กลุ่มทรูยืนหนึ่งต่อเนื่อง คว้าแชมป์ DJSI อีกครั้ง ตอกย้ำองค์กรที่ยั่งยืน
การจัดอันดับสมาชิกดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ หรือ Dow Jones Sustainability Indices (DJSI) ประจำปี 2563 เพิ่งประกาศผลไปหมาด ๆ โดยในปีนี้ กลุ่มทรู ได้รับการยอมรับอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง กับการเป็นองค์กรสื่อสารโทรคมนาคมไทยเพียงรายแรกและรายเดียวที่ติดอันดับ DJSI ประเภทตลาดเกิดใหม่ (emerging markets) ด้วยคะแนนสูงสุดที่ 1 (World Industry Leader) ของโลก 3 ปีซ้อนของหมวดธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม รวมถึงคงสถานะเป็นสมาชิกดาวน์โจนส์ ติดต่อกันเป็นปีที่ 4 (2560 – 2563)
 


ปัจจุบันการดำเนินธุรกิจขององค์กรต่าง ๆ เปลี่ยนไปจากเดิม โดยไม่สามารถมุ่งเน้นในเรื่องของผลกำไรทางธุรกิจเพียงอย่างเดียว แต่ต้องคำนึงถึงความสมดุลรอบด้าน ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะองค์กรที่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ยิ่งต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดมากมายบนพื้นฐานของธรรมาภิบาลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน
 
นอกจากนี้ บริษัทที่เข้าร่วมการประเมิน DJSI ยังแสดงให้เห็นว่ามีการตั้งเป้าหมายและการวางแผนระยะยาวต่อการสร้างความเข้มแข็ง ทั้งในด้านผลประกอบการทางธุรกิจ การห้ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และการสนับสนุนช่วยเหลือสังคมและชุมชนอย่างต่อเนื่อง
 
กลุ่มทรูมุ่งมั่นเพื่อการพัฒนาที่ดียิ่งขึ้นมาตลอด โดยเดินหน้าให้บรรลุเป้าหมายสำคัญ 2 ประการ ในปี 2030 คือ 1. การเป็นองค์กร carbon neutral ลดการปลดปล่อยก๊าชคาร์บอนไดออกไซด์ เลิกใช้เทคโนโลยีที่สิ้นเปลืองพลังงาน และใช้พลังงานทางเลือก และ 2. กำหนดให้ของเสียที่เกิดจากการดำเนินงานต้องเป็นศูนย์


 
ล่าสุด คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หัวเรือใหญ่ผู้เป็นแรงผลักดันสำคัญของกลุ่มทรูในการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืน ได้แสดงความเห็นบนเวทีสัมมนาเพื่อสังคมแห่งปี ในหัวข้อ “ภาคธุรกิจไทย ในวิถียั่งยืน” จัดโดย มูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ ร่วมกับประชาชาติธุรกิจ เมื่อวันที่ 11 พ.ย. ที่ผ่านมา โดยกล่าวว่า
 
ความตระหนักรู้เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิต การทำธุรกิจ และความยั่งยืน ประสบการณ์จากหลายเวทีทั่วโลก เช่น World Economic Forum, One Young World และ UNGC บอกว่า ผู้นำส่วนใหญ่เห็นเหมือนกันว่า ปัญหาทั้งหมดต้องแก้ด้วยเอกชน เพราะภาครัฐส่วนใหญ่ในโลกไม่มีความต่อเนื่อง เอกชนมีความต่อเนื่องยาวนานกว่ารัฐบาล เพราะเมื่อมีรัฐบาลใหม่ ก็มีการเปลี่ยนแปลงนโยบาย นอกจากนี้ เอกชนยังอยู่ระหว่างสองโลก โลกหนึ่งคือการปฏิบัติตามกฎระเบียบ ขณะเดียวกันก็ต้องทำตามความต้องการทางการตลาดด้วย จึงเห็นทั้งสองด้าน
 
“หากเอกชนตระหนักรู้ว่า บทบาทของตัวเองสำคัญ ไม่ใช่แค่เรื่องการทำ CSRs แต่สามารถขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลง แก้ปัญหาระดับโลกได้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญอันดับแรก อยากให้มองว่า เอกชนเหมือนครอบครัวขนาดใหญ่ เราต้องดูแลคนในครอบครัวเราเอง ต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน แบ่งบทบาทหน้าที่ในบ้านกัน หากบริษัทตั้งอยู่บนพื้นฐานความคิดว่า จะทำรายได้ ทำกำไร ตามเป้าหมายอย่างดียว ความเป็นบริษัทก็จะไม่มีความเข้มแข็ง เพราะวัฒนธรรมองค์กรในการช่วยเหลือกันไม่มี บริษัทก็จะไม่ยั่งยืน”
 
นอกจากนี้ คุณศุภชัยยังสนับสนุนองค์กรต่าง ๆ ให้ตั้งเป้าหมาย โดยควรมองภาพใหญ่ ๆ เช่น จะเป็นองค์กรที่ช่วยสร้างคน สร้างงาน ลดความเหลื่อมล้ำ และถ่ายทอดองค์ความรู้ เป็นต้นว่า
 
1. ตั้งเป้าเป็นองค์กรที่จะช่วยลดสภาวะโลกร้อน (global warming) เพราะอุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นทุกปี โดยมีการคาดการณ์ว่า ถ้าบวกเพิ่มอีก 10% สายพันธุ์ของสัตว์โลกจะหายไป 16% รวมถึงมนุษย์ด้วย
2. ตั้งเป้าบรรลุสถานะของการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเป็นศูนย์ (net zero carbon)
3. ตั้งเป้าลดขยะเหลือศูนย์ (zero waste)
4. สร้างความเสมอภาค (human rights) โดยเฉพาะเรื่องการศึกษา
 
เมื่อภาคธุรกิจเริ่มตั้งเป้าในประเด็นเหล่านี้ ก็จะเริ่มขยับและรู้ว่าจะเดินหน้าก้าวต่อไปได้อย่างไร
 



อย่างไรก็ตาม การสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องของความยั่งยืนลงไปสู่รากหญ้านั้น คุณศุภชัยมองว่า สื่อมีความสำคัญมาก เพราะสื่อเปรียบเสมือนห้องเรียนที่ใหญ่ที่สุด แต่ก็ต้องได้รับการสนับสุนนอย่างเต็มที่จากหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เช่น ให้ incentive สำหรับการผลิตรายการที่ให้ความรู้เรื่องความยั่งยืนในช่วงเวลาไพร์มไทม์ที่มีผู้ชมจำนวนมาก แล้วหากคอนเทนท์เหล่านี้ไปอยู่ในสื่อออนไลน์ด้วย ก็จะยิ่งทำให้เข้าถึงครอบคลุมกลุ่มคนทุกวัย
 
เรื่องของความยั่งยืนเป็นวาระสำคัญของโลก จึงไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องของทุกคน ภาคเอกชนไทยเริ่มขยับแล้ว โดยการมีบทบาทเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นของโลกเรา ซึ่งเราทุกคนที่เหลือก็ต้องเริ่มสร้างความตระหนักรู้ตั้งแต่บัดนี้ โดยเรียนรู้และพัฒนาไปด้วยกัน เพื่อให้เราทุกคนมีคุณชีวิตที่ดีขึ้น
 

 
------------
 



Create Date : 18 พฤศจิกายน 2563
Last Update : 19 พฤศจิกายน 2563 8:26:59 น.
Counter : 995 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

สมาชิกหมายเลข 3761838
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



All Blog