บันทึกนักเดินทางตามใจฝัน
|
|||
Acrophillia: Tokyo SkyTree Acrophillia สำหรับชมรมคนหลงไหลที่สูงกลับมาอีกครั้ง แต่คราวนี้จะพาไปสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับทัศนาวิวเสียวๆแบบสูงๆอีกประเภทหนึ่งนอกเหนือจากตึกระฟ้า นั่นก็คือหอคอย (Tower) ในสมัยโบราณหอคอยจะถูกสร้างไว้เพื่อตรวจตราดูความเรียบร้อยของเมืองและระวังภัยข้าศึกบุกโจมตี ยุคปัจจุบันหอคอยสูงส่วนมากสร้างไว้เพื่อส่งกระจายสัญญาณคลื่นวิทยุโทรทัศน์ แต่แทนที่จะไว้ส่งสัญญาณอย่างเดียวหอคอยหลายๆที่จะสร้างจุดชมวิวเมืองไว้สำหรับนักท่องเที่ยวด้วย เรียกว่าทำประโยชน์ได้คุ้มค่าจริงๆ ตามธรรมเนียมของ Acrophillia เมื่อเราเขียนถึงเรื่องอะไรครั้งแรก เราจะต้องให้เกียรติแชมป์กันก่อน เจ้าของตำแหน่งหอคอยที่สูงที่สุดในโลกปัจจุบันเป็นของหอคอย Tokyo SkyTree ที่กรุงโตเกียว แดนปลาดิบญี่ปุ่น ก่อนที่จะสร้าง Tokyo SkyTree มหานครโตเกียวมีหอคอยส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์และชมวิวอยู่แล้วชื่อว่า Tokyo Towerสูง 333 เมตรเปิดทำการมายาวนานตั้งแต่ปี 1958 แต่เมื่อเวลาผ่านไปกรุงโตเกียวมีตึกระฟ้าสูงๆผุดมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งหลายๆตึกก็สูงกว่า Tokyo Tower จึงบดบังทัศนวิสัยการส่งสัญญาณ ทางญี่ปุ่นจึงมีดำหริที่จะสร้างหอคอยใหม่ที่สูงกว่าเดิม เมื่อพิจารณาไว้เผื่อว่าตึกในอนาคตจะมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงสร้างหอคอยใหม่ให้มีความสูงมากขึ้นเป็นพิเศษทำให้กลายมาเป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลก หอคอย Tokyo SkyTree มีความสูงทั้งสิ้น 634 เมตร (เกือบสองเท่าของ Tokyo Tower) เป็นสิ่งปลูกสร้างที่สูงในโลกเป็นอันดับสองรองจากตึก Burj Khalifa (ตึกที่สูงที่สุดในโลกที่ดูไบ) แต่เป็นหอคอยที่สูงที่สุดในโลก (ชนะแชมป์เก่าเจ้าของความสูง 600 เมตรอย่าง Canton Tower ที่เมืองกวางโจว) เปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2012 เอาละทำความรู้จัก Tokyo SkyTree มาพอสมควรแล้ว ถึงเวลาขึ้นไปชมวิวกัน ตึก Tokyo SkyTree มีชั้นชมวิวที่สองระดับ ที่ความสูง 350 เมตร เรียกว่า Tembo Deck และที่ความสูง 450 เมตร เรียกว่า Tembo Galleria ที่เว็บไซด์ของ Tokyo SkyTree เปิดให้จองบัตรทางออนไลน์ได้แต่จำกัดเฉพาะผู้ที่ถือบัตรเครดิตที่ออกในญี่ปุ่นเท่านั้น นักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไม่สามารถจองออนไลน์จะต้องไปซื้อตั๋วที่ชั้นล่างของหอคอยเอง ระบบการเข้าคิวซื้อตั๋วที่นี่น่าสนใจดี ตอนที่ผมไปถึงประมาณเก้าโมงเช้า