All Blog
ฮั่นฮุ่ยตี้ฮ่องเต้ พ.ศ. 348 – 355
ฮั่นฮุ่ยตี้ฮ่องเต้ พ.ศ. 348 – 355
            ฮั่นฮุ่ยตี้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์ฮั่น
            ฮั่นฮุ่ยตี้ พระนามเดิม หลิวอิงเป็นพระโอรสองค์ที่ 2 ของฮั่นเกาจู่และหลี่ฮองเฮา
            ประสูติเมื่อปี พ.ศ. 333 ได้ขึ้นครองราชย์ต่อจากพระบิดา สวรรคตเมื่อพระชนม์ 22 พรรษา
            ฮั่นฮุ่ยตี้เป็นพระโอรสองค์ที่ 2 ได้เป็นองค์รัชทายาท เพราะพระโอรสองค์โตหลิวเฟยประสูติแต่พระสนม แต่หลี่ฮองเฮากุมอำนาจในราชสำนักทั้งหมดไว้ได้ จึงยกบัลลังก์ให้แก่พระโอรสของพระนาง แทนที่จะให้แก่พระโอรสองค์โต
            ที่น่าแปลก ทำไมหลี่ฮองเฮาจึงไม่ได้ให้กำเนิดพระโอรสองค์โต ทั้งที่ได้แต่งงานกันตั้งนานนมกาเล หรือว่า ช่วงแรกหลิวปังมัวแต่ออกรบทัพจับศึก พอเป็นฮั่นเกาจู่หลงเสน่ห์สาว ๆ ในวัง มีสนมมากหน้าหลายตา จนลืมหลี่ฮองเฮาไปเสียนี่
            คนอย่างหลี่ฮองเฮามีหรือจะยอมอะไรง่าย ๆ พระโอรสของหลี่ฮองเฮาเท่านั้นที่จะได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ ไม่ใช่พระโอรสองค์โต
            เชื่อแน่ว่า หลี่ฮองเฮากุมอำนาจเหนือบัลลังก์มังกรมาตั้งแต่สมัยของฮั่นเกาจู่แล้ว เมื่อสิ้นพระสวามี พระโอรสมีพระชนม์ 15 พรรษา ได้ขึ้นครองบัลลังก์ โดยหลี่ฮองเฮาซึ่งกลายเป็นหลี่ไทเฮา ได้กุมอำนาจทั้งหมด และมีอำนาจเหนือแผ่นดินต่อมาอีกสองรัชกาลในสมัยของพระนัดดาอีกสององค์
            ฮองเฮาของฮั่นฮุ่ยตี้ชื่อฉางหยัน มีโอรส 2 องค์ที่ได้ครองราชย์ต่อมา แต่เป็นช่วงระยะเวลาอันสั้น ๆ เท่านั้น คือ หลิวกงและหลิวฮง ซึ่งต่อมาคือฮั่นเซาตี้เป็นฮ่องเต้องค์ที่ 3 แห่งราชวงศ์ฮั่นและฮั่น
            เซาตี้ฮงเป็นฮ่องเต้องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์ฮั่นช่วงนั้นในราชสำนักมีแต่การแก่งแย่งชิงดีกัน            เมื่อฮั่นเกาจู่สวรรคตระหว่างไปปราบกบฏอิงปู้ องค์รัชทายาทหลิวอิงจึงได้ขึ้นครองราชย์เป็นฮั่นฮุ่ยตี้เมื่อพระชนม์เพียง 15 พรรษา แต่ครองราชย์ได้เพียง 7 ปี สวรรคต พ.ศ. 355 ด้วยพระชนม์เพียง 22 พรรษา องค์รัชทายาทหลิวกงจึงเสด็จขึ้นครองราชย์แทน
