาลัย เนื่องจากเรียนจบปริญญาโทจากที่เก่า (ซึ่งรัฐอยู่โซน Mid West เป็นเขตหนาว) มาอยู่ที่มหาวิทยาลัยใหม่ (อยู่เขต West Coast เอาชัดๆก็ California นี่ล่ะ) เพื่อมาเรียนปริญญาเอก
อันที่จริง จบป.โทเมื่อปี  2017  และ เข้าเรียนป.เอกต่อเลย ในปีเดียวกัน ก็ถือว่าเรียนป.เอกมาได้ปีนึงละ
จะเข้าสู่ปีที่สองในสัปดาห์หน้า

เราชอบทำบล็อคเป็นแนวแบบตั้งคำถามตัวเองแล้วตอบเองนะ ฟังดูเหมือนเป็นคนพูดคนเดียวยังไงก็ไม่รู้แฮะ 

Q: ที่ผ่านมาหายไปไหน ทำไมอยู่ๆถึงกลับมาทำบล็อค

คือในช่วงที่ผ่านมาเราเจอประสบการณ์ที่หลากหลายมาก แต่ก็ไม่ค่อยได้อัพเดทให้ใครรู้
ทั้งในโซเชียลส่วนตัว หรือ ในบล็อค หรือ แม้กระทั่งไดอารีในสมุดที่บ้าน ก็ยังไม่ค่อยเขียน
คือมันไม่ใช่ว่าไม่มีเวลาหรอก แต่เพราะกังวลในเรื่องไม่เป็นเรื่องมากจนเกินไป 
หลายๆครั้งเราก็กังวล กลัวคนอื่นจะว่า กลัวเพื่อนต่างชาติที่เป็นเฟรนด์กัน จะรำคาญที่โพสต์บ่อยๆ (คนอเมริกันไม่ค่อยโพสต์อะไรเท่าไหร่เลย ส่วนใหญ่จะแชร์โพสต์เรื่องการเมือง หรือประเด็นสำคัญในหน้าหนังสือพิมพ์ ที่เราไม่ค่อยติดตาม และ ไม่ค่อยเข้าใจ) ประกอบกับความกังวล และ กดดันหลายๆอย่าง 
ทำให้เราไม่กล้าแชร์ประสบการณ์ ความรู้สึก อะไรพร่ำเพรื่อ คือจะแชร์เฉพาะสิ่งที่คิดว่าสำคัญ และ เหมาะสมที่จะโพสต์
เอาจริงๆมันก็ทำเราอึดอัดอยู่เหมือนกัน
ในส่วนการเขียนไดอารีส่วนตัว เราก็เขียนมั่งไม่เขียนมั่ง ตามอารมณ์ช่วงนั้น บางวันถ้าหงุดหงิดมากๆ ก็จะไม่ค่อยอยากจดบันทึก เพราะมันยิ่งทำให้คิดถึงเรื่องที่ทำให้เครียด เมื่อก่อนอาจเป็นคนที่ชอบเขียนไดอารีเพื่อบ่นระบายอารมณ์ แต่หลังๆจะไม่ค่อยอยากเขียน เพราะว่ามันยิ่งทำให้คิดลบ เลยชอบเขียนแพลนงาน แพลนชีวิต ไม่ก็เขียนให้กำลังใจตัวเอง หรือ ทบทวนสิ่งที่ได้ทำ (ในเชิงกลางๆ หรือ เชิงบวก)
การเรียนปริญญาในต่างประเทศมันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เราอาจสนุก มีสิ่งท้าทายมากมาย มีเครื่องมือเครื่องจักรพร้อม บุคลากรที่เต็มใจทำงาน และ มีประสิทธิภาพ แต่นั่นก็แลกมาด้วยความกดดันสูงทั้งจากตัวเอง และ คนรอบข้าง มีหลายสิ่งที่ทำให้เราเครียด และ วิตกกังวล ตั้งแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆ ไปจนถึงเรื่องใหญ่ๆ
การทำเรื่องง่ายๆแค่บาลานซ์ชีวิต อาจกลายเป็นเรื่องที่ยาก เราเลยอยากหาเวลากลับมาเขียนเรื่องพวกนี้เป็นบันทึกไว้ เก็บไว้ดู สอนตัวเองในอนาคต หรือ เป็นการเล่าประสบการณ์ให้คนอื่นๆที่สนใจอยากอ่าน

