|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
: : เพลินชมป่่า.. กิ่วแม่ปาน : :
.. เราเคยได้ยินชื่อและเห็นรูปเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน ณ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มานานพอสมควร แต่ยังไม่มีโอกาสได้ไปเห็นด้วยตาตนเองสักที .. กลางเดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่ผ่านมา ได้แว่บไปทำธุระที่เมืองเชียงใหม่ ก็เลยไม่รอช้า เสร็จจากธุระปะปังบ่ายโมงกว่าๆ ก็รีบบึ่งไปอินทนนท์โดยพลัน ..
.. ถึงอุทยานแห่งชาตินี้ก็บ่ายจัดแล้ว อากาศบนดอยออกจะเย็นสบาย มีลมพัดโบกโบยมาชื่นใจ แต่แดดก็ยังแจ๋อยู่ดี .. รีบไปติดต่อเจ้าหน้าที่ที่ปากทางเข้ากิ่วแม่ปาน เพราะเส้นทางนี้ทางอุทยานฯ ต้องจัดเจ้าหน้าที่เป็นผู้นำทางพาเดินเข้าไปชม ..
.. ก่อนเดินเข้าไปในเส้นทางเดินป่า เจ้าหน้าที่ก็มีปฐมนิเทศกันเล็กน้อย ได้ความว่า .. กิ่วแม่ปานเป็นเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติระยะสั้น เป็นวงรอบระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร (ขนาดสั้นเนี่ยนะ .. เดินตั้งสามชั่วโมง .. อุแม่เจ้า แล้วก็ทางขึ้นๆๆๆๆ ตลอด ลุงๆ ป้าๆ หน้ามืดไปตามๆ กัน) ..
.. ข้อมูลจากอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ..
เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน
อยู่ตรง กม.ที่ 42 ของถนนสายจอมทอง-ยอดดอยอินทนนท์ ใกล้กับพระมหาธาตุนภเมทนีดลและพระมหาธาตุนภพลภูมิสิริ เส้นทางนี้จะผ่านสภาพธรรมชาติที่แตกต่างกัน 2 ลักษณะ คือ ป่าดิบเขากับทุ่งหญ้าบนสันเขา ทางช่วงแรกผ่านเข้าไปในป่าดิบเขาซึ่งมีบรรยากาศร่มครึ้ม มีแสงแดดส่องลงมาเพียงรำไร ตามพื้นป่าเต็มไปด้วยเฟินหลากหลายชนิด มีมอสสีเขียวขึ้นคลุมตามโคนต้นไม้และบริเวณริมห้วยที่ชุ่มชื้น
ทางจะเดินขึ้นเขาจนทะลุออกยังทุ่งหญ้าโล่งกว้างของสันกิ่วแม่ปานซึ่งมีแสงแดดจ้าและสายลมแรง ทำให้บรรยากาศเปลี่ยนไปจากสภาพที่ผ่านมาทันที ทุ่งหญ้าบริเวณนี้เคยเป็นป่าดิบเขามาก่อน แต่ได้ถูกบุกรุกทำลายไปจนมีสภาพดังเช่นปัจจุบัน จากนี้ทางเดินจะเลียบไปตามสันเขาที่มีดงต้นกุหลาบพันปี รวมทั้งไม้พุ่มขนาดเล็กอย่างช้ามะยมดอยและต่างไก่ป่า ซึ่งเป็นตัวอย่างของสังคมพืชกึ่งอัลไพน์ให้ศึกษา
