เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง วุ่นก็ให้ว่าง แล้วทุกอย่างจะสบาย

สงวนลิขสิทธิ์งานเขียนในบล็อกนี้ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต
ไม่ว่ากรณีใด ๆ


. . . . แวะมาเมื่อไหร่ โปรดทิ้งข้อความไว้ เพื่อให้กำลังใจกันบ้าง...นะคะ . . . ,
Group Blog
 
<<
มกราคม 2566
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
9 มกราคม 2566
 
All Blogs
 
หาวิธีผ่อนคลาย เพื่อไปต่อ



เป็นบันทึกที่ตั้งหัวข้อเสียหรูหรา แต่แท้จริงไม่ได้มีอะไรมาก
แค่ชีวิตเปลี่ยนแปลงไปอย่างมากตั้งแต่กลับเข้าไปเล่น Instargram เพื่อหวังขายผลิตภัณฑ์สุขภาพ
แล้วเลยได้มีเรื่องปวดหัวจากความไม่รู้ ความไม่มีประสบการณ์ เรื่องราวใหม่ๆ มากมาย
แยกแยะไม่ออกอะไรปลอมแปลง อะไรจริง
แต่สิ่งที่ได้คือ ความกล้าในการใช้ภาษาอังกฤษ มั่นใจในการเขียน กล้าโต้ตอบ กล้าถาม 
แต่เครียดเพราะกลัวคุยกับใครก็ไม่รู้ในเบื้องหลังโปรไฟล์นั้นๆ เลยคิดว่าถอยกลับมาสู่โลกความจริงดีที่สุด
พักทั้งเฟสบุ๊คและอินสตาแกรม มาเขียนบล็อกอย่างเดิม

ในปลายปีและต้นปี สูญเสียญาติพี่น้องสมาชิกในครอบครัวไปหลายคน
ได้แต่ปลง คิดว่าสักวันก็ถึงทีของตนเอง 
ผ่อนคลายความทุกข์ทางใจด้วยการวาดภาพบุคคลจริง

สำหรับผู้ป่วยโรคเรื้อรัง คาดว่ามีวิธีผ่อนคลายแตกต่างกันไป 
เพราะการเจ็บปวดทางกายก็หนักหนามากแล้ว หากไม่หาวิธีเยียวยาใจของตน ก็จะยิ่งซ้ำ จมหนักลงไปอีก
ป่วยมาได้ 6 ปี ตอนอยู่โรงพยาบาลจะพบคนไข้ที่มีความชิวแตกต่างกันไป

1. คนที่เพิ่งเริ่มรู้ตัวว่าป่วย หน้าตาจะอมทุกข์หน่อยๆ กังวลหลายเรื่อง อารมณ์เสียใส่พยาบาล (ตนเองเคยเป็น)

2. คนป่วยอยู่ในระหว่างรับการรักษา ก็จะนั่งนับวันออกจากโรงพยาบาล 

3. คนป่วยระยะขึ้นระดับโปร ในที่นี้คือป่วยมาหลายปี รักษามาหลายวิธี เข้าโรงพยาบาลจนเคยชิน จะชิวๆ ไม่ทุกข์ร้อน
หรือแม้แต่คนป่วยที่รู้ตัวว่าตัวเองไม่หาย ก็จะมีคำแนะนำให้กำลังคนไข้รายใหม่ ช่วยให้ได้ไปต่อ

ในช่วงปีแรกที่ทั้งทรมานจากความเจ็บปวด ความกังวลว่าจะไม่หาย ความวิตกเรื่องเสียงานเสียเงิน
ทุกข์ทรมานมาก
จนมีคนไข้ระดับโปรเตียงข้างกันบอกว่า "กายป่วย ใจอย่าป่วยนะ"
ทำให้ฉุกคิดได้ว่า เออ..แล้วจะทรมานตนเองด้วยความคิดไปเพื่ออะไร
จึงขนขวายหาวิธีให้ใจเป็นสุข โดย

1) ดูหนังใน Netflix ที่เพื่อนแบ่งบัญชีให้ใช้ เริ่มรู้จักแอปนี้ก็ตอนเริ่มป่วยนี่เอง น่าจะปลายๆ ปี 2017 

2) เริ่มร้องเพลงอัดคลิป แล้วส่งให้เพื่อน บังคับเพื่อนฟัง โพสต์ลงเฟซบุ๊ค ฮาๆๆ

3) จากเดิมน้ำหนักลดไปเกือบ 10 กิโล เพราะป่วยและเบื่ออาหาร รับประทานอะไรไม่ได้เลยนอกจากเอนชัวร์
ก็เริ่มกิน กิน กิน ตะบี้ตะบันกินแหลก อันไหนที่อยากกินก็กินเลย
ชดเชยที่ไม่ได้กินสมัยก่อนที่เงินเดือนก็น้อย พอป่วยก็กินอะไรแทบไม่ได้
พอเริ่มกินได้ปกติก็กิน กิน กิน กินเข้าไป

4) ใช้ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วิตามินเสริม อาหารเสริม เพื่อไม่ให้ตัวเองโทรม และก็ได้ผล