เหตุผลหลักที่กลับมาทำบล็อคเพราะว่า อยู่ๆก็อยากกินเจให้สำเร็จ 
เราเป็นคนไทยเชื้อสายจีนที่ที่บ้านไม่เคยบังคับให้กินเจ และ รู้สึกว่าขาดเนื้อสัตว์ไม่ได้ ก็เลยคิดว่าเราคงกินเจไม่ได้หรอก เลยไม่พยายามที่จะกินเลย
แต่เมื่อปีที่แล้ว (Oct 2017) เกิดอยากลองกินเจขึ้นมา ก็ทำไปได้ 5 วัน แล้วก็อดใจไม่ไหวไปกินไก่เบอร์เกอร์คิง ฮ่าๆๆๆๆๆ
พอปีนี้ก็มานั่งทบทวนตัวเอง แล้วก็รู้สึกอยากทำเรื่องกินเจนี้ให้สำเร็จ 
เราเป็นคนที่ชอบหาข้อมูล และ กูเกิลล่วงหน้า เพื่อวางแผน
เมนูเจในไทย ส่วนใหญ่ก็จะใช้ของที่หาไม่ได้ในอเมริกา มีหลายเมนูที่ใช้พวกโปรตีนเกษตร ซึ่งก็หายาก (คิดว่าของจีนอาจจะมี แต่เราอ่านภาษาจีนไม่ออกอ่ะ)
พอหาข้อมูลเมนู vegan ของทางฝั่งอเมริกา ก็มีแต่ต้องใช้พวกผักต้องห้ามทั้งนั้นเลย (หอม กระเทียม) นั่นแปลว่าเราจะกินพวกของสำเร็จรูปที่เป็นวีแกนไม่ได้อะสิ... คงต้องทำเองเป็นหลัก
เราก็เลยคิดว่า ถ้าเราจะทำครั้งนี้ ก็อยากจะแชร์ว่ากินอะไรบ้าง ที่มันเป็นของเจที่ไม่ผิดหลัก และ สามารถหาซื้อได้ทั่วไปในอเมริกา
ส่วนตัวเราเรียนโภชนาการมา เวลาเรียนเคสของคนที่เป็นมังสวิรัติและวีแกน ก็จะตอบตามทฤษฎีตลอด แต่ไม่ค่อยได้เรียนรู้ด้วยตัวเองเท่าไหร่ เราจึงอยากลองเรียนรู้ด้วยตัวเอง ว่าถ้าหากเราลองกินเจ เราควรจะกินยังไง ให้สารอาหารยังครบ และ ไม่ผิดหลัก
เราหวังว่ารอบนี้เราจะไม่เจแตก หรือ ถ้าหากเจแตก ก็จะพยายามกลับมากินทุกครั้งที่รู้ตัว

Q: มีแพลนเรื่องที่อยากจะเขียนมั้ย

อยากเขียนเรื่องการกินเจในอเมริกาเป็นหลักก่อน
อาจจะอยากเขียนเรื่องการรื้อฟื้นทฤษฎีเปียโน และ การฝึกภาษาด้วยตนเอง
แต่ก็ยังคิดๆอยู่ว่าอะไรความเป็นธีมของบล็อคนี้ดี หรือ จะเขียนไปเรื่อยๆตามใจฉัน ขอแค่เขียนก็พอไรงี้.... เราน่าจะอยู่ในช่วงค้นหาตัวเองว่าอยากจะโฟกัสอะไรอยู่ อาจจะต้องลองไปเรื่อยๆ
เราว่าสิ่งที่หลายๆคนยังไม่ค่อยรู้เกี่ยวกับอเมริกาคือพวกเกร็ดเล็กๆน้อยๆ เช่น มารยาทในที่ทำงาน การเรียน การเข้าสังคม หรือ อาหารการกิน  ซึ่งถ้าเรามีเวลา มีประเด็น เรื่องเล่ามาพูดคุยก็อาจจะหยิบยกขึ้นมา แต่ตอนนี้ก็ยังคิดไม่ค่อยออก คิดออกแต่ว่าอยากจะเขียนบล็อค

จริงๆมีความคิดอยากจะเขียนบล็อคเป็นภาษาอังกฤษด้วย แต่ว่าคงเน้นเขียนเรื่องอาหารการกินมากกว่า เพราะอยากจะเขียนไว้แชร์กับเพื่อนๆต่างชาติที่เรียนมาด้วยกัน เค้าจะได้เข้ามาอ่านและแนะนำเราได้ (แต่คงพับไว้ก่อน คิดว่าเอาแค่เขียนบล็อคนี้ให้เสถียรก่อนดีกว่า)

Q: วางแผนการเขียนบล็อคไว้ยังไง

คิดว่าอยากจะเขียนสัปดาห์ละครั้ง
ใช้เวลาเขียนอย่างต่ำก็ประมาณ 30 นาที (ประหนึ่งเวลาสอบเขียนโทเฟล)
จะพยายามเขียนให้กระชับมากขึ้น แล้วก็ จัดประเด็นหัวข้อให้เป็นหมวดหมู่
นี่คือวางแผนไว้นะ ไม่รู้จะทำได้มั้ย
แต่ที่รู้สึกคือการเขียนในบล็อคทำให้สบายใจอย่างบอกไม่ถูก
คือเราขี้เกรงใจมากในบางเรื่อง ไม่อยากโพสต์ยาวๆให้คนรู้สึกรำคาญ 
พวกบล็อคนี่ คนที่สนใจจะอ่านเท่านั้น เค้าถึงจะกดเข้ามาอ่าน ไม่ได้ไปรบกวนในฟีดของใคร (รึเปล่านะ?)



เราไม่รับปากนะว่าจะอัพตลอดอย่างที่วางแผนเอาไว้ แต่ก็จะพยายามหาเวลาเข้ามาเขียน 
ไม่ได้พิมพ์ภาษาไทยยาวๆแบบนี้มานานมาก อาจจะใช้ภาษาแปลกๆ อย่าว่ากันนะ:D 




Create Date : 21 กันยายน 2561
Last Update : 21 กันยายน 2561 14:22:23 น.
Counter : 452 Pageviews.

3 comments
  
เพิ่งทราบว่า ที่เมกา.. มีคนสนใจกินเจ... แบบในไทยด้วย

เขียนเลยครับ...

ผมก็ชอบเขียนบล๊อก ฝึกสมอง ฝึกวางแผนการเขียนมิให้คนอ่าน
ง่วงนอน กะว่าจะให้เขาชอบนะครับ 555
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 21 กันยายน 2561 เวลา:17:55:16 น.
  
สมัครมาหลายปี แต่ยังใช้บล็อคไม่ค่อยเป็นเลยค่ะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะคะ
โดย: earpphat วันที่: 21 กันยายน 2561 เวลา:23:55:25 น.
  
เป็นเหมือนกันเลยค่ะ
โดย: tukata001 วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2562 เวลา:10:34:26 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

earpphat
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 5 คน [?]