ตอนที่ 3 ท่ามกลางพายุอันสับสน..
แปลกจริงๆ ..
คืนนี้ฉันเป็นอะไรนะ.. อยู่ๆ ฉันก็นอนไม่หลับ นี่มันจะตีสามแล้ว ฉันใช้ความพยายามในการนอนถึงเกืิอบสี่ชม. แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ .. เรียกว่าล้มเหลวเลยจะดีกว่า
น้อยครั้งมากที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น (ถ้าไม่ใช่ช่วงภาวะก่อนมีประจำเดือน)
ฉันเป็นคนออกกำลังกาย รักษาสุขภาพบ้างนิดๆ หน่อยๆ เลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพประมาณนึง ฉันไม่ดื่มกาแฟ แต่ดื่มชา(อ่อนๆ) บ้างในบางครั้ง เวลากินขนม ซึ่งวันนี้ไม่ได้กิน ไม่เห็นจะมีเหตุผลที่เกี่ยวเนื่องกับคาเฟอีนที่ทำให้นอนไม่หลับ.. ใกล้จะเช้าแล้ว ฉันก็ยังตาแข็ง นอนไม่ลงอยู่ดี
มันมีเสียงนึงในหัว วิ่งวุ่นวาย เสียงนั้นเอาแต่คร่ำครวญถึงใครคนนึงในชีวิตฉัน ซึ่งเค้าคนนั้นได้จากไปแล้ว และไม่คิดว่าจะมีวันกลับมาเป็นเหมือนเดิมกันได้
เสียงนี้เป็นเสียงหลักๆ ที่ทำให้ค่ำคืนนี้ของฉัน ทุกข์ทรมาณมากเป็นพิเศษ โดยปกติ ฉันเป็นผู้หญิงที่ค่อนข้างมีสุขภาพจิตดี ปรับตัวง่าย ไม่ค่อยเวิ่นเว้อกับเรื่องอะไร ฉันยอมรับว่า แรกๆ ที่เค้าเลือกที่จะจากไป ฉันก็ร้องไห้ เสียใจ พร่ำเพร้อพรรณา(อยู่คนเดียว) สักพักละ พอพ้นช่วงระยะทำใจช่วงแรกไป ฉันก็ปรับตัวได้ และกลับมามีชีวิตปกติ ตามวิถีที่มันควรจะเป็น แล้วนี่มันผ่านไปนานแล้วนะ ที่ผ่านมา ฉันก็ไม่ได้มีวี่แววจะเกิดอาการแบบนี้ แต่แน่นอนว่า วันนี้มันเกิด..
คืนนี้เป็นคืนที่ยากลำบากคืนนึงของฉัน การนอนไม่หลับ แล้วต้องนั่งครุ่นคิดเรื่องงาน เป้นอะไรที่สาหัสสำหรับคนวัยทำงานอย่างเรามากพอแล้ว แต่การที่คิดถึงงาน สลับกับการคิดถึงคนที่จากเราไป มันช่างทรมาณยิ่งกว่า
ฉันอาการหนักถึงขนาด เปิดมือถือ เปิดเบอร์โทรศัพท์เค้าขึ้นมา อยากจะโทร ไปหาใจจะขาด (แต่ไม่ได้ทำ) อยากจะส่งข้อความไปหาแทบแย่ อยากบอกให้เค้ารู้ว่าฉันคิดถึงเค้าน่ะ (แต่ก็ไม่ได้ทำอีกอยู่ดี)
บางทีฉันก็๋เบื่อความเป็นผู้หญิงของฉันเหมือนกันนะ ฉันอยากได้ระบบความคิดแบบผู้ชายๆ ที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย ตัดสินใจอะไรแล้วก็มุ่งไปทางนั้น ได้ง่ายๆ ไม่ต้องมาคิดเล็กคิดน้อยให้เหนื่อย การที่เป็นแบบนี้ มันเหมือนฉันเป็นคนจับจดยังไงชอบก๊ลล ทั้งๆ ที่ปกติก็จะตัดสินใจอะไรได้ค่อนข้างดี พอบทมันจะอาร์ตขึ้นมา มันก็สับสนเป็นบ้าเป็นบอไปซะอย่างนั้น แล้วพอบทจะหาย มันก็หายง่ายๆ เหมือนกัน มีหลายครั้งนะที่ฉันเวิ่นเว้อ วุ่นวาย แต่พอนอนแล้วตื่นมา อารมณ์บ้าๆ บอๆ ก็หายไปได้ง่ายๆ แบบนี้ก็เป็นมาเยอะ จนบางทีฉันก็งงๆ ตัวเอง ว่าตกลงฉันเป็นคนยังไงกันแน่ (วะ)
ตอนนี้ในหัวของฉันน่ะ มันเหมือนมีสงครามในเล็กๆ อยู่ในนั้น เสียงนึงก็บอกว่า ทำไปเลยสิ โทรไปหาเค้าเลย ส่งข้อความก็ได้ ทางนั้นเค้าก็คงยินดีที่เราโทรไปหละ(อันนี้ฉันคิดแบบเข้าข้างตัวเอง) แต่อีกเสียง ก็บอกว่า จะติดต่อไปทำไม การที่เราตัดสินใจจะจากกัน มันก็มีเหตุผลมากพอ ที่ไม่ควรจะกลับไปอีกแล้วนี่นา จะำไปทำให้เรื่องมันยิ่งยุ่งยากซับซ้อนเข้าไปอีกทำไม
ฉันรู้นิสัยตัวเองดีว่า ฉันคงไม่ทำอะไรให้เกิดขึ้นในคืนนี้หรอก อย่างมากก็นอนฟุ้งซ่านอย่างนี้ไปทั้งคืน ไอที่คิดจะติดต่อไป หรืออะไรน่ะ ไม่มีทางหรอก ฉันน่ะ ทิฐิสูงก็จริง แ่ต่ที่สูงยิ่งกว่า ก็คือ เหตุผลที่เราคิดไตร่ตรองไว้แล้วตอนที่ตัดสินใจ ซึ่งมันมากพอที่จะทำให้ความคิดนั้น มีน้ำหนักแค่จะวนเวียนอยู่ได้แต่ในหัว ไม่ได้มีน้ำหนักมากพอจะเปลี่ยนความคิดให้ิเป็นการกระทำไปซะได้ ><
ฉันคิดว่า สองเสียงในหัวคงทะเลาะกันอีกนาน เพราะจนป่านนี้ ฉันยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดคิดวกวนในเรื่องนี้ได้
ฉันคงต้องปล่อยให้สองเสียงทะเลาะกันจนเหนื่อย แล้วก็เผลอหลับไปเอง
ว่าแต่ จะทะเลาะกันอีกนานมั้ย พรุ่งนี้ฉันต้องตื่นไปทำงานนะว้อยยย T^T
Create Date : 07 มีนาคม 2555 |
|
1 comments |
Last Update : 7 มีนาคม 2555 3:10:43 น. |
Counter : 5667 Pageviews. |
|
|
|