620801 | เหตุให้เกิดวิปัสสนา ความบริสุทธิ์ของศีลและจิต |
620802 | สังขารเป็นทุกข์จากเพลิงทุกข์เกิดแก่เจ็บตาย และเพลิงกิเลสโลภโกรธหลง |
620803 | ความพอใจด้วยของที่มีแห่งตน เป็นทรัพย์อย่างยิ่ง ทำให้เกิดความปลื้มใจ |
620804 | สันโดษ พอใจในของ ๆ ตนที่มีอยู่ และได้มา ยินดีตามมีตามได้ ตามกำลัง ตามสมควร |
620805 | ศีลมีมารยาทเรียบร้อยสำรวม สมาธิมีจิตใจมั่นคงเข้มแข็งสงบ ปัญญาไม่หวั่นไหวเมื่อประสบโลกธรรม |
620806 | ปกติจิตเป็นประภัสสรแต่ขุ่นมัวด้วยนิวรณ์ 5 ความรักใคร่ ปองร้ายอาฆาต ท้อแท้ ฟุ้งซ่านรำคาญ สงสัยลังเลใจ |
620807 | การเจริญมรณัสสติ ให้มีสติระลึกถึงความตาย เพื่อเกิดสังเวชสลดใจ ไม่ประมาทในชีวิต จะได้รีบเร่งทำความดี |
620808 | นอกจากเกิดแก่เจ็บตายเป็นทุกข์แล้ว ความโศกความแห้งใจ ความรัญจวนคร่ำครวญ ไม่สบายกายไม่สบายใจ ความคับแค้นใจ ล้วนเป็นทุกข์เช่นกัน |
620809 | การแผ่เมตตาเพื่อให้จิตใจอ่อนโยนปราศจากความโกรธแค้นพยาบาท เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองและให้พ้นอันตรายจากสัตว์ทุกประเภท |
620810 | เมื่อทำอานาปานสติถึงจุดที่ลมหายใจไม่ปรากฏให้กำหนดได้ อย่าตกใจ เสียใจ หรือลุกหนี เพราะปฏิบัติได้ถูกวิธีแล้ว |
620811 | โดยปรมัตถ์แล้ว ไม่มีใครเกิด ไม่มีใครอยู่ ไม่มีใครตาย มีแต่กระแสแห่งสังขาร การปรุงแต่งตามกฎอิทัปปัจยตา |
620812 | ปฏิจจสมุปบาท หรืออิทัปปัจจยตา การที่สิ่งทั้งหลายอาศัยกันจึงเกิดมีขึ้น เช่น ทุกข์เกิดขึ้นเพราะมีปัจจัย 12 เรื่องเกิดขึ้นสืบ ๆ เนื่องกันมาตามลำดับดังนี้ คือ อวิชชาเป็นปัจจัย สังขารจึงมี สังขารเป็นปัจจัย วิญญาณจึงมี วิญญาณเป็นปัจจัย นามรูปจึงมี นามรูปเป็นปัจจัย สฬายตนะจึงมี สฬายตนะเป็นปัจจัย ผัสสะจึงมี ผัสสะเป็นปัจจัย เวทนาจึงมี เวทนาเป็นปัจจัย ตัณหาจึงมี ตัณหาเป็นปัจจัย อุปาทานจึงมี อุปาทานเป็นปัจจัย ภพจึงมี ภพเป็นปัจจัย ชาติจึงมี ชาติเป็นปัจจัย ชรามรณะจึงมี ความโศก ความคร่ำครวญ ทุกข์ โทมนัส และความคับแค้นใจ ก็มีพร้อม ความเกิดขึ้นแห่งกองทุกข์ทั้งปวงนี้ จึงมี |
620813 | โทสะนำมาซึ่งความฉิบฉายและเผาผลาญ ซึ่งลดทอนได้ด้วยขันติความอดทนอดกลั้น |
620814 | เมื่อกายและจิตกระวนกระวายลมหายใจหยาบ เมื่อกายและจิตสงบลมหายใจจะละเอียด |
620815 | การฝึกจิตด้วยอานาปานสติทำได้ใน 4 รูปแบบ คือ นั่ง ยืน เดิน และนอน |
620816 | ศีลปราบกิเลสอย่างหยาบ สมาธิปราบกิเลสอย่างกลาง ปัญญาปราบกิเลสอย่างละเอียด |
620817 | เอกัคคตา เพื่อให้จิต ผ่องใส สุข เข้มแข็ง มีพลัง |
620818 | เอกัคคตาคือการที่จิตมีอารมณ์เป็นหนึ่งหรือเป็นองค์ฌาน |
620819 | ช่วงที่จะเกิดเอกัคคตา จิตมีอาการตกวูบ แล้วจึงรวมตัวเป็นหนึ่ง |
620820 | คนฉลาดจะคอยดักลมหายใจที่ปลายจมูก ขณะทำอานาปานสติ |
620821 | อินทรีย์ ได้แก่ ศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา การปรับอินทรีย์มีผลต่อการทำกรรมฐาน |
620822 | ก่อนทำกรรมฐานต้องชำระร่างกายให้สะอาด ทำจิตใจให้สงบ |
620823 | ศัตรูของเมตตาคือราคะและพยาบาท |
620824 | ศัตรูของกรุณาคือโทมนัสความเศร้าโศกไม่สบายใจ และวิหิงสาความเบียดเบียน |
620825 | มุทิตา ยินดีเมื่อผู้อื่นได้ดี ศัตรูคือโสมนัสที่มีกามคุณเจือปน กับริษยาทุกข์ใจเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี |
620826 | อุเบกขา คือเข้าใจและยอมรับในโลกธรรม จนวางเฉยต่อสิ่งที่จะเกิดด้วยใจสงบ |
620827 | อภิญญา 5 จิตที่ฝึกจนแสดงฤทธิ์ได้ หูทิพย์ รู้ใจผู้อื่น ระลึกชาติได้ ตาทิพย์ |
620828 | ผูกพยาบาทเหมือนผูกเงื่อนเป็น จองเวรเหมือนผูกเงื่อนตาย แก้ยาก |
620829 | หิริโอตตัปปะ ความละอายและเกรงกลัว ไม่ประพฤติชั่วที่ผิดทางกายวาจาใจ |
620830 | เมื่อจิตบริสุทธิ์สิ้นกิเลสทั้งปวง จะทำให้ไม่เกิดอีก เรียกนิพพาน |
620831 | คนโทสจริตโกรธง่าย ให้ปฏิบัติในพรหมวิหาร 4 และวัณกสิณสี 4 |