5) กลับมาวาดรูป โดยเริ่มจากไปซื้อดินสอ 2B กับยางลบ แต่ก่อนใช้ดินสอกด หรือ ดินสอ HB วาด ก็เริ่มเปลี่ยนอุปกรณ์ หาแบบมาวาด




เมื่อก่อนจะเน้นการวาดรูปจากมังงะที่ชื่นชอบ
ชอบวาดภาพตั้งแต่ยังเล็ก ที่บ้านไม่สนับสนุนเพราะอยากให้เน้นด้านวิชาการมากๆ 
มักแอบวาดไม่ให้ใครเห็น น้อยคนมากที่รู้ว่ามีทักษะด้านนี้ด้วย
ตอนเรียนมัธยมสมุดจดวิชา ฟิสิกส์  เคมี ชีวะ เต็มไปด้วยภาพวาด
สะสมไว้คู่กับหนังสือ แต่สูญหายไปพร้อมกันตอนน้ำท่วม ปี 2021
เหลือแค่ความทรงจำในเฟซบุ๊ค อย่างน้อยก็มีภาพบางส่วนเป็นอนุสรณ์ให้ระลึกถึง

ปัจจุบัน หันมาวาดภาพเหมือนของบุคคลจริง 
เมื่อก่อนไม่คิดว่าตนเองจะวาดได้ พอได้ลองวาดก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก
จึงวาดมาเรื่อย วาดทุกสัปดาห์ เฉลี่ยได้1 ภาพ / สัปดาห์ 
ก่อนจรดดินสอเริ่มวาด ความคิดฟุ้งซ่าน ความเหนื่อยหน่าย ความวิตกกังวล จะฉุดไม่ให้วาด ให้ล้มเลิก
แต่เมื่อฝืนใจได้ จะผ่อนคลาย และสบายใจอย่างมาก
เป็นอีกวิธีที่ใช้เยียวยาตัวเอง

ในระหว่างวาดภาพ
สติจะจดจ่อกับรูปที่กำลังวาดอยู่ตรงหน้า ลดความฟุ้งซ่านลง ได้คิดทบทวนหลายๆ อย่าง
บางครั้งกำลังโกรธๆ พอได้วาดภาพ อารมณ์โกรธก็หายไป แทนที่ด้วยความเข้าใจเขาเข้าใจเรา
บางครั้งเครียดๆ พอได้วาดภาพ ก็ปล่อยวางเรื่องนั้นลงได้
จึงตั้งใจว่าจะวาดต่อไป วาดทุกวัน


อีกสิ่งที่ตั้งใจจะทำ คือ ออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง 
ก่อนหน้านี้เล่นโยคะ เล่นบ้างไม่เล่นบ้าง ไม่ดีเลย ขาดความต่อเนื่อง
ตอนนี้ก็จะกลับมาโยคะทุกวันให้ได้ตามเดิม

รักตัวเอง เป็นสิ่งที่ดีที่สุด 
ที่หันมารักตัวเอง เพราะต้องการให้คนที่อยู่รอบตัวมีความสุขที่ได้เห็นว่าแข็งแรงขึ้น ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย
ไม่ต้องเข้าโรงพยาบาลบ่อยจนต้องลาออกจากงาน หรือโดนตัดเงินเดือนอย่างที่ผ่านมา 
สู้ต่อไปนะตัวเรา 

 


Create Date : 09 มกราคม 2566
Last Update : 9 มกราคม 2566 16:33:34 น. 13 comments
Counter : 288 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณnonnoiGiwGiw, คุณThe Kop Civil, คุณปัญญา Dh, คุณเริงฤดีนะ, คุณหอมกร, คุณนายแว่นขยันเที่ยว, คุณมาช้ายังดีกว่าไม่มา, คุณSweet_pills, คุณnewyorknurse


 
แปะใจไว้ก่อนเดวแวะมาอีกรอบนะครัช


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 9 มกราคม 2566 เวลา:12:15:15 น.  

 
เห็นด้วยเลยครับว่าออกกำลังกายช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงขึ้นเยอะเลยครับ
ฝีมือวาดภาพยอดเยี่ยมมาก ๆ ครับ ผมงี้เรื่องศิลปะไม่ได้เรื่องเลยครับ 555


โดย: The Kop Civil วันที่: 9 มกราคม 2566 เวลา:12:30:00 น.  

 
สวัสดีครับ

ขอบคุณที่แวะไปที่บล็อกนะครับ
เห็นด้วยกับการออกกำลังกาย ทำให้ผ่อนคลายด้วย
วาดภาพได้ดีเลยครับ


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 9 มกราคม 2566 เวลา:15:08:08 น.  

 
ขอแสดงความยินดีที่อาการป่วยดีขึ้น
ทานอาหารปกติได้แล้ว


กิจกรรมวาดภาพ..ช่วยให้เกิดความผ่อนคลายได้ดี
แถมมีปลงานดี

ตาเป็นตา..แววตาส่งแววมีชีวิตชีวา

เหมือน จขบ.ปู้วาด ที่มีความมานะพยายามสู้ๆ ต่อสู้อาการเจ็บป่วย

ใจๆๆนะคะ
ทุกสิ่งทุกอย่างดีขึ้น
ถ้าใจเราเข็มแข็ง..