            ขอตั้งข้อสังเกตว่า พระชนม์ 22 เหตุใดจึงสิ้นพระชนม์ เพราะร่างกายไม่แข็งแรง หรือเพราะเติบใหญ่จนรู้ความมากมาย จึงโดนกลุ่มผู้มีอำนาจกำจัดทิ้ง ไม่มีรายละเอียดให้สืบค้น
            ด้วยพระชนม์อันอ่อนเยาว์ จึงเป็นเหตุให้หลี่ไทเฮาสามารถกุมอำนาจต่อมา และออกว่าราชการแทนฮั่นฮุ่ยตี้ตลอดรัชกาล กลุ่มก๊วนของพระนางจึงเข้มแข็งและใหญ่ยิ่งมาก
            ในช่วงเวลาที่ฮั่นเกาจู่ครองราชย์ ได้จัดระบบการปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจรัฐไว้ที่ส่วนกลาง กำหนดนโยบายทางการเมืองที่ส่งผลดีต่อประเทศจีนด้วยการผ่อนภาระหน้าที่ประชาชน นโยบายนี้ได้สานต่อมาภายใต้อำนาจที่แท้จริงในการปกครองคือหลี่ไทเฮาในฮั่นเกาจู่
            เมื่อฮั่นเกาจู่สวรรคตนั้น อำนาจทั้งหมดตกอยู่ภายใต้อำนาจของหลี่ฮองเฮานานถึง 3 รัชสมัยต่อมา นับตั้งแต่ฮั่นฮุ่ยตี้พระโอรส และฮั่นเซาตี้กับฮั่นเซาตี้ฮงพระนัดดา
            ในอดีตผู้หญิงไม่เคยได้รับสิทธิ์ให้ออกว่าราชการหรือแม้แต่แสดงความคิดเห็น
            บางวาระในประวัติศาสตร์จีน ผู้หญิงได้ก้าวขึ้นมาผงาดเหนือบัลลังก์ แต่ทว่าไม่อาจแสดงฝีมืออันโดดเด่นให้ปรากฏและทำให้ผู้ชายยอมรับว่า หญิงหรือชายฝีมือไม่แตกต่างกัน เพียงแต่ไม่เคยได้รับสิทธิ์ไม่เคยได้รับการฝึกฝนอบรมให้มีวิทยายุทธที่ทัดเทียมกันก็เท่านั้นเอง
            อันว่าหญิงหรือชาย ชีวิตอาจพลิกผันได้เมื่อเลือกคู่ เช่นกันกับหลิวปังลูกชาวนาผู้ยากจน ก้าวขึ้นมาเป็นฮั่นเกาจู่ได้ เขาว่าเบื้องหลังเพราะได้เมียเก่งนั่นเองที่คอยสนับสนุนค้ำจุนมาตลอด ต่อมาได้เป็นฮองเฮานามว่าหลี่ฮองเฮา แต่มีสมญานามว่า ฮองเฮาจอมโหด เพราะยิ่งใหญ่คับฟ้าและโหดเหี้ยมเกิน เมื่อเป็นหลี่ไทเฮา นอกจากโหดมากแล้ว อาจจะปล่อยให้พรรคพวกคอร์รัปชันมากยิ่งขึ้นก็เป็นได้
 

 
            หลี่ฮองเฮามีชื่อเดิมว่า หลี่จื้อ หรือ หลี่โฮ่ว เป็นผู้มีอำนาจบาตรใหญ่อยู่เบื้องหลัง
            หลี่ฮองเฮาผู้นี้แสดงอำนาจอันเกินหญิงจีนในสมัยนั้นตั้งแต่สามีเป็นฮ่องเต้ ที่ฮั่นเกาจู่สั่งฆ่านายทหารคนสนิทที่เคียงบ่าเคียงไหล่ร่วมรบกันมาก่อนกู้ชาติจนกู้ชาติสำเร็จ เขาว่ากันว่า ผู้เสนอความคิดให้รื้อนั่งร้าน หลังสร้างบ้านสำเร็จ คือเธอนั่นเอง
