เหนื่อยก็พัก หนักก็วาง วุ่นก็ให้ว่าง แล้วทุกอย่างจะสบาย

สงวนลิขสิทธิ์งานเขียนในบล็อกนี้ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อโดยไม่ได้รับอนุญาต
ไม่ว่ากรณีใด ๆ


. . . . แวะมาเมื่อไหร่ โปรดทิ้งข้อความไว้ เพื่อให้กำลังใจกันบ้าง...นะคะ . . . ,
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2565
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
6 ธันวาคม 2565
 
All Blogs
 
ความในใจที่อยากระบายออก



ออกจากโรงพยาบาลมาได้ 6 สัปดาห์แล้ว เต็มไปด้วยเรื่องราว เพิ่งมีเวลามานั่งทบทวนตัวเอง
3 - 4 เดือนที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าบกพร่องในหน้าที่ไปมากมายหลายเรื่อง
เพราะในสมองไม่โล่งไม่โปร่ง คิดหลายเรื่องวนไป
จนบางครั้งถึงกับถามตัวเองว่า "เอ้ยนี่เราใกล้บ้าแล้วใช่ไหม"
ปัญหาครอบครัวเรื่องใหญ่มาก เพราะมันดึงเอาความสุขไปจากความรู้สึก
หลายครั้ง มันรู้สึกว่างเปล่า เศร้า สิ้นหวัง จากข้างในลึกๆ 

เมื่อก่อน ครอบครัวเป็นครอบครัวใหญ่ รักใครกลมเกลียวกันดีมาก
ทำอะไรทำด้วยกัน ไปไหนไปกัน หัวเราะด้วยกัน มีอะไรก็แบ่งปันกัน มีแต่เรื่องสนุกเรื่องดีดี
มีเหตุให้แตกแยกกันเพราะเงินตัวเดียว

ตากับยาย มีลูก 4 คน - ลูกสาว 1 ลูกชาย 3 
แม่เป็นลูกสาวคนเดียวและเป็นคนโต ตากับยายจึงไว้วางใจให้เก็บเงิน
แม่ก็เป็นคนซื่อๆ พ่อกับแม่ตัวเองบอกให้ทำอะไรทำตามนั้น เก็บเงินเก่ง ประหยัดมาก
แม่ไม่ได้เรียนจบสูงเท่าน้องชาย เพราะมีปัญหาทางการเรียน เป็น learning disorder 
แม่ตอน 5 ขวบเคยป่วยเป็นไอกรนจนชัก จึงมีพัฒนาการทางความคิด ช้ากว่าปกติ

หลาย หลายปีก่อน ตากับยายขายที่ดินส่วนหนึ่ง
ได้เงิน 300,000 บาท (ปี 2005)และ 1,000,000 บาท (ปี 2011)
ตากับยายไม่มีเงินเดือน ไม่มีอาชีพ ไม่มีเงินบำนาญ
แต่มีที่ดินที่เป็นมรดกจากตาทวดที่มีไว้สำหรับทำนาทำสวน
ในส่วนของที่ดินที่เป็นที่นา ได้แบ่งเป็นมรดกให้ลูกทุกคนเท่าเทียม ลูกชายได้เท่ากันทุกคน ลูกสาวได้มากกว่าเล็กน้อย
และส่วนที่เหลือเพียงเล็กน้อยได้แบ่งขายไปข้างต้น
เงินที่ได้จากการขายที่ครั้งที่2 ตากับยายแบ่งเงินสดให้ลูกๆ ไปใช้เล็กน้อย (ลูกชาย 3 คน ได้คนละ 50,000บาท ลูกสาวได้ 100,000บาท))
และนำเงินทำบุญทอดกฐิน 2 ครั้ง ครั้งละ 100,000 บาท (รวม 200,000บาท)
ทำบุญสร้างโบสถ์สมทบไปร่วม 200,000บาท 
และใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเรื่อยมา ลูกๆ คนอื่นๆไม่ได้ส่งเงินให้ตายาย แต่มีมาขอยืมเงินตายายบ่อยๆ เพราะเงินไม่พอใช้
ตอนตากับยายเสียชีวิตก็นำเงินนั้นใช้ในการจัดงานศพ ลูกหลานไม่ต้องออกเงินให้ลำบาก