ส่งกำลังใจมาเพิ่มเติมด้วยความรักนะคะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 มกราคม 2566 เวลา:15:33:47 น.  

 
สวยงามๆ
มีฝีมือทีเดียวเชียว


โดย: katoy วันที่: 9 มกราคม 2566 เวลา:16:10:10 น.  

 
ร่างกายป่วยไข้ก็ให้หมอรักษาไปค่ะ
เราเองมีหน้าที่รักษาใจและหมั่นสั่งสม
บุญกุศลให้ยิ่งๆ ขึ้นไปทุกลมหายใจนะคะ



โดย: หอมกร วันที่: 9 มกราคม 2566 เวลา:16:44:43 น.  

 
โหยยย วาดรูปได้สวยมากเลยค่ะ
นี่นึกไม่ออกเลยว่า ได้จับดินสอ 2B
ล่าสุดเมื่อไร สมัยก่อนเราวาดบ่อยมาก
หมายถึงสมัยมัธยมอะนะคะ 555+
ย้อนไปนานมาก วาดจนนิ้วขึ้นหูดทุกนิ้ว
จนต้องเอากรรไกรตัดเล็บดึงเลือดพุ่งอยู่ตลอด

เราก็คิดเหมือนกันว่า..
กายป่วยใจอย่าป่วย ความจริงใจป่วยนี่มัน
มีเหตุได้หลายกรณี บางทีก็จากรอบข้าง
บางทีก็จากเราทำตัวเอง แต่หลังๆ เริ่มเรียนรู้ว่า
การโฟกัสที่ตัวเอง หรือโฟกัสที่เป้าหมาย
อะไรก็ได้ อาจจะเล็กๆง่ายๆ ก่อนก็ได้
พอตัวเองสามารถทำได้ มันก็ใจฟูมากเลยล่ะค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ
มาเขียนอะไรๆในบล็อกนี่แหละ
ทำให้เราฮีลตัวเอง และเหมือนได้ปลดปล่อย
ความอัดอั้นตันใจในหลายๆเรื่องได้มากจริงๆ


โดย: nonnoiGiwGiw วันที่: 9 มกราคม 2566 เวลา:17:28:31 น.  

 
ศิลปะผมก็คะแนนเต็มเกือบทุกครั้ง แต่ม.ปลายเลือกเรียนสายวิทย์
(ที่บ้านไม่ได้ห้ามอะไรเลยครับ อยากเรียนอะไรก็ได้ แต่ขอให้รับราชการ)

รักตัวเอง รักครอบครัว มีกัลยาณมิตร


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 9 มกราคม 2566 เวลา:21:25:28 น.  

 
คุณหน่อยวาดภาพสวยๆทำให้จิตใจสงบ มีสมาธิ
ได้ผ่อนคลาย สบายใจและน่าภูมิใจด้วยนะคะ
มีแต่สิ่งดีๆจากกิจกรรมนี้ ดีจริงๆค่ะ

ขอบคุณสำหรับภาพดอกไม้สวยๆที่ฝากต๋า
ส่งกำลังใจให้คุณหน่อยค่ะ
ฝันดีนะคะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 10 มกราคม 2566 เวลา:0:06:17 น.  

 

สวัสดีปีใหม่ค่ะ

ขอบคุณทีแวะไปที่บล็อกนะคะ


โดย: newyorknurse วันที่: 10 มกราคม 2566 เวลา:3:49:17 น.  

 

สวัสดีครับ
ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ
.
ส่งกำลังใจให้นะครับ
ขอให้เบิกบานใจในทุกๆ วันครับ
รอชมรูปวาดอีกเรื่อยๆ นะครับ
ตอนเรียนผมก็ชอบวาดใส่สมุด หนังสือเรียนเหมือนกันครับ
.


โดย: มาช้ายังดีกว่าไม่มา วันที่: 10 มกราคม 2566 เวลา:21:40:57 น.  

 
เด็กๆพี่อ้อ ก็วาดตุ๊ดตา เด็กผู้หญิง
พร้อมเสื้อผ้า..ตัดๆๆเปลี่ยนชุด
เล่นกับเพื่อนๆ
โตมาก็วาดใน ชม.วาดเขียน
แต่ฝีมือไม่ดีเหมือนคุณ เดหลีฯ

เย็นนี้ 18.30 น ค่ะ
บอลไทย vs เวียดนาม
ช่อง 30 MCOT หรือ T Sport กดเลข 7
สดจากสนามธรรมศาสตร์ รังสิต


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 16 มกราคม 2566 เวลา:11:18:44 น.  

 
สวัสดีวันพุธค่ะ
Happy Wednesday.


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 18 มกราคม 2566 เวลา:12:23:50 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เดหลีสีแดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]









New Comments
Friends' blogs
[Add เดหลีสีแดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.