ทางช่วงสุดท้ายจะเข้าสู่ป่าดิบเขาอีกครั้งและไปสิ้นสุดที่จุดเริ่มต้นของเส้นทาง รวมระยะทางทั้งหมดประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดิน 2-3 ชั่วโมง เส้นทางนี้อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล ผู้สนใจต้องติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว
ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การเดินเที่ยวชมคือ เดือนธันวาคม-มกราคม ส่วนในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม เส้นทางนี้ปิดให้บริการเพื่อให้เวลาธรรมชาติฟื้นตัว
กิจกรรม : - ชมทิวทัศน์ - ดูนก - เดินป่่าศึกษาธรรมชาติ
.. เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน เป็นเส้นทางที่นักเดินป่าที่ร่างกายแข็งแรงเป็นปกติทั่วๆ ไปคงคิดว่าเดินไม่ยาก แต่สำหรับเราที่ไม่ค่อยได้ออกมาเดินป่่าเดินเขาสักเท่าไหร่ สารภาพว่าเหนื่อยลิ้นห้อย ใจเต้นตึ้กๆ แทบจะหลุดออกมานอกอก .. ไม่อยากออกตัวว่าเป็นเพราะสังขารและวัย เพราะยุคนี้คนอายุ 60-70 ยังปีนขึ้นเอเวอร์เรสต์กันเยอะแยะ ร่างกายคนเราเนี่ย ฝึกฝนและเตรียมตัวให้พร้อมกันได้ทุกวัยแหละ สังเกตดูว่าช่วงไหนออกกำลังกายบ่อยๆ ช่วงนั้นจะอึดและเหนื่อยยาก แต่ถ้าเมื่อไหร่ขี้เกียจออกกำลัง ความอ่อนแอปวกเปียกจะมาเยือนเลยทีเกียว ..
.. อย่างไรก็ตาม ถือว่ากิ่วแม่ปานนี่เป็นเส้นทางที่ไม่ถึงกับเป็นระดับโหด (อย่างภูกระดึง) ตามทางเดินจะมีป่าเขาลำเนาไพรที่น่ารื่นรมย์ แวดล้อมด้วยป่าดงดิบริมธารน้ำ ขึ้นเนินผ่านป่าที่ห้อยระย้าด้วยมอส ฝอยลม .. ผู้นำทางบอกว่าหน้าฝนหน้าหนาว ป่าแถบนี้จะมีสายหมอกขาวปกคลุม อากาศที่หนาวเย็น สุดปลายทางที่ทุ่งหญ้าบนเนินก็จะมีดอกไม้ป่านานาพันธุ์ .. แต่วันที่ไปนี่ไม่เจอไรเลยนอกจากกุหลาบพันปี ..
.. เราออกเดินกันตอนบ่ายสามโมง เจ้าหน้าที่กับเราสองคนรวมเป็นสามคน เดินกันไปเรื่อยๆ ในทางเดินป่าไม่แคบไม่กว้างนัก พอเดินได้สบายๆ แต่ที่สาหัสสำหรับเราคือช่วงแรกๆ เป็นการเดินขึ้นเขาเยอะหน่อย เล่นเอาหอบแฮ่ก ต้องร้องบอกน้องผู้นำทางว่าขอหยุดถ่ายรูปหน่อยน้องเอ๋ย .. ไปๆ มาๆ .. ต้องขอให้น้องช่วยแบกเป้ (ที่มีเลนส์แสนหนักอยู่ข้างใน) ด้วยเลย .. โฮะๆๆๆ ..
.. ดูรูปไป บรรยายไปดีกว่าเนอะ ..
.. ก่อนออกเดิน เช็คอุณหภูมิเสียหน่อย ..
.. เจ้าหน้าที่บรีฟสั้นๆ เกี่ยวกับเส้นทางเดินป่าก่อนออกเดิน ..