แต่มันมีปัญหาที่ว่า 
ลูกบางคนมองว่า เงินของพ่อแม่นั้น ตนควรจะได้ส่วนแบ่งด้วย
เมื่อพ่อแม่ขายที่ดินแต่ไม่แบ่งให้ จึงมีบางคนน้อยใจ และโกรธพ่อกับแม่ตนเอง
เงินก้อนที่เหลือสุดท้าย ตอนยายมีชีวิตอยู่ ราว ๆ 6 แสนบาท 
แม่ตัดสินใจใช้เงินส่วนนั้นสร้างบ้านหลังเล็กๆ เพื่อหวังให้ยายกับตาอยู่อาศัยช่วงสุดท้ายของชีวิต
แต่ระหว่างต่อรองแบบบ้าน ตาก็ด่วนจากไปเสียก่อน 
โครงการบ้านเล็กยังดำเนินต่อไป ใช้เงินในการสร้างบ้านใหม่ขนาด 57 ตรม. รวมราวๆ 7 แสนบาท
โดยยายได้อยู่บ้านนั้น 1 ปี ก่อนจากไปอีกคน

มีพี่น้องบางคน มองว่าแม่ฮุบสมบัติ 
ทั้งที่จริง ทรัพย์สินทุกอย่างยายจัดการถ่ายโอนให้ลูกๆไปทั้งหมด และโอนกรรมสิทธิ์ให้แม่ทั้งหมดตั้งแต่ยังมีชีวิตอยู่และสติสัมปชัญญะสมบูรณ์
ในส่วนของแม่จะได้มากกว่าเพราะ
1) แม่ไม่ได้เรียนหนังสือเท่าพี่น้องคนอื่น
2) แม่ไม่มีอาชีพ ไม่มีรายได้ประจำ ไม่มีเงินบำนาญ
3) แม่ดูแลตากับยาย
4) แม่เป็นลูกสาวคนโตและลูกสาวคนเดียวของตากับยาย
ญาติบางคนก็มองว่าตากับยายไม่ยุติธรรม หากพวกเขาทำอะไรตากับยายไม่ได้
ด้วยเหตุที่กล่าวมา ความชิงชังทั้งหมดจึงโถมลงที่แม่
และแม่ก็เครียด เพราะไม่รู้จะทำอย่างไรให้ทุกคนพอใจ 
อารมณ์เหมือนละคร "เลือดข้นคนจาง" ไม่มีผิด

วันดีคืนดีก็เดินมาหาเรื่อง ถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตีแม่ ด่าทอ ดูถูกสาระพัด 
เราผู้เป็นลูกบอกได้คำเดียวว่าช้ำใจกับการกระทำของญาติซึ่งเป็นพี่น้องร่วมสายเลือดของแม่มาก
ทำอะไรไม่ได้ นอกจากหาวิธีแก้ไขตามกรณีไป หากล้องวงจรปิดมาติดตั้งที่บ้าน 
เพื่อบันทึกพฤติกรรมของญาติๆเวลาเข้ามาระรานแม่ 
อยากพาแม่ย้ายหนีจากตรงนั้น ทำไม่ได้...
แม่ก็ว่า...
ที่นี่บ้านแม่ แม่คุ้นเคยกับที่นี่ มีเพื่อนๆอยู่ที่นี่ หมาแมวจะอยู่ยังไง
ลูกชายก็ห่วง (พี่ชายเราเอง) ไม่พร้อมที่จะไปเริ่มต้นใหม่ที่ไหน
ตอนนี้แม่มีปัญหาสายตา ต้อหินฉับพลัน ตาบอดข้างขวา เหลือตาข้างเดียว แต่แม่ก็ยังยึดมั่นที่จะอยู่ที่บ้านต่อไป
ฉะนี้ จึงได้แต่เครียด และปลง....

ส่วนพี่ชาย นับวันสติสัมปชัญญะเริ่มถดถอยเพราะสุราและยาเสพติดที่กระหน่ำทุกๆวัน
การงานไม่ใส่ใจ แต่ก็ไม่ได้ช่วยประหยัด
เพราะถึงไม่ได้หาเงินเอง แต่ก็ใช้เงินของคนอื่น (แม่) เก่งมาก
เลี้ยงเพื่อนทุกคน เปย์ให้กับทุกคน
กินเหล้ามีกับแกล้มเลี้ยงเพื่อนทุกวัน ค้างจ่ายทุกร้านค้า
และเริ่มมีอาการหลอน หลงผิดว่าจะมีคนมาทำร้ายตนเอง .....
แก้ปัญหาไม่ได้...