เค้าจะแจกบัตรคิวนัดเวลาซื้อตั๋วของเราให้ ซึ่งการเข้าแถวรับบัตรคิวตรงนี้ใช้เวลาไม่นาน อย่างของผมได้คิวซื้อตั๋วเวลา 11.00-11.30 หลังจากนั้นไม่ต้องยืนรอ สามารถไปโต๋เต๋ที่อื่นและกลับมาซื้อตั๋วตามเวลาที่นัดได้ แต่ถ้าใครขี้เกียจไปที่อื่นและกลับมาอีก ที่ใต้หอคอยจะมีแหล่งบันเทิงมากมายไว้ฆ่าเวลา ไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ชื่อว่า Tokyo Solamachi ท้องฟ้าจำลอง อะควาเรี่ยม เอาแค่เดินดูร้านค้ายังไม่ทันทั่วก็ถึงเวลานัดแล้ว พอถึงเวลานัดก็กลับมาที่จุดนัด (Gate B สำหรับคิวของผม) ตรงนี้จะเป็นการเข้าคิวซื้อตั๋วจริงๆแล้ว เนื่องจากมีการกระจายคิวกันไปทำให้รอในคิวไม่นานก็ได้ตั๋ว ตั๋วที่ซื้อที่ชั้นล่างนี้เป็นตั๋วขึ้นไปชั้น Tembo Deck อย่างเดียว ส่วนถ้าใครต้องการขึ้นไปTembo Galleria จะต้องไปซื้อตั๋วเพิ่มที่ชั้น Tembo Deck เท่านั้น Tembo Deck จะแบ่งซอยเป็นสามชั้นย่อยๆ วิวจาก Tembo Deck ทำให้มหานครโตเกียวเหมือนเป็นโมเดลเมืองจำลองขนาดจิ๋ว ตึกที่ว่าสูงๆใหญ่ๆดูคล้ายบล็อกตัวต่อไปเลย ย่าน Asakusa จาก Tembo Deck ตึก Tokyo Tower เห็นลิบๆ ย่าน Odaiba สังเกตได้จากชิงช้าสวรรค์ไกลๆ เคาน์เตอร์ซื้อตั๋วขึ้นไป Tembo Galleria ลิฟท์ขึ้นไป Galleria จะเป็นกระจกใสเพิ่มความหวิวขณะที่ลิฟท์กำลังวิ่งขึ้น ผมชอบการออกแบบชั้น Tembo Galleria ให้บรรยากาศเหมือนห้องชมงานศิลปะจริงๆ โดยมีภาพวิวโตเกียวแขวนเรียงรายเหมือนงานศิลปะให้ทอดน่องชม วิวโตเกียวแบบสูงขึ้นไปอีก ลองมาดูแบบซูมๆ ตึก Asahi กับสัญลักษณ์ฟองเบียร์ วัด Asakusa ในดงป่าคอนกรีต (สังเกตจากเจดีย์) หลังคาขาวๆไกลๆก็คือโตเกียวโดม สำหรับผู้ที่ต้องการถ่ายภาพหอคอยแบบเต็มๆ ก็สามารถถ่ายได้จากด้านหน้าบริเวณที่เดินผ่านจากสถานีรถไฟฟ้า หรือด้านหลังก็ได้ วิวนี้จะได้ตึกข้างๆมาฟิเจอริ่งด้วย แต่ถ้าถ่ายรูปในช่วงบ่ายจุดนี้จะย้อนแสง ถ้าใครต้องการไปเที่ยว Tokyo SkyTree แนะนำว่าให้ไปแต่เช้าเพราะสายหน่อยอาจจะได้คิวซื้อตั๋วในตอนเย็น และควรเผื่อเวลาที่นี่ครึ่งวันเนื่องจากไม่สามารถมาถึงปุ๊บซื้อตั๋วปั๊บขึ้นไปแป๊บได้ การเดินทางไป Tokyo SkyTree การเดินทางที่สะดวกที่สุดก็คือเริ่มต้นจากสถานีรถไฟใต้ดิน Asakusa เดินไปสถานีรถไฟฟ้าสาย Tobu SkyTree ซึ่งอยู่ติดกันนั่งรถไฟฟ้ามาลงสถานี Tokyo SkyTree ซึ่งเป็นสถานีถัดไปเว็บไซด์ของ Tokyo SkyTree //www.tokyo-skytree.jp/en/ |
สมาชิกหมายเลข 714858
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?] All Blog
| ||
Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved. |