.. "ป่าเมฆ" .. สภาพอากาศหนาวชื้น ลมแรง ของป่าที่ปกคลุมด้วยเมฆหมอกหลายเดือน ทำให้การย่อยสลายใบไม้ยาก ดินจึงเป็นกรดสูง สภาพเช่นนี้สร้างป่าให้ดูโปร่ง ไม้พื้นล่างและไม้สูงแยกจากกันเป็นสองส่วนอย่างชัดเจน พันธุ์ไม้ที่คุ้นเคยอากาศร้อนและชื้น ไม่อาจอยู่ได้ จึงมีแต่กลุ่มไม้เมืองหนาว เช่น ก่อ ทะโล้ หว้า กุหลาบพันปี กุหลาบขาว และมีกล้วยไม้ เฟิน มอส ขึ้นคลุมตามลำต้นและกิ่งก้านอย่างหนาแน่น
ธรรมชาติอันโดดเด่นบนดอยอินทนนท์ คือป่าดิบเขา มักพบได้ที่ความสูงมากกว่า 2,000 เมตรจากระดับน้ำทะเล สิ่งสำคัญที่ก่อให้เกิดป่าดิบเขาประเภทนี้ คือสภาพภูมิอากาศที่หนาวเย็นและมีความชื้นสูงตลอดปี พื้นที่จะมีเมฆหมอกปกคลุมเกือบตลอดเวลา จึงเรียกป่่าชนิดนี้ว่า "ป่าเมฆ"
ตามต้นไม้ยังมีพืชที่ชอบความชื้นจำพวก มอส เฟิน ไลเคน และกล้วยไม้ป่าขึ้นอยู่มาก
.. ระหว่างนั่งพัก เจ้าหน้าที่ก็บรรยายให้ความรู้เรื่องป่าเขา ..
.. "ป่าต้นน้ำ กำเนิดสายธาร" .. ห้วยนี้แบ่งเป็นสองยุค ยุคแรก น้ำในลำห้วยไหลชิดติดผนังด้านตรงข้าม น้ำตกรุนแรงด้วยปริมาณน้ำมาก สร้างหลุมลึกไว้เป็นหลักฐาน ยุคปัจจุบันสายน้ำเปลี่ยนทางไหล ปริมาณลดลงและไม่รุนแรง เป็นต้นกำเนิดสายน้ำที่บริสุทธิ์สะอาด มีออกซิเจนและธาตุอาหารสูง ลำห้วยทุกสายในลุ่มน้ำนี้ไหลลงสู่แม่น้ำปิง
สายน้ำใสสะอาดไหลรินลงสู่เบื้องล่าง .. ดีใจจังที่เห็นน้ำในลำห้วยยังไม่เหือดแห้ง ..
.. ชื่นชมป่างามผ่านเลนส์ .. ได้พักเหนื่อยไปในตัว ..
.. เงาไม้ในแสงแดดอ่อนยามบ่าย ..
.. เพลินชมไพรพนา ธรรมชาติอันไร้มารยา ..
.. ไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้า อยู่คู่ป่านิรันดร์ ..
ภาพถ่ายทั้งหมด โดย Devonshire และ Uncle Joe ณ เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ กุมภาพันธ์ 2554
.. ตอนต่อไป "กิ่วแม่ปาน : กุหลาบพันปีกับกวางผา" ..
Create Date : 16 มีนาคม 2554 |
Last Update : 16 มีนาคม 2554 0:09:37 น. |
|
21 comments
|
Counter : 1818 Pageviews. |
|
|
|
โดย: A IP: 119.46.151.21 วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:1:06:40 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:5:55:50 น. |
|
|
|
โดย: auau_py วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:7:46:33 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:7:51:53 น. |
|
|
|
โดย: ASDK_MK วันที่: 16 มีนาคม 2554 เวลา:16:16:09 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:5:57:42 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:8:05:02 น. |
|
|
|
โดย: ดวงลดา วันที่: 17 มีนาคม 2554 เวลา:9:52:03 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 18 มีนาคม 2554 เวลา:6:11:45 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 19 มีนาคม 2554 เวลา:5:59:06 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 20 มีนาคม 2554 เวลา:5:49:49 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มีนาคม 2554 เวลา:6:05:48 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มีนาคม 2554 เวลา:6:07:31 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 23 มีนาคม 2554 เวลา:6:28:04 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 24 มีนาคม 2554 เวลา:6:16:25 น. |
|
|
|
โดย: attractions (loveyoupantip ) วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:22:00:06 น. |
|
|
|
โดย: register (nrokas_1 ) วันที่: 25 กันยายน 2554 เวลา:15:55:05 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ต้นไม้ต้นใหญ่คาดว่าสองคนโอบพอไหมคะ
รอตามไปดูกุหลาบพันปีด้วยคน
สำหรับรอบหน้านะคะ