            คำพูดกรอกหูของคนหลังบ้านคือ แม่ทัพหานซิ่นคิดก่อการกบฎ ทำให้โดนประหาร 3 ชั่วโคตร และเผิงเยว่โดนสั่งเนรเทศ แต่หลี่ฮองเฮาแอบสั่งประหารโดยการตัดหัว แล้วก็หั่นศพให้ละเอียด คงมีแรงแค้นต่อกันมากเหลือคณานับจึงทารุณแม้กระทั่งศพที่ไร้วิญญาณ อาจคิดว่าวิญญาณของเผิงเยว่กำลังดูอยู่กระมัง จึงทำให้หายแค้น
            เมื่อฮั่นเกาจู่ครองอำนาจ 10 กว่า ปี อำนาจของหลี่ฮองเฮายิ่งเพิ่มพูนทวีคูณ ด้วยฮั่นเกาจู่ต้องคอยออกรบบ่อย ๆ ถึงไม่ค่อยจะอยู่ในเมือง ฮั่นเกาจู่หลงรักหญิงงามคนหนึ่ง แต่งตั้งให้เป็นสนมและออกจะหลงรักนางมากกว่าเมียแรก
            ช่วงที่หลิวปังได้แต่งงานกับหลี่จื้อนั้น ยังคงเป็นคนธรรมดาที่มีโชควาสนาบุญหล่นทับ กลายเป็นหนูตกถังข้าวสาร
            ไม่รู้ว่า หลิวปังหลงรักนาง หรือแค่พ่อของนางอยากได้เขามาเป็นลูกเขย หรือเป็นธรรมดาชองผู้ชายที่เห็นหญิงที่สวยกว่าสาวกว่าให้หลงรักหัวปักหัวปำ จนลืมน้ำพริกถ้วยเก่าไปสิ้น ทำให้เมียแรกกลายเป็นหญิงขี้หึงที่สามีไม่รักและสนใจใยดีแม้แต่น้อย
            จากลูกสาวเศรษฐีที่ได้กับชายหนุ่มฐานะต้อยต่ำกว่า จนผลักดันได้เป็นถึงฮ่องเต้ มีทุกสิ่งอำนาจลาภยศ ขาดแต่เพียงสิ่งเดียวคือความรักจากสามี
            ด้วยเหตุนี้ หลังสิ้นฮั่นเกาจู่ พิษรักแรงหึงที่อัดแน่นสุมอกมานานหลายปี ได้ทะลวงออกมาด้วยการสั่งฆ่าสนมชีฮูหยินอย่างโหดร้าย เริ่มแรกสั่งปลดนางเป็นทาสและจับโกนหัว ส่วนลูกชายยังให้อยู่ดีเป็นสุข
            จนมาวันหนึ่งสนมชีฮูหยิน ผู้ไม่รู้จักเจียมตน ได้พร่ำพรรณาถึงอดีตและบอกกล่าวใคร ๆ ว่า ลูกชายนางนั้นเป็นใคร เขาว่าอยู่ดีไม่ว่าดี แค่สั่งปลดเป็นทาสและโดนโกนหัวยังไม่สำนึก คราวนี้ลูกชายที่เป็นถึงองค์ชายหลิวหรูอี้เลยต้องสังเวยชีวิตให้แก่ความโหดของหลี่ไทเฮา
            ฮั่นฮุ่ยตี้ทรงสนิทสนมในองค์ชายหลิวหรูอี้เป็นอันมาก เมื่อตนได้ขึ้นครองบัลลังก์ และรู้ว่าพระมารดาหลี่ไทเฮาหวังกำจัดเสี้ยนหนามให้หมดสิ้นไป ไม่ว่าองค์ชายใด ๆ ได้หาทางกำจัด
            ฮั่นฮุ่ยตี้จึงพยายามปกป้องชีวิตขององค์ชายหลิวหรูอี้อย่างเต็มที่
            เพื่อหวังปกป้องให้องค์ชายหลิวหรูอี้รอดชีวิต จึงเสด็จไปรับองค์ชายหลิวหรูอี้เข้ามาพำนักในวังหลวงในตำหนักเดียวกับพระองค์ และสั่งการให้ทหารดูแลอย่างใกล้ชิด