บางครั้งรู้สึกท้อจากข้างใน เพราะผิดหวังกับความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ความรักใคร่สามัคคี หายไปไหน
ไม่คิดว่าความชิงชัง ความริษยา ความโลภ มันจะมากมาย และบ่อนทำลายมิตรภาพสายใยรักได้มากขนาดนี้

ทุกวันนี้ มาทำงานแบบแยกร่างแทบไม่ได้
ในสมองเต็มไปด้วยปัญหาต่างๆ นานา การงานเริ่มไม่มีประสิทธิภาพ
2 สัปดาห์ที่แล้ว ทำงานพลาดไม่น่าให้อภัย 
จิตใจก็เหม่อลอย น้ำตาไหลไม่รู้ตัว เศร้าท้อ เหนื่อย เพลีย ไม่รู้จะแก้ไขปัญหาอะไร/อันไหนก่อน
สู้เฉพาะหน้าไปวันๆ 
บางทีคิดว่า ถ้าป่วยและตายไปเสียเลย ก็น่าจะหมดทุกข์หมดโศก
แต่พอคิดถึงแม่ ก็กลับมาฮึดใหม่ เท่าที่ไหว
ที่ผ่านมาป่วย 6 ปี อยู่มาได้เพราะมี "แม่" 
คิดกับตัวเองตลอดว่า ถ้าไม่มีแม่แล้ว จะปล่อยตามธรรมชาติ
ไม่ขนขวายหาทางรักษาใดๆ ให้เหนื่อย ให้เจ็บทรมาน
แค่ปล่อยให้ร่างกายเสื่อมสังขารไปตามโรคภัยนั้นๆ 
ไม่ทุกข์ ไม่ร้อนหรือหนาว ไม่กังวล ไม่เศร้า ไม่เครียด
ใจอยากเสกใบไม้ให้เป็นเงิน
หรือต้องมีเงินมากๆ จะได้แก้ปัญหาทุกอย่าง

แต่ถึงตรงนี้ ก็มองหาหนทางข้างหน้าไม่เจอเลยจริงๆ 
ได้แต่มองแค่เรื่องตรงหน้า เฉพาะปัจจุบันตรงหน้า 
ไม่คาดหวังกับสิ่งใด สู้ไปวันวัน


Create Date : 06 ธันวาคม 2565
Last Update : 7 ธันวาคม 2565 13:02:16 น. 6 comments
Counter : 462 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณปัญญา Dh, คุณSweet_pills, คุณหอมกร, คุณเริงฤดีนะ, คุณสองแผ่นดิน


 
ขอให้ธรรมะ ความดีที่ทำ ช่วยให้เหตุการณ์ดีขึ้นด้วยครับ


โดย: ปัญญา Dh วันที่: 6 ธันวาคม 2565 เวลา:21:37:46 น.  

 

คุณแม่คือรักแท้ คือกำลังใจที่ยิ่งใหญ่นะคะ
ขอให้ทุกปัญหาคลี่คลาย
ส่งกำลังใจให้คุณหน่อยค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 7 ธันวาคม 2565 เวลา:0:39:44 น.  

 
แนะนำให้โอนทรัพย์สมบัติและเงินของแม่มาเก็บไว้ที่คุณเดหลีดีกว่า
เพราะดูจากพฤติกรรมของพี่ชายแล้วไน่นานคงผลาญหมดแน่
แถมยังเป็นประเด็นให้ลุงๆ อาๆ เอาไปนินทาว่าผลาญทรัพย์อีกจ้า



โดย: หอมกร วันที่: 7 ธันวาคม 2565 เวลา:8:12:28 น.  

 
ขอบคุณคุณหน่อยที่แวะชมเมนูบ้านต๋านะคะ
คุณหน่อยนอนหลับฝันดีคืนนี้ค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 8 ธันวาคม 2565 เวลา:0:34:00 น.  

 
ขอให้สุขภาพคุณเดหลังสมบูรณ์
กระเตื้องขึ้นโดยเร็ววัร
เพื่อเป็นกำลังสำคัญสำหรับคุณแม่ต่อไป
เป็นกำลังใจค่ะ


โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 9 ธันวาคม 2565 เวลา:12:33:59 น.  

 
มาส่งกำลังใจครับ


โดย: สองแผ่นดิน วันที่: 11 ธันวาคม 2565 เวลา:23:40:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เดหลีสีแดง
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]









New Comments
Friends' blogs
[Add เดหลีสีแดง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.