            วันหนึ่งขณะที่พระองค์มีธุระด่วนออกจากตำหนัก ไม่รู้ว่าเป็นแผนการอันแยบยลของหลี่ไทเฮาหรือไม่ ทำให้ทรงปล่อยให้องค์ชายหลิวหรูอี้อยู่ตามลำพัง ไม่นึกไม่ฝันว่าชั่วประเดี๋ยวเดียวนี้เอง องค์ชายหลิวหรูอี้โดนวางยา สิ้นชีพไปเสียเลย
            ส่วนสนมชีฮูหยินถูกตัดแขน ตัดขา ควักลูกตา ทำให้หูหนวก กรอกยาให้เป็นใบ้ แล้วเอาไปไว้ข้างห้องส้วม ให้เรียกว่า มนุษย์หมู มีชีวิตเยี่ยงหมูข้างห้องส้วม น่าอเนจอนาถใจยิ่งนัก จากสนมที่ฮ่องเต้หลงรักมาเป็นมนุษย์หมูสกปรกโสโครกโสมม ไร้แขนขาแถมตาบอดอีก ยิ่งกว่าตกสวรรค์อีกนะนี่
            นางมีคำสั่งให้ฮั่นฮุ่ยตี้มาดู ทำให้ฮั่นฮุ่ยตี้รู้ตัวแล้วว่า แม่ของตัวเองโหดเหี้ยมและร้ายกาจมากเพียงใด เมื่อแม่สั่งให้ทำสิ่งใด จำต้องทำตามอย่างไม่บิดพริ้ว มิเช่นนั้นอาจมีชะตากรรมดุจเดียวกัน
เป็นเพราะพระองค์พยายามปกป้องชีวิตลูกชายของนาง ทำให้นางและลูกของนางจบสิ้นชีวิตแบบน่าอนาถเช่นนี้ ความเป็นฮ่องเต้มิอาจแก้ไขให้ทุกสิ่งดีขึ้นได้เลย
            เมื่อแม่แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่กล้าท้าทายอำนาจนาง และทำให้นางโกรธ จะจบสิ้นชีวิตเช่นไร มีหรือลูกจะกล้าแสดงอำนาจบาตรใหญ่และคัดค้านแม่ได้
            ฮั่นฮุ่ยตี้จึงเป็นฮ่องเต้ที่มีชีวิตอยู่ไปวัน ๆ ทำตัวเสเพล เพื่อไม่ให้เกะกะสายตาแม่ แม่อยากทำอะไรให้ทำได้ตามใจเลย ปล่อยให้แม่ออกว่าราชการ และกุมอำนาจทั้งหมด โดยที่พระองค์เป็นเพียงหุ่นเชิดอำนาจนี้ เรียกว่า รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
            น่าสงสัยว่า แท้จริงแล้วฮั่นฮุ่ยตี้เป็นคนไม่เอาไหนจริง ๆ หรือแค่บอกว่า กลัวแม่มาก จึงไม่กล้าออกว่าราชการ และไม่ทำตัวเหมือนคนรู้เรื่องที่อยากได้อำนาจมาเป็นของตน ไม่กล้าช่วงชิงอำนาจที่ควรเป็นของตนจากแม่บังเกิดเกล้าที่เหี้ยมโหด
           
 



Create Date : 23 กรกฎาคม 2562
Last Update : 23 กรกฎาคม 2562 16:02:10 น.
Counter : 1857 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 4665919
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]



ดร.พรรณี เกษกมล นักเขียน ข้าราชการบำนาญ ครูซี 9 แนะแนว